จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1186 เอาชนะด้วยนิ้วเดียว
หลานเหอ โด่งดังมีชื่อเสียงมานานแล้ว
สำหรับวิชาการบำเพ็ญฝึกฝนของเขานั้น ไม่ต้องพูดถึงทุกคนต่างก็รับรู้กันเป็นอย่างดี
ส่วนพวกคนของตระกูลใหญ่ ไม่มีทางที่จะไม่รู้อย่างแน่นอน
หลายปีมานี้ เหตุผลที่หลานเหอยังกลั่นยาทองไม่สำเร็จ ไม่สามารถกลายเป็นยอดฝีมือแดนยาทองที่แท้จริงได้ก็เพราะว่า
ข้อแรก เพราะว่าเขาคือผู้ฝึกอิสระ ไม่มีสำนักให้การสนับสนุน
ในแต่ละขั้น ล้วนต้องพึ่งพาตนเอง ดังนั้นทรัพยากรของเขาจึงไม่เพียงพอ!
ข้อสอง เพราะว่า เขาไม่ต้องการกลั่นยาทองคุณภาพต่ำแบบนั้น
เขาหยิ่งผยองในตัวเอง เขามองว่าตนเองสูงส่ง!
ต่อให้เป็นการกลั่นยาทอง สำหรับเขาแล้ว คิดว่าขั้นต่ำจะต้องกลั่นให้ได้สีเหลือง
ถ้าหากไม่ได้แม้แต่สีเหลือง อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลั่นยาทองแล้ว!
เขาเพียบพร้อมด้วยความเด็ดเดี่ยวและมั่นใจที่จะกลายเป็นยอดฝีมือให้ได้!
ดังนั้นหลายปีมานี้เขาจึงได้แต่รอคอยมาโดยตลอด!
เมื่อหลินหยุนหยุดระงับรอยประทับเลือด เขาก็เหมือนกับยอดฝีมือคนอื่น ที่พบเห็นได้ในทันที
เมื่อเขาเห็นว่าหลินหยุนเป็นเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบต้น ๆ เขาเองก็ตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก
แต่จากนั้น เขาก็เกิดความตื่นเต้นขึ้นมาโดยพลัน
เขาไม่เชื่อว่า หลินหยุนที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบปีต้น ๆ นั้น จะมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งถึงขนาดที่สามารถสังหารผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักสุริยันได้!
ยังไม่เพียงแต่สังหารผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักสุริยัน แต่ในขณะที่ทำการสังหารนั้นเขากำลังเผชิญหน้ากับทูตวิญญาณที่หนึ่งของวิหารผนึกวิญญาณ รวมถึงฝูเหลย ยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระด้วย!
จะเป็นแบบนี้ไปได้เหรอ?
ไม่สามารถเป็นไปได้อย่างเด็ดขาด!
เผชิญหน้ากับยอดฝีมือทั้งสามคนที่เก่งกาจขนาดนั้น จะต้องมีวิชาบำเพ็ญระดับไหนถึงจะสามารถต่อกรรับมือได้ ซึ่งทำให้ตกใจวิ่งหนีไปสองคน และสังหารทิ้งไปหนึ่งคน?
แดนยาทองระดับห้าขึ้นไปเหรอ?
อย่ามาพูดล้อเล่นกันเลย!
คนที่มีความรู้เพียงเล็กน้อย ก็คงจะไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด!
นอกจากว่าโลกใบนี้กลับตาลปัตรไปแล้ว!
เขารู้ว่า ที่ไม่มีคนกล้าจะลงมือ ก็เพราะไม่แน่ใจ
แต่ไม่ใช่เขา เขาแน่ใจว่าเรื่องที่ร่ำลือกันนั้นไม่เป็นความจริง ดังนั้นเขาจึงปรากฏตัวขึ้น!
หลานเหอลอยตัวลงมา หรี่ตาลงแล้วมองไปที่หลินหยุน พร้อมกับแสดงรอยยิ้มมุมปากที่ยั่วยวน
คือนายเองเหรอ!
ที่เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักสุริยัน ทูตวิญญาณที่หนึ่งของวิหารผนึกวิญญาณ รวมถึงผู้ฝึกอิสระฝูเหลย โดยที่ตกใจจนต้องหลบหนีไปสองคน และถูกสังหารไปหนึ่งคน?
หลินหยุนพูดขึ้นว่า น่าจะเป็นฉัน!
หลานเหอได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะฮ่าฮ่าทันที ถ้าเป็นอย่างนี้ นายก็คือยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้าขึ้นไปล่ะสิ?
หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า ไม่น่าจะใช่!
หลานเหอหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง นายไม่ใช่ยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้าขึ้นไป อย่างนั้นก็น่าแปลกใจแล้ว นายเผชิญหน้ากับยอดฝีมือแดนยาทองระดับสี่สามคนได้อย่างไร จนทำให้ตกใจจนต้องหลบหนีไปสองคน และยังสามารถสังหารได้หนึ่งคนด้วย?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเฒ่ายันต์ฝูเหลย!
เขาเป็นถึงยอดฝืมือดินแดนอีสานที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานแล้ว!
ต่อให้ไม่ได้เข้าสู่แดนยาทองระดับห้าก็ตาม!
ที่จริงแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือยาทองระดับห้าตัวจริง เขาก็ยังมีพลังที่จะต่อสู้ได้!
นี่คือเรื่องราวที่ทุกคนต่างก็รับทราบกันดี!
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ตัวฉัน เกรงว่าทุกคนต่างก็กำลังขบคิดกันว่า นายทำมันได้อย่างไรกัน?
ได้ยินดังนั้น หลินหยุนก็ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาและเหยียดหยาม
พร้อมกับพูดขึ้นว่า วิธีการของหลินชางฉอง ไม่ใช่ว่าพวกมดแมลงอย่างนายจะสามารถเข้าใจได้หรอก!
หากนายต้องการจะต่อสู้ ก็ลงมือได้เลย!
ฉันจะทำให้นายได้รู้ว่า มดแมลงที่อยู่ใต้ดิน กับเทพมังกรที่โลดแล่นอยู่บนสรวงสวรรค์นั้น มีความแตกต่างกันขนาดไหน!
หลานเหอได้ยินดังนั้นถึงกับโมโหขึ้นทันที ไอ้หนุ่ม นายโอ้อวดมากไปแล้ว!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ปล่อยให้ฉันมาเป็นผู้เปิดโปงกลลวงของนายเอง!
ไอ้หนุ่ม จำไว้นะว่า ผู้ที่สังหารนายในวันนี้คือ หลานเหอ!
ขณะที่พูด หลานเหอก็ชกหมัดเข้าใส่ในทันที
พลังหมัดได้พุ่งทะยานและปะทุพลังขึ้นมาอย่างเหี้ยมหาญ
พลังหมัดนี้ แม้ว่าจะไม่เพียบพร้อมด้วยพลังขั้นยาทอง แต่ถ้าหากพูดกันถึงพลังอานุภาพที่ปะทุขึ้นนั้น ก็เทียบเท่าได้กับพลังหมัดของยอดฝีมือยาทองระดับหนึ่งแล้ว!
รับรู้สัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังหมัดของหลานเหอแล้ว
ขณะนั้น คนของแต่ละตระกูลทั้งหมดที่อยู่ไม่ไกลออกไปนั้น ต่างก็ตกตะลึงขึ้นมาบ้างแล้ว
หลานเหอผู้นี้น่าจะมีอายุไม่ถึงสี่สิบปี!
แต่เขาฝึกฝนขั้นแดนฝึกพลังระยะหลังนี้ มาสิบปีเต็มแล้ว!
ช่างเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากเสียจริง!
อัจฉริยะถึงอย่างไรก็คืออัจฉริยะ!
ตอนนั้นสำนักสุริยันมีความคิดที่จะรับเขาเข้าสู่สำนัก ถึงขนาดที่จะมอบตำแหน่งผู้อาวุโสให้เลย แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้หลานเหอพอใจได้!
ถ้าหากเขายินยอม เกรงว่าตอนนี้คงจะเป็นยอดฝีมือยาทองแล้ว!
หมดหนทาง เพราะหลานเหอผู้นี้หลงระเริง ใช้ชีวิตอิสระ ไม่ยอมทำตามกฎระเบียบบังคับใด ๆ
แต่ว่า เมื่อดูจากพลังความสามารถที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้แล้ว แม้ว่าจะยังไม่บรรลุขั้นยาทอง แต่พลังความสามารถของเขา ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือยาทองระดับหนึ่งทั่วไปแต่อย่างใด!
จับตาดูกันให้ดี!
ตกลงว่าหลินหยุนจะมีพลังความสามารถระดับไหน มีหลานเหออยู่ ก็พอที่จะได้เห็นกันแล้ว
เห็นพลังหมัดที่สะเทือนเลือนลั่นของหลานเหอโจมตีเข้าใส่
หลินหยุนในตอนนี้ กลับมีสีหน้าท่าทางที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ถึงขนาดที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่ทุกคนต่างคิดกันว่า หลินหยุนตกใจกลัวอานุภาพพลังหมัดของหลานเหอ จนใกล้จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้วนั้น
ในที่สุดหลินหยุนก็เคลื่อนไหวแล้ว
เห็นเขายกท่อนแขนขึ้นช้า ๆ จากนั้นก็ชี้นิ้ว ออกไปเบา ๆ
การชี้นิ้วในครั้งนี้ ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี อย่างกะทันหัน!
