จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1080 นิ่งโหย่วหรงถูกลักพาตัว
หงซานเหอเดินมาถึงตรงหน้าผู้คนที่กำลังถกเถียงกันอยู่นั้น พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า หยุดเถียงกันได้แล้ว!
เสียงของหงซานเหอดังมาก และทรงพลังเหลือล้น
เรือนอทิลัสถูกถล่มจมไปแล้ว คนพวกนั้นก็หนีตายกันไปหมด เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
……
สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบสงัด!
ทุกคนต่างมองไปที่หงซานเหอ พูดอะไรไม่ออกไปครึ่งค่อนวัน
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง คนของฝ่ายหวางจิงหลงจึงได้พูดเยาะเย้ยเสียงดังขึ้นว่า ท่านหง คุณกำลังพูดเพ้อเจ้ออยู่หรือเปล่า?
แค่เวลาสั้นๆไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง คุณถึงกับบอกว่าเรือนอทิลัสถูกยิงถล่มจมไปแล้ว!
แต่ว่าคนที่พอมีความรู้อยู่บ้างก็ต้องรู้ว่า คิดจะถล่มเรือนอทิลัสให้จมทะเลนั้น เป็นเรื่องที่ยากขนาดไหน!
มาพูดเรื่องโกหกในสถานการณ์เช่นนี้ คุณคิดว่ามีคนเชื่อเหรอ?
คนที่เหลือพวกนั้นต่างก็มีสีหน้าเย้ยหยัน ไม่ได้เชื่อคำพูดของหงซานเหอเลยแม้แต่นิดเดียว
เจ้าบ้านจ้าวก็พูดเยาะเย้ยด้วยเสียงเบาๆว่า ท่านหงคงไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงแล้วสิ ถึงกับต้องพูดเรื่องโกหกแบบนี้ออกมา ฮ่าๆๆ!
เจ้าบ้านจางหัวเราะแล้วพูดว่า เขาก็ไม่คิดซะบ้างว่า พูดโกหกในสถานการณ์เช่นนี้ จะมีคนเชื่อเหรอ?
ถึงแม้หวางจิงหลงก็รู้สึกว่าคำพูดของหงซานเหอไม่น่าเชื่อถือนัก แต่ว่าเท่าที่เขาเคยรู้จักกับหงซานเหอมานั้น เขาจะต้องไม่พูดอะไรที่ไม่น่าเชื่อถือในสถานการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอน
หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นจริง?
แต่นี่ก็เป็นไปไม่ได้เลย!
หงซานเหอมองดูพวกนักวิจารณ์ที่โง่เขลาคนนั้น แล้วยิ้มอย่างเย็นชา คำพูดของฉันคุณไม่เชื่อ งั้นพวกเราก็ใช้ความจริงมาพิสูจน์คำพูดก็แล้วกัน
หงซานเหอก็สั่งการทางโทรศัพท์ว่า ให้เครื่องบินลาดตระเวนถ่ายทอดสถานการณ์ในเขตพื้นที่ทะเลทางใต้ให้ด้วย!
หงซานเหอก็รออยู่ที่ในห้องประชุม จากนั้นก็เริ่มถ่ายทอดสดสถานการณ์ในเขตพื้นที่ทะเลทางใต้
จากการดูภาพที่ถ่ายจากกล้องของเครื่องบินลาดตระเวนแล้วสามารถเห็นได้ชัดเจนว่า ในเขตพื้นที่ทะเลทางใต้ทั้งหมดไม่มีเรือรบเหลืออยู่เลยแม้แต่ลำเดียว มีแต่เศษซากเรือรบบางส่วนที่ยังไม่ทันจมลงสู่ทะเลเท่านั้นเอง
เจ้าบ้านจางมองดูจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจแล้วพูดว่า ถึงกับเป็นเรื่องจริงซะด้วย!
เรือนอทิลัสไม่มีแล้ว!
