จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1315 เข้าสู่ทะเลกวางยักษ์
หลินหยุนกลับคืนสู่สภาพหน้าตาดั้งเดิมของตนเองแล้ว
ชุดสีขาว พลิ้วไสวราวกับหิมะ
กอปรกับเพราะการที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ลักษณะท่าทางของเขาค่อนข้างจะกลัดกลุ้มไม่เบิกบานใจ จึงคล้ายคลึงกับลักษณะท่าทางของนักวิชาการ
แต่แววตาของเขา ในเวลานี้ก็ยังคงเด็ดเดี่ยว ล้ำลึก และเป็นประกายเช่นเคย
เห็นว่าเขากลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว ซินเฟยก็ตกใจขึ้น และรีบพูดว่า นายบ้าไปแล้วเหรอ?
หลินหยุนพูดว่า ไม่เป็นไร เดิมทีคนที่รู้จักใบหน้าของฉันก็มีจำนวนไม่มากอยู่แล้ว!
ชะงักลงชั่วครู่ แล้วหลินหยุนก็สูดหายใจลึก สายตาแสดงความครั่นคร้าม และพูดขึ้นว่า ในโลกคุนชางนั้น เหมือนว่าฉันจะถดถอยมากเกินไป! จิตใจที่สงสารเหมือนจะมากเกินไปหน่อย!
ซินเฟยตกใจ ไม่เข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของหลินหยุน จึงได้ถามขึ้นว่า หมายความว่าอย่างไร?
หลินหยุนส่ายศีรษะ โดยที่ไม่ได้อธิบาย
แต่มีเพียงแค่ตัวเขาเองที่เข้าใจเป็นอย่างดีที่สุด
ตั้งแต่ที่มาถึงโลกคุนชาง เขามีความรู้สึกเหมือนว่าถูกบีบบังคับอยู่ตลอดเวลา
การกระทำของเขา อ่อนแอมากเกินไป เหมือนจะสูญเสียความเป็นตัวตนของเขาไปแล้ว
เขาไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับชาติที่แล้วหรือไม่
การบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ สถานการณ์ที่ประสบพบเจอในครั้งนี้ ทำให้เขาตื่นตัวขึ้นมากแล้ว
หรือว่าจะพูดอีกอย่างหนึ่งว่า มุ่งมั่นเด็ดขาดมากขึ้น
ลำพังแค่โลกคุนชางขนาดเล็ก พวกมดแมลง พวกที่อ่อนแอ พวกที่ไม่ได้เรื่องแม้แต่จิตปฐมก็ยังไม่รู้จัก
คิดไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือกับกษัตริย์เซียนที่ยิ่งใหญ่อย่างเขานี้ ซึ่งมันช่างเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามกษัตริย์เซียนอย่างมากที่สุด!
กษัตริย์เซียน ห้ามดูหมิ่นเหยียดหยาม!
ผู้ที่ดูหมิ่นเหยียดหยามนั้นจะต้องตาย!
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจไปที่ทะเลกวางยักษ์
เขาอยู่ที่โลกคุนชางนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาแค่สั้น ๆ แล้ว
เกิดความกังวลต่อญาติสนิทที่อยู่ภายนอก และก็เป็นกังวลต่อเย่เยว่ที่ได้จากลาไปแล้ว ด้วยเช่นกัน
โดยจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบเพิ่มขั้นพลังบำเพ็ญแล้ว
สำหรับเขาในตอนนี้ สถานที่ที่เป็นไปได้มากที่สุดนั้น ก็คือทะเลกวางยักษ์
หลังจากที่เดินทางไปยังเมืองกวางยักษ์แล้วนั้น เขาได้เกิดความสนใจกับทะเลกวางยักษ์อย่างที่สุด
เห็นว่าหลินหยุนไม่ได้ตอบ
ซินเฟยจึงพูดแทนขึ้นว่า เวลานี้พวกเราไปที่ทะเลกวางยักษ์ มีความเสี่ยงต่ออันตรายสูงมาก เรื่องนี้ฉันคิดว่านายเองคงน่าจะรับรู้เป็นอย่างดี
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า ฉันรู้ แต่ก็ไม่เป็นไร
ซินเฟยได้ยินดังนั้น ก็ทำปากมุ่ย เดิมทีนายเองก็พูดแบบนี้ ดังนั้นจึงพากันเข้ามาในเมืองกวางยักษ์ แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไรล่ะ?
