จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1250 ร่วมมือกันสังหาร
สีหน้าของผู้อาวุโสเจ็ดมีแต่รอยยิ้มดูถูกและมองไปที่เจียงจินฉี
สีหน้าของเจียงจินฉีดูแย่มากๆ เขาพูดด้วยความเคร่งขรึม ศิษย์พี่เจ็ด อย่าดูถูกศัตรูโดยเด็ดขาด เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!
จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันคุ้นหูมากๆ ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขามาถึงสถานที่แห่งนี้
จางเซี่ยวยู่ก็เคยพูดเตือนเขาแบบนี้!
เฉินหย่งก็เคยพูดเตือนเขาแบบนี้เช่นกัน!
แต่ตัวเขานั้น?
ไม่ได้ต่างจากศิษย์พี่เจ็ดเลย ท่าทางของเขาเหมือนกันศิษย์พี่เจ็ดมากๆ!
สุดท้ายแล้วผลลัพธ์เป็นยังไงเหรอ?
เขาเกือบจะเสียชีวิตอยู่ตรงนี้
ถ้าศิษย์พี่สามคนนี้ไม่ได้มาทันเวลาพอดี เขาคงเสียชีวิตจริงๆ
เจียงจินฉีหายใจเข้าลึกๆและไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันไปมองผู้อาวุโสสี่กับผู้อาวุโสแปดที่อยู่ข้างๆ ศิษย์พี่สี่ ศิษย์พี่แปด!
ศิษย์พี่เจ็ดกับฉันเมื่อสักครู่เหมือนกันเลย พวกเราต่างดูถูกศัตรูมาก!
อีกสักครู่ ถ้าศิษย์พี่เจ็ดได้รับอันตราย ศิษย์พี่ทั้งสองคนต้องลงมือช่วยเหลือเขาด้วย!
อันที่จริง วิธีที่ดีที่สุดคือพวกเราลงมือพร้อมกันและสังหารเด็กหนุ่มคนนี้ให้ตาย จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง!
เจียงจินฉีพูดด้วยน้ำจริงจังมากๆ แต่พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดของเจียงจินฉีเลย
ไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโสเจ็ด แม้แต่ผู้อาวุโสสี่กับผู้อาวุโสแปด พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดเหล่านั้นเลย
เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้า ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลย เขาจะแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?
คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก!
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!
ถ้าผู้อาวุโสเจ็ดสู้เขาไม่ไหวจริงๆ พวกเขาสองคนค่อยลงมือก็ยังทัน
ดังนั้น พวกเขามั่นใจในตัวเองมากๆ พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดของเจียงจินฉีเลย
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ร่างกายของผู้อาวุโสเจ็ดหายไปอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน พลังทั้งหมดของเขาหายไปอีกครั้งเช่นกัน
วินาทีต่อมา หัวไหล่อีกข้างของหลินหยุน ก็มีบาดแผลที่ลึกมากๆจนเห็นกระดูกเกิดขึ้นอีกครั้ง
และร่างกายของผู้อาวุโสเจ็ดก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
เสียงหัวเราะของเขาดังไปทั่วท้องฟ้า
สีหน้าของหลินหยุนแย่มากๆ แต่เขาไม่ได้ขยับตัวเลย เพราะเขาสัมผัสพลังของอีกฝ่ายไม่ได้เลย
วิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของอีกฝ่าย สามารถเก็บซ่อนพลังทั้งหมดเอาไว้
ถ้าจะพูดว่ามันร้ายกาจ มันก็ไม่เท่าไหร่
แต่เมื่อระดับพลังของอีกฝ่ายสูงกว่าตัวเอง มันก็มีประโยชน์มากๆเช่นกัน
ในเวลานี้ ร่างกายของผู้อาวุโสเจ็ดหายไปอีกครั้ง