เจ้าบ้านจ้าวพวกนั้นก็พูดด้วยสีหน้าตื่นตกใจว่า นี่เป็นไปได้ยังไง!
เศษของพวกที่ลอยอยู่บนผิวทะเลนั้น ดูเหมือนจะเป็นธงสัญลักษณ์ของเรือนอทิลัส!
นี่เป็นฝีมือของใครกันแน่?
ใครที่มีความสามารถถล่มกองทัพเรือนอทิลัสให้จมลงไปได้ภายในไม่กี่นาทีเช่นนี้!
หวางจิงหลงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า นอกจากเขาแล้วยังจะมีใครได้อีก
เห็นทีว่าไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้าเด็กนั่นปิดประตูเงียบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวหรอก แต่เป็นการเตรียมตัวหาวิธีจัดการกับเจ้าเรือนอทิลัสมากกว่า
พวกเราต่างก็คิดผิดไปแล้ว
เจ้าบ้านทั้งสี่ตระกูลใหญ่ต่างมองหน้ากันและกัน ผ่านไปสักพักใหญ่ก็ยังพูดอะไรไม่ออกเลย
นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ต่อให้เขาใช้เวลาเตรียมตัวสามวันก็ตาม เขาใช้พลังแรงอะไรกันแน่ในการถล่มเรือนอทิลัสให้จมลงไปภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น?
บนใบหน้าของเจ้าบ้านทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าที่เหลือเชื่อออกมา
วิธีการของหลินหยุนทำให้ผู้คนแตกตื่นตกใจมากเกินไปจริงๆ อีกอย่างพลังแรงที่เขาใช้นั้นก็ไม่ใช่ธรรมดาทั่วไปจริงๆด้วย
พลังแรงจากการใช้ยันต์ซ่อนกระบี่เทียบเท่ากับพลังแรงที่แท้จริงของผู้บำเพ็ญเซียนทีเดียว มิหนำซ้ำยังมีกฎเกณฑ์ต้าเต๋าอยู่ภายในอีกด้วย
ลูกน้องของสี่ตระกูลใหญ่พวกนั้น ไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง ต่อให้ตอนนี้หงซานเหอสั่งให้เครื่องบินลาดตระเวนถ่ายทอดสดเหตุการณ์ปัจจุบันมาให้ดูก็ตาม พวกเขายังคงไม่เชื่อเช่นเดิม
นี่เป็นการสวนทางกับความรู้ของพวกเขามากเกินไปจริงๆ
ของปลอม ของปลอม! ท่านหง คุณไปเอาเทปพวกนี้มาจากไหนกัน แต่ก็เหมือนของจริงซะด้วย! มีคนหนึ่งพูดเยาะเย้ย
หงซานเหอทำเสียงฮื่อใส่ แล้วพูดโทรศัพท์กลับไปให้ผู้ควบคุมว่า ถ่ายต่ำลงหน่อย ซูมเข้าไปใกล้ แล้วถ่ายธงสัญลักษณ์เรือนอทิลัสที่ลอยอยู่บนผิวทะเลนั้นด้วย!
บนจอภาพนั้น กล้องจากเครื่องบินลาดตระเวนก็รีบก้มต่ำลงทันที แล้วถ่ายภาพธงสัญลักษณ์เรือนอทิลัสให้ทุกคนได้เห็น
มีคนตะโกนพูดด้วยความตกใจว่า เป็นธงสัญลักษณ์ของเรือนอทิลัสจริงด้วย หรือว่าที่ท่านหงพูดจะเป็นจริง!
แต่ว่า เป็นพลังแรงอะไรกันแน่ถึงกับถล่มเรือนอทิลัสให้จมลงไปได้? นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
หงซานเหอกวาดสายตาไปยังผู้คน แล้วพูดเสียงดังว่า ตอนนี้ยังมีใครสงสัยคำพูดของฉันอีกหรือไม่?
