จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1297 ไปยังทะเลกวางยักษ์
ถ้าหลินหยุนพูดจริง งั้นมู่หงน่ากลัวเกินไปจริงๆ
ไม่เพียงแต่จะระมัดระวังรอบคอบ ยังโหดเหี้ยมอำมหิตด้วย
คนประเภทนี้ รับมือได้ยากมาก
หลินหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ ทำแบบนี้ ยิ่งปิดหูปิดตาคนได้ไม่ใช่เหรอ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ใช่คนใส่ไฟเรื่องนี้ ไม่มีทางมีคนรู้ว่า เขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!
กลับกัน
เขาสังหารน้องชายแท้ๆ ของตัวเอง
ในความคิดของทุกคน!
เขาคือคนที่โชคร้ายที่สุด!
ซิงเฟยพูดอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย แล้วนายแน่ใจได้ยังไง ว่านี่เป็นเหยื่อที่เขาปล่อยออกมา
หลินหยุนพูดว่า ยืนยันไม่ได้ แต่ในช่วงที่อยู่เมืองฉีซาน ได้สืบเกี่ยวกับเขา สันนิษฐานได้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้ ทำเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ!
สำหรับเรื่องนี้ ซิงเฟยเห็นด้วย
มีหลายคน ดูภายนอกไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ภายในชายก็ชั่ว หญิงก็เลว
ยิ่งยิ้มให้คุณสดใสเท่าไร ตอนลงมือก็ยิ่งโหดเหี้ยมอำมหิตมากเท่านั้น
สูดหายใจลึก ซิงเฟยมองหลินหยุน แล้วถามว่า ต่อไปเราจะทำยังไง
หลินหยุนพูดว่า ไม่ต้องกลับสำนักฉีซานแล้ว! เราไปอีกที่หนึ่งกัน! ที่นั่นน่าจะสนุกมาก
ทันใดนั้นซิงเฟยอยากรู้ทันที รีบถามว่า ที่ไหน
หลินหยุนพูดว่า ทะเลกวางยักษ์!
หา!
เมื่อซิงเฟยได้ยิน ถึงกับอุทานออกมาทันที
จริงเหรอ!
ฉันโตขนาดนี้ ได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับทะเลกวางยักษ์นับไม่ถ้วน!
แต่ยังไม่เคยไปเลย!
ได้ยินคนพูดกันว่า ทุกก้าวในทะเลกวางยักษ์ล้วนอันตราย!
นายจะไปจริงเหรอ
หลินหยุนพยักหน้า แล้วพูดว่า ข้อแรก งานประลองยุทธเก้าสำนักจัดขึ้นที่นั่น! ข้อสอง ฉันมีความสนใจในทะเลกวางยักษ์จริงๆ!
เขาไม่ได้สนใจทะเลกวางยักษ์ แต่สนใจที่ทะเลกวางยักษ์มักจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และมีสมบัติเด้งออกมาจากในนั้น
ตอนนี้เขาต้องการสมบัติล้ำค่า
จากผลการฝึกตนของเขาในตอนนี้ ไม่สามารถหาสมบัติสร้างยาทองระดับเทพ ได้ด้วยวิธีอื่น
ไปยังทะเลกวางยักษ์ บางทีอาจได้เจอโชคดี
และคนอย่างเขา ก็โชคไม่เลวมาตลอด!
เมื่อซิงเฟยได้ยิน ก็พูดอย่างตื่นเต้น ได้ๆๆๆ งั้นเรารีบออกเดินทางเถอะ! ไปทะเลกวางยักษ์กัน! ฉันจะดูสิว่าทะเลกวางยักษ์จะอัศจรรย์เหมือนในตำนานจริงหรือเปล่า!
