จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1270 ปิงซิน
ผ่านไปไม่นาน ผู้อาวุโสสามรีบลุกขึ้นมาและพูด เจ้าสำนัก เรื่องนี้ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกเขาเข้ามาในสำนักของเราแล้ว พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์ของสำนักเรา ในเมื่อพวกเขามีความสามารถ มีโอกาสเป็นตัวแทนของสำนัก พวกเราก็ควรให้โอกาสพวกเขา!
เมื่อผู้อาวุโสสองได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ขมวดคิ้วและพูด ถึงแม้จะเป็นอย่างที่คุณพูด แต่ถ้าตัวแทนที่สำนักเราส่งออกไป พวกเขาไม่รู้วิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของสำนักเราเลย พวกเราคงกลายเป็นตัวตลกแน่นอน
เมื่อผู้อาวุโสสองพูดจบ ก็มีผู้อาวุโสหลายๆคนพยักหน้าและเห็นด้วย
เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ถึงแม้สำนักอื่นๆจะไม่พูดออกมาต่อหน้า แต่การกระทำแบบนี้ของพวกเราไม่ค่อยดีเลย ต้องถูกสำนักอื่นๆดูถูกอย่างแน่นอน
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องกฎระเบียบ พวกเราก็ไม่ได้ทำผิดกฎอยู่แล้ว
สรุปแล้ว มีคนเห็นด้วยและคัดค้าน
เจ้าสำนักครุ่นคิดชั่วครู่และพูด ในเมื่อพวกเขาเป็นลูกศิษย์ของสำนักเรา ก็ให้พวกเขาเข้าร่วมเถอะ! มิฉะนั้น พวกเราจะอธิบายกับลูกศิษย์ในสำนักได้ยาก
เมื่อเขาพูดจบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก เรื่องนี้ก็ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้น สายตาของเจ้าสำนักก็มองไปที่มู่หงและเอ่ยปากพูดอีกครั้ง มู่หง ครั้งนี้คุณเป็นตัวแทนของสำนักเข้าร่วมการแข่งขัน คุณไม่มีปัญหาใช่ไหม?
มู่หงอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็โค้งคำนับอย่างสุภาพและพูด เจ้าสำนัก ถึงแม้ฉันจะเข้าสู่แดนยาทองระดับสี่แล้ว แต่ถ้าต้องเข้าร่วมประลองกับยอดฝีมืออายุยี่สิบปีถึงสามสิบปี ฉันคิดว่าตัวเองยังมีความแข็งแกร่งไม่มากพอ?
โอกาสครั้งนี้ น่าจะให้ศิษย์พี่ปิงซินดีกว่า?
ศิษย์พี่ปิงซินเข้าสู่แดนยาทองระดับห้าตั้งนานแล้ว โอกาสครั้งนี้น่าจะให้เธอเข้าร่วม
ขณะพูด มู่หงรีบมองไปรอบๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นปิงซินเลย เขารีบขยับสายตาทันที
เจ้าสำนักพูดด้วยรอยยิ้ม ศิษย์พี่ปิงซินของคุณ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เธอเก็บตัวฝึกฝนอยู่ เธอคงจะออกจากการเก็บตัวฝึกฝนไม่ทัน ดังนั้นครั้งนี้คงต้องให้คุณเข้าร่วมแทน!
คุณวางใจ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ไม่เป็นไร อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป การประลองที่คุณคิดว่าสามารถเอาชนะได้ คุณก็พยายามทำให้สำเร็จ แค่นี้ก็พอแล้ว!
ฉันไว้วางใจในตัวคุณมากๆ!
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับคุณแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เรื่องเหล่านี้ไม่ต้องพูดมาก คุณก็น่าจะรู้ดี!
มู่หงโค้งคำนับอีกครั้งและพูดด้วยความเคารพ เป็นอย่างนี้นี่เอง! ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ศิษย์พี่ปิงซินใกล้จะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับหกแล้วใช่ไหม?
