จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1042 ระยะต้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
หลินหยุนมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้ว แต่สีหน้าก็ยังคงเฉยเมย
ที่จริงแล้ว นี่ก็คือขั้นแดนเทพสูงสุดของนักบู๊
ระยะต้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
จั่วยีเจี้ยนหัวเราะกระหยิ่มยิ้มย่อง และพูดขึ้นว่า: ที่จริงแล้วปรมาจารย์หลินเองก็มีช่วงเวลา
ที่โง่เขลาด้วยเช่นกัน นี่คือพลังความสามารถในขอบเขตอย่างแท้จริง ใช่อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
ที่ไหนกันล่ะ?
แต่ว่า วิธีการเรียกขานแบบนี้ก็ถือว่าน่าสนใจดี แต่ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ก็คืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ทำไมจะต้องบอกว่าเป็นระยะต้นด้วย?
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: ขอบเขต อย่างนายนี้สมควรด้วยเหรอ!
ขอบเขตที่ผู้บำเพ็ญเซียนพูดถึงนั้น ก็แทบจะครอบคลุมทั้งโลก โดยอยู่ในโลกไหน ตนเองก็คือเทพ
แห่งโลกนั้น
ชาติที่แล้ว โลกชางฉองของหลินหยุน แทบจะสมบูรณ์แบบจนกลายเป็นโลก โดยมีกฎเกณฑ์
เป็นของตนเอง
ถึงขนาดที่ว่า อีกเพียงไม่นาน ก็จะสามารถให้กำเนิดชีวิตขึ้นได้แล้ว
ส่วนขอบเขตที่จั่วยีเจี้ยนพูดถึงนั้น ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงระยะต้นของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เมื่อเทียบ
กับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่แท้จริงแล้ว พลังอานุภาพยังแตกต่างกันลิบลับ
สั่งเป็นสั่งตายในชั่วขณะของเขานั้น ก็เพียงแค่ควบคุมกฎเกณฑ์พิเศษบางอย่างของโลกก็เท่านั้น
ถูกหลินหยุนดูถูกเหยียดหยาม จั่วยีเจี้ยนก็ไม่ได้โมโหอะไร เพราะเขาบำเพ็ญวิชาสะบั้นรัก
ไร้ความรักกับผู้อื่น ไร้ความเมตตากับตนเอง
ผู้ที่ไร้ความรัก ไม่สามารถฟุ้งซ่านกับเรื่องภายนอกและสิ่งต่าง ๆ ได้
เหอะเหอะ นายอย่าได้มาคิดยั่วยุฉันเลย นายเองก็รู้ว่า ฉันบำเพ็ญวิชาสะบั้นรัก
ตอนนี้ จะให้นายได้รับรู้ถึงพลังอานุภาพขอบเขตของฉัน
จั่วยีเจี้ยนชี้ไปยังหลินหยุน: เป็น!
พลังกฎเกณฑ์ที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วน ราวกับใยแมงมุมที่ถักออกมาเป็นตาข่าย กระจายพุ่ง
เข้าใส่หลินหยุนอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของหลินหยุน เริ่มที่จะปูดบวมขึ้น เหมือนกับลูกบอลที่กำลังเติมลม
ไอ้หนุ่ม จะให้นายได้ลิ้มรสกับการระเบิดตัวตาย จั่วยีเจี้ยนสีหน้าท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง
หลินหยุนไม่ได้มองดูการเปลี่ยนแปลงร่างกายของตนเอง โดยพูดขึ้นเบา ๆ ว่า: พลังกระจอก
คำพูดของเขา เป็นจริงดั่งที่พูด เมื่อพูดจบ ร่างกายของเขาก็หยุดการปูดบวมขึ้น จากนั้นก็กลับคืนสู่
สภาพปกติ
ในที่สุดสีหน้าของจั่วยีเจี้ยนก็เกิดความตื่นตระหนกขึ้น
เป็นไปได้อย่างไร!
คิดไม่ถึงว่านายจะทำลายขอบเขตของฉันได้!
เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน? ต่อให้ประมุขเขาก็ไม่สามารถที่จะทำลายขอบเขตของฉันลงได้
อย่างง่ายดายขนาดนี้ เพียงแค่ใช้ขอบเขตของเขากดทับพลังของฉัน
คิดไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มนี้จะสามารถทำลายพลังขอบเขตของฉันลงได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
ฉันไม่เชื่อ!
จั่วยีเจี้ยนสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม แล้วก็ชี้ไปยังหลินหยุนอีกครั้ง: ตาย!