แต่ในเวลานี้ ดวงตาของหลินหยุนก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
ด้านหน้าของเขาเปลี่ยนไปและต่างจากก่อนหน้านี้ทันที
มีกฎเกณฑ์ต้าเต๋าปรากฏขึ้นมาทันที ทำให้ตำแหน่งของผู้อาวุโสเจ็ดถูกเปิดเผยออกมา ขณะที่ผู้อาวุโสเจ็ดเข้ามาใกล้หลินหยุน จู่ๆหลินหยุนก็ใช้กระบี่แทงไปข้างหลังทันที และแทงทะลุหน้าอกของผู้อาวุโสเจ็ด
เลือดสดพุ่งกระฉูด
หลินหยุนสะบัดกระบี่เฮ่าเทียนไปมา ทำให้ร่างกายของผู้อาวุโสเจ็ดใกล้จะแตกสลายออกจากกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสเจ็ดตกใจมากๆและรีบถอยหนีทันที และรักษาระยะห่างจากหลินหยุน
หลินหยุนใช้หมัดโจมตีทันที ทำให้ร่างกายของอีกฝ่ายแตกสลาย มียาทองอันหนึ่งวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสี่ตกใจมากๆ
เขารีบจับยาทองของผู้อาวุโสเจ็ดไว้ในมือ จากนั้นก็เก็บเอาไว้ทันที
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะผู้อาวุโสสี่กับผู้อาวุโสแปด พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
แต่เจียงจินฉีไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย เพราะหลินหยุนทำให้ให้เขาตกใจมามากพอแล้ว!
เพราะเขาไม่เคยเชื่อเลย ผู้อาวุโสเจ็ดจะสามารถสังหารหลินหยุนด้วยตัวเองได้
มันเป็นเรื่องตลกมากๆ!
ผู้อาวุโสสี่หายใจเข้าลึกๆและมองไปที่หลินหยุน จากนั้นเขาก็หันไปมองเจียงจินฉีกับผู้อาวุโสแปดแล้วพูด พวกเราลงมือพร้อมกัน! สังหารเด็กหนุ่มคนนี้ให้ได้ก่อน!
เจียงจินฉีมีความคิดนี้มาตั้งนานแล้ว เขารีบขยับร่างกายและพุ่งไปข้างหน้าทันที
ถึงแม้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้เขายังสามารถต่อสู้ได้
ผู้อาวุโสแปดก็ทำแบบนี้เหมือนกัน
จู่ๆทั้งสามคนก็ปิดล้อมหลินหยุนเอาไว้ทันที
หลินหยุนเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา แต่เขาไม่พูดอะไรเลย เรื่องนี้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของเขาเลย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลินหยุนรู้สึกกดดันมากๆ
ยอดฝีมือสามคนนี้ เจียงจินฉีไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะเขาบาดเจ็บสาหัสอยู่ และเขาก็ไม่ได้มองผู้อาวุโสแปดอยู่ในสายตาเลย
แต่คนที่น่ากลัวที่สุดคือผู้อาวุโสสี่
เพราะเขาเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับหกจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้เป็นหลินหยุนคนเดิมแล้ว คนที่อยู่ตระกูลเจียงและต้องเผชิญหน้ากับเฒ่ายันต์และยอดฝีมืออีกสองคน
และไม่ใช่หลินหยุนที่ต้องเผชิญหน้ากับซ่านเต้า ตอนที่เขาอยู่สำนักสุริยัน
ตอนนี้เขาฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับสองแล้ว
มันก็แค่การต่อสู้ครั้งหนึ่งเท่านั้น!
เขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลย!
หลินหยุนหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายของเขาหายไปทันที
ในเวลาเดียวกัน บนท้องฟ้าปรากฏบันไดเก้าชั้นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
หลินหยุนเดินขึ้นไปทันที
ในเวลานี้ หลินหยุนใช้วิชาย่ำฟ้าเก้าทีออกมาทันที
ย่ำฟ้าดินหนึ่งที
ตูม!
