จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1213 ตำบลสือเหมิน
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ทำให้ซิงเฟยหมดคำพูดไปเลย
สู้พวกเธอไม่ไหวจริงๆด้วย
ถ้าสามารถต่อสู้กับพวกเธอไหว เธอเชื่ออย่างแน่นอน หลินหยุนจะไม่ใช่คนที่ ยอมฟังเหตุผลของคนอื่น ง่ายๆแบบนี้อย่างแน่นอน
ซิงเฟยขมิบปากและถามทันที หลังจากนี้ นายจะทำอะไรต่อ พวกเราจะไปที่ไหน?
หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และพูด คุณน่าจะรู้จักสำนักฉีซานกับสำนักเทียนหยุน สองสำนักนี้อันไหนใกล้พวกเรามากที่สุด?
เมื่อซิงเฟยได้ยินคำพูดนี้ เธอก็ประหม่าขึ้นมาทันที
นายได้ถามสำนักฉีซานกับสำนักเทียนหยุนจากฉันมาหลายรอบแล้วนะ
นายมีความแค้นกับสองสำนักนี้หรือเปล่า?
ฉันขอเตือนนายนะ !
สองสำนักนี้ เป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ สำนักหนึ่งอยู่ในอันดับที่ห้า ส่วนอีกสำนักอยู่ในอันดับที่หก
สองสำนักนี้แข็งแกร่งกว่าสำนักหยุนเยว่อีกนะ!
ถ้านายกล้าทำอะไรไม่ดีต่อพวกเขา พวกเขาคงฆ่านายได้เหมือนขยี้มดตัวเล็กๆเลย
ฉันขอเตือนนาย นายอย่าพาฉันไปหาเรื่องเสียชีวิตได้ไหม!
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินหยุดพูดเบาๆ ถ้าหากว่าคุณกลัวจริงๆ คุณก็ไม่ต้องตามฉันสิ!
ซิงเฟยกลอกตาใส่เขาทันที ฉันจะตามนายไปทุกที่! นายเป็นคนน่าเบื่อมากๆ เอะอะก็ไล่คนอื่นตลอด?
หลินหยุนพูด ฉันพูดจริงๆ ถ้าคุณตามฉัน คุณอาจจะได้รับอันตรายก็ได้!
ซิงเฟยพูดด้วยความโกรธ ยังไงซะนายก็อย่าคิดที่จะทิ้งฉันไว้คนเดียว! ฉันจะตามนายไปทุกที่!
หลินหยุนพยักหน้า งั้นก็พูดตามตรงเลย สำนักไหนใกล้พวกเรามากกว่า?
ซิงเฟยขมิบปากและพูด สำนักเทียนหยุน!
ที่ตั้งของสำนักเทียนหยุน อยู่ในป่าลึกของเทือกเขาเทียนหยุน พวกเราเดินไปทางทิศตะวันตกจากตรงนี้
ถ้าพวกเรานั่งรถเมฆ ด้วยความเร็วของมัน ต้องใช้เวลาสองเดือนกว่าๆ
ถ้าพวกเราไม่ใช้รถเมฆ แต่บินไปเอง ใช้เวลายี่สิบกว่าวัน
หลินหยุนพยักหน้า เขาครุ่นคิดชั่วครู่และพูด งั้นพวกเราก็ใช้รถเมฆก่อน! ช่วงเวลานี้ ฉันต้องการจะฝึกฝนพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้น
หลังจากสร้างรากฐานที่สองแล้ว ทำให้พลังของเขายังไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก
และหลังจากที่เขาหลอมรวมกับแก้วหินศพแล้ว ไม่เพียงแค่ยาทองของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
ไหมจัญไรไร้เงาที่อยู่ในหินสังเวยจิต ตอนนี้พลังชีวิตของมันก็เพิ่มขึ้นมากแล้ว
หลินหยุนต้องการตรวจสอบมันอย่างละเอียดอีกรอบ
ถ้ามันยังคงเติบโตแบบนี้ คงใช้เวลาอีกไม่นาน มันก็คงจะถือกำเนิด
สำหรับไหมจัญไรไร้เงาตัวนี้ ตอนนี้หลินหยุนรู้สึกสับสนมากๆในใจ
เรื่องแรก เขาคาดหวังกับมันมากๆ
ถ้ามันถือกำเนิดและเติบโตอย่างรวดเร็ว มันจะกลายเป็นท่าไม้ตายที่ทรงพลังและลึกลับมากๆของตัวเอง
