จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1310 คิดไปเอง
สีหน้าหลินหยุนไร้อารมณ์ พูดอย่างราบเรียบว่า ไม่ได้สนใจ
พูดพลาง เขาหันไปมองซิงเฟยที่อยู่ด้านหลัง เราไปกันเถอะ!
พูดจบ กำลังจะพาซิงเฟยออกไป
ทันใดนั้น เสิ่นปิงชิงหายตัวแวบ มาขวางหน้าหลินหยุนกับซิงเฟยเอาไว้
คิดจะไปงั้นเหรอ
ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!
คนไร้ยางอายแบบนาย!
วันนี้ต้องตามฉันกลับไปสำนักอริยสัจ รอให้สำนักฉันจัดการ!
ถ้าไม่ตามฉันไป!
วันนี้นายก็ตายที่นี่ซะเถอะ!
พูดจบ กระบี่ยาวถูกชักออกมาอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ลมปราณอันเย็นยะเยือกบนตัวเธอ ก็แผ่ซ่านออกมาทันที
แววตาหลินหยุนวูบไหว สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
เขารังเกียจคนที่ชวนทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลเป็นที่สุด
ตอนนี้เห็นการกระทำของหญิงสาวคนนี้ หลินหยุนเริ่มโกรธเคือง
เขาสะบัดมือทันที มีบางอย่างที่มองไม่เห็น แผ่ปกคลุมออกไป
วินาทีต่อมา ตัวของเสิ่นปิงชิงลอยกระเด็นออกไป
ถึงแม้เธอเป็นอัจฉริยะของสำนักอริยสัจ แต่มีผลการฝึกตนเพียงแค่ยาทองระดับห้า
ผลการฝึกตนเช่นนี้ ในบรรดาคนอายุน้อย ทั่วทั้งโลกคุนชาง ถึงเรียกได้ว่าอยู่อันดับต้นๆ หาได้ยาก
แต่ไม่นับว่าเป็นคนเก่งไร้เทียมทาน เทียบไม่ได้แม้กระทั่งหวงฉาว
แน่นอนว่ายังห่างชั้นกับหลินหยุนเยอะมาก
ตัวลอยกระเด็นออกไป กระอักเลือดออกมาทางปาก
สีหน้าของเสิ่นปิงชิงเปลี่ยนไปอย่างมาก
เธอไม่คิดไม่ฝันว่า เธอจะห่างชั้นกับหลินหยุนมากขนาดนี้
แน่นอนว่าเพราะเธอไม่เห็นการต่อสู้ ระหว่างหลินหยุนกับยอดฝีมือสองคน ของสำนักเต๋าเฉินเซียวเมื่อครู่
ไม่งั้นเธอคงไม่หลวมตัวเช่นนี้
หลินหยุนส่งเสียงหึ ไม่ประมาณกำลังตนเอง! ถ้ายังโวยวายอีก อย่าโทษฉันที่ฆ่าเธอ!
เสิ่นปิงชิงยิ่งโมโหเข้าไปอีก เหมือนจะพ่นไฟออกจากตาทั้งสองข้าง กัดฟันเค้นเสียงพูดออกมาว่า คนต่ำช้าไร้ยางอาย ไม่รู้จักละอาย อย่างนายจะฆ่าฉันได้เหรอ
คนที่จะตายจริงๆ คือนาย!
ตายซะเถอะ!
พูดพลาง แผ่นหยกชิ้นหนึ่งถูกโยนออกไปจากมือ
ในขณะเดียวกัน แผ่นหยกมีแสงสว่างวาบขึ้นมา
ลมปราณที่ทำลายทุกอย่าง ถูกปลดปล่อยออกมาทันที
หลินหยุนหน้าเปลี่ยนสี!