พูดพลาง เธอสะบัดมือไปบนใบหน้า
ภายใต้หน้ากาก หน้าตาของเธอเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ร่างกายเคลื่อนไหวทันที เงาลำแสงลอยออกมา
เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวสีขาวทั้งตัว
ลมปราณบนตัวเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
เหมือนเป็นคนละคนกับเมื่อครู่
เห็นการเปลี่ยนแปลงบนตัวเธอ หลินหยุนอดอุทานออกมาอย่างตกใจไม่ได้
หน้ากากบนใบหน้าซิงเฟย ดูน่าสนใจจริงๆ!
ถ้าไม่ตรวจสอบโดยการสัมผัส แม้แต่ตัวเขายังมองไม่ออก
เอารถเมฆออกมา ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
ส่วนทรายเทียนเหอ ช่างมันเถอะ
เดิมทีสำหรับพวกเขาแล้ว การเดินทางครั้งนี้ ต้องการดูว่าจะล่อมู่หงออกมาได้หรือเปล่า
ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว งั้นคงไม่มีอะไรแล้ว
……
หลังผ่านไปสองเดือน
ณ เมืองกวางยักษ์พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลกวางยักษ์ ไม่ถึงพันลี้
หลินหยุนกับซิงเฟย เดินเข้ามาในเมือง
เมืองกวางยักษ์ไม่ใหญ่ แต่เนื่องด้วยงานประลองยุทธเก้าสำนัก ใกล้เข้ามาทุกที
ในเมืองกวางยักษ์ เริ่มมีผู้บำเพ็ญเซียนจากต่างแดน เข้ามาเป็นจำนวนมาก
ครั้งนี้เป็นงานประลองยุทธขนาดใหญ่ ต้องคึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน
อีกอย่าง ตั้งแต่ช่วงนี้ไป โลกคุนชางเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย
ดังนั้นจึงต้องดึงดูดสายตาโลกให้มากยิ่งขึ้น
เวลาสองเดือนนี้ ข่าวที่ออกมาของบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ บุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ ถูกพูดถึงไปทั่วทั้งคุนชาง
แต่หลินชางฉองที่โดนสำนักเทียนหยุนไล่ค้นหา ตอนนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
สำหรับเรื่องนี้ สำนักเทียนหยุนก็จนปัญญา
สรุปแล้ว คนที่สร้างความวุ่นวายอย่างหลินชางฉอง เหมือนระเหยหายไปอย่างไรอย่างนั้น
ไม่ว่าสำนักเทียนหยุนจะตามหาอย่างไร ก็หาไม่เจอ
ใครก็ไม่คาดคิดว่า หลินหยุนมาถึงเมืองกวางยักษ์แห่งนี้แล้ว
ตอนนี้ เวลาประมาณเที่ยง
ทั้งสองเดินเอ้อระเหยในเมืองกวางยักษ์
เสียงเรียกให้ซื้อของสองข้างถนน ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะนั้น จู่ๆ ด้านหน้ามีความโกลาหลเกิดขึ้น
เกวียนที่ดูสูงส่ง ลากโดยกวางหกตัว เคลื่อนตัวมาอย่างช้าๆ
ด้านหน้าเกวียน มีลูกน้องที่สวมเครื่องแต่งกายเหมือนกัน กำลังเปิดทางให้
ทำให้คนบริเวณรอบๆ จำนวนไม่น้อย พากันไม่พอใจ
มีคนพูดอย่างรังเกียจว่า ใครกัน กล้าอวดดีขนาดนี้เลยเหรอ นั่งเกวียนหรูหราในเมืองกวางยักษ์ เพื่อเรียกความสนใจจากทุกคนเหรอ
เมื่อได้ยินคำพูดของคนนี้ เพื่อนข้างๆ รีบพูดห้ามว่า เบาๆ หน่อย ท่านนี้เป็นคนใหญ่คนโตอย่างแท้จริงเชียวนะ!