เรื่องที่สอง เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
ถ้าอยากจะเลี้ยงไหมจัญไรไร้เงาให้เติบโต มันต้องใช้ทรัพยากรอันมหาศาลมากๆจนไม่อาจจะคำนวณได้
ชื่อเสียงอันน่ากลัวของไหมจัญไรไร้เงานั้นโด่งดังไปทั่วจักรวาล
นอกจากมันจะแข็งแกร่งมากๆแล้ว มันยังมีอีกจุดหนึ่ง
เพราะมันเหมือนกับหลุมดำที่ไม่มีวันกินอิ่ม
สิ่งของที่มีพลังทิพย์ เมื่อเข้าไปในปากของมันแล้ว ทั้งหมดจะถูกย่อยสลายไปทันที
ถ้าไหมจัญไรไร้เงามีสติปัญญาขึ้นมา มันก็จะไม่ได้ใช้สัญชาตญาณในการค้นหาหินทิพย์ เทือกเขาทิพย์ น้ำพุทิพย์และสมบัติทั่วฟ้าดิน
แต่มันยังโจมตีนักบำเพ็ญเซียนอีกด้วย
เพราะร่างกายของนักบำเพ็ญเซียน มีพลังทิพย์มหาศาลอยู่
โดยเฉพาะ คนที่แข็งแกร่งมากๆ พลังทิพย์ในร่างกายก็จะมีเยอะมากๆ
เมื่อสังหารนักบำเพ็ญเซียนแล้ว มันก็จะกลืนกินร่างกายของนักบำเพ็ญเซียน และนักบำเพ็ญเซียนก็จะกลายเป็นเป้าหมายหลักของพวกมัน
ดังนั้น ทั่วทั้งจักรวาล ชื่อเสียงของไหมจัญไรไร้เงา มีอีกชื่อหนึ่งก็คือ หนอนกลืนทิพย์
สิ่งของที่มีพลังทิพย์อยู่ มันสามารถกลืนกินได้หมด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตาม เมื่อไหมจัญไรไร้เงาถือกำเนิด มันก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน
……
พวกเขาทั้งสองคนนั่งรถเมฆ และเดินทางไปทิศตะวันตก
ผ่านไปเจ็ดวัน พวกเขามาถึงตำบลแห่งหนึ่ง
ตำบลนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก มีชื่อว่าตำบลสือเหมิน
ทั้งสองคนจอดรถเมฆไว้นอกตำบล และเดินเท้าเข้าไปในตำบลทันที
ถึงแม้ตำบลนี้จะเล็กมากๆ แต่ถนนทั้งสองฝั่งมีคนตะโกนขายของตลอดเวลา มีแผงลอยจำนวนมากอยู่
สิ่งของที่ขายอยู่นั้นมีเยอะมากๆและมีทุกอย่างด้วย
มีแก้วผลึกของสัตว์อสูร มีเครื่องราง มีโอสถและของอื่นๆ
ซิงเฟยพูด พวกเราหาสถานที่ดีๆอาบน้ำ กินข้าว แล้วค่อยหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนดีกว่า!
หลินหยุนพยักหน้าทันที
สำหรับเขาแล้ว หลายวันมานี้ไม่ได้รู้สึกลำบากเลย
แต่ซิงเฟยเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ทำอะไรก็ต้องคิดถึงใจเธอบ้าง
พวกเขาทั้งสองคนหาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งแล้วเข้าพัก เมื่อพวกเขาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาเดินตลาดทันที พวกเขาหาร้านอาหารแห่งหนึ่งและเดินเข้าไปทันที
เมื่อเดินขึ้นมาชั้นสองแล้ว พวกเขาก็หาที่นั่งทันที ซิงเฟยก็สั่งอาหารไปหลายอย่าง
พวกเขาได้ยินโต๊ะข้างๆพูดคุยถึงสถานที่ลึกลับที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองชิงเฟิง
พวกเขาได้ยินชื่อของสำนักศพเทพถูกพูดถึงหลายๆครั้งด้วย
เห็นได้อย่างชัดเจน การปรากฏตัวของสำนักศพเทพ กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในช่วงเวลานี้
คิดไม่ถึงจริงๆ สำนักศพเทพโบราณที่มีอยู่ในตำนาน จะมีสำนักอยู่จริงๆ!
