จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1030 สู้ตาย
หลินตงถิงพูดตำหนิ อย่าพูดไร้สาระ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ต้องหาวิธีได้ ถ้าตายแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสใดๆ
หลินเหลยมีสีหน้าหดหู่ใจ จะมีวิธีอะไร ตั้งนาน พวกเขายังตะโกนด่าอยู่ข้างนอก แต่พวกเราเป็นได้แค่เต่าหดหัว
อย่าพูดไร้สาระ! พ่อของหลินเหลยตำหนิ
หลินตงถิงไม่พูดอะไร ใบหน้าแดงก่ำเล็กน้อย
แม้ว่าสมาชิกในตระกูลหลินคนอื่นๆจะไม่พูดอะไร แต่ว่า ทุกคนก็รู้ดีว่า นี่คือเต่าหดหัว
นอกลานบ้านของตระกูลหลิน เจ้าบ้านตระกูลลู๋และตระกูลเสิ่นเป็นผู้ดูแลเอง
ตอนนี้ งานที่ตระกูลหวางมอบหมายให้พวกเขาคือ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อขับไล่ตระกูลหลินออกจากอูซุ
เจ้าบ้านลู๋มองประตูที่ปิดอยู่ของตระกูลหลิน และพูดเยาะเย้ยอย่างภาคภูมิใจ พี่เสิ่น คนของตระกูลหลินเป็นคนที่หน้าหนาจริงๆ พวกเราพูดดูหมิ่นถาถถางให้อับอายขายหน้าขนาดนั้น ก็ยังไม่ยอมไปจากอูซุ
เจ้าบ้านตระกูลเสิ่นพูดเย้ยหยัน แน่นอน ตระกูลหลินอยู่ในอูซุมาร้อยปีแล้ว และที่นี่คือรากฐานของตระกูลหลิน ตระกูลหวางให้พวกเราขับไล่ตระกูลหลินออกจากอูซุเพียงเพื่อต้องการทำลายรากเหง้าของตระกูลหลิน
ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ใครจะยอมตัดรากเหง้าของตัวเองล่ะ?
เจ้าบ้านลู๋ยิ้มเยาะเย้ยอย่างมีเลศนัย รากนี้เขาไม่อยากตัดก็ต้องตัด!
เพียงแต่ว่า ช่วงนี้ฉันได้ยินมาว่า ผู้บริหารระดับสูงของชางฉองกรุ๊ป ภายในหนึ่งวันถูกฆ่าตายจนหมด
ยังมีหูเหวยซินผู้มีอิทธิพลใหญ่แห่งเจียงเป่ยก็ถูกฆ่าตายด้วย
ใครกันที่กล้าดูหมิ่นและขัดคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐจีน?
เจ้าบ้านเสิ่นยิ้มเยาะเย้ย จะมีใครล่ะ ต้องเป็นลูกน้องของปรมาจารย์หลิน คนที่ตาย คือคนที่ทรยศต่อปรมาจารย์หลิน
เจ้าบ้านลู๋พูดว่า แต่ว่า เวลานี้เจ้าหน้าที่รัฐจีนควรจะออกมาเพื่อจับกุมฆาตกรไม่ใช่เหรอ? ดูเหมือนว่าในตอนนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
จู่ๆเจ้าบ้านเสิ่นก็มองไปที่เจ้าบ้านลู๋ และถามว่า คุณกำลังกังวลเรื่องอะไร?
นัยน์ตาของเจ้าบ้านลู๋แสดงความตื่นตระหนก ฉันกังวล เป็นไปได้ไหมที่ปรมาจารย์หลินยังไม่ตายหรือเปล่า?
เจ้าบ้านเสิ่นปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ได้ปรากฏตัวมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะทนดูชางฉองกรุ๊ปถูกตระกูลหวางยึดครองได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไรที่จะทนดูตระกูลหลินถูกพวกเรารังแก?
เจ้าบ้านลู๋พยักหน้า สิ่งที่คุณพูดนั้นสมเหตุสมผล บางทีฉันอาจจะคิดมากไป ฆาตกรคนนั้น อาจเป็นแค่ลูกน้องของเขาเอง
อันที่จริง คุณไม่ได้คิดมากเกินไป
ทันใดนั้น เสียงที่ไม่แยแสก็ดังขึ้นและแว่วเข้ามาในหูของเจ้าบ้านตระกูลลู๋กับเจ้าบ้านตระกูลเสิ่น
ใคร?
เจ้าบ้านทั้งสองคนตกใจ และหันไปมองข้างหลังทันที
หลินหยุนค่อยๆเดินไปหาพวกเขา
ปรมาจารย์หลิน!