เมื่อคนที่พูดก่อนหน้านี้ได้ยิน จึงรีบถามว่า หืม คนใหญ่คนโตอะไร
เพื่อนพูดเบาๆ ว่า ท่านนี้เป็นเจ้าเมืองน้อยของเมืองกวางยักษ์ ฉวี่เทียนซิน คุณชายเทียนซิน! นายอย่ามองว่าสำนักกวางยักษ์เป็นสำนักอันดับกลาง หนึ่งในสิบแปดสำนักเต๋า แต่ณ ที่แห่งนี้ ในเมืองกวางยักษ์ ถึงเป็นคนของเก้าสำนักใหญ่ ก็ไม่กล้าขัดแย้งอะไรกับพวกเขาจริงๆ!
คนที่พูดคนแรกพูดอย่างสงสัยว่า ทำไมล่ะ มังกรแข็งแกร่งกดขี่งูเจ้าถิ่นได้ยากงั้นเหรอ คงไม่ใช่อย่างนั้นมั้ง ทั้งโลกคุนชาง ยังมีสิ่งที่เก้าสำนักใหญ่ไม่กล้าหาเรื่องอีกเหรอ
เพื่อนพูดว่า บอกแล้วไง! ถ้าเป็นที่อื่น ก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่มีใครกล้าหาเรื่องเก้าสำนักใหญ่ ฐานะของเก้าสำนักใหญ่น่าเคารพเลื่อมใส พูดคำไหนคำนั้น มีอำนาจในการพูดที่ยิ่งใหญ่!
แต่ที่นี่คือเมืองกวางยักษ์!
ไม่เหมือนกัน!
นาย……ช่างเถอะ นายรู้ไว้ก็พอแล้ว!
เมื่อคนแรกได้ยิน รีบพูดว่า อย่าสิ! ฉันมาเมืองกวางยักษ์เป็นครั้งแรก ไม่รู้เรื่องพวกนี้ พูดมาสิ นี่มันเพราะอะไรกันแน่ ทำไมในเมืองกวางยักษ์ ขนาดเก้าสำนักใหญ่ จึงไม่อยากขัดแย้งกับสำนักกวางยักษ์!
เพื่อนพูดว่า นี่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสำนักกวางยักษ์ นอกจากนั้น นายเห็นเมืองแห่งนี้แล้วใช่ไหม เมืองแห่งนี้เก่าแก่มากใช่ไหม
คนแรกที่พูดพยักหน้า แล้วพูดว่า เก่าแก่จริงๆ!
เพื่อนพูดว่า เพราะอย่างนี้ไง ฉันจะบอกนายให้นะ เมืองกวางยักษ์แห่งนี้ ประวัติศาสตร์ยาวนานไม่ต่างจากโลกคุนชางเท่าไร นี่เป็นเมืองในสมัยโบราณ!
เมื่ออีกคนได้ยินถึงกับสูดหายใจเฮือก พูดอย่างไม่อยากเชื่อว่า อะไรกัน มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ
เพื่อนพยักหน้าแล้วพูดว่า นายคิดว่าไง่ล่ะ! อีกอย่างเมืองกวางยักษ์ น่าจะเป็นเมืองโบราณ ที่เหลืออยู่เพียงเมืองเดียว ที่นี่มีค่ายกลยุคโบราณกาลแห่งหนึ่ง แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
อีกทั้งเมืองแห่งนี้ มีเพียงคนของสำนักกวางยักษ์ที่จะใช้มันได้
เมื่อกระตุ้นมัน
ถึงเป็นยอดฝีมือยาทองระดับเก้า ก็ไม่มีความสามารถเพียงพอ!
นั่นหมายความว่า
ถึงพูดว่าสำนักกวางยักษ์ อาจจะไม่แข็งแกร่ง!
เป็นเพียงสำนักอันดับกลาง!
แต่ขอแค่อยู่ที่นี่ พวกเขาจึงปลอดภัยหายห่วง!
เก้าสำนักใหญ่ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้!
แน่นอนว่า!
จริงหรือเท็จ ฉันก็ไม่แน่ใจนัก!
แต่ดูจากข่าวลือ น่าจะไม่ใช่เรื่องโกหก!
คนนั้นสูดหายใจเฮือก แล้วพูดว่า ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะคุณชายเทียนซินท่านนี้ ถึงโอ้อวดได้ถึงเพียงนี้!