จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1279 หวงฉาวถอนหายใจ
แต่ว่า
หลังจากที่เงากระบี่แหลกละเอียดลงแล้วนั้น
ก็กลับคืนร่างเดิมอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
แล้วก็กลับมาห่อหุ้มร่างกายของหลินหยุนใหม่อีกครั้ง
ทุกครั้งที่ไม้บรรทัดวัดนภากระหน่ำโจมตี
เงากระบี่ก็ก่อตัวกลับคืนร่างเดิมอย่างรวดเร็วในทุกครั้ง
ส่วนหลินหยุนที่อยู่ตรงใจกลาง
ต่างก็สงบนิ่งดั่งภูเขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
ปล่อยให้พลังที่มองไม่เห็นเข้าปะทะบีบอัดได้ตามอำเภอใจ
จากอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นี้ของหวงฉาว
เขาสัมผัสได้ถึงพลังขอบเขต
แต่ขอบเขตลักษณะนี้
ก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งมากเท่าไร
เพียงแค่เกิดขึ้นเล็กน้อยจากพลังนี้เท่านั้น
ซึ่งก็มาจากไม้บรรทัดวัดนภาในมือของเขานั่นเอง
ไม่ใช่ว่าหวงฉาวจะสามารถควบคุมพลังขอบเขตได้สักหน่อย
หวงฉาวดวงตาเป็นประกาย
หลังจากที่เขาโจมตีติดต่อกันนั้น
ไม้บรรทัดวัดนภาที่เกิดจากการกลายร่างของลำแสงนับไม่ถ้วนก็ได้มลายหายไป
บนหน้าผากของเขาก็มีหยาดเหงื่อปรากฏขึ้นจำนวนไม่น้อย
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นี้ สำหรับเขาแล้ว
ถือว่าต้องสูญสิ้นพลังงานไปไม่น้อยเลยทีเดียว
สูดหายใจลึก
หวงฉาวเก็บไม้บรรทัดวัดนภาขึ้น
จากนั้น
ก็ได้ทำการโค้งตัวคำนับต่อหลินหยุนด้วยความเคารพอย่างที่สุด
บุตรอริยสัจมีพลังบำเพ็ญที่สูงส่งไร้เทียมทาน หวงฉาวมิอาจเทียบได้!
ความรู้สึกที่หลินหยุนมีต่อหวงฉาวนั้น
แน่นอนว่าไม่ถึงกับชอบหรือรังเกียจ
แม้ว่าเขาจะสังหารเจียงเฉิงแห่งสำนักเทียนหยุน
รวมถึงผู้อาวุโสอีกหลายคน
ซึ่งเป็นไปได้ว่าในสายตาของคนในสำนักเทียนหยุนนั้น
คงจะเป็นสภาพการณ์ที่จะต้องตายจากกันไปข้างใดข้างหนึ่งแล้ว
แต่ในจิตใจของหลินหยุนนั้น
กลับไม่ได้ใส่ใจอะไรมากขนาดนั้น
ตลอดเวลามานี้
เขามีเป้าหมายที่ชัดเจนอย่างที่สุด
นั่นก็คือเจียงเฉิงกับมู่หงสองคนนี้
ส่วนที่ว่าได้ลงมือสังหารผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนนับครั้งไม่ถ้วนนั้น
ก็เป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามข่มขู่คุกคามตระกูลฉิน
ข่มขู่คุกคามฉินเหมย
ก็เท่านั้นเอง
ระหว่างเขากับหวงฉาว
ก็ไม่ได้มีอะไร
ครั้งนี้
ก็เป็นเพียงการพบกันโดยบังเอิญเท่านั้น
พวกเขาไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องสังหารฝ่ายตรงข้าม
แน่นอนว่า
ถ้าหากลงมือสังหารหวงฉาวในที่ตรงนี้
โอกาสที่เขาจะหลบหนีเอาตัวรอดไปได้นั้น
มีน้อยมาก
หลินหยุนพูดขึ้นว่า ไม่ลงมือต่อแล้วเหรอ?
หวงฉาวเองก็ตรงไปตรงมา โดยพูดขึ้นว่า อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เมื่อสักครู่นี้ เป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันสามารถแสดงออกมาได้ ภายใต้การต่อสู้ที่ไม่ถึงขั้นต้องเอาเป็นเอาตาย
แต่ก็ยังคงไม่สามารถทำลายการป้องกันของบุตรอริยสัจลงได้
ดังนั้น
ต่อให้ฉันจะแสดงพลังอื่นต่อไปอีก
ก็คงไม่เกิดผลอะไรไปมากกว่านี้แล้ว!
บุตรอริยสัจมีพลังบำเพ็ญที่สูงส่งไร้เทียมทาน
ลึกล้ำคาดการณ์ไม่ถึงจริง ๆ!
หวงฉาวนับถือ!