จู่ๆทั้งสองก็อุทานออกมา!
แก แกยังมีชีวิตอยู่! เจ้าบ้านลู๋ชี้ไปที่หลินหยุน และอุทาน ท่าทางนั้นตกใจราวกับเจอผี
สีหน้าการแสดงออกของเจ้าบ้านเสิ่นไม่ได้ดีไปกว่าเขามากนัก พูดด้วยความสยองขวัญ แกไม่ได้ตายในทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดเหรอ? เป็นไปได้ยังไง!
หลินหยุนมองไปที่ทั้งสองคน โดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ เดิมทีอยู่ในตระกูลกู่ ฉันได้ฆ่าฉินเห้าเทียน และปล่อยพวกแกไป ตอนนี้มาคิดดีๆ การตัดสินใจครั้งนั้นผิดอย่างมหันต์
กลับมาบนโลกนี้ ฉันไม่ได้ตระหนักถึงวิกฤตนี้เลย ดูเหมือนว่าในอนาคตฉันจะต้องไตร่ตรองและพิจารณาตัวเองให้ดีๆ
อดีตมหากษัตริย์แห่งชางฉอง ที่สามารถกดขี่ข่มเหงโลก ประการแรกเพราะมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง ประการสองเป็นเพราะเลือดเย็นและโหดเหี้ยม
บรรดาผู้ที่กล้าฝ่าฝืนและท้าทายพลังอำนาจของมหากษัตริย์ชางฉอง ไม่มีใครรอดชีวิตสักคน
ดังนั้น อำนาจชื่อเสียงของมหากษัตริย์ชางฉอง จึงทำให้โลกทั้งใบต้องตกตะลึง
ยิ่งกว่านั้น ในโลกเซียนซึ่งคนที่อ่อนแอจะถูกผู้แข็งแกร่งรังแก และไม่ถูกผูกมัดด้วยกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่ใช่คุณตายก็คือฉันตาย และไม่มีความเมตตาใดๆเลย
เจ้าบ้านลู๋และเจ้าบ้านเสิ่น แสดงสีหน้าตกใจกลัว
พวกเขานึกถึงเรื่อง ฉินเห้าเทียนถูกหลินหยุนตัดหัว
ตอนนี้ ชะตากรรมของพวกเขา จะเหมือนกับฉินเห้าเทียนหรือไม่?
ป…ปรมาจารย์หลิน ตระกูลหวางสั่งให้พวกเราทำเช่นนี้ ท่านฆ่าพวกเราไม่ได้!
เจ้าบ้านลู๋พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเคลือ และขณะที่พูดเช่นนี้ ขาของเขาก็สั่นตลอดเวลา
ลูกน้องที่พวกเขาพามาด้วย เห็นว่าเจ้านายของพวกเขาหวาดกลัวชายหนุ่มคนหนึ่งขนาดนั้น และคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงปรมาจารย์หลิน ก็ออกไปขวางอยู่ข้างหน้าเจ้าบ้านทั้งสองคน
ไอ้หนุ่ม เจ้ากล้าดียังไงที่ไม่เคารพเจ้าบ้านของพวกเรา อยากตายใช่ไหม! ชายหนุ่มที่ย้อมผมสีทอง ทำหน้าดุและตำหนิหลินหยุน
ไปให้พ้น! เจ้าบ้านลู๋โพล่งออกมาทันที ตบชายหนุ่มคนนั้นจนเลือดท่วมปาก
ปรมาจารย์หลิน คนหนุ่มสาวเหล่านี้ไม่รู้ความ ท่านอย่าใส่ใจพวกเขาเลย เจ้าบ้านลู๋พูดด้วยรอยยิ้ม
หลินหยุนไม่สนใจเขา ชูดาบเฮ่าเทียนขึ้น และมีแสงสีแดงแวบผ่าน
บริเวณคอของเจ้าบ้านลู๋กับเจ้าบ้านเสิ่น ชั่วขณะมีรอยแดงขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มที่ถูกตีจนสลบ ตอนนี้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง มองไปที่เจ้าบ้านลู๋ด้วยใบหน้าที่ขุ่นเคือง และถามว่า เจ้าบ้านลู๋ตีข้าทำไม? ไอ้หนุ่มคนนี้มีอะไรดีเหรอ ทำไมคุณถึงต้องกลัวเขา!
