จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1041 สั่งเป็นสั่งตายในชั่วขณะ
คานประตูสองข้างที่หลินหยุนได้ฟันหักลงมาในครั้งก่อนนั้น ตอนนี้ได้ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังดูโอ่อ่ายิ่งใหญ่กว่าคานประตูก่อนหน้านี้เสียอีก
ยามเฝ้าประตูเหมือนว่ายังไม่ได้เปลี่ยนคน เมื่อเห็นหลินหยุน เขาตกใจถึงกับหน้าซีด แล้วก็รีบ
โทรศัพท์ คงน่าจะรายงานไปยังผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวาง
หลินหยุนไม่ได้สนใจ มือข้างหนึ่งไขว้หลัง มืออีกข้างหนึ่งยื่นออกมา
เชว้งงง!
เสียงกระบี่ดังขึ้น
ดาบเฮ่าเทียนเปล่งประกายแสงสีแดง แล้วตกลงมาอยู่ในมือของหลินหยุน
จากนั้น เขาก็กวัดแกว่งกระบี่
โดยที่ไม่มีกระบวนท่าอะไร ท่วงท่าของกระบี่ก็เรียบง่าย คล้ายกับคนทั่วไปกวัดแกว่งกระบี่
ฉับ!
คานประตูหน้าคฤหาสน์ของตระกูลหวางพังทลายลงอีกครั้ง ฝุ่นละอองตลบอบอวลไปทั่ว
ในห้องโถงตระกูลหวาง หวางจิงหลงที่ได้กลับมาถึงก่อนแล้วนั้น กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งเจ้าบ้าน
ด้านล่าง ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวาง นั่งรวมตัวกันอยู่อย่างพร้อมเพรียง
ได้ยินเสียงดังครึกโครมที่มาจากด้านนอก สายตาของหวางจิงหลงและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันจับจ้อง
ไปที่ร่างของชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างของตำแหน่งที่นั่งหลัก
ชายวัยกลางคนผู้นั้น ที่อยู่ในชุดสีเขียว กำลังนั่งหลับตาอยู่
รูปลักษณ์ของเขานั้นธรรมดาอย่างมาก มองดูแล้วก็เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป แทบจะไม่มี
ความพิเศษอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่า อายุที่แท้จริงของเขานั้น ยังจะมากกว่าหวางจิงหลงเสียอีก
หลังจากได้ยินเสียงดังครึกโครมนั้น เขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
หวางเซิ่งเฉียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ และในมือกำลังเล่นมีดปอกผลไม้อยู่นั้น ได้มองไปที่ชายวัย
กลางคนผู้นี้
อาจารย์อา เขามาแล้ว หวางเซิ่งเฉียนพูดขึ้นเบา ๆ
จั่วยีเจี้ยนพูดขึ้นว่า: รู้แล้ว
ฉันจะไปพบกับเขาหน่อย
จั่วยีเจี้ยนระมัดระวังตัวด้วย! หวางจิงหลงพูดขึ้นพร้อมกับยกมือแสดงความเคารพ
หวางจิงหลงไม่ทันจะพูดจบ บนที่นั่งก็ไม่มีเงาร่างของจั่วยีเจี้ยนแล้ว
บริเวณประตูใหญ่ของตระกูลหวาง ฝุ่นละอองได้เลือนหายไปหมดแล้ว เงาร่างของหลินหยุน
ยืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่อย่างสงบนิ่ง
ทันใดนั้น หลินหยุนก็รู้สึกรับรู้ได้ จึงเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ด้านบนนั้น จั่วยีเจี้ยนในชุดสีเขียว เอามือสองข้างไขว้หลัง แล้วมองมาที่หลินหยุนอย่างเงียบสงบ
ปรมาจารย์หลิน? จั่วยีเจี้ยนค่อย ๆ เอ่ยปากพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา
ดวงตาของหลินหยุน เกิดเจตนาสังหารขึ้นโดยพลัน แม้ว่าจะห่างกันนับหลายร้อยเมตร แต่จั่วยีเจี้ยนก็ยังคงสามารถรับรู้สัมผัสได้
ได้ยินว่าแต่ไหนแต่ไรมาปรมาจารย์หลินคือผู้ที่หนักแน่นไม่ตื่นตระหนกต่อสภาพการณ์ใด ๆ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ดูโมโหมากขนาดนี้ด้วย? จั่วยีเจี้ยนยิ้มเยาะและพูดขึ้น
ดูเหมือนว่าคำร่ำลือนั้นจะผิดพลาด!