แต่ว่าคำพูดนี้ไม่ได้พูดออกมาโดยตรงอย่างแน่นอน
……
ครึ่งเดือนผ่านไป บริเวณด้านข้างของทะเลกวางยักษ์
บริเวณรอบนอกในระยะที่ห่างจากทะเลกวางยักษ์ประมาณหนึ่งร้อยลี้ ก็มองเห็นตรงด้านหน้าว่ามีเมฆดำปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งครอบคลุมขอบเขตพื้นที่กว้างขวางอย่างน่าเหลือเชื่อ และใต้ฝ่าเท้าก็ได้กลายเป็นทะเลทรายไปแล้วด้วย
เดินหน้าต่อไปอีกหนึ่งร้อยลี้ ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ก็ถูกหมอกดำปกคลุมเอาไว้ทั้งหมด
เหมือนว่าเพียงแค่ก้าวย่ำเข้าไปในทะเลทรายที่มีหมอกดำปกคลุมนั้น ก็เหมือนกับได้ก้าวข้ามผ่านไปยังอีกโลกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
ต่อให้ระยะห่างยังคงมีอีกกว่าหนึ่งร้อยลี้ แต่ก็ยังคงสามารถรับรู้และสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึง ความไม่สงบสุขของโลกนั้น
เสียงสังหารดังสะเทือนเลือนลั่น ทะลุผ่านไปยังท้องฟ้าชั้นสูง
เจตนาสังหารเหมือนกับยิ่งจะแผ่กระจายออกมาอย่างไรอย่างนั้น
ต่อให้ในระยะห่างขนาดนี้ ก็ยังสามารถรับรู้และสัมผัสได้อย่างชัดเจน
อีกอย่างก็คือกลิ่นอายของพลังสังหารอันโหดเหี้ยมที่รุนแรง ซึ่งถึงขั้นที่ไม่สามารถจะรุนแรงเพิ่มขึ้นได้อีกแล้ว
ลำพังแค่กลิ่นอายของพลังสังหารอันโหดเหี้ยมนี้ ถ้าหากเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่มีพลังบำเพ็ญที่ค่อนข้างอ่อนแอ อยู่ที่บริเวณด้านนอกเป็นเวลานาน เป็นไปได้ที่สภาพจิตใจคงจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ซินเฟยสูดลมหายใจลึก และพูดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ยินถึงทะเลกวางยักษ์มาบ้าง ซึ่งก็ถือว่าพอที่จะเข้าใจสถานที่แห่งนี้เล็กน้อย แต่หลังจากที่มาถึงที่นี่จริง ๆ แล้ว และพบเห็นด้วยตาของตนเองแล้ว จึงสามารถรับรู้ได้ถึงความตื่นตะลึงอย่างแท้จริงนี้ได้!
ช่างน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมากเลยจริง ๆ
แต่หลินหยุนกลับมีสีหน้าท่าทางที่นิ่งเฉยอยู่ตลอด
สำหรับโลกคุนชางแล้ว หรือว่าสำหรับผู้บำเพ็ญเซียนของโลกคุนชางแล้วนั้น สถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากแล้ว
แต่สำหรับเขาแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ทำให้จิตใจของเขานั้นตื่นเต้นจนเกินไปนัก
หากจะบอกว่าตื่นเต้นนั้น ก็ยังมีบ้างเล็กน้อย
นั่นก็คือกลิ่นอายเจตนาสังหารที่ปลดปล่อยออกมาจากทะเลกวางยักษ์ ซึ่งสามารถทำให้เขายืนยันได้อย่างหนักแน่น
โลกคุนชางนี้ หรือว่าโลกใบนี้ ในยุคโบราณกาล มีอารยธรรมการฝึกฝนบำเพ็ญเซียนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
สนามรบ ที่นี่ก็มีสนามรบที่มีกลิ่นอายสังหารอย่างแท้จริง
ทั้งสองคนขับเคลื่อนรถเมฆ มุ่งหน้าต่อไปยังที่ตั้งของทะเลกวางยักษ์
ครึ่งวันผ่านไป ในที่สุดก็มาถึงบริเวณด้านข้างของทะเลกวางยักษ์แล้ว
หลังจากที่มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว ความรู้สึกก่อนหน้านี้นั้นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ซินเฟยพูดขึ้นว่า ทะเลกวางยักษ์นี้ ได้ยินว่าในทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นนั้นต่างก็ไม่มีกฎเกณฑ์ที