น่าเสียดายที่สำนักแห่งนี้เสียหายไปหมด เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาโดนฆ่าล้างสำนัก!
ในตำนาน สำนักศพเทพแข็งแกร่งมากๆจนเป็นสำนักอันดับต้นๆของยุคนั้นเลยนะ!
ไม่รู้จริงๆว่าสำนักไหนที่มีความแข็งแกร่งจนสามารถฆ่าล้างสำนักศพเทพได้!
เป็นสำนักศพเทพจริงๆเหรอ? ไม่ใช่มั้ง?
มันเป็นสำนักศพเทพจริงๆ จากคำพูดของยอดฝีมือที่รอดชีวิตกลับมา หลังจากพวกเขาเข้าไปได้ไม่นาน พวกเขาก็พบศพเทพเลย!
ศพเทพนั้นแข็งแกร่งมากๆ!
เมื่อมันปรากฏตัวก็ไล่ฆ่ายอดฝีมือไปจำนวนมาก
สุดท้ายแล้ว มียอดฝีมือเกือบยี่สิบคนร่วมมือกันถึงสามารถสังหารมันได้
อะไรนะ? มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? สำนักศพเทพที่อยู่ในยุคโบราณกาล ทำไมมันถึงยังมีศพเทพเหลืออยู่จนถึงตอนนี้?
ได้ยินมาว่าในร่างกายของศพเทพมีสมบัติล้ำค่าอยู่
ทำให้ยอดฝีมือจำนวนมากแย่งชิงมัน! สุดท้ายแล้วใครที่เป็นคนได้มันไป กลับไม่มีใครรู้
ยังมีอีกเรื่อง ฉันได้ข่าวมาว่าอัจฉริยะของสำนักเต๋าเสินเซียวอย่างวูแสหยุนเสียชีวิตจากการแย่งสมบัติล้ำค่าครั้งนี้!
มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? ใครกันถึงกล้าฆ่าลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักเต๋าเสินเซียว?
ฮ่าๆๆ อะไรคือลูกศิษย์อัจฉริยะ ถ้าเวลาปกติไม่มีใครกล้าฆ่าเขาอยู่แล้ว แต่เมื่ออยู่ในช่วงแย่งสมบัติล้ำค่าแบบนี้ ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคุณเป็นลูกศิษย์ของสำนักใหญ่!
แล้วใครเป็นคนฆ่าเขากันแน่?
ได้ข่าวมาว่าโดนผางเห้อสังหาร!
เป็นเขานี่เอง แต่หลังจากนี้ สำนักเต๋าเสินเซียวไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน!
……
ทุกคนสนทนากันอย่างเมามัน แต่ไม่ได้กล่าวถึงหลินหยุนเลย
ทำให้ซิงเฟยอดไม่ได้ที่จะขมิบปาก เพราะเธอเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ในเวลานี้ มีเด็กหญิงแต่งตัวมอมแมมเดินขึ้นมาจากบันได
เด็กหญิงคนนี้อายุประมาณสิบเอ็ดปีกว่าๆ หน้าเหลืองและผอมมากๆเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น
เธอใส่เสื้อผ้ากระสอบสีดำและมีรอยปะเต็มตัว ในมือยังถือขันน้ำที่ทำมาจากน้ำเต้า
เด็กผู้หญิงเดินมาจากบันได และตรงเข้าไปที่โต๊ะใกล้ๆทันที
คุณลุงคุณน้า พี่ชายพี่สาว ให้อาหารฉันหน่อยได้ไหม ฉันไม่ได้ทานอะไรมาหลายวันแล้ว!
เด็กผู้หญิงข้อร้องด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
มีชายวัยกลางคนหลายๆคนมองไปที่เธอ และไล่เธอเหมือนกับว่าเธอเป็นแมลงวันที่น่ารังเกียจ ไสหัวไป ไอ้ขอทานสกปรก ไสหัวไปไกลๆเลย! วันนี้ดวงซวยจริงๆ!