จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1059 หินทิพย์และซากเจดีย์
ฮ่าๆๆ……. เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าดังก้องกังวานไปทั่วมหาสมุทรสีเลือดอย่างไม่หยุดหย่อน
ฝ่าบาทเหรอ? ก็แค่เศษสวะเท่านั้นเอง ตอนนั้นยังคิดว่าแกยังพอมีคุณค่าให้หลอกใช้บ้าง รอให้แกหยั่งรู้พรสวรรค์ทางสายเลือดก่อน ฉันก็จะสามารถเอามาใช้เองได้ คิดไม่ถึงว่าแกเทียบไม่ได้แม้กระทั่งมาร์ควิสคนหนึ่งเลย!
น้ำเสียงของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและเย้ยหยัน คาร์นอตวิลเลียมฟังแล้วรู้สึกโกรธแค้นมาก
สีหน้าของคาร์นอตวิลเลียมเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดมากขึ้น มีทั้งความโกรธ ความอัดอั้นตันใจ และแฝงไปด้วยความเจ็บใจอีกด้วย
ที่แท้ ตอนนั้นแกคอยดูแลเอาใจใส่ฉันอย่างดี เพียงแค่หวังอยากได้พรสวรรค์ทางสายเลือดในตัวของฉันเท่านั้นเอง
แกนี่เหมือนปีศาจร้ายตัวหนึ่งจริงๆเลย!
แกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ปีศาจร้ายเหรอ? ฉันชอบชื่อนี้จังเลย!
ในกฎเกณฑ์การอยู่รอดของเผ่าโลหิตนั้น ตั้งแต่ไหนมาคนที่แข็งแกร่งที่สุดจึงจะเป็นผู้นำได้ แกถึงกับไปหัดมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนกับพวกมนุษย์ไปแล้ว ช่างโง่เขลาจริงๆเลย!
ถึงแม้ว่าแกจะเป็นไอ้ขี้แพ้คนหนึ่ง แต่ว่าพละกำลังของแกตอนนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว ก็ยังพอมีสิทธิ์ที่จะมาเติมเต็มขุมนรกทะเลเลือดของฉันได้
ดังนั้น แกก็ควรไปตายได้แล้ว ฝ่าพระบาท
เมื่อสิ้นเสียงของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าลง ทันใดนั้นคาร์นอตวิลเลียมก็รู้สึกว่าแรงดูดที่อยู่รอบๆตัวเขาพวกนั้นเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
คาร์นอตวิลเลียมคำรามเสียงดังว่า คิดจะเอาเลือดของฉันมาไปเติมเต็มขุมนรกทะเลเลือดของแก ฝันไปเถอะ!
ในตัวของคาร์นอตวิลเลียม ก็ระเบิดแสงสีดำกลุ่มหนึ่งออกมา เพื่อพยายามต่อต้านการกัดกร่อนของทะเลเลือดอย่างสุดฤทธิ์
ฮ่าๆๆ ก็ยังพอมีน้ำยาอยู่บ้าง แต่ว่า แกคงต้านไว้ไม่นานหรอก ล้มเลิกการขัดขืนแต่โดยดีจะดีกว่านะ!
ฉันจะจัดการกับหลิงชางฉองก่อน จากนั้นค่อยมาจัดการกับเศษสวะอย่างแกทีหลัง!
หลินหยุนยืนอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรสีเลือดอย่างเงียบๆ ค่อยๆรับรู้ถึงพลังแรงที่มากัดกร่อนพลังของเขาอยู่รอบๆอย่างไม่หยุดหย่อน
นี่คือพลังจากกฎเกณฑ์ธรรมชาติ แต่ก็ไม่ใช่พลังจากกฎเกณฑ์ธรรมชาติไปเสียทั้งหมด
พลังแรงที่แปลกประหลาดมาก!