ความรู้สึกอันตรายเป็นอย่างมาก กำลังใกล้เข้ามา
เขาหันไปคว้าตัวซิงเฟย ใช้แรงทั้งหมด เหวี่ยงซิงเฟยออกไปนอกเมือง
ในขณะเดียวกัน เข้าใช้ท่าที่ห้าของสิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าห้ามสิ่งวายชนม์
แต่แผ่นหยกนั้นระเบิดออกมา พลานุภาพอันน่ากลัวที่ถูกปลดปล่อยออกมา ทัดเทียมได้กับการโจมตีของยอดฝีมือยาทองระดับแปด
พลานุภาพน่ากลัวที่แข็งแกร่ง ทำให้ท่าห้ามสิ่งวายชนม์ของหลินหยุน แทบจะใช้การอะไรไม่ได้เลย
ระยะเวลาเพียงครู่หนึ่ง ก็ถาโถมเข้ามาอีก
ประกายแสงงดงามพุ่งขึ้นมาบนตัวหลินหยุน นี่คือร่างกายที่ยังไม่ถึงระดับสูงของเขา
ในขณะเดียวกัน มีบันไดที่เหมือนภาพลวงตา ปรากฏอยู่กลางอากาศ
ตอนนี้หลินหยุนไม่กล้าลังเลอะไรทั้งนั้น ใช้ผลการฝึกตนอย่างบ้าคลั่ง และเหยียบมันขึ้นไป
หนึ่งก้าว
สองก้าว
สามก้าว
ตอนเดินได้ถึงก้าวที่สาม
สีหน้าของหลินหยุนซีดเผือดเป็นอย่างมาก
เริ่มสั่นอย่างรุนแรงไปทั้งตัว
ทันใดนั้น หลินหยุนกัดฟันกรอด และแตะลงตรงหว่างคิ้ว
เลือดสารจิงพุ่งออกมาทางปาก
ทันใดนั้นสารจิงและเลือดเผาไหม้ขึ้นทันที
จู่ๆ เหมือนเขาแก่ลงหลายสิบปี
หลินหยุนแผดเสียงออกมา ในที่สุดก็เดินก้าวที่สี่ได้
ตอนเดินก้าวที่สี่ พลังของฟ้าดินอันน่ากลัว ถาโถมเข้ามาในอากาศ
พลังที่มองไม่เห็นครอบคลุมไปทั่วฟ้าดิน ราวกับฟ้าดินกำลังสั่นสะเทือน
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหยุนย่ำฟ้าเก้าที เดินมาถึงก้าวที่สี่ หลังจากก้าวเข้าสู่แดนยาทอง
แต่นี่คือขีดจำกัดของเขาในตอนนี้ เกิดขึ้นจากการเผาไหม้สารจิงและเลือดอย่างบ้าคลั่ง
พลังอันน่ากลัวสองพลัง ปะทะเข้าหากันอย่างรุนแรง
เห็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อันน่ากลัวนี้ของหลินหยุน ทุกคนถึงกับเบิกตาโต และพากันหนีอีกครั้ง
ทันใดนั้น ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น เหมือนฟ้าถล่มดินทลายอย่างไรอย่างนั้น
หลินหยุนพ่นเลือดออกมา หล่นลงมาบนพื้น กระแทกกับพื้นนอกเมืองอย่างรุนแรง
ส่วนอีกด้านหนึ่ง
เสิ่นปิงชิงก็ไม่คิดไม่ฝัน เธอเอาม้วนยกคุ้มกันชีวิต ที่อาจารย์มอบให้ออกมาแล้ว แต่กลับมีผลลัพธ์เช่นนี้
พลานุภาพเทพอันยิ่งใหญ่ ก็ทำให้เธอกระเด็นออกไปทันที
พ่นเลือดออกมาจากปากเป็นทางยาว
แต่การสั่นสะเทือนที่เธอได้รับ ไม่นับว่ามากเท่าไร
สูดหายใจลึก ขยับกระบี่ยาวในมือ
เสิ่นปิงชิงเด้งตัวขึ้นไปกลางอากาศ เหาะไปตรงที่ที่หลินหยุนตกลงไปเมื่อครู่
เพราะเธอเห็นว่าหลินหยุนยังไม่ตาย
ตอนที่เธอกำลังเหาะมา แรงที่มองไม่เห็นพุ่งเข้ามาทันที
บีบคอของเสิ่นปิงชิงเอาไว้แน่น ดึงเธอลงมาจากกลางอากาศ มาอยู่ตรงหน้าหลินหยุน
ตอนนี้หลินหยุน เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด บนตัวมีแผลเต็มไปหมด
แสงสลัวๆ ล้อมรอบตัวเขาเอาไว้ทั้งตัว
จากการมองเห็นด้วยตาเปล่า เขากำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
แต่เพิ่งจะฟื้นฟูได้เพียงเล็กน้อย บาดแผลก็ปริออกมาอีกครั้ง
ร่างกายของหลินหยุนสั่นอย่างรุนแรง หายใจรุนแรง
ผ่านไปนาน จึงเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นปิงชิง
เธอใช้ได้เลยนี่!