ท้องฟ้าปั่นป่วนทันที มีพลังที่น่ากลัวจนสามารถทำลายฟ้าดินปรากฏขึ้นมาทันที
ชั่วพริบตา ผู้อาวุโสสี่ ผู้อาวุโสแปดและเจียงจินฉีที่เป็นผู้อาวุโสสิบ
พวกเขาสามคนเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตัวเองออกมา
ผู้อาวุโสแปดถือหอกยาวและโจมตีทันที
พลังของหอกยาวสะเทือนฟ้าดิน!
เขาแทงหอกยาวใส่หลินหยุนที่อยู่บนท้องฟ้าทันที แต่เขาไม่สามารถเข้าใกล้หลินหยุนได้เลย
หลินหยุนหยุดชะงักที่บันไดขั้นที่หนึ่งชั่วครู่ จากนั้นเขาย่ำก้าวที่สองทันที
พลังของแม่น้ำยมโลกไหลย้อนกลับ มันเป็นพลังที่เหนือธรรมชาติ พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ราวกับจะกลืนกินฟ้าดิน
เจียงจินฉีกับผู้อาวุโสแปดโดนดูดเข้าไปด้านใน
โดยเฉพาะเจียงจินฉี เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาสลายและหายไปทันที มีเพียงยาทองที่วิ่งหนีออกมาอย่างบ้าคลั่ง
แต่พลังของแม่น้ำยมโลกซัดมาอย่างบ้าคลั่ง มันสามารถทำลายฟ้าดินได้ เขาไม่มีโอกาสหนีรอดเลย ยาทองของเขาแตกสลายทันที
ผู้อาวุโสแปดก็ไม่ได้ดีกว่าเขาเลย ร่างกายของเขาก็แตกสลายเหมือนกัน
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสี่ตกใจกลัวจนหน้าซีด เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาและหนีอย่างบ้าคลั่ง
เขาใช้พลังที่แข็งแกร่งมากๆของตัวเอง หนีไปอย่างสุดชีวิต
ในเวลานี้ หลินหยุนย่ำก้าวที่สามทันที
ยาทองของผู้อาวุโสแปดก็แตกสลายทันที
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสี่รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่ด้านหลังตัวเอง มันน่ากลัวมากๆจนทำให้เขาคำรามอยู่ในใจตัวเอง
ด้วยความตื่นตระหนก ทำให้ผู้อาวุโสสี่เผาสารจิงและเลือดของตัวเองเพื่อหนี เขาในเวลานี้ ไม่กล้าที่จะต่อสู้กับหลินหยุนอีกแล้ว จิตใจของเขารู้สึกหวาดกลัวมากๆ
เขาคาดคิดไม่ถึงเลย เด็กหนุ่มที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
เขาแข็งแกร่งมากๆจนทำให้พวกเขาสามคนไม่มีทางต่อสู้ได้เลย
มันน่ากลัวมากๆ!
หลินหยุนเก็บพลังกลับมาและเดินลงมาจากท้องฟ้า เขาเก็บถุงเก็บของของเจียงจินฉีกับผู้อาวุโสแปดทันที จากนั้นเขาก็หยิบโอสถออกมาทาน และพุ่งไปทางเมืองเทียนหยุนทันที
ผู้อาวุโสสี่รู้สึกได้ว่าหลินหยุนไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง แต่หลินหยุนกลับเข้าไปในเมืองเทียนหยุน
วิมานในโรงเตี๊ยมเยว่หลาย เมื่อหลินหยุนมองเห็นซิงเฟย เขาไม่พูดอะไรเลย หลินหยุนจับตัวเธอขึ้นมาและบินขึ้นท้องฟ้าทันที
สำนักเทียนหยุนไม่ยอมยุติเรื่องนี้ง่ายๆอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาก็เลยรีบจากไปทันที
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสสี่ จางเซี่ยวยู่กับเฉินหย่งหรือยอดฝีมือสิบกว่าคนที่มองเห็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวกับตาตัวเอง
พวกเขาทั้งหมดอึ้งไปเลย