จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1203 ศพเทพ
สายตาของหลินหยุนกับซิงเฟยต่างก็จับจ้องไปที่เสาหินนั้น
ซิงเฟยพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า ประตูสำนักแห่งนี้ถูกทำลายลงแล้ว แต่เสาหินนี้กลับยังคงสภาพดีเหมือนเดิม มันก็น่าแปลกอยู่เหมือนกันนะ!
หลินหยุนเองก็พยักหน้า
เป็นเช่นนั้นจริง คิดไม่ถึงว่าเสาหินนี้จะยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์
ดวงจิตของหลินหยุนได้แผ่ออกไป มุ่งหน้าไปสำรวจที่เสาหินต้นนั้น
แต่เสาหินนี้กลับไม่มีความผิดปกติอะไรเลย ธรรมดาทั่วไป
สิ่งนี้ทำให้หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ ก็พูดขึ้นว่า น่าจะมีอะไรผิดปกติอยู่บ้าง พวกเราถอยห่างออกมาจากเสาหินนี้สักหน่อยดีกว่า!
แม้ว่าจะไม่รับรู้และสัมผัสถึงสิ่งใด ๆ เลย
แต่เมื่อมองไปที่เสาหินแล้วนั้น หลินหยุนก็รู้สึกว่า ความรู้สึกถึงอันตรายของตนเองก่อนหน้านี้นั้น เหมือนจะได้พบเจอกับแหล่งที่มาของมันแล้ว
ซิงเฟยพยักหน้า และพูดว่า ตรงนั้นมีลานเล็ก ๆ ที่ยังคงสภาพดีอยู่ พวกเราไปดูกันเถอะ!
หลินหยุนไม่ได้ปฏิเสธ แล้วก็มุ่งหน้าไปที่ลานเล็ก ๆ นั้นทันที
ในขณะที่เดินเข้าสู่ลานเล็ก ๆ นั้น ก็พลันพบเห็น รูปปั้นคนสองตนอยู่ที่ใจกลางของลาน
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า ในลานนี้ทำไมถึงได้มีรูปปั้นสองตนด้วยล่ะ? และยังจะตั้งอยู่ใจกลางของลานด้วย ไม่กลัวว่าจะสิ้นเปลืองพื้นที่เหรอ!
ขณะที่พูด ก็ได้เดินเข้าไปที่รูปปั้นนั้น
ขณะที่ก้าวออกไป หลินหยุนก็ได้ลากตัวเธอกลับเข้ามา
ซิงเฟยตกใจ เหลือกตาขาวใส่หลินหยุนอย่างไม่สบอารมณ์และพูดขึ้นว่า นายลากตัวฉันทำไม?
หลินหยุนขมวดคิ้วและพูดว่า เธอไม่รู้สึกว่ารูปปั้นสองตนนี้ เหมือนจะคุ้นตาบ้างเหรอ?
ได้ยินหลินหยุนพูดดังนั้น ซิงเฟยก็ตกใจ จึงได้จ้องมองเพื่อสำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดขึ้นทันที
เมื่อมองดูอย่างละเอียดแล้ว ก็ทำให้เธอตื่นตะลึงขึ้นโดยพลัน
คุ้นตามาก!
คุ้นตามากเลยจริง ๆ!
ตนหนึ่งมีเพียงแค่แผ่นหลัง ไม่มีหน้าตรง ส่วนอีกตนหนึ่งก็มีแค่ใบหน้าด้านข้าง
ลักษณะท่าทางที่หันหลังครึ่งตัว
แต่มันช่างคุ้นตามากเสียจริง
รูปปั้นสองตนนี้ เดิมทีไม่ใช่ว่าจะอยู่ที่ตรงนี้
เห็นได้ชัดว่าได้เข้ามาพร้อมกันกับพวกเขาก่อนหน้านี้
ส่วนที่ว่าจะเป็นเมืองไหน ตระกูลไหน เรื่องนี้ไม่ค่อยแน่ชัด
แต่การแต่งกายของสองคนนี้ไม่เลวเอาเสียเลย
ซิงเฟยสูดหายใจลึก และพูดขึ้นอย่างหวาดวิตกว่า เป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาทั้งสองคน ทำไมถึงได้กลายเป็นรูปปั้นไปได้?
หลินหยุนพยายามใช้จิตสัมผัสอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบถึงความพิเศษอะไรของลานแห่งนี้เลย
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า เธอรอฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจะเข้าไปดูด้านใน!