หลินหยุนเหาะลอยตัวขึ้นมา ยืนอยู่ตรงข้ามของจั่วยีเจี้ยนที่ระยะห่างประมาณสิบเมตร สีหน้าท่าทางเฉยชา: นายฆ่าเพื่อนของฉัน
จั่วยีเจี้ยนหัวเราะเหอะเหอะ: เพื่อน?
คนอย่างพวกเรานี้ จะมีเพื่อนได้อย่างไรกัน? ก็แค่ลูกน้องคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมจะต้องจริงจัง
ขนาดนี้ด้วย
สีหน้าท่าทางของเขา แสดงออกมาถึงความสงบนิ่ง มองข้ามเรื่องความเป็นความตาย
หลินหยุนพูดขึ้นทันทีว่า: นายบำเพ็ญฝึกฝนวิชาสะบั้นรัก
จั่วยีเจี้ยนสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังหลินหยุนนั้น เผยให้เห็นถึงความ
ตระหนกตกใจ
ปรมาจารย์หลินสมกับคำร่ำลือจจริง ๆ!
มีแต่ตัดขาดจากความรักได้ ถึงจะสามารถเข้าใจเรื่องของความเป็นความตาย มีแต่เข้าใจอย่าง
ทะลุปรุโปร่ง ถึงจะควบคุมกำหนดทุกสิ่งอย่างได้
สมญานามของฉันคือความเป็นและความตายในชั่วขณะ ชื่อของฉันคือจั่วยีเจี้ยน
หลินหยุนยิ้มเยาะ: กฎเกณฑ์ของความเป็นและความตาย คือการดำรงอยู่ของสรรพสิ่งในจักรวาล
ภายใต้กฎต้าเต๋า ต่อให้ในช่วงสูงสุดของฉัน ก็ยังไม่กล้าที่จะกำหนดควบคุม ลำพังแค่นาย ยังกล้าที่จะพูดถึงการควบคุมกำหนดความเป็นและความตายด้วย
จั่วยีเจี้ยนไม่ได้โกรธเคือง โดยพูดขึ้นอย่างเฉยเมยว่า: นายสามารถทดสอบดูได้
คราวนี้ หลินหยุนผิดแปลกไปจากเดิม โดยที่เป็นฝ่ายบุกโจมตีก่อน
ท่าสยบเขา!
เริ่มต้นลงมือ ก็ใช้กระบวนท่าสิบแปดท่าต้าเต๋าแล้ว
อีกทั้ง ยังใช้พละกำลังถึงสิบส่วนเลย
พลังหมัดรวดเร็วดั่งเจียว มีอานุภาพอันทรงพลัง พุ่งจู่โจมในทันที
จั่วยีเจี้ยนยิ้มเยาะ: แค่นี้ก็ยังอดทนอดกลั้นไม่อยู่แล้ว เตรียมรับความพ่ายแพ้ได้เลย
พูดจบ มือสองข้างของเขาได้วาดเป็นครึ่งวงกลมที่เบื้องหน้า เพื่อรอเผชิญหน้าพลังหมัดนั้น
ของหลินหยุน
เปรี๊ยะ!
พลังหมดของหลินหยุนนั้น คิดไม่ถึงว่าเหมือนกับชกเข้าใส่ฝ้าย
จั่วยีเจี้ยนสีหน้าขาวซีดขึ้นเล็กน้อย
พลังหมัดรุนแรงอย่างมาก
แต่ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี
ตอบกลับมาด้วยพลังหมัดที่สองของหลินหยุน
ท่าแยกน้ำ!