พลังของดาบทะลุสวรรค์ถึงกับถูกพลังแสงสีแดงนี้ขัดขวางไว้อีกทั้งยังกลืนกินไปด้วย ขุมนรกทะเลเลือดนี้ก็นับว่ายังพอมีฤทธิ์เดชอยู่บ้าง
หลินหยุนยืนอยู่ท่ามกลางทะเลเลือดนั้น ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง กระบี่ด้ามยาวสีดำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ดาบพิกัดต้าเต๋า สามารถตัดขาดพลังจากกฎเกณฑ์ธรรมชาติทุกอย่างได้
เสียดายที่ว่า ท่ามกลางมหาสมุทรสีเลือดนั้นกระบี่ยาวสีดำมุ่งไปข้างหน้าได้เพียงแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้น ก็หายสาบสูญไปแล้ว
หรืออาจจะพูดได้ว่าถูกกลืนกินไปหมดแล้ว
น้ำเสียงที่ภาคภูมิใจของดยุกแดร็กคูล่าก็ดังขึ้น หลินชางฉอง อย่าได้เสียแรงเปล่าเลย นี่คือขุมนรกทะเลเลือดของบรรพบุรุษเผ่าโลหิต สามารถกลืนกินพลังทุกอย่างในโลกนี้ได้
นอกเสียจากว่าแกสามารถพังทลายทะเลเลือดทั้งหมดนี้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วแกก็ไม่มีทางที่จะทำลายขุมนรกทะเลเลือดได้เลย
หลินหยุนไม่ได้สนใจเขา แต่กลับหลับตาลง แล้วลืมตาอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นสีเทาข้างหนึ่งสีขาวข้างหนึ่ง
พลังดวงตาทำลายล้าง!
มองออกไปข้างหน้า มหาสมุทรสีเลือดที่อยู่ตรงหน้า ก็มลายหายไปจนหมดสิ้น
ไม่ได้กลายเป็นเส้นไหมสีดำ แต่กลับหายสาบสูญไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เหลืออะไรไว้สักอย่างเลย
แต่ว่า เงาร่างคนสีดำที่เกิดจากการรวมตัวของเส้นไหมสีดำ กลับปกคลุมไปเกือบทั้งวังใต้ดินแล้ว
ทันใดนั้น หลินหยุนก็เข้าใจแล้ว
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
ขุมนรกทะเลเลือดบ้าบออะไรกัน ทุกอย่างก็แค่ของปลอมทั้งนั้น!
เวทมนตร์ของแกล้ำเลิศจริงๆ แม้แต่ฉันก็เกือบถูกหลอกแล้ว
เสียงที่แตกตื่นตกใจของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าก็ดังขึ้น แกถึงกับสามารถดูออกได้!
หลินชางฉอง แกไม่ธรรมดาจริงๆ
แต่ว่า ต่อให้แกจะดูกออก แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? แกก็ยังคงหนีออกมาจากขุมนรกทะเลเลือดของฉันไม่ได้อยู่ดี
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย งั้นเหรอ?
ขุมนรกทะเลเลือดถึงแม้จะเป็นของปลอมก็จริง แต่ว่าพลังของขุมนรกทะเลเลือดกลับเป็นของจริงอย่างแน่นอน
เพราะว่า ขุมนรกทะเลเลือดทั้งหมดก็คือร่างกายของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าที่แปลงร่างขึ้นมาทั้งนั้น
ลำแสงสีแดงพวกนั้น ก็เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา ใช้สำหรับปกปิดซ่อนเร้นร่างอันแท้จริงของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าไว้เท่านั้นเอง
เพียงแต่ว่า ภายใต้พลังดวงตาทำลายล้างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพแท้จริง เงาร่างของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่านั้น ก็ไม่มีที่สำหรับให้ซ่อนตัวได้อีกแล้ว
กลยุทธ์ที่แดร็กคิวล่าใช้นั้น น่าจะเป็นเคล็ดวิชาดูดกลืนพลังชนิดหนึ่ง ดังนั้นขุมนรกทะเลเลือดเป็นของปลอม แต่พลังแรงนั้นกลับเป็นของจริง
แต่ว่า ในเมื่อสามารถเห็นร่างของแดร็กคูล่าปรากฏขึ้น เช่นนั้นแล้วถ้าหลินหยุนจะทำลายขุมนรกทะเลเลือดของเขา ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้นเช่นกัน
หลินหยุนยื่นมือออกไป ดาบเฮ่าเทียนก็ลอยมาอยู่ในมือของเขา
แล้วฟาดลงไปยังศีรษะของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่า
โครม!