ซิงเฟยได้ยินดังนั้น ก็ได้จับแขนของหลินหยุนเอาไว้ และพูดว่า อย่าเลย! อันตรายขนาดนี้ช่างมันเถอะ! ฉันไม่อยากที่จะให้นายกลายเป็นรูปปั้น เหมือนกับสองคนนี้!
ตอนนี้ บริเวณโดยรอบล้วนมีแต่ยอดฝีมือ!
อีกทั้งภายในสำนักที่ทรุดโทรมแห่งนี้ ก็ได้ส่งกลิ่นอายที่แตกต่างกันไปทั่วบริเวณ
หากว่าหลินหยุนกลายเป็นรูปปั้นแล้วจริง ๆ
ลำพังแค่พลังบำเพ็ญของเธอ คาดว่าคงจะไม่เกิดผลดีเป็นแน่!
ตอนนี้หลินหยุนคือยันต์ปกป้องคุ้มกันกายของเธอ
หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า ไม่เป็นไร! เธอรอคอยฉันอยู่ที่ตรงนี้เถอะ!
ขณะที่พูด ก็ได้ก้าวเดินเข้าไปในลาน
เมื่อมาถึงด้านหลังของรูปปั้นทั้งสองตนแล้ว ก็ได้ทำการรับรู้สัมผัสอย่างละเอียด ซึ่งก็ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตอะไรเลย
หลินหยุนเดินเข้าไปด้านในห้อง ภายในก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร
ขณะที่เข้ามาภายในห้องแล้ว ดวงจิตที่ใช้สำรวจนั้น ก็ขาดตอนสูญหายไปในพริบตา
หลินหยุนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที และก็ระมัดระวังตัวขึ้นอย่างมาก
ภายในห้อง มีความแปลกประหลาดอยู่บ้าง
หลินหยุนจึงได้เดินกลับออกไปที่หน้าประตู
ยิ่งเข้าใกล้ประตูมากเท่าไร ความรู้สึกถึงอันตรายก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น
แต่หลินหยุนก็ยังเดินมาถึงหน้าประตู พร้อมกับยื่นฝ่ามือออกมา ผลักไปที่ประตูนั้น
ใช้แรงผลักเพียงเล็กน้อย ประตูห้องก็เปิดออกแล้ว
ทันใดนั้น หมอกควันดำที่เยือกเย็นอย่างที่สุดก็ได้พุ่งออกมา
พริบตาเดียว หลินหยุนก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเหมือนกับถูกควบคุมเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งมีเค้าโครงว่าจะกลายเป็นหินแล้ว
หลินหยุนจึงรีบขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญทันที
ชี่ทิพย์ป้องกันกายพองตัวขึ้น สั่นสะเทือนจนหมอกควันดำนั้นกระเด็นกลับออกไป
แต่ว่าหมอกควันดำราวกับมีจิตวิญญาณ แม้ว่าจะกระเด็นออกไปแล้ว แต่ก็ยังย้อนกลับพุ่งเข้ามาใส่หลินหยุนอีกครั้ง
หลินหยุนร้องตะโกน พลังบำเพ็ญก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง พลังที่มองไม่เห็นได้ปกคลุมห่อหุ้มหมอกควันดำเอาไว้ด้านใน
แต่หมอกควันดำก็ยังพุ่งออกมาจากด้านในห้องอย่างไม่หยุด ราวกับว่ามีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
เมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว หลินหยุนจึงได้รวบรวมพลังบำเพ็ญ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชี่ทิพย์ป้องกันกายของตนเอง
พริบตาเดียวหมอกควันดำก็ห่อหุ้มหลินหยุนเอาไว้ด้านใน
อีกทั้งยังได้ทำลายกัดกร่อนชี่ทิพย์ป้องกันกายอย่างต่อเนื่อง เกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้นเป็นระยะ
หลินหยุนยังคงมุ่งมั่นไม่หวั่นวิตก และก้าวเดินเข้าไปในห้อง
ทันใดนั้นก็เห็นว่า ตรงกลางของห้อง มีโลงศพสีดำวางอยู่
หมอกควันดำจำนวนมาก ก็พุ่งออกมาจากโลงศพนี้
หลินหยุนสายตาดุดัน แล้วก็ปล่อยหมัดชกไปที่โลงศพ
พลังอานุภาพของหมัดสะเทือนเลือนลั่น
เวลานี้แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับยอดฝีมือยาทองระดับสาม ก็คงไม่กล้าที่จะปะทะซึ่ง ๆ หน้าแน่นอน
แต่พลังหมัดนี้ของหลินหยุน ขณะใกล้ที่จะปะทะกับโลงศพสีดำนั้น ก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นจู่โจมเข้าใส่จนต้องกระเด็นกระดอนกลับมา
ในขณะเดียวกัน เสียงกลองที่ดังสนั่นก็ไม่รู้ว่าดังขึ้นมาจากที่ไหน
จากนั้นก็มีเสียงที่สอง เสียงที่สามตามมาด้วย……
หลินหยุนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ที่จริงแล้วไม่ใช่เสียงกลองอะไรสักหน่อย แต่เป็นเสียงหัวใจเต้น!