เรื่องนี้มู่หงคาดคิดไม่ถึงจริงๆ
เจ้าสำนักพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม ใช่แล้ว! ศิษย์พี่ปิงซินของคุณกำลังเก็บตัวฝึกฝนเพื่อเข้าสู่แดนยาทองระดับหก คุณสองคนอายุไล่เลี่ยกัน แต่ศิษย์พี่แซงคุณไปไกลแล้ว!
มู่หงรีบพูดทันที ฉันเทียบศิษย์พี่ปิงซินไม่ได้จริงๆ!
ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่จิตใจลึกๆของมู่หงก็รู้สึกไม่โอเคเหมือนกัน
เขากับปิงซินอายุไล่เลี่ยกัน ปิงซินเป็นลูกหลานของปิงหลินที่เป็นผู้อาวุโสเก้า พวกเขาสองคนเข้าสำนักพร้อมกัน
ตอนนี้เขาอายุสามสิบสี่ปีแล้ว
ส่วนปิงซินอายุน่าจะน้อยกว่าเขานิดหน่อย ตอนนี้เธออายุสามสิบสองปี แต่พลังของเธอแข็งแกร่งกว่าเขามากๆ
ถึงแม้เขาจะมีอายุมากกว่า แต่เขายังต้องเรียกเธอว่าศิษย์พี่
ไม่ได้เจอหน้ากันไม่นาน อีกฝ่ายกำลังจะเข้าสู่แดนยาทองระดับหกแล้ว
ถ้าเขาไม่ได้เข้าสู่แดนยาทองระดับสี่ พลังของเขากับอีกฝ่ายก็คงห่างกันเยอะมากๆ
ต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง ตอนนั้นที่พวกเขาเข้าสู่สำนัก เขากับปิงซินได้รับการขนานนามว่าเป็นกุมารทองและกุมารีหยกของสำนักฉีซาน
เมื่อพลังของพวกเขาค่อยๆห่างกันมากขึ้น คำพูดเหล่านี้ก็ค่อยๆหายไป
ในทางกลับกัน ปิงซินเหมือนกับหวงฉาวของสำนักเทียนหยุนเลย กลายเป็นคนที่โดดเด่นมากๆในสำนักฉีซาน
แน่นอนว่าถ้าจะเอาเธอไปเปรียบเทียบกับหวงฉาว เธอคงจะเทียบหวงฉาวไม่ได้อยู่แล้ว
หวงฉาวอายุแค่ยี่สิบต้นๆ แต่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของลำดับเยาว์คุนชาง ตำแหน่งนี้ไม่ใช้ได้มาง่ายๆเลย
แต่ตัวเขาเองก็พยายามไล่ตามปิงซินอย่างเงียบๆ
แต่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ ระยะห่างของพวกเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งห่างไกลมากขึ้นทุกที
มู่หงหายใจลึกๆและเอ่ยปากพูด ในเมื่อศิษย์พี่เก็บตัวฝึกฝน โอกาสครั้งนี้ ฉันจะไปเอง! ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถและไม่ทำให้สำนักต้องขายขี้หน้า!
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เจ้าสำนักและผู้อาวุโสทุกคน ต่างพยักหน้าด้วยความดีใจ
ถึงแม้มู่หงจะไม่โดดเด่นเท่าปิงซิน อันที่จริงแล้วเขาก็มีพรสวรรค์ที่ไม่เลวเหมือนกัน
นอกจากเข้าแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ในการประลองครั้งนี้ได้
หลังจากประชุมเสร็จ ในสำนักฉีซานคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
โดยแบ่งตามอายุ
ทุกช่วงอายุ ลูกศิษย์ที่อยากจะเข้าร่วมการประลองเก้าสำนักใหญ่ พวกเขาสามารถเข้าร่วมการคัดเลือกครั้งนี้ได้
แน่นอนว่าทุกคนต่างรู้ดี คนที่สามารถไปร่วมงานประลองเก้าสำนักใหญ่ มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น คนเหล่านั้นเป็นใครนั้น ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ
โดยเฉพาะยอดฝีมืออายุไม่ถึงยี่สิบปี
แต่ครั้งนี้ สำนักอนุญาตให้ลูกศิษย์ใหม่เข้าร่วมการคัดเลือกได้ ทำให้ช่วงอายุนี้เกิดความคึกคักและน่าสนใจขึ้นมาทันที
สายตาของทุกคน ต่างมองไปที่ซิงเฟยกับมู่เฉิน
ในเวลานี้ พวกเขาสองคนกลายเป็นกุมารทองกับกุมารีหยกคนใหม่ของสำนักฉีซานแล้ว
สำหรับคำขนานนามนี้ ซิงเฟยไม่ได้สนใจอยู่แล้ว มู่เฉินที่เป็นคนโง่แบบนี้ เธอไม่ได้มองเขาอยู่ในสายตาอยู่แล้ว
แต่ดูจากหน้าตาแล้ว มู่เฉินดูแก่กว่ามู่หงด้วยซ้ำ
เขาอายุไม่ถึงยี่สิบปีจริงๆเหรอ?