ขุมนรกทะเลเลือดจู่ๆก็ปรากฏเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา ขุมนรกทะเลเลือดทั้งหมดก็สั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง
เงาร่างของแดร็กคิวล่า ก็ค่อยๆเกิดการเคลื่อนไหวขึ้น
แต่ว่า ท่าทางเล็กน้อยเช่นนี้เมื่ออยู่ภายใต้พลังดวงตาทำลายล้างนั้น ไม่สามารถปิดปังมิดชิดได้เลย
กระบี่ของหลินหยุนเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าเขาเสียอีก ยังคงตรึงอยู่ที่ศีรษะของเขาเช่นเดิม แล้วฟันลงไปอย่างรวดเร็ว
ฮื่อ!
แดร็กคิวล่าส่งเสียงฮื่อด้วยความโกรธ ภายในขุมนรกทะเลเลือดนั้น ก็ปรากฏมีฝ่ามือสีเลือดสองข้างลอยขึ้นมา แล้วพุ่งไปจะจับตัวหลินหยุนไว้
กลลวงล้อมเว่ยเพื่อช่วยจ้าว!
แดร็กคิวล่าวางแผนใช้วิธีจู่โจม เพื่อบีบให้หลินหยุนป้องกันตัว
เมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่ามือยักษ์ที่สะท้านฟ้าทั้งสองนั้น ถ้าเป็นคนอื่นละก็ จะต้องรีบหยุดการโจมตีก่อน เพื่อจะได้มาป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่
แต่ว่า ภายใต้พลังดวงตาทำลายล้างของหลินหยุนนั้น ฝ่ามือทั้งสองเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
ก็ยังคงเป็นเวทมนตร์เช่นเดิม
หลินหยุนไม่ได้ไปสนใจเลย แต่รอบๆตัวของเขาก็มีฉากปกป้องเพิ่มขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ส่วนดาบนั้นก็ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ลดละเลย
ส่วนฝ่ามือยักษ์สีเลือดทั้งสองนั้น ยังไม่ทันมาถึงตัวหลินหยุนก็หายสาบสูญไปกลางอากาศแล้ว
หลังจากนั้น ขุมนรกทะเลเลือดทั้งหมดก็หายสาบสูญไปเช่นกัน
แกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าที่ยังคงซ่อนตัวอยู่ภายใต้เสื้อคลุมสีดำนั้น และกลับไปยืนอยู่ที่วังใต้ดินเช่นเดิมอีกครั้ง ในมือก็ถือมีดเล็กสีดำด้ามหนึ่ง เพื่อขวางดาบของหลินหยุนที่กำลังจะฟันลงมา
คาร์นอตวิลเลียมราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน ขุมนรกทะเลเลือดหายสาบสูญไปหมดแล้วเหรอ?
แต่ว่าเมื่อเห็นฉากที่อยู่ตรงหน้าแล้ว เขาก็เข้าใจแล้วว่าหลินหยุนจะต้องทำลายขุมนรกทะเลเลือดนั้นอย่างแน่นอน
เมื่อเขาเห็นมีดสั้นสีดำที่อยู่ในมือของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าแล้ว ก็ตกใจพูดขึ้นทันทีว่า
มีดดับเทพ!
นี่เป็นของวิเศษล้ำค่าของบรรพบุรุษเผ่าโลหิต!
ถึงแม้ว่าเผ่าโลหิตไม่ใช่เทพเจ้าประจำทั้งสิบสองก็ตาม แต่ว่าพละกำลังของบรรพบุรุษเผ่าโลหิตก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพเจ้าประจำทั้งสิบสองเลยแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำบรรพบุรุษเผ่าโลหิตเพียงคนเดียวก็สามารถนำเผ่าโลหิตสู้รบกับเทพเจ้าประจำทั้งสิบสองได้อีกด้วย
เช่นนี้แล้วก็จะเห็นว่า พลังอำนาจของเผ่าโลหิตก็ยังเหนือกว่าเทพเจ้าประจำทั้งสิบสองขึ้นไปอีกระดับหนึ่งด้วยซ้ำไป
เช่นนั้นแล้ว พลังแรงของวิเศษล้ำค่าของบรรพบุรุษเผ่าโลหิตนั้น แค่คิดก็น่าจะเข้าใจแล้ว
หลังจากที่หลินหยุนถูกสกัดกั้นกลับไปแล้ว มองดูมีดสั้นในมือของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เอ๊ะ ถึงกับเป็นเครื่องรางทิพย์อย่างหนึ่งเชียว!
