จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1086 ฉันไร้ศัตรูในโลก
บูม!
ทุกครั้งที่หลินหยุนโจมตีออกไป ก็ทำให้นักบู๊ที่กำลังโจมตีเข้ามาพวกนั้นต้องกระเด็นออกไปเป็นจำนวนมาก
แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ได้ใช้ดาบเฮ่าเทียน ในการโจมตี แต่แรงต้านที่กระแทกออกไปเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ปรมาจารยนักบู๊หลายคนต้องบาดเจ็บไปไม่เบา
การโจมตีของนักบู๊ระดับปรมาจารย์พวกนั้น สำหรับหลินหยุนแล้วเกรงว่าแค่ทำให้เขารู้สึกคันๆเท่านั้นเอง
มีเพียงการโจมตีของนักบู๊ในระดับแดนเทพเท่านั้นที่ทำให้หลินหยุนตั้งรับขึ้นมาอย่างจริงจัง
นักบู๊เกือบร้อยคนโจมตีหลินหยุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่หลินหยุนยังคงยืนอยู่กับที่และไม่เคยขยับแม้แค่คืบตั้งแต่ต้นจนจบ
นิ่งโหย่วหรงได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาจากเขา มั่นคงราวกับภูเขาไท่ซาน
อู๋ยิวหมิงตื่นตกใจ พลังแบบนี้หากมองหาในโลกบู๊โบราณ เกรงว่าก็มีเพียงแต่คนเดียวเท่านั้นที่มีพลังนี้
คนผู้นั้นก็คือประมุขผู้ลึกลับของและทรงพลังที่สุดของเขาคุนชางของเขา
แม้แต่ประมุขของอีกสามค่ายใหญ่ที่เหลือก็ไม่สามารถทำได้ดั่งหลินหยุน
หลังจากการโจมตีผ่านไประลอกหนึ่ง หลินหยุนไม่ได้รับอันตรายอะไรแม้แต่น้อย อีกทั้งกลับเป็นนักบู่หลายสิยคนที่ได้รับบาดเจ็บและหลายคนก็สูญเสียประสิทธิภาพการต่อสู้โดยตรง
ผู้อาวุโสอู๋พวกเราที่โจมตีราวกับทุบเข้าผืนทรายแบบนี้ ไม่มีทางทำอะไรเจ้าหนุ่มนั่นได้เลย ค่ายกลปากว้าหุนหยวนของเขาคุนชางของพวกคุณ เมื่อไหร่จะสำเร็จ? เหล่าผู้อาวุโสของอีกสามค่ายใหญ่มองมาที่อู๋ยิวหมิงพร้อมกัน
ใบหน้าของอู๋ยิวหมิงเคร่งเครียด ค่ายกลปากว้าหุนหยวน เป็นไพ่ใบสุดท้ายของเขา หากแม้กระทั่งค่ายกลปากว้าหุนหยวนก็ไม่สามารถฆ่า หลินหยุนได้ อย่างนั้นการกระทำในครั้งนี้ก็จะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
อีกทั้งยังถือว่าเขาได้เผยไพ่ลับอย่างค่ายกลปากว้าหุนหยวนออกไป
ในสถานการณ์นี้ เราได้แต่ต้องใช้ค่ายกลปากว้าหุนหยวนแล้ว หากเรายังเปิดการโจมตีหลายระลอก ผู้คนจะได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ทำให้เราเสียกำลังไปเปล่าๆ
อู๋ยิวหมิงตัดสินใจแล้วตะโกนทันทีว่า คนของเขาคุนชางจงกลับมาให้หมด เตรียมพร้อมรับคำสั่งในการวางค่ายกล!
ในชั่วขณะหนึ่ง ผู้อาวุโสหลายคนและลูกศิษย์มากกว่าสิบต่างพากันถอยกลับไปหาอู๋ยิวหมิง
วางค่ายกล!
ค่ายกลปากว้าหุนหยวนนั้นลูกศิษย์ของเขาคุนชางล้วนคุ้นเคยกับมันดีอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าคนของสามค่ายใหญ่ที่เหลือจะไม่เข้าใจ แต่ภายใต้คำสั่งของพวกเขา ทั้งหมดก็ยืนหยัดกันอย่างรวดเร็ว
กล่าวกันว่าหุนหยวนนั้นเกิดมาจากธรรมชาติและต่อมาเกิดเป็นธาตุทั้งแปด
หุนหยวนถูกล้อมด้วยปากว้า ซึ่งทำให้ค่ายกลยิ่งทรงพลังมากขึ้น
ผู้คนถูกแบ่งออกไปยืนตามตำแหน่งของปากว้า แต่ละทิศทางนำโดยลูกศิษย์ของเขาคุนชาง ขณะที่อู๋ยิวหมิงนำผู้คนที่เหลือยืนอยู่ตรงกลางค่ายกลเพื่อสั่งการ
และทิศทางของประตูตายในค่ายกลก็อยู่ที่หลินหยุนพอดี
จู่โจม!