หลังจากถามเสร็จ ชายหนุ่มเห็นว่าเจ้าบ้านลู๋ดวงตาเบิกกว้าง และไม่ขยับเขยื้อน ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง
แต่ว่า เจ้าบ้านลู๋ยังคงไม่ขยับ เขาอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าใช้มือดึงแขนเสื้อเจ้าบ้านลู๋ เรียกเบาๆ เจ้าบ้าน?
เจ้าบ้านลู๋ล้มลงทันที
อ๊ะ!
เจ้าบ้าน!
ฆ่าคนแล้ว!
เมื่อสักครู่ชายหนุ่มที่ยังดุร้าย ตกใจจนตาเหลือก และเป็นลม
อันธพาลเหล่านี้ ปกติมักรังแกผู้อื่นเพราะกำลังคนที่มากกว่า แต่ว่า เมื่อพวกเขาเห็นใครที่โหดเหี้ยมกว่าพวกเขา ก็ปรากฏธาตุแท้ของตัวเองออกมาทันที
บางคนขี้ขลาดมากกว่าคนที่พวกเขารังแก
เจ้าบ้าน!
ผู้อาวุโสบางคนของตระกูลลู๋และตระกูลเสิ่น อุทานออกมาพร้อมรีบเร่งไปข้างหน้า
แกฆ่าเจ้าบ้านของพวกเรา แม้ว่าแกจะเป็นปรมาจารย์หลินแล้วทำไม? เป็นไปได้ไหมว่าแกสามารถต้านทานกับตระกูลหวางได้!
ขอบอกแกไว้นะ ตระกูลหวางได้เชิญยอดฝีมือมาท่านหนึ่ง กำลังรอแก!
เชี้ยง!
เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงร้องของผู้ผู้อาวุโสทั้งสองตระกูล ก็ชูดาบเฮ่าเทียนขึ้นอีกครั้ง
ชัวะ ชัวะ!
ผู้บริหารระดับสูงเจ็ดคนและเจ้าบ้านทั้งสองคน และเสียชีวิตทันที
คราวนี้ ทุกคนเงียบด้วยความตกใจ
เมื่อหลินหยุนกวาดสายตาไปที่พวกเขา คนเหล่านั้นก็ก้มศีรษะและไม่มีใครกล้าสบตามองหลินหยุน
ไสหัวออกไป! หลินหยุนพูดคำนี้ออกมา
ทั้งสองตระกูลเหมือนกับได้รับการนิรโทษกรรม หลบหนีด้วยความตื่นตระหนก
หลินหยุนเหลือบมองไปที่ประตูบ้านตระกูลหลิน แต่ไม่ได้กลับไป แต่หันหลังและไปสถานที่ต่อไป
วิกฤตของตระกูลหลินได้รับการแก้ไขแล้ว และปลอดภัยชั่วคราว คุณปู่อยู่ในคฤหาสน์ตึกว่างเยว่ มีค่ายกลกระบี่คอยคุ้มกัน ดังนั้นจึงปลอดภัย
ตอนนี้ ได้เวลาไปกำจัดผู้ทรยศที่อยู่ทุกหนทุกแห่งแล้ว
หลินหยุนขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปยังกว่างหนัน
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ข่าวการถูกฆ่าของคนเหล่านี้ก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศจีน
จงโจว สำนักงานใหญ่เก่าของตงหวางกรุ๊ป
ฉินหลัน อีหยุน และผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆของชางฉองกรุ๊ปต่างรวมตัวกัน
สีหน้าทุกคนดูตื่นเต้นเล็กน้อย
โม่จือมิ่งพูดก่อน หูเหวยซินแห่งเจียงเป่ย เจี่ยงสง และผู้บริหารระดับสูงของชางฉองกรุ๊ปที่เคยทรยศพวกเรา ภายในวันเดียว ทุกคนถูกฆ่าตาย
และฉันได้ยินมาว่า สาเหตุการตายของคนเหล่านั้น ถูกดาบปาดที่คอ น่าจะกระทำโดยคนคนเดียวกัน
ภายในหนึ่งวัน จากเจียงเป่ย ตามฆ่าไปถึงจงโจว และไปถึงอูซุ
เขา กลับมาแล้ว!
หลังจากที่โม่จือมิ่งพูดจบ สีหน้าแสดงความตื่นเต้น
ดวงตาสีแดงของฉินหลัน ก็เปียกโชกทันที
นานมากแล้ว ที่เธอไม่รู้ว่าผ่านมันไปได้อย่างไร
บางทีมันอาจเป็นความเชื่อในใจ ที่ทำให้ฉินหลันอดทนมาจนถึงทุกวันนี้
เสี่ยวหยุน ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องไม่เป็นไร!