ภายในห้องโถงใหญ่ไม่มีใครพูดอะไร
มองดูว่าไม่มีใครโต้เถียงอะไรอีกแล้ว หงซานเหอจึงออกคำสั่งทางโทรศัพท์ว่า เครื่องบินลาดตระเวนกลับได้!
กล้องค่อยๆห่างจากผิวทะเลออกไป เครื่องบินลาดตระเวนเริ่มถอยกลับแล้ว
หงซานเหอมองดูทุกคน แล้วพูดว่า พวกคุณอยากจะรู้ใช่ไหมว่า ใครที่มีพลังแรงขนาดนี้ที่สามารถถล่มเรือนอทิลัสให้จมลงไปภายในเวลาไม่กี่นาทีได้?
พอพูดคำพูดนี้ออกไป สายตาทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่มองไปยังหงซานเหอ
แม้แต่พวกหวางจิงหลงเจ้าบ้านสี่ตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างก็มองไปยังหงซานเหอทั้งนั้น
หงซานเหอจู่ๆก็พูดด้วยเสียงสูงดังฟังชัดขึ้นว่า คนคนนี้ก็คือหลินชางฉองที่พวกคุณอยากจะมอบให้กับอเมริกาไง!
ลำพังเขาเพียงคนเดียว ก็สามารถต่อต้านกองทัพเรือรบของอเมริกาได้แล้ว!
ทุกคนในที่นั้นต่างก็ช็อกกันไปหมด!
ในเวลานี้ ไม่มีใครสักคนที่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
คนเดียว สามารถต่อกลอนกับกองทัพเรือรบได้ทั้งหมด!
คนอย่างนี้ ก็จะต้องเป็นบุคคลล้ำค่าระดับประเทศอย่างแน่นอน เมื่อครู่นี้พวกเขาถึงกับโวยวายจะให้ส่งคนเช่นนี้ไปมอบให้กับศัตรูอีกด้วย
ความผิดเช่นนี้เทียบเท่ากับกบฏทรราชของแผ่นดินเลยทีเดียว!
หงซานเหอพูดด้วยเสียงเยาะเย้ยอีกครั้งว่า ตอนนี้ พวกคุณรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมคนพวกนั้นถึงต้องเจาะจงให้มอบหลินชางฉองออกมา?
เพราะว่าพวกเขากลัว พวกเขาเห็นภัยคุกคามที่แฝงอยู่ในตัวของหลินชางฉองแล้ว ดังนั้นต่อให้พวกเขาจะหน้าหนาหน้าทนยังไง ก็จะต้องทำลายเทพแห่งสงครามคนใหม่ของประเทศจีนเราให้ได้!
ส่วนพวกคุณก็เกือบจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับศัตรูแล้ว!
คำพูดเหล่านี้ทำให้คนในพรรคฝ่ายสี่ตระกูลใหญ่พวกนั้น หน้าแดงหูแดงกันไปหมด พูดอะไรไม่ออก
ถูกต้อง พวกเขาเกือบจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปแล้ว พลังความสามารถอันน่าทึ่งของหลินชางฉองเช่นนี้ ลำพังคนเดียวก็สามารถสู้กับทั้งประเทศได้แล้ว!
คนเช่นนี้ พลังแรงยังแข็งแกร่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์เสียอีก นี่คือคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่เคลื่อนที่ได้!
