จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1031 เขาเป็นเทพมาร
ประเทศจีน กว่างหนัน
ผู้มอิทธิพลใหญ่ในกว่างเป่ยอยู่ในงานสี่วีรบุรุษถูกหลินหยุนตัดหัว
เสิ่นเหยียนผู้มีอิทธิพลใหญ่ในกว่างหนันยอมจำนนต่อปรมาจารย์หลิน และมีชีวิตอยู่ต่อไป
ยิ่งกว่านั้น ภายใต้ชื่อเสียงและอำนาจของปรมาจารย์หลิน อำนาจของตระกูลเสิ่นก็ขยายออกไปอย่างก้วางขวาง
ต่อมาเสิ่นเหยียนเข้าร่วมชางฉองกรุ๊ป ความแข็งแกร่งของตระกูลเสิ่นก็ถูกยกระดับขึ้น และโดยพื้นฐานแล้วได้ครอบคลุมกว่างหนันและกว่างเป่ยสองมณฑล
ตระกูลเสิ่นรู้สึกขอบคุณปรมาจารย์หลินมาก
แม้ว่า ตอนนั้นที่หวางซูเฟินกำลังประสบปัญหา เสิ่นเหยียนได้พูดสำนวนอย่างกล้าหาญต่อหน้าหวางซูเฟิน โดยให้คำมั่นว่าจะอยู่ร่วมเป็นร่วมตายกับชางฉองกรุ๊ป
แต่น่าเสียดาย เสิ่นเหยียนกับเจี่ยงสงเหมือนกัน คาดเดานิสัยตัวเองผิดไป
ท้ายที่สุด เขาเป็นเพียงนักธุรกิจคนหนึ่ง สิ่งสำคัญของนักธุรกิจคือการแสวงหาผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงข้อเสีย
เมื่อเห็นการสิ้นพระชนม์อันน่าสลดใจของควีนจิน เจี่ยงสงทรยศ และเมื่อคิดว่าปรมาจารย์หลินตายแล้ว ทางออกเดียวในอนาคตคือการเข้าร่วมกับตระกูลหวาง
ในที่สุดเสิ่นเหยียนก็เลือกที่จะทรยศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ หลังจากที่เขาได้รับข่าวบางอย่าง เสิ่นเหยียนก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายตลอดทั้งคืน
ชุดกระโปรงสีแดง อุปนิสัยที่เย็นชา เสิ่นมี่มีท่าทางหยิ่งผยองเดินเข้าไปในห้องทำงานของเสิ่นเหยียน
คุณพ่อคะ พ่อหาหนูเหรอ? เสิ่นมี่เป็นสาวงามที่โด่งดังในกว่างหนันและกว่างเป่ย
เธอเป็นคนเย็นชาและหยิ่งยโสเสมอ และไม่เห็นชายใดอยู่ในสายตา
จนกระทั่งถึงงานสี่วีรบุรุษเธอก็ได้พบกับชายที่เป็นเหมือนเทพมาร
ชายคนนั้น ถูกลิขิตเป็นปมในใจเธอไปชั่วชีวิต
เสิ่นเหยียนพูดว่า นั่งสิ
เสิ่นมี่ยกกระโปรงขึ้น และนั่งบนเก้าอี้อย่างสง่างาม มองไปที่เสิ่นเหยียน
หูเหวยซินแห่งเจียงเป่ยตายแล้ว เจี่ยงสงแห่งชางฉองกรุ๊ปก็ตายแล้ว ผู้ทรยศชางฉองกรุ๊ปเหล่านั้นก็ตายแล้ว เจ้าบ้านตระกูลลู๋และตระกูลเสิ่นในอูซุก็ตายแล้วเช่นกัน
พวกเขาทั้งหมดถูกปาดคอด้วยดาบ
เมื่อเสิ่นเหยียนพูดถึงตรงนี้ ไม่ได้พูดต่อ แต่มองไปที่เสิ่นมี่ด้วยดวงตาที่ร้อนรน
เสิ่นมี่มองไปที่เสิ่นเหยียน ด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ คุณพ่อสงสัยว่าเขากลับมาแล้วใช่ไหม!
นอกจากเขา ยังมีใครอีกเหรอ? เสิ่นเหยียนพูดเสียงเคร่งขรึม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ดูเหมือนว่าชื่อนั้น เป็นข้อห้ามที่มนุษย์ไม่สามารถพูดถึงได้
เสิ่นมี่พูด บางทีอาจไม่ใช่เขา แต่เป็นลูกน้องของเขาที่ทำ
เสิ่นเหยียนยิ้มเบาๆ หวังว่าจะไม่ใช่เขาจริงๆ
มิเช่นนั้น ด้วยนิสัยของเขา จะไม่ปล่อยพวกเราไปอย่างแน่นอน
เสิ่นมี่พูดว่า ฉันจะตรวจสอบให้ดี มีคนตายมากมาย ต้องมีพยานเห็นฆาตกร!