เรื่องนี้ ซิงเฟยรู้สึกสงสัยมากๆ
ในเวลานี้ ยันต์สื่อสารของเธอก็ส่องสว่างอีกครั้ง
จากนั้นสีหน้าของเธอก็ดูแย่มากๆ เธอรีบเก็บยันต์สื่อสาร และออกจากสำนักทันที
เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
ถ้าหลินหยุนรู้เรื่องนี้ ไม่รู้จริงๆว่าเขาจะทำยังไง!
ซิงเฟยมาถึงโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าหลินหยุนกำลังฝึกฝนอยู่ เธอรีบพูดทันที แย่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
หลินหยุนลืมตาขึ้นมาและถาม ค่อยๆพูด เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ซิงเฟยหายใจหอบและพูด คนของสำนักเทียนหยุนไปที่ตระกูลฉินอีกครั้ง! ครั้งนี้ คนที่นำทีมคือผู้อาวุโสใหญ่! เขาต่อสู้กับสามเยว่ทันที และทั้งสองคนก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน!
อย่างไรก็ตาม สามเยว่บาดเจ็บสาหัสมากกว่า ตอนนี้คนของสำนักเทียนหยุนได้ควบคุมตระกูลฉินเอาไว้แล้ว!
ฉินเหมยส่งข่าวมาบอกฉัน บอกให้ฉันทำยังไงก็ได้เพื่อรั้งคุณเอาไว้ ห้ามคุณกลับไปเด็ดขาด!
ครั้งนี้ สำนักเทียนหยุนเอาจริง พวกเขาต้องลงมือจัดการตระกูลฉินอย่างแน่นอน!
เมื่อหลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ลุกขึ้นทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปและดูแย่มากๆ
ซิงเฟยรีบพูดทันที ดูเหมือนว่าคนของสำนักเทียนหยุนจะเดาออกแล้วว่าคุณกับตระกูลฉินมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา การที่พวกเขาทำแบบนี้ เพื่อบีบบังคับให้คุณยอมปรากฏตัว!
ฉินเหมยพูดถูก คุณห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามโดยเด็ดขาด!
ในเมื่อสำนักเทียนหยุนได้ลงมือแล้ว พวกเขากำลังรอให้คุณเข้าไปติดกับดักอยู่แล้ว!
สีหน้าของหลินหยุ่นแย่มากๆ เขาครุ่นคิดชั่วครู่และถาม ทางฝั่งสำนักฉีซานเป็นยังไงบ้าง?
ซิงเฟยอึ้งไปชั่วครู่และพูด ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเลย ตอนนี้กำลังคัดเลือกลูกศิษย์ เพื่อเข้าร่วมการประลองเก้าสำนักใหญ่ ส่วนมู่หงนั้นเงียบมากๆ เขาอยู่ในสำนักตลอด! ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย
อืม ใช่แล้ว แต่มีการเคลื่อนไหวบางอย่างอยู่! เขาให้มู่เฉินกลับไปที่ตระกูลมู่ เพื่อไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของคุณ!
เห็นได้อย่างชัดเจน เขาสังเกตเห็นแล้วว่าคุณเป็นภัยอันตรายต่อเขา!
ตอนนี้เขาระแวดระวังตัวมากๆ เขาคงไม่ยอมออกจากสำนักฉีซานง่ายๆหรอก เพราะเขาไม่อยากให้โอกาสคุณได้ลงมือสังหารเขา!