ตอนนี้ยังมีใครคิดอยากจะส่งมอบหลินชางฉองออกไปอีกไหม! หงซานเหอทิ้งคำพูดเด็ดเดี่ยวไว้เป็นครั้งสุดท้าย
คำพูดนี้ก็เหมือนฝ่ามือที่ตบลงบนหน้าคนพวกนั้นอย่างแรง จนทำให้คนพวกนี้หน้าแตกยับเยินไปหมด
พวกเขายังจะกล้าพูดอะไรออกมาอีก ถ้าหากในเวลานี้ยังมีคนที่ไม่รู้จักกาลเทศะ งั้นก็เท่ากับเป็นกบฏทรราชแผ่นดินแล้ว
เจ้าบ้านทั้งสี่ตระกูลใหญ่ต่างก็มีสีหน้าบึ้งตึง ทั้งรู้สึกช็อกและโกรธแค้น
รู้สึกช็อกที่พลังความสามารถของหลินหยุนถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้แล้ว
โกรธแค้นที่ว่าคำพูดของหงซานเหอพวกนี้เท่ากับเป็นการตบหน้าพวกเขาต่อหน้าธารกำนัล พวกเขาดูเหมือนคนบาปที่เป็นกบฏทรราชของแผ่นดินไปแล้ว
สุดท้ายแล้วประธานาธิบดีจีนก็เป็นคนที่ลุกขึ้นมาสรุปผลทุกอย่าง
พอกันเถอะ ในเมื่อคนของอเมริกาก็ถอยกลับไปหมดแล้ว งั้นเรื่องนี้ก็สิ้นสุดเพียงแค่นี้ก็แล้วกัน!
ถ้าไม่มีเรื่องอื่นอีกละก็ งั้นก็เลิกประชุมได้!
นับจากวันนี้เป็นต้นไป หลินหยุนก็คือเทพแห่งสงครามคนใหม่ของประเทศจีนเรา!
……
ในขณะที่หลินหยุนมุ้งหน้าไปยังเขตพื้นที่ทะเลทางใต้นั้น พวกสายลับจำนวนหนึ่งที่คอยสอดแนมอยู่ในชางฉองกรุ๊ปมาเป็นเวลานานแล้ว ก็รีบส่งข่าวไปรายงานคนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาทันที
หลอหยวนป้าเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักชิงชางพาคนมาด้วยตัวเอง เมื่อมาถึงชางฉองกรุ๊ปแล้วก็ชิงตัวนิ่งโหย่วหรงไป
ถึงแม้ว่าซูจื่อเหลียงได้ทำร้ายผู้อาวุโสของสำนักชิงชางสองคนจนได้รับบาดเจ็บ แล้วสามารถคุ้มกันหวางซูเฟินไว้ได้ก็ตาม แต่กลับช่วยนิ่งโหย่วหรงไว้ไม่ได้
หลินหยุนเพิ่งจะมาถึงเขตพื้นที่ทะเลทางใต้ ก็ได้รับโทรศัพท์ของหวางซูเฟินแล้ว เมื่อรู้ว่ามีคนถึงกับกล้ามาชิงตัวคนในชางฉองกรุ๊ปแล้ว ในใจหลินหยุนก็เกิดจิตสังหารขึ้นอย่างท่วมท้น
ดังนั้น เขาก็รีบจัดการกับเรือนอทิลัส แล้วไม่ยอมหยุดยั้งใดๆเลย รีบกลับมาที่ชางฉองกรุ๊ปทันที
ถ้าหากไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ละก็ ความจริงแล้วเรือรบลาดตระเวนที่เหลือพวกนั้นก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้เลย
หลังจากที่หลินหยุนกลับมาถึงชางฉองกรุ๊ปแล้ว นอกจากมีพนักงานบางคนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยทั่วไปก็ไม่มีอะไรเสียหาย
เพียงแต่ว่านิ่งโหย่วหรงถูกจับตัวไปแล้ว
ซูจื่อเหลียงสีหน้าละอายใจ โค้งตัวลงแล้วพูดว่า อาจารย์ครับ ลูกศิษย์ไร้ความสามารถขอให้ท่านลงโทษด้วย!
หวางซูเฟินพูดว่า นี่จะไปโทษคุณซูไม่ได้หรอก คนพวกนั้นพอมาถึงก็จู่โจมเข้าหาฉันอย่างบ้าคลั่ง คุณซูก็ปกป้องฉันอยู่ข้างกายตลอดเวลา คิดไม่ถึงว่านี่เป็นแผนล่อเหยื่อของพวกเขา เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาก็คือนิ่งโหย่วหรงนั่นเอง!