ฉันไม่ได้สัมผัสกับวินาทีแห่งความเป็นตายมาแบบนี้มานานแล้ว!
แต่เธอคิดจะใช้การโจมตีแบบนั้น มาฆ่าคนอย่างหลินชางฉองเหรอ
ขอโทษด้วยนะ เธอคิดอย่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!
ฉันบอกแล้วไง!
ถ้าเธอยังโวยวายต่อหน้าฉันอีก ฉันจะฆ่าเธอ!
ตอนนี้เธอเชื่อแล้วหรือยัง
หลินหยุนพูดออกมาช้าๆ อย่างสบายๆ
แต่พลังที่มองไม่เห็นของเขา กลับควบคุมเสิ่นปิงชิงเอาไว้อย่างอยู่หมัด
แววตาเสิ่นปิงชิงฉายแววตื่นตระหนก
แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ถูกแทนที่ด้วยการเยาะเย้ยและไม่พอใจอย่างไม่สิ้นสุด!
ถึงเธอตกใจมาก ที่หลินหยุนรอดจากการโจมตีที่ได้จากอาจารย์
แต่ตอนนี้กลับไม่กลัวแล้ว!
เธอพูดอย่างไม่พอใจว่า ที่แท้นายก็คือหลินชางฉอง! มิน่าล่ะถึงมีผลการฝึกตนเช่นนี้!
แต่!
อย่างนายจะกล้าฆ่าฉันเหรอ
ฉันเป็นศิษย์อัจฉริยะของสำนักอริยสัจ
อาจารย์ของฉันเป็นผู้อาวุโสของสำนักอริยสัจ!
เป็นศิษย์น้องของเจ้าสำนัก!
ถ้านายฆ่าฉัน อาจารย์ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่ ทั้งสำนักอริยสัจก็ไม่ปล่อยนายไว้เหมือนกัน!
หลินชางฉองใช่ไหม!
ก่อนหน้านี้นายล่วงเกินสำนักหยุนเทียนเป็นอย่างมาก!
ถ้านายฆ่าฉัน จะเป็นการล่วงเกินสำนักอริยสัจเป็นอย่างมาก!
นายคิดว่าสำนักอริยสัจของฉัน จะเหมือนสำนักขยะอย่างสำนักเทียนหยุนเหรอ คิดว่าจะทำอะไรนายไม่ได้เหรอ
ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก!
ถ้าสำนักอริยสัจอยากฆ่านาย ถึงนายหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว ก็ไม่มีทางที่จะรอดได้!
ถ้ารู้แล้ว ก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!
และกลับสำนักไปกับฉัน!
ให้เจ้าสำนักกับผู้อาวุโสของสำนักฉันจัดการ!
ถึงจะหนีไม่พ้นจากความตาย!
แต่ยังไงก็ยังมีชีวิตอยู่ได้มากขึ้นสักหน่อย!
ถึงรอดได้ไม่กี่วัน ก็ยังดีกว่าการที่ตายทันที!
ถ้านายเป็นคนฉลาด น่าจะรู้ว่าควรจะเลือกอะไร!
หลินหยุนอึ้งไป เขาไม่คิดไม่ฝันว่าคนคนหนึ่งจะคิดไปเองได้ถึงขั้นนี้!