ร่างกายของหลินหยุน เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง
ผมของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเทา จากนั้นก็เป็นสีขาว เพียงชั่วครู่ผมสั้นที่ดกดำ ก็กลายเป็น
สีขาวโพลน
ผิวหนังของเขาก็เริ่มเหี่ยวย่นขึ้น ร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ มีอาการหลังค่อม
เพียงชั่วครู่ เขาก็กลายเป็นคนชราที่แก่หงำเหงือกแล้ว
ฮึ นายสามารถต้านทานพลังขอบเขตสั่งเป็นของฉันได้ แต่คงไม่สามารถต้านทานพลังขอบเขต
สั่งตายของฉันได้ ปรมาจารย์หลิน ก็มีความสามารถแค่นี้เท่านั้น! จั่วยีเจี้ยนยิ้มเยาะอย่าง
ภาคภูมิใจ
หยุดได้แล้ว! เสียงของหลินหยุน ก็ดังขึ้นตาม
จากนั้น ร่างกายของเขาก็กลับคืนสู่สภาพปกติในทันที
ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่า นายนั้นเข้าใจในระยะต้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ประเภทไหน
หลินหยุนมองไปที่จั่วยีเจี้ยน ด้วยความตื่นตกใจเล็กน้อย: ที่ฉันคาดคิดไม่ถึงก็คือ นายนั้นเข้าใจ
ถึงกฎเกณฑ์ของกาลเวลา
สั่งเป็นสั่งตายในชั่วขณะ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!
ภายใต้กฎเกณฑ์แห่งโลก เวลากับความว่างเปล่ายากที่จะเข้าใจอย่างที่สุด จั่วยีเจี้ยนในฐานะ
ที่เป็นนักบู๊คนหนึ่ง สามารถที่จะเข้าใจถึงกฎเกณฑ์กาลเวลาได้ ช่างน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะเข้าใจกฎเกณฑ์กาลเวลาแค่เพียงเล็กน้อย แต่หากว่าอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของเขานี้
สำเร็จสมบูรณ์ แน่นอนว่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ชั้นยอดเลยทีเดียว
แต่น่าเสียดายที่ เขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว
จั่วยีเจี้ยนตกตะลึงอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าหลินหยุนจะเพิกเฉยต่อขอบเขตสั่งเป็นสั่งตายของเขา
เช่นนี้
นั่นคือสิ่งที่เขาใช้เวลาบำเพ็ญฝึกฝนมาหลายสิบปี จึงจะสามารถเข้าใจพลังกฎเกณฑ์นี้ได้
ดาบพิกัดต้าเต๋า!
หลังจากที่เข้าใจระดับพลังความสามารถของจั่วยีเจี้ยนแล้ว หลินหยุนก็รู้ได้ว่าจะทำลายจัดการเขา
ได้อย่างไร
ดาบพิกัดต้าเต๋า ฟาดฟันเฉพาะพลังกฎเกณฑ์ของเหตุและผล
จากระดับการบำเพ็ญของงจั่วยีเจี้ยนนั้น ไม่สามารถต้านทานดาบพิกัดต้าเต๋าได้
กระบี่ยาวสีดำ ลอยอยู่กลางอากาศ อย่างไร้เสียง
จั่วยีเจี้ยนกลับรู้สึกว่าจิตใจเกิดการสั่นไหว: นั่นคืออะไร?
ตาย!
ความหวาดกลัวทำให้จั่วยีเจี้ยนตอบโต้กลับมาอย่างรวดเร็ว
เขาชี้ไปยังดาบพิกัดต้าเต๋า
แต่น่าเสียดายที่ ดาบพิกัดต้าเต๋าไม่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
จั่วยีเจี้ยนเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ชี้ไปยังกำแพงด้านล่าง: ตาย!
กำแพงหนึ่งเมตรนั้น ได้ผุกร่อนลงด้วยอย่างรวดเร็วโดยที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า กลายเป็น
เม็ดทราย และกลายเป็นฝุ่นผง
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: กฎเกณฑ์กาลเวลา ก็คือกฎเกณฑ์แห่งโลกอย่างหนึ่ง แต่ว่า มันอยู่นอกเหนือ
กฎเกณฑ์
มันในที่นี้ ก็คือดาบพิกัดต้าเต๋านั่นเอง
จั่วยีเจี้ยนตะโกนอย่างบ้าคลั่ง: เป็นไปไม่ได้! โลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ไปได้!
สิ่งที่ตอบกลับเขาก็คือดาบพิกัดต้าเต๋าที่ฟันไปยังศีรษะ
ขอบเขตสั่งเป็นสั่งตาย!
จั่วยีเจี้ยนดวงตาสองข้างเบิกโพลง แล้วก็ชี้ไปยังดาบพิกัดต้าเต๋าอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่า เขาไม่สามารถที่จะยับยั้งดาบพิกัดต้าเต๋าได้ ซึ่งเหมือนกับที่หลินหยุนได้พูดไว้ นี่คือพลังที่อยู่
นอกเหนือกฎเกณฑ์
อ่า!
เมื่อดาบพิกัดต้าเต๋าใกล้จะฟาดฟันลงมา จั่วยีเจี้ยนหวาดกลัวจนถึงกับต้องปิดตาลง
ทุกคนของตระกูลหวาง ต่างก็พากันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก โดยมองไปที่กระบี่ยาวสีดำนั้น ได้ฟันลงมาบนหัวของจั่วยีเจี้ยน
จบสิ้นกัน!
ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวางได้พากันปิดตาลง
แม้แต่หวางเซิ่งเฉียนเอง ก็ขมวดคิ้วขึ้น
หวางจิงหลงถึงขนาดที่ได้เริ่มคิดแผนการเอาไว้แล้ว: เฉียนเอ๋อ รีบส่งข่าวแจ้งไปยังสำนักของนาย
โดยเร็ว!
แต่ว่า ภาพเหตุการณ์ต่อไปกลับทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
ดาบพิกัดต้าเต๋าฟันทะลุผ่านร่างของจั่วยีเจี้ยน จากนั้นก็ราวกับภาพลวงตา หายสาบสูญไป
จั่วยีเจี้ยนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อย
ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้หนุ่ม ฉันพูดเอาไว้แล้ว โลกนี้จะมีสิ่งของที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ได้อย่างไรกัน เดิมทีนี่ก็เป็นเพียงแค่กระบี่ลวงตา!
ทุกคนของตระกูลหวางก็เบาใจลงได้บ้าง
โชคดีที่ว่า ภายนอกดูดีแต่กลับใช้งานจริงไม่ได้เรื่อง!
หลินหยุนไอ้หนุ่มคนนี้ มักจะชอบทำลูกเล่นแปลก ๆ เหล่านี้เป็นประจำ
มีผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวางหัวเราะเยาะขึ้น
หลินหยุนมองไปที่จั่วยีเจี้ยน และพูดขึ้นว่า: นายอย่าได้ด่วนดีใจเร็วเกินไป ดาบพิกัดต้าเต๋านั้นไม่ฟาดฟันสรรพสิ่งและคน ไม่ฟาดฟันพลัง จะฟาดฟันเฉพาะแต่พลังกฎเกณฑ์
ของเหตุและผล
ไม่มีพลังกฎเกณฑ์คุ้มกันร่างกายแล้ว นายก็เหมือนกับเต่าที่ไร้กระดอง
ท่าสยบเขา!
ร่างของหลินหยุนหายวับไปกับที่ภายในพริบตา
ตุบ!
จากนั้น หลินหยุนก็ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของจั่วยีเจี้ยน โดยชกหมัดเข้าใส่ที่หน้าอกของเขา
กร็อกแกร็ก!
เสียงกระดูกแตกหัก ดังขึ้นอย่างชัดเจน ต่อให้ทุกคนของตระกูลหวางที่อยู่ด้านล่าง ต่างก็ได้ยินกัน
อย่างชัดเจน
เปรี๊ยะ!
จั่วยีเจี้ยนโดนชกกระเด็นลอยออกไปไกล
ร่างของหลินหยุนก็หายวับตามไปด้วย แล้วก็ชกหมัดเข้าใส่หน้าอกของจั่วยีเจี้ยนอีกครั้ง
ตุบ!
จั่วยีเจี้ยนราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ ร่วงตกลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง
เงาร่างของหลินหยุน ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของจั่วยีเจี้ยน แล้วก็ชกเสยขึ้นอีกหนึ่งหมัด
ตุบ!
จั่วยีเจี้ยนถูกชกจนตัวลอยขึ้นสูง
เงาร่างของหลินหยุน ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านบนของเขา แล้วก็ชกเข้าใส่อย่างรุนแรงอีกครั้ง
กระบวนการดังกล่าว ได้เกิดขึ้นติดต่อกันหลายนาที จั่วยีเจี้ยนก็เหมือนกับลูกบอล ที่ถูก
หลินหยุนชกไปชกมา
ช่วงเวลานั้น ไม่รู้ว่าโดนชกใส่จำนวนกี่หมัด จั่วยีเจี้ยนถูกชกจนกลายเป็นลูกชิ้นเนื้อคน
กระดูกทั่วทั้งร่างกาย แตกละเอียดไปหมด ถึงขนาดที่เนื้อและเลือดผสมปะปนเข้าด้วยกัน
สุดท้ายก็กลายเป็นเนื้อที่เละตุ้มเป๊ะ
โอ้กกกก!
ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวางที่ทนดูไม่ได้ ต่างก็อาเจียนกันออกมา
หวางเซิ่งเฉียนสีหน้าขาวซีด กำหมัดสองข้างแน่น แล้วมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วย
ความโกรธแค้นอย่างที่สุด
ไอ้สาระเลว!
นี่เป็นการเหยียดหยามไม่ให้เกียรติต่อร่างศพ!
เขาคุนหลุนไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่!
หวางโส่วเหรินมองไปที่หวางจิงหลงอย่างเป็นกังวล และถามขึ้นว่า: คุณพ่อ คุณจั่วถูกฆ่าตายแล้ว ซึ่งภายใต้อารมณ์โกรธแค้นของเขา จะลงมือจัดการกับพวกเราหรือไม่?