ตูม!
เกิดเสียงดังสนั่นเลือนลั่นขึ้นในทันที
จากนั้นทุกคนก็ได้เห็นอย่างฉับพลันว่า หลานเหอตะโกนร้องอย่างทรมาน และตัวของเขาก็กระเด็นลอยออกไปไกล
ร่างกายของเขาได้เกิดการแตกสลายในทันที
ภายใต้ความตกตะลึง เขาได้รีบล้วงโอสถออกมาแล้วใส่เข้าไปในปาก จึงยับยั้งไม่ให้ร่างกายแหลกสลายไปทั้งหมด
หลานเหอที่กระเด็นลอยออกไปนั้นไม่สามารถที่จะหยุดการเคลื่อนไหวลงได้ แม้แต่จะลดความเร็วลงเล็กน้อยก็ยังทำไม่ได้ กลายร่างเป็นลำแสง พุ่งหลบหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ เหมือนกับว่าเวลาได้หยุดลงไปชั่วขณะหนึ่ง
ทุกคนต่างก็พากันสูดลมหายใจลึกอย่างพร้อมเพรียง
แววตาแสดงออกถึงความเหลือเชื่อ
จิตใจยิ่งตกตะลึงราวกับถูกคลื่นยักษ์ซัดโหมเข้าใส่อย่างรุนแรง!
หลินหยุนผู้นี้……ทำไมถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนี้……
หรือว่า ข่าวคราวที่ร่ำลือกันก่อนหน้านี้นั้นจะเป็นความจริงทั้งหมด?
นี่มันช่างแข็งแกร่งมากจริง ๆ!
ถึงขนาดที่แม้แต่เวทมนตร์อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ก็ยังไม่ได้ใช้ เพียงแค่ชี้นิ้วออกไป ก็เกือบจะทำให้ร่างกายของหลานเหอแหลกสลายแล้ว……
นั่นเป็นถึงหลานเหอเลยนะ!
หลินหยุนผู้นี้ ตกลงมีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่?
ช่างทรงพลังอย่างมาก!
หลินหยุนเพียงชี้นิ้วออกไปก็เกือบจะทำให้ร่างกายของหลานเหอแหลกสลายแล้ว ซึ่งทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว!
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ จิตใจตกตะลึงราวกับถูกคลื่นยักษ์ซัดโหมเข้าใส่อย่างรุนแรง
ขณะนี้ บนท้องถนนก็ได้สงบเงียบลงกันทั้งหมดแล้ว!
หลินหยุนกับซิงเฟยที่เดินอยู่บนถนน ราวกับเทพสังหารอย่างไรอย่างนั้น พวกปีศาจร้ายทั้งหลายต่างก็พากันหลบหนีหัวซุกหัวซุน
ในขณะนี้เอง ก็ได้มีเจตนาสังหารรุนแรงพุ่งทะยานพัดโหมเข้ามา
ไม่นาน ก็มาถึงด้านหน้าของหลินหยุน
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
หลินหยุน ฉันคือซ่านหงผู้นำตระกูลซ่าน!
ซ่านจ้านที่ถูกนายลักพาตัวไปนั้น ก็คือลูกชายของฉันเอง!
ที่ฉันมาหานี้ เพราะได้รับคำสั่งมาจากท่านพ่อ ซึ่งก็คือเจ้าสำนักรองของสำนักสุริยัน เพื่อมาเชิญนายไปยังสำนักสุริยัน!
ทำการยุติเรื่องระหว่างนายกับสำนักสุริยันให้จบสิ้น!
ถ้าหากนายกล้า ก็เชิญไปด้วยกันกับฉัน!
ถ้าหากนายไม่กล้า ก็ฆ่าตัวตายที่นี่ซะ สำนักสุริยันของเราก็จะไม่ไปหาเรื่องสร้างความเดือดร้อนให้กับตระกูลฉินอีก!
ตอนนี้นายสามารถตัดสินใจเลือกได้แล้ว!
ได้ยินที่ซ่านหงพูด ซิงเฟยที่อยู่ด้านหลังของหลินหยุนก็เกิดความประหม่าขึ้นในทันที
โดยได้ดึงชายเสื้อของหลินหยุนเบา ๆ
หลินหยุนพูดขึ้นว่า นำทางไปสิ!
ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า หลินหยุน นาย……นายคิดทบทวนให้ชัดเจน!