เครื่องรางทิพย์ นั่นเป็นของวิเศษที่ยังสูงกว่าเครื่องรางอีกระดับหนึ่ง
แต่ว่า หลินหยุนก็ส่ายหน้า น่าเสียดายที่ว่า เป็นเพียงแค่เครื่องรางทิพย์ระดับต่ำที่ไม่มีชี่ทิพย์เท่านั้นเอง
หลินหยุนยกดาบในมือขึ้นแล้วฟาดลงไปอีกหนึ่งที
ลำแสงประกายสีแดงพร้อมด้วยพลังที่ไม่เคยพลาด ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงข้างกายแดร็กคิวล่าแล้ว
ดาบทะลุสวรรค์ก็ถูกนำมาใช้อีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าคราวนี้หลินหยุนใช้พลังทิพย์ทั้งหมดออกมาด้วย
การใช้กระบวนท่าดาบทะลุสวรรค์ครั้งแรกนั้น แทนที่จะพูดว่าถูกขุมนรกทะเลเลือดสกัดกั้นไว้ได้ สู้พูดว่าขบวนท่านั้นยังไม่ทันฝันถูกตัวแดร็กคิวล่าเลยจะดีกว่า
ตอนนี้ แดร็กคิวล่าจำเป็นจะต้องเผชิญกับการต้านรับดาบทะลุสวรรค์ของหลินหยุนโดยตรงแล้ว
มองดูกระบวนท่าดาบนี้แล้ว สีหน้าของแดร็กคิวล่าเคร่งขรึมมาก
เขาชูมีดสั้นสีดำในมือขึ้น คำรามเสียงดังว่า ดับเทพ!
มีดสั้นสีดำส่องประกายแสงสีดำที่เข้มข้นออกมา ชั่วพริบตาเดียวก็ขยายใหญ่ขึ้นถึงสิบเท่าแล้ว
จากนั้นก็แปลงร่างเป็นมังกรดุร้ายสีดำตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาดาบของหลินหยุนนั้น
มังกรดำอ้าปากกว้าง คล้ายกับจะกลืนกินดาบของหลินหยุนนั้นเข้าไป
มุกเท่าเม็ดข้าวสาร ก็ยังอุตส่าห์ส่องประกายอีก
หลินหยุนหัวเราะเยาะด้วยรอยยิ้มที่เหยียดหยาม
ประกายแสงดาบทะลุสวรรค์นั้น ก็ฟันร่างของมังกรดำขาดออกเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น ประกายแสงดาบนั้นก็ยังไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปเลย กระแทกลงไปบนหน้าอกของดยุกอย่างแรง
พัฟ!
ร่างครึ่งท่อนของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าก็ถูกดาบนั้นฟันตกลงมา
อีกทั้งประกายลำแสงดาบที่เหลือนั้น ก็ยังชนไปยังรูปปั้นพลูโตที่อยู่ข้างหลังแดร็กคิวล่าอีกด้วย
เสียงดังโป้งสนั่นหวั่นไหว รูปปั้นพลูโตก็แตกละเอียดกลายเป็นเศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว ชั่วพริบตาเดียวรูปปั้นก็ไม่เหลือรูปทรงเดิมให้เห็นอีกแล้ว
จากนั้นเจดีย์หินเก่าแก่ทรงแปดเหลี่ยมที่ผุพังหลังหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้า
ทุกมุมของเจดีย์หินนั้น ต่างก็เคลือบด้วยแผ่นหินใหญ่โตที่ใสสะอาดอยู่ด้วย
นั้นไม่ใช่หินธรรมดา แต่เป็นหินทิพย์ หินทิพย์ที่ใหญ่โตมหึมานั้น ยังมีขนาดที่ใหญ่กว่าหินทิพย์ที่ได้มาจากสนามล่าเจ็ดเผ่านั้นเลย