ขณะที่พูด
หวงฉาวก็โค้งตัวอีกครั้ง
คำนับต่อหลินหยุนอย่างเคารพ
ใบหน้าของหลินหยุนไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ
ส่งเสียงฮึเบา ๆ
จากนั้นก็หันหลังแล้วย่ำขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วจากไป
แต่ในขณะนั้นเอง
หวงฉาวก็ได้เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
เขารีบพูดขึ้นว่า ท่านบุตรอริยสัจโปรดหยุดก่อน!
หลินหยุนหันหลังกลับมา
แล้วจ้องมองไปที่หวงฉาวอีกครั้ง
หวงฉาวพูดต่อขึ้นว่า ท่านบุตรอริยสัจ หวงฉาวยังมีเรื่องขอร้องอีกหนึ่งเรื่อง!
เมื่อครู่ ได้รับรู้ชื่นชมถึง พลังการป้องกันของท่านบุตรอริยสัจไปแล้ว!
หวงฉาว ยังต้องการที่จะรับรู้ชื่นชมถึงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์การโจมตีของท่านบุตรอริยสัจดูบ้าง!
หวังว่าท่านบุตรอริยสัจ จะสามารถแสดงให้ชมเป็นบุญตาสักหน่อย!
ขณะที่พูด ก็โค้งคำนับอย่างเคารพอีกครั้ง
หลินหยุนเคลื่อนสายตา และพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า นายแน่ใจเหรอ?
หวงฉาวได้ยินดังนั้น ก็รีบพูดขึ้นว่า ขอบคุณมากที่ท่านบุตรอริยสัจให้การชี้แนะ!
หลินหยุนส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา และพูดขึ้นว่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นฉันก็จะแสดงให้นายได้ชมตามที่ต้องการ!
เมื่อพูดจบ
มือถือดาบเฮ่าเทียน พลังที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ของโลกใบนี้ ได้ระเบิดปะทุขึ้นในทันที
ลมหายใจที่น่าสะพรึงกลัวจนไม่สามารถอธิบายได้
พลันทำให้ทุกคนตกใจหวาดหวั่นไปทั้งหมด
ราวกับว่าทุกคนได้หยุดชะงักที่จะหายใจ
ขณะนั้นเอง
หลินหยุนก็ได้ฟาดฟันกระบี่เข้าไปที่หวงฉาว
หวงฉาวตื่นตกใจอย่างที่สุด
ติ่งเล็กก็พลันปรากฏขึ้น
และถูกเขาเขวี้ยงขึ้นไปในอากาศ
ติ่งเล็กที่อยู่เหนือศีรษะของเขา
กำลังล่องลอยหมุนวนไปมาอย่างบ้าคลั่ง
ด้วยการที่ติ่งเล็กลอยวนเวียนไปมาไม่หยุดนั้น
ก็ได้ปลดปล่อยลำแสงสีทองจำนวนมากออกมา
ลำแสงได้ปกคลุมห่อหุ้มร่างกายของหวงฉาวเอาไว้
กลายเป็นแผงกั้นลำแสงที่หนาแน่น
เวลานี้
กระบี่ผกผันของหลินหยุนก็ฟาดฟันเข้าใส่
กระหน่ำโจมตีจนลำแสงสีทองเหล่านั้นแหลกละเอียดไปทั้งหมด
หวงฉาวส่งเสียงฮึคร่ำครวญขึ้นทันที
พร้อมกับกระอักเลือดออกมา
แต่ในขณะนั้นเอง
ลำแสงสีทองที่ปลดปล่อยออกมาจากติ่งเล็กก็ได้ปกคลุมห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้อีกครั้ง
พลังอานุภาพของกระบี่แผ่กระจายไปทั่ว
ปะทะกับลำแสงสีทองอย่างไม่หยุด
ติ่งเล็กที่อยู่เหนือศีรษะของหวงฉาว ก็สั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง
ความเร็วของการหมุนวนก็ยิ่งเพิ่มระดับรุนแรงขึ้นไปอีก
หลินหยุนเห็นสถานการณ์ดังนั้น
ก็ตวาดเสียงแข็งขึ้นว่า ผกผัน!
เมื่อพูดคำว่า ผกผัน ขึ้น
ภายใต้พลังอานุภาพของกระบี่ที่โหมกระหน่ำ
ราวกับว่าความว่างเปล่าทั้งหมดได้สั่นสะเทือนขึ้น
เหมือนกับว่าชั้นฟ้าชั้นดินกำลังจะแตกสลายลงอย่างไรอย่างนั้น
พลังอานุภาพอันน่าสะพรึงกลัวไร้เทียมทาน
ได้ฟาดฟันลงไปอีกครั้ง
จนทำให้ติ่งเล็กที่อยู่เหนือศีรษะของหวงฉาวกระเด็นลอยไปไกล
เกิดเสียงดังตูมตามสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วปฐพี
ในขณะเดียวกัน
หวงฉาวเองก็กระเด็นออกไปด้วยเช่นกัน
พลังการป้องกันทั้งหมดได้แหลกสลายลงไป
ในขณะที่กระเด็นลอยออกไปนั้น
ก็ได้กระอักเลือดออกมาอย่างไม่หยุด
ได้รับบาดเจ็บสาหัส
บริเวณที่ไกลออกไปนับพันเมตร
หวงฉาวได้ควบคุมร่างกายของตนเอาไว้
และรีบกลืนกินโอสถเข้าไป
สีหน้าท่าทางจึงค่อย ๆ มีอาการดีขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นก็แวบหายตัวไป
มาอยู่ที่ตรงเบื้องหน้าของหลินหยุน
พร้อมกับถอนหายใจยาว
หวงฉาวโค้งคำนับและพูดขึ้นว่า ขอบคุณมากที่ท่านบุตรอริยสัจให้การชี้แนะ!
