จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 120 ยอดฝีมือ
บทที่ 120 ยอดฝีมือ
เฉินฟางฉลาดมาก และนักมวยที่เลือกมาก็เป็นชายร่างเล็กที่หลี่เมิ่งเคยเลือก
เธอไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร แต่หลี่เมิ่งได้ใช้ชายร่างเล็กคนนี้เพื่อเอาชนะเฉินหมิงวั่งด้วยเงินห้าล้าน
หวางฮ่านแพ้แล้ว และเฉินฟางไม่รู้ว่าจะมีใครที่สามารถเอาชนะชายชราที่สวมชุดดำข้างๆหลี่เมิ่งได้ แม้รู้ว่ามันยากที่จะเอาชนะแต่ก็ยังตั้งความหวัง!
“ฉันเลือกแล้ว!” เฉินฟางเหลือบมองไปที่หลินหยุน และในที่สุดสายตาก็หยุดอยู่ที่หลี่เมิ่ง
เมื่อเห็นนักมวยของเฉินฟาง ชั่วขณะหลี่เมิ่งก็หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ
“สาวน้อย ฉันรู้ว่าในใจเธอมีฉัน แต่เธอไม่จำเป็นแสดงออกมาให้มันชัดเจนขนาดนี้!”
“นี่เป็นการมอบเงินให้ฉันอย่างโจ่งแจ้ง?”
หลี่เมิ่งหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ ผู้ชมรอบข้างที่ดูความตื่นเต้นและไม่เข้าใจเรื่องราวต่างพากันหัวเราะเช่นกัน
หวางฮ่านก้มศีรษะและเดินไปหาเฉินฟาง กระซิบ “คุณ แม้ว่านักมวยคนนี้จะเก่ง แต่ถ้าเทียบกับฉันยังแตกต่างกันมาก เขาไม่สามารถเอาชนะชายชราในชุดดำที่อยู่ข้างหลังหลี่เมิ่งได้เลย”
“อ๊ะ! จะทำอย่างไรดี?” เฉินฟางมองกลับไปที่หลินหยุนด้วยความตื่นตระหนก
“ไม่เป็นไร เลือกเสร็จก็โอเค มาเริ่มกันเถอะ!” หลินหยุนยิ้มและปลอบใจเฉินฟาง ยังคงแสดงความมั่นใจในตัวเองเหมือนไม่มีใครเทียบได้
เฉินฟางเลือกที่จะเชื่อหลินหยุน และแม้ว่าตอนนี้จะไม่เชื่อ มันก็สายเกินไป
“หลี่เมิ่ง ยังไม่ได้เริ่มการต่อสู้ อย่าด่วนดีใจเกินไป!” เฉินฟางตะโกนอย่างเย็นชา
หลี่เมิ่งหัวเราะเยาะ “นี่ยังต้องสู้กันอีกเหรอ? อาฉิน คุณว่ายังต้องสู้อีกไหม?”
ชายชราที่สวมชุดดำมีสีหน้าดูหมิ่น ยิ้มและพูดเย้ยหยัน “งั้นก็สู้หนึ่งกระบวนท่า!”
“โอเค!” หลี่เมิ่งตะโกน “อาฉินเชิญขึ้นเวที!”
เสี่ยวยู่มองไปที่หลินหยุนอย่างอยากรู้อยากเห็น และถามเบาๆ “พี่หลิน พี่มีความมั่นใจเท่าไหร่?”
หลินหยุนเหลือบมองเธอ และพูดเบาๆ “หนึ่งร้อยคะแนน”
“อ๊ะ!” เสี่ยวยู่ผงะ มองไปที่หลินหยุนและพูดไม่ออก
ดูเหมือนว่าเฉินหมิงวั่งเพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง วิ่งไปหาหลินหยุน สาปแช่งเสียงดัง “หลินหยุน นายบ้าแล้วเหรอ นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นายปล่อยให้น้องสาวฉันไปเดิมพันกับหลี่เมิ่ง นายกำลังคิดอะไรกันแน่?”
“ฉันขอบอกนาย ถ้าน้องสาวของฉันแพ้ พวกเราจะไม่คืนเงินให้นายแม้แต่บาทเดียว!”
หลินหยุนไม่สนใจเขา แต่จ้องมองทั้งสองคนบนสังเวียนอย่างเงียบๆ
การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ชายชราที่สวมชุดดำเพื่อต้องการยืนหยัดชัยชนะ พอเริ่มแข่งก็ใช้พลังออกไปเต็มร้อย ต้องการที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยกระบวนท่าเดียว
เพียงแต่ว่า เมื่อหมัดที่ทรงพลังกำลังจู่โจมออกไป ทันใดนั้นขาของเขาก็อ่อนลง และก็ล้มลงกับพื้นอย่างอธิบายไม่ได้
จากนั้น ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
ทุกคนที่กำลังดูฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
“ไม่ใช่มั้ง ทำไมถึงซวยขนาดนี้!”
“มันจบแบบนี้เหรอ? สาวน้อยคนนี้โชคดีไม่เบาเลย!”
“ล้มมวย ต้องล้มมวยแน่ๆ!”
ผู้ชมซุบซิบนินทากัน ทุกคนก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันชกมวย แต่เป็นเรื่องตลก
เฉินฟางก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่สังเวียนอย่างใจลอย หลังจากที่ชายชราในชุดดำล้มลง เขาก็ถูกนักมวยร่างเล็กน็อคเอาท์
“ชนะแล้ว?” เฉินฟางรู้สึกไม่อยากเชื่อ ผ่านไปสักพัก ก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “เยส ฉันชนะแล้ว!”
“หลินหยุน ฉันชนะจริงๆ!”
“ขอบใจนายมาก!”
เฉินหมิงวั่งกำลังเตรียมจะคุกคามหลินหยุน ก็ต้องรีบกลืนคำพูดกลับเข้าไป และแทบจะสำลักตาย
“มีอะไรผิดพลาดหรือไม่ ยังงี้ก็ได้เหรอ?” เฉินหมิงวั่งรู้สึกโกรธและไม่พอใจมาก
หลี่เมิ่งยิ่งมึนงง ยังคงอ้าปากค้างอยู่ที่เดิม เป็นเวลานานกว่าจะหุบปาก
“เป็นไปได้ไง เป็นไปได้ยังไง! อาฉินแพ้ได้ไง?”
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อ แต่ความจริงปรากฏตรงหน้า หลี่เมิ่งไม่เชื่อไม่ได้
“เล่นโกง ไอ้หนุ่มนายเล่นโกง!” หลี่เมิ่งชี้และตะโกนใส่หลินหยุน เขาไม่เชื่อว่ายอดฝีมืออย่างอาฉินจะล้มลงได้จริง เขาคิดว่าต้องเป็นการโกงของหลินหยุน
เฉินฟางโต้กลับทันที “หลี่เมิ่ง พวกเราชนะก็คือการโกง นายชนะมันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลเหรอ นายนี่หน้าด้านจริงๆ!”
บอกว่าเราโกง นายแสดงหลักฐานออกมา!”
หลักฐาน ใช่หลักฐาน!
หลี่เมิ่งรีบไปข้างหน้า พยุงอาฉินลงมา และถามว่า “อาฉิน ท่านเป็นอะไรไป?”
อาฉินเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ฉันไม่รู้เหมือนกัน แค่รู้สึกว่าขาของฉันอ่อนแรง ทันใดนั้นก็ไร้ความรู้สึก จากนั้นก็ล้มลงไป””
แม้แต่อาฉินก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆหลี่เมิ่งก็ล้มเลิกความคิดที่จะหาหลักฐาน
อาฉินมองไปที่หลินหยุนอย่างระมัดระวัง และพูดด้วยน้ำเสียงขรึม “ดูเหมือนว่า จะมียอดฝีมือ!”
หลี่เมิ่งพยักหน้า “อาฉิน ฉันรู้แล้ว ฉันพยุงท่านไปพักผ่อนก่อน”
พยุงอาฉินนั่งลงบนเก้าอี้ หลี่เมิ่งเดินไปหาหลินหยุน จ้องหลินหยุนด้วยความโกรธ “ไอ้หนุ่ม พูดมาเถอะ นายใช้เวทมนตร์อะไร ชั่วขณะสามารถทำให้ลุงฉินล้ม”
เสี่ยวยู่มองไปที่หลินหยุนอย่างครุ่นคิด เธอยืนอยู่ข้างๆหลินหยุนตลอด ไม่เคยเห็นหลินหยุนลงมือทำอะไร ถ้าหลินหยุนป็นคนทำเช่นนั้น แสดงว่าความแข็งแกร่งของหลินหยุนก็น่ากลัวเกินไป!
“หลี่เมิ่ง กล้ายอมรับความพ่ายแพ้หรือไม่? บอกว่าเราโกง แสดงหลักฐานออกมา!” เฉินฟางก้าวไปข้างหน้า และตะโกนอย่างเย็นชา
หลินหยุนใช้พลังทิพย์กดจุดชีพจรของอาฉิน สักพักพลังทิพย์จะค่อยๆสลายไปโดยอัตโนมัติ หลี่เมิ่งจะไปหาหลักฐานได้ที่ไหน?
เฉินฟางไม่รู้เรื่องนี้ แต่เธอก็รู้ว่าหลินหยุนต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแน่ๆ เพียงแต่ว่า ในเวลานี้เธอต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องหลินหยุน
หลี่เมิ่งจนปัญญา ทำได้เพียงจ้องมองพวกเขาสองสามคนด้วยสายตาดุร้าย
ตอนแรกเงินยี่สิบล้านอยู่ในกำมือแล้ว ตอนนี้ก็ถูกเอากลับคืนไป หลี่เมิ่งดีใจจนเก้อ ตอนนี้แม้แต่อาฉินก็ได้รับบาดเจ็บ เขาก็สูญเสียที่พึ่งพิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่ต่อไป
“ไปกันเถอะ!” หลี่เมิ่งให้ลูกน้องสองคนช่วยอาฉิน และพาพวกเขาจากไป
“เดี๋ยวก่อน!” ในขณะนี้ มีเสียงไพเราะของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น แต่เสียงนี้เย็นชาและเย่อหยิ่งมาก
เงยหน้าขึ้นมอง มีหญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงขาว รูปร่างสูงโปร่ง และมีใบหน้าที่สวยงาม พาชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีดำ ยังมีลูกน้องอีกหลายคน เดินเข้ามา
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ ทุกคนต่างใจหายใจคว่ำ
สวยมาก!
เพียงแต่ว่า มันเย็นชาเกินไป เหมือนอุณหภูมิลดลงหลายองศา
เมื่อหลี่เมิ่งเห็นผู้หญิงคนนี้ ชั่วขณะก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “พี่!พี่มาได้ถูกเวลาพอดี ฉันถูกคนวางแผนชั่วร้าย พี่ต้องการล้างแค้นให้ฉัน!”
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าของเฉินฟางก็แสดงอาการตกใจ “เจิ้งหงยู่แห่งเมืองเหมียนหยาง ทำไมเธอถึงมาที่นี่!”
หลินหยุนถาม “เธอมีชื่อเสียงมากเลยหรือ?”
เฉินฟางอธิบายว่า “ผู้มีอิทธิพลในเมืองเหมียนหยาง ลูกสาวของเจิ้งเทียนหว้า หลายคนเรียกเธอว่าองค์หญิงเจิ้ง”
“ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจกว่าพ่อของเธอ ฉันได้ยินมาว่าในอนาคตเจิ้งเทียนหว้าจะไม่เลือกลูกชาย แต่จะเลือกลูกสาวสืบทอดต่อไป”
นี่ก็ร้ายกาจเหรอ! ในประเทศจีนที่เห็นผู้ชายสำคัญกว่าผู้หญิง สามารถทำให้นายท่านไม่เลือกลูกชาย แต่จะเลือกลูกสาวของเขาให้สืบต่อวงศ์ตระกูล นี่แสดงให้เห็นว่าเจิ้งหงยู่ต้องเก่งกาจมาก
ความจริงแล้วเวทีมวยเถื่อนแห่งนี้ตระกูลเจิ้งเป็นเจ้าของ เจิ้งหงยู่เฝ้าสังเกตมานานแล้ว ตั้งแต่ที่หลี่เมิ่งวางกับดักให้เฉินหมิงวั่ง เธอก็เฝ้าดูตลอด
เพียงแต่ว่า เมื่อเห็นหลี่เมิ่งแพ้ เธอจึงปรากฏตัวออกมา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจิ้งหงยู่จะสังเกตมาตลอด แต่เธอก็ไม่เห็นว่าหลินหยุนโกง
เจิ้งหงยู่ไม่ได้สนใจหลี่เมิ่ง แต่เดินไปหาหลินหยุน มองและครุ่นคิด เชิดหน้าอกอย่างเย่อหยิ่ง และพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ฉันเดิมพันกับนาย”
หลินหยุนเหลือบมองเธอ จากนั้นก็ละสายตาออก และพูดเบาๆ “ไม่มีอารมณ์”
“เสี่ยวยู่ ฉันเหนื่อยแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!” หลังจากพูดจบ หลินหยุนก็เดินออกไป
ดวงตาของเจิ้งหงยู่หรี่ลงเล็กน้อย ผู้ชายคนอื่นๆมองเธอ และอยากจะเขมือบเธอ แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น
เจิ้งหงยู่ยิ่งรู้สึกว่า หลินหยุนมีปัญหา
“ไอ้หน่ม นายกลัวเหรอ?”
หลินหยุนไม่ตอบ และไม่ได้หยุดเดิน ยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
หลี่เมิ่งมองดูแล้วก็ขบฟัน ไอ้หนุ่มคนนี้ช่างดื้อรั้นจริงๆ
เจิ้งหงยู่ไม่ได้บังคับให้หลินหยุนอยู่ต่อ แต่พูดอย่างเหยียดหยาม “ชายขี้ขลาด!”
เมื่อเห็นหลินหยุนออกไป เฉินฟางก็รีบตามออกไป เอาบัตรเอทีเอ็มคืนหลินหยุน
ในพริบตา มีเพียงเฉินหมิงวั่งเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่เดิม และไม่มีใครให้ความสนใจเขาเลย
หวางฮ่านเดินมา และพูดว่า “คุณเฉิน พวกเราไปกันเถอะ!
“ไป” เฉินหมิงวั่งเป็นนักสู้ที่พ่ายแพ้ และจากไปอย่างน่าสมเพช