ใช่เขากลับมาหรือเปล่า เร็วๆนี้ก็รู้เอง
ไปได้! เสิ่นเหยียนพูด
เสิ่นมี่ออกไป
นอกประตู หานตันซึ่งเป็นเพื่อนสนิทรอเธอตั้งนาน เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของเธอ อดไม่ได้ที่จะถาม มีอะไรเหรอ? ถูกคนเฒ่าที่บ้านตำหนิเหรอ?
มันก็แค่ปฏิเสธการนัดเจอกับชายงี่เง่าไม่ใช่เหรอ? ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ!
เพื่อนสนิทคนนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นจากมหาวิทยาลัยของเสิ่นมี่ และทั้งสองคนจะพูดคุยกันทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวของผู้หญิง พวกเธอทั้งสองคนก็ไม่อายที่จะพูด
แม้กระทั่ง พวกเธอทั้งสองมักพูดถึงเรื่องผู้ชาย
เสิ่นมี่มองมาที่เธอ และพูดว่า มันไม่เกี่ยวกับเรื่องการนัดเจอกัน เขากลับมาแล้ว
หานตันดูงุนงง ใครกลับมาแล้ว? เขา คือคนไหนกัน?
ดวงตาของเสิ่นมี่ กลายเป็นความหวาดกลัว เขาไม่ใช่มนุษย์
พุด! หานตันยิ้ม เลิกคิ้วสวย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เสี่ยวมี่ เธอกลายเป็นคนเลวแล้วเหรอ ถึงกับมาหลอกและแกล้งฉัน! ไม่ใช่มนุษย์ ทำไมเธอถึงจริงจังขนาดนั้น!
เสิ่นมี่มองเธอ และพูดอย่างจริงจัง เขาไม่ใช่มนุษย์ เพราะเขาคือเทพเจ้า!
พุด! หานตันประชดอีกครั้ง
เสี่ยวมี่ ถ้าเธอยังมาเล่นตลกแบบนี้กับฉันอีกแล้ว เชื่อหรือไม่ฉันจะให้เธอต้องมาขอความเมตตาจากฉัน! ดวงตาของหานตันมองไปที่เอวที่เพรียวบางของเสิ่นมี่ และพูดอย่างไม่หวังดี
เสิ่นมี่พูดอย่างเคร่งขรึม ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ ฉันพูดเรื่องจริง
ดูเหมือนว่าหานตันจะรู้สึกถึงท่าทางที่จริงจังของเสิ่นมี่ และหุบยิ้ม คนนั้นคือใคร?
ด้วยพลังอำนาจของตระกูลเสิ่นในปัจจุบัน คนที่ทำให้คุณหวาดกลัวได้ขนาดนี้ ก็คือคุณชายทั้งสี่คนในเมืองหลวง?
คุณชายทั้งสี่คน? เสิ่นมี่แสดงการดูถูกเหยียดหยาม
คุณชายทั้งสี่คนถือรองเท้าให้ยังไม่คู่ควรเลย!
หานตันรู้สึกประหลาดใจ เธออย่าล้อเล่น คุณชายทั้งสี่คนเป็นทายาทผู้สืบทอดสี่ตระกูลใหญ่ ในโลกนี้จะมีใครที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา!
เสิ่นมี่เลิกเล่นปริศนา ปรมาจารย์หลินกลับมาแล้ว
หานตันอุทานออกมา เมื่อครึ่งปีก่อนเขาได้ตายในทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดแล้วไม่ใช่เหรอ?
อย่าบอกนะว่า เขายังไม่ตาย!
เสิ่นมี่พยักหน้า เขาไม่เพียงไม่ตาย แต่เขาก็เริ่มแก้แค้นแล้ว
หานตันงงเล็กน้อย เสี่ยวมี่แม้ว่าฉันจะเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาบ้างแล้ว แต่ว่า ฉันไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง ฉันยังไม่อยากเชื่อ เขามีพลังมากอย่างที่ร่ำลือกันหรือเปล่า?
ต่อให้เขาแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็มีเพียงคนเดียว ต่อให้เขาสามารถขวางกระสุนได้ เขาจะหยุดปืนใหญ่และเครื่องบินได้ไหม
ความเข้าใจของหานตันที่มีต่อหลินหยุน ยังไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด
เสิ่นมี่พูดอย่างเคร่งขรึม สำหรับเขานั้นปืนใหญ่และเครื่องบิน ก็เหมือนแมลงวันและยุง ใช้มือตบได้ทุกเมื่อ
ช่วงก่อน ได้ยินมาว่ารัสเซียอยู่ในประเทศของตัวเองได้จุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ ก่อนหน้านี้คิดว่ามันเป็นข่าวลวง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ข่าวนั้นจะเป็นจริงแล้ว
ยิ่งกว่านั้น เพื่อนำมากำจัดกับคนๆนั้น
หานตันตกตะลึง
ผ่านไปนานยังตั้งสติไม่ได้
เดี๋ยวก่อน วงจรสมองของฉันไม่ทำงาน เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ บอกว่าเขาสามารถต้านระเบิดนิวเคลียร์ได้
เสี่ยวมี่ แม้ว่าตอนที่ฉันเรียนไม่เคยตั้งใจฟัง แต่ฉันก็รู้ถึงพลังของระเบิดนิวเคลียร์ เธออย่ามาทดสอบไอคิวของฉันได้ไหม?
มีคนสามารถต้านระเบิดนิวเคลียร์ได้ เธอบ้าไปแล้วหรือว่าหูของฉันเริ่มประสาทหลอน?
มันเป็นไปได้อย่างไร?
เสิ่นมี่พูดว่า นี่ไม่ใช่ภาพหลอน แต่เป็นความจริง
ไปเถอะ ฉันจะไปตรวจสอบดูก่อน เขากลับมาแล้วจริงๆเหรอ?
เมืองหลวง ตระกูลหวาง
หวางจิงหลงนั่งอยู่ในห้องโถง ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
ด้านล่าง กลุ่มสมาชิกอาวุโสของตระกูลหวางกำลังนั่งตัวตรงอย่างเคร่งเครียด
หวางโส่วหลี่ลุกขึ้นจากที่นั่ง และพูดว่า ท่านพ่อ เขากลับมาแล้ว
หวางจิงหลงพูดอย่างไร้ความรู้สึก ฉันรู้แล้ว
สมาชิกอาวุโสของตระกูลหวางคนหนึ่งอุทาน ไม่นึกเลยว่าแม้แต่พ่อของระเบิดทั้งหมดก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้!
พลังของไอ้หนุ่มคนนี้ คิดว่าคงมีระดับสูงขึ้นมาก
หวางโสว่หลี่พูดอย่างเคร่งขรึม ฉันได้ยินข่าวจากค่ายทหาร กองทัพภาคเหนือกรมทหารที่หกของรัสเซียถูกทำลายล้างจนหมด
อะไรนะ!
กรมทหารที่หกคือกองพลไฮเทคที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซีย มีนามว่ากรมทหารที่หก สามารถเอาชนะกองทัพล้านคนในประเทศเล็กๆนี้ได้!
เป็นไปได้ไหมที่กรมทหารที่หกถูกไอ้หนุ่มคนนั้นกำจัดไปเพียงลำพัง! ผู้อาวุโสของตระกูลหวางพูดด้วยท่าทางสยดสยอง
หวางโส่วหลี่พยักหน้า ใช่ เขาคนเดียวที่ทำลายล้างกรมทหารที่หก
ในห้องโถงของตระกูลหวาง เงียบจนน่ากลัว และทุกคนก็ตกตะลึง ราวกับยังคงจินตนาการว่า พลังของคนเพียงคนเดียว จะทำลายกองทัพสมัยใหม่ได้อย่างไร
ในเวลานี้ จู่ๆหวางโส่วเหรินก็พูดขึ้นทันที หลังจากทำลายกรมทหารที่หกแล้ว รัสเซียได้จุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์
จากนั้น เขาก็เดินออกจากระเบิดนิวเคลียร์ สังหารราชาแห่งองครักษ์ลับ และไปที่กองบัญชาการของกองทัพภาคเหนือ ฆ่าผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพภาคเหนือ และแม้แต่เจ้าหน้าที่สูงสุดของกองทัพภาคเหนือก็ถูกเขาฆ่า
สมาชิกของตระกูลหวางทุกคน เหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก ชั่วขณะก็นิ่งอึ้งไปเลย
แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ก็ฆ่าเขาไม่ได้เหรอ?
แล้วจะมีอะไรที่คุกคามเขาได้อีกล่ะ? สีหน้าของผู้อาวุโสระดับสูงในตระกูลหวางคนนั้น ไม่ว่าเขาจะอยากร้องไห้หรือหัวเราะ มันรู้สึกตะขิดใจ
หวางจิงหลงพูดอย่างเคร่งขรึม ไม่ต้องกังวล เฉียนเอ๋อและอาจารย์อาของเขากลับมาจากทะเลสาบเยว่หยาแล้ว มีคุณจั่วอยู่ สามารถคุ้มครองตระกูลหวางไร้ความกังวล!