หลินหยุนพูดขึ้นว่า ตอนนี้คงเพียงพอแล้วล่ะสิ?
หวงฉาวพูดว่า น้อมส่งท่านบุตรอริยสัจ!
หลังจากที่หลินหยุนแววตาเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่ง
ก็ย่ำขึ้นในอากาศแล้วเหาะเหินจากไป
พริบตาเดียวก็หายวับไปจากสายตาของทุกคน
เห็นหลินหยุนจากไปแล้ว
นิ่งเป่ยเฉินและคนอื่น ๆ ก็ได้รีบตรงเข้ามายังด้านข้างของหวงฉาวอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าหวงฉาวจะพ่ายแพ้แล้ว
แต่ในเวลานี้
สายตาของทุกคนที่มองมายังหวงฉาวนั้น ต่างเต็มไปด้วยความชื่นชมยกย่องอย่างที่สุด
ศิษย์พี่หวง!
วันนี้ท่านช่วยทำให้พวกเราได้เปิดโลกทัศน์ใหม่เลยทีเดียว!
คิดไม่ถึงว่าท่านจะสามารถต่อสู้กับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ ได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันแบบนี้!
ดูเหมือนว่า
คำร่ำลือที่กล่าวกันไว้มานาน จะเป็นจริงอย่างที่ว่ากันไว้!
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ที่ว่าในเด็กหนุ่มรุ่นหลังของโลกคุนชางนั้น!
ที่จะสามารถนำมาเปรียบเทียบกับศิษย์พี่หวงฉาวได้นั้น คงจะมีเพียงบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจท่านนี้ หรือว่าพระบุตร และบุตรธยานะเท่านั้นจริง ๆ!
อีกทั้งจากการต่อสู้ที่น่าตื่นตะลึงเมื่อสักครู่นี้!
แม้ว่าศิษย์พี่หวงฉาวจะเป็นรองอยู่บ้างก็ตาม!
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจแล้ว
ก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมาก!
ศิษย์พี่หวงช่างแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งนัก!
นิ่งเป่ยเฉินพูดจบ
เด็กหนุ่มหัวล้านคนนั้นก็สูดหายใจลึก
พยักหน้าและพูดขึ้นว่า ศิษย์พี่หวงก็ยังคงเป็นศิษย์พี่หวง! เก่งกาจมากจริง ๆ! พวกเราคงจะไม่มีวันเทียบเคียงได้เพราะมีฝีมือที่ห่างไกลกันเกินไปอย่างมาก!
หวงฉาวได้ยินดังนั้น
กลับถอนหายใจด้วยสีหน้าที่จำยอม
และส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย
เห็นว่าเขามีลักษณะท่าทางที่หดหู่
นิ่งเป่ยเฉินและคนอื่น ๆ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยขึ้น
ศิษย์พี่หวง ท่านเป็นอะไรไป?
ทำไมถึงได้หดหู่ถึงขนาดนี้?
ไม่ทันรอให้หวงฉาวได้พูดขึ้น
เด็กหนุ่มหัวล้านที่อยู่ด้านข้างก็พลันพูดขึ้นว่า ฉันเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่หวงน่าจะกำลังเศร้าโศกเสียใจต่อความพ่ายแพ้ของเขาอยู่ เพราะว่าเป้าหมายของศิษย์พี่หวงนั้น ไม่เพียงแค่ต้องการที่จะมีความสามารถที่เท่าเทียมกันกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ แต่ต้องการที่จะเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามให้ได้!
พูดถึงตรงนี้ ก็มองไปที่หวงฉาวและพูดขึ้นว่า ศิษย์พี่หวง ที่ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหมล่ะ?
สายตาของทุกคน จ้องมองมาที่หวงฉาวอีกครั้ง
ในขณะนั้นเอง หวงฉาวก็หัวเราะขึ้นอย่างขมขื่น พร้อมกับส่ายศีรษะ
ไม่ใช่แบบนั้น!
ที่จริงแล้ว พวกนายมองเห็นแค่เพียงภายนอก เหมือนว่าฉันได้พ่ายแพ้อย่างน่าเสียดายต่อบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจเท่านั้น!
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระหว่างฉันกับเขา แตกต่างห่างไกลกันลิบลับ!
อะไรนะ?
เป็นไปได้อย่างไร?