ดึงฝ่ามือกลับ แล้วก็ปล่อยพลังออกไปอีกครั้ง
จั่วยีเจี้ยนยิ้มเยาะ: ยังไม่ทันได้รวบรวมพลัง ก็กล้าที่จะปล่อยหมัดออกมา ช่างน่าขันสิ้นดี!
แต่ทว่า เมื่อตอนที่เขารับพลังหมัดของหลินหยุนนั้น สีหน้าท่าทางกลับเปลี่ยนไปอย่างมาก ถูกชกจนร่างกายกระเด็นลอยไปไกล
ค้อนดาวร่วง!
หลินหยุนส่งเสียงขึ้นอีกครั้ง พละกำลังขนาดใหญ่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า หล่นทับไปบนร่างของ
จั่วยีเจี้ยนที่ยังทรงตัวไม่มั่นคง
โครม!
ร่างกายของจั่วยีเจี้ยนก็เหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ ที่กระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง
แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้ร่างของเขาตกถึงพื้น หลินหยุนก็ปล่อยพลังหมัดที่สี่ออกมา
ท่าห้ามสิ่งวายชนม์!
ในขณะนั้น ร่างกายของจั่วยีเจี้ยนที่ยังไม่ร่วงตกถึงพื้นก็ถูกแข็งตัวอยู่กลางอากาศ
พลิกฟ้าผ่าตะวัน!
หลินหยุนก้าวเดินออกมา ทันใดนั้นก็มาถึงด้านข้างของจั่วยีเจี้ยน แล้วก็ปล่อยหมัดชกเข้าใส่
ที่หน้าอกของเขาอย่างแรง
ตุบ!
จั่วยีเจี้ยนกระอักเลือดออกมา แล้วก็ร่วงลงไปกระแทกกับพื้นซีเมนต์แข็ง
ทว่า ยังไม่จบเพียงเท่านี้
ดาวยักษ์ตก!
รวดเร็วดั่งกับดาวตก ใหญ่โตดั่งกับดาวคงที่ ร่างกายของหลินหยุน ราวกับภูเขาใหญ่ หล่นทับลงมา
บนร่างของจั่วยีเจี้ยนที่อยู่บนพื้นซีเมนต์
ตุบ!
พื้นซีเมนต์แข็ง แตกออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน ร่างของจั่วยีเจี้ยนถูกทับจนร่วงหล่นลงไปใต้ดิน
คนของตระกูลหวางที่มองดูเหตุการณ์นี้อยู่ในระยะไกล ต่างก็พากันตะลึงและหวาดกลัว
คุณจั่ว พ่ายแพ้แล้ว? ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของตระกูลหวาง ถามขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ
ตอนนั้นที่จั่วยีเจี้ยนเอาชนะหลินซื่อเฉิง และฆ่าควีนจิน กดดันจนถึงกับชางฉองกรุ๊ปต้องยอมจำนน นั่นมันช่างยิ่งใหญ่และหยิ่งผยองอย่างที่สุด
แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุน จั่วยีเจี้ยนผู้ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรหาผู้ใดเปรียบนั้น กลับไม่มีแม้แต่
โอกาสจะตอบโต้คืนเลยด้วยซ้ำ หมายความว่าพ่ายแพ้ลงแล้วใช่ไหม?
แม้แต่พื้นซีเมนต์ที่แข็งแกร่งนั้นยังถูกทุบจนแตกละเอียด ซึ่งร่างกายของจั่วยีเจี้ยนคงจะไม่แข็งแกร่ง
เทียบเท่ากับพื้นซีเมนต์ได้หรอกนะ?
เพียงแค่มองดูก็ยังรู้สึกว่าเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
หวางเซิ่งเฉียนยิ้มเยาะ: อาจารย์อาไม่แพ้อย่างง่ายดายขนาดนี้หรอก
โดนทุบตีถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่แพ้อีกเหรอ?
ทุกคนของตระกูลหวางไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าหวางเซิ่งเฉียนทำไมถึงได้มีความมั่นใจมากขนาดนี้
หลินหยุนลอยตัวในอากาศที่ระยะห่างสิบเมตรจากด้านบนหลุมขนาดใหญ่ที่จั่วยีเจี้ยนหล่นทับใส่
แล้วก็มองลงมาที่หลุมบนพื้นอย่างสงบนิ่ง
ต่อให้เป็นนักบู๊ขั้นแดนเทพระดับใหญ่ แต่เมื่อโดนหลินหยุนถล่มด้วยพลังหมัดขนาดนี้ คงจะต้อง
ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
แต่ว่า พลังความสามารถของจั่วยีเจี้ยน กลับถึงระดับแดนเทพขั้นสูงสุด
นี่คือครั้งแรกที่หลินหยุนได้ประสบกับนักบู๊ระดับแดนเทพขั้นสูงสุด
นักบู๊ระดับขั้นดังกล่าวนี้ หลินหยุนไม่เคยรู้และเข้าใจมาก่อน
ดังนั้น แม้แต่หลินหยุนเองก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่า จั่วยีเจี้ยนที่อยู่ในหลุมนั้นตกลงว่าอยู่ใน
สภาพไหนกันแน่
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……
ปรมาจารย์หลินยอดเยี่ยมทีเดียว ช่างสมกับคำร่ำลือจริง ๆ!
แต่ ฉันพูดไว้แล้วว่า ฉันควบคุมกำหนดความเป็นความตายได้ ต่อให้นายจะมีพลังความสามารถ
ที่แข็งแกร่งมากเท่าไร ก็ไม่สามารถทำอะไรฉันได้
ฉันให้นายมีชีวิตอยู่ นายก็จะตายไม่ได้ ฉันให้นายตาย นายก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
ร่างกายของจั่วยีเจี้ยน ค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นมาจากหลุม ชุดสีเขียวที่สวมใส่ขาดจนไม่มีชิ้นดีแล้ว
แต่ว่า ร่างกายของเขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
จากพลังความสามารถของหลินหยุนในตอนนี้ หากใช้หกกระบวนท่าแรกของสิบแปดท่าต้าเต๋า
โจมตีใส่คนใดคนหนึ่งแล้ว ยังไม่มีใครที่จะรอดพ้นจากอาการบาดเจ็บได้เลย
แต่ว่า จั่วยีเจี้ยนทำสำเร็จแล้ว
ทุกคนของตระกูลหวางเบาใจลงได้บ้าง ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวางคนนั้นพูดขึ้นอย่าง
ตื่นตกใจว่า: คุณจั่วไม่เป็นอะไรเลยจริง ๆ
นี่มันช่างเหลือเชื่อคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ!
หลินหยุนค่อย ๆ หรี่ตาลง นับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแปลกใจกับพลังความสามารถของนักบู๊
จั่วยีเจี้ยนลอยตัวออกมาจากหลุม แล้วก็มายืนอยู่เบื้องหน้าหลินหยุนอีกครั้ง
จากนั้น เขาก็ได้ชี้ไปยังต้นสนต้นหนึ่งที่อยู่ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลหวาง: ตาย!
ต้นสนนั้น ก็เหี่ยวเฉาลงไปทันที
จากนั้น เขาก็ชี้นิ้วไปอีกครั้ง: เป็น!
ต้นสนที่เหี่ยวเฉานั้น ก็กลับกลายมาเป็นเขียวขอุ่มขึ้นอีกครั้ง
พระเจ้า! นี่คือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติใช่ไหม?
ทุกคนของตระกูลหวางแทบจะยกมือกราบไหว้กันหมดแล้ว
เป็นในชั่วขณะ ตายในชั่วขณะ นอกจากเทพเซียนที่แท้จริงแล้ว ใครจะสามารถทำได้อีก!