อู๋ยิวหมิงชี้ไปที่หลินหยุนและคำรามลั่น
ทันใดนั้น ผู้คนทั้งแปดทิศก็เคลื่อนตัวพร้อมกัน
ค่ายกลอาศัยพลังของกฎเกณฑ์ต้าเต๋า หน่วงนำพลังของทุกคนมารวมเข้าด้วยกัน ถึงแม้พลังของพวกเขาจะเล็กน้อยอย่างยิ่งต่อหน้าหลินหยุน แต่เมื่อพลังของคนจำนวนมากรวมตัวกันมันก็ค่อนข้างมหาศาลเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่โจมตีพร้อมกัน มีเพียงประตูตายเท่านั้นที่โจมตีหลินหยุน
คนอื่นทำเพียงแค่ส่งพลังของพวกเขาผ่านค่ายกลไปให้กับนักบู๊ในตำแหน่งประตูตาย
มีคนสิบสองคนที่ควบคุมประตูตายอยู่ ในนั้นมีผู้อาวุโสระดับแดนเทพสี่คน และอีกแปดคนเป็นปรมาจารย์นักบู๊ขั้นสูงสุด
หนึ่งในสี่ผู้อาวุโสมีความแข็งแกร่งเป็นแดนเทพระดับสูง
พลังเหล่านี้ สำหรับพลังวิชาในปัจจุบันของหลินหยุนแล้วแทบจะไม่มีอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ผ่านการสนับสนุนของค่ายกลปากว้าหุนหยวน พลังที่พวกเขาเรียกใช้นั้นไม่ใช่พลังของพวกเขาอีกต่อไป แต่เป็นพลังที่ส่งมาจากผู้คนมากมายรวมกัน
คนทั้งสิบสองคนจากประตูตาย เข้าโจมตีหลินหยุน
แต่ละคนล้วนทุ่มสุดตัวในการโจมตี
การโจมตีเหล่านั้นที่มีพลังส่งเพิ่มขึ้น จนมีพลังอำนาจถึงขั้นน่าหวาดกลัว
พลังของการโจมตีร่วมกันของคนทั้งสิบสองคนนี้ มีพลังเสียยิ่งกว่าผู้แข็งแกร่งในแดนเทพขั้นสูงสุดไปแล้ว
เกรงว่าแทบจะอยู่ไม่ไกลจากการโจมตีของผู้แข็งแกร่งในแดนยาทองแล้ว
ใบหน้าของหลินหยุนเริ่มจริงจังขึ้น การโจมตีในขณะนี้สามารถทำร้ายเขาได้
ท่าสยบเขา!
หมัดที่แฝงด้วยพลังทิพย์สิบส่วนพุ่งเข้าโจมตีไปยังประตูตาย
บูม!
ราวกับระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง
สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน
คราวนี้ หลินหยุนถูกกระแทกจนกระเด็นกลับไป
อย่างไรก็ตาม คนทั้งหมดในค่ายกลเองก็รู้สึกไม่ดีนัก แม้แต่อู๋ยิวหมิงก็อดแค่นเสียงออกมาด้วยความอึดอัดและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากแรงกระแทกกลับ
อย่างไรก็ตาม ค่ายกลได้ช่วยสร้างสมดุลของความเสียหายและทุกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
การโจมตีเพียงครั้งเดียวกลับทำให้ทั้งคนทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ หลินชางฉองน่ากลัวจริงๆ!
โชคดีที่ค่ายกลนี้ยังพอสยบเขาได้ หากให้เวลาเขาเติบโตอีกสองปี เกรงว่าแม้กระทั่งหุนหยวนปากว้าก็จะถูกเขาทำลาย!
อู๋ยิวหมิงตะโกนใส่ฝูงชน โจมตี อย่าให้โอกาสเขาได้หายใจ!
ผู้คนทั้งหมดส่งพลังไปยังตำแหน่งประตูตายอีกครั้ง
หลังจากการรวบรวมพลังไม่นาน การโจมตีอีกระลอกหนึ่งก็เกิดขึ้น
หลินหยุนยืนต่อหน้านิ่งโหย่วหรงอีกครั้งและใบหน้าของเขาดูจริงจังอยู่บ้าง
คิดว่าฉันกลัวพวกนายจริงๆหรือไง!
พูดจบ หลินหยุนก็อุ้มนิ่งโหย่วหรงขึ้นมา จากนั้นกลิ่นอายที่เยียบเย็นก็แผ่ซ่านออกไป
ผมของหลินหยุนเปลี่ยนเป็นสีขาวในทันใด เขายืดตัวขึ้นตรงและเดินขึ้นไปในความว่างเปล่าทีละขั้น
อิทธิฤทธิ์ขึ้นนภาอันยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
นับตั้งแต่ความแข็งแกร่งของหลินหยุนเพิ่มขึ้น อิทธิฤทธิ์ขึ้นนภาที่ต้องใช้พลังมากขนาดนี้ เขาไม่ได้ใช้พลังของมันมานานแล้ว
แต่คราวนี้ เพื่อทำลายค่ายกล มีแต่ต้องใช้พลังนี้เท่านั้น
ข้ามีหนึ่งกระบี่ที่ทลายนภาได้!
ดาบเฮ่าเทียนตกมาสู่มือของหลินหยุน พลังของดาบที่ได้รับพรจากอิทธิฤทธิ์ขึ้นนภา เกิดเป็นพลังที่น่ากลัวสุดขีด
แสงของดาบดูราวกับได้ตัดทะลุอากาศ เมื่อดาบปรากฏขึ้น โลกทั้งใบก็สั่นสะเทือน
พุ่งหน้าเข้าไป! อู๋ยิวหมิงตกใจ พลังของดาบเล่มนี้ช่างล้นหลามปกคลุมทั่วฟ้าดิน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่กำลังของคนจะสามารถต้านทานได้!
ความแข็งแกร่งของหลินชางฉอง อยู่ในขอบเขตใดกันแน่!
ผู้คนอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ ในการรับรู้ของนักบู๊เหล่านี้ นักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่แค่ในแดนเทพขั้นสูงสุดเท่านั้น ไม่มีใครเคยเห็นผู้ที่อยู่เหนือกว่านั้นมาก่อน
มีเพียงหนังสือและบันทึกโบราณไม่กี่เล่ม ที่บอกว่าขอบเขตที่อยู่เหนือแดนเทพนั้นมีชื่อว่าแดนรวมยา
อาศัยการรวบรวมพลังปราณสวรรค์ ก่อเกิดเป็นยาสมหวังหุนหยวน
และสิ่งที่ที่นักบู๊เรียกว่าแดนรวมยา อันที่จริงก็คือสิ่งที่ผู้บำเพ็ญเซียนเรียกว่าแดนยาทอง
ณ จุดนี้ พลังของนักบู๊ก็จะเทียบเท่าได้กับระดับของผู้บำเพ็ญเซียน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นแดนยาทองเช่นกัน แต่กลัวมีความแข็งแกร่งแตกต่างกัน
จากด้านวิชา ระดับของแดนยาทองสามารถส่งผลต่อความแข็งแกร่งที่เฉพาะเจาะจงได้
สิบสองคนในตำแหน่งประตูตาย มุ่งรับพลังดาบของหลินหยุนและเดินหน้าฝืนเข้าโจมตีในเวลาเดียวกัน
พลังของพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากค่ายกลและยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก หากมองหาในโลกบู๊โบราณ นอกจากประมุขเขาคุนชางแล้ว ไม่มีใครสามารถทนรับมันได้
อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าดาบของหลินหยุน พวกเขายังไม่มีความมั่นใจ
การโจมตีทั้งสองฝ่ายในที่สุดก็ปะทะกัน
ราวกับดาวหางพุ่งชนโลก คลื่นกระแทกอันรุนแรงได้ปะทุขึ้นมาทันที
อากาศโดยรอบรัศมีหลายกิโลเมตรล้วนถูกพลังสองสายกระแทกจนเกิดเป็นคลื่นพลังขึ้นมา
สถานที่ที่พลังทั้งสองสายปะทะ แทบจะกลายเป็นความว่างเปล่า
ต้นไม้ทุกต้นที่อยู่รอบรัศมีพันเมตรนั้น ล้วนถูกทำลายด้วยคลื่นพลังที่กระแทกออกมา
นิ่งโหย่วหรงรู้สึกหายใจลำบากอยู่บ้าง
หลินหยุนผู้มีผมสีขาวถึงเอว กำลังโอบนิ่งโหย่วหรงเอาไว้ท่ามกลางความว่างเปล่า ดุจดั่งเทพและมาร
ส่วนค่ายกลปากว้าหุนหยวนที่อยู่ด้านล่างก็ได้กระจัดกระจายไปแล้ว
คนมากกว่าครึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 12 คนที่อยู่ในประตูตายก็ตายลงอย่างน่าอนาถทันที
ค่ายกลถูกทำลายแล้ว