ส่วนเสียงนั้น ดังออกมาจากภายในโลงศพ
หัวใจเต้นรวดเร็วมากขึ้น และยิ่งมีเสียงดังมากขึ้น
เวลานี้ ยอดฝีมือจำนวนมากที่ยังคงตามหาสมบัติล้ำค่ากันอยู่นั้น ต่างก็ถูกเสียงที่ดังขึ้นเป็นระยะเป็นระยะ ราวกับเสียงกลองดึงดูดความสนใจทั้งหมดแล้ว ทุกคนต่างก็หยุดฝีเท้าลง และก็เกิดความวิตกกังวลขึ้น
เวลานี้ หลินหยุนก็ได้ลอยตัวถอยหลังออกไป มาอยู่ที่ใจกลางของลาน
ครู่เดียว ยอดฝีมือสิบกว่าคนก็มาถึงบริเวณด้านนอกของลาน
เห็นหลินหยุนถูกปกคลุมห่อหุ้มไปด้วยหมอกควันดำ และถูกทำลายกัดกร่อน สายตาก็แสดงท่าทีที่หวาดกลัวอย่างที่สุดออกมา
ทุกคนรีบมองกันไปยังซิงเฟยที่อยู่ด้านนอกลาน และพูดขึ้นว่า แม่นางซิง ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เวลานี้ซิงเฟยเองก็วิตกกังวลเป็นอย่างมาก
ส่ายศีรษะและพูดว่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!
เวลานี้ ก็ได้ยินเสียงตูมดังขึ้น หมอกควันดำภายในห้องก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น พลุ่งพล่านออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากที่หมอกควันดำพุ่งออกมาก็โหมกระหน่ำเข้าใส่หลินหยุนในทันที
แทบจะพริบตาเดียว เงาร่างของหลินหยุนก็สูญหายไปท่ามกลางหมอกควันดำนี้
จากนั้นก็ได้ยินหลินหยุนร้องตะโกนขึ้นอีกครั้ง หมอกควันดำที่หนาทึบก็สั่นสะเทือนสลายออกไปอีกครั้ง
ร่างกายของหลินหยุนกระพริบแวบหายไป จากนั้นก็มาถึงบริเวณด้านนอกของลานแล้ว
หลินหยุนสูดหายใจยาว จากนั้นก็รีบลากตัวของซิงเฟย กระโดดขึ้นไปบนอากาศ รีบหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย
ทุกคนที่อยู่ตรงประตูต่างก็ยังไม่ทันตั้งสติได้ จึงรีบเข้าไปดูด้านในลานอีกครั้ง
ในขณะนี้เอง ห้องก็พังทลายลงทั้งหมด จากนั้น เงาดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของทุกคน
เงาดำร่างนี้สูงประมาณห้าเมตร ร่างกายแข็งแรงกำยำอย่างมาก เส้นผมสีเขียว ตั้งตรงทุกเส้น
บริเวณดวงตา มีหลุมดำสองหลุม
ผิวหนังทั้งหมด ล้วนมีสีดำและสีเขียว
ที่เพียงแค่ห่อหุ้มกระดูก
เมื่อเห็นเงาดำยักษ์นี้แล้ว ทุกคนต่างก็หวาดกลัวกันอย่างที่สุด
พระเจ้า!
นี่คือ……ศพเทพตามตำนานที่ร่ำลือกัน……
หลบหนีกันเถอะ!
รีบหนีไปโดยเร็ว!
ทุกคนล้วนหันหลังแล้วก็วิ่งหนี แต่ยังไม่ทันรอให้พวกยอดฝีมือเหล่านี้กระโดดขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นศพเทพยักษ์ก็อ้าปากดูดอย่างแรง ทำให้ทุกคนต่างก็ถูกดูดเข้าไป
ทั้งหมดถูกดูดกลืนเข้าไปในปากของศพเทพนั้น
ในขณะเดียวกัน ศพเทพก็กระโดดลอยตัว ขึ้นไปบนอากาศ
สองหลุมดำที่ไม่มีดวงตานั้น ได้กวาดมองไปรอบทิศทาง
วินาทีต่อมา ก็ได้แฉลบผ่านยอดฝีมือคนหนึ่งที่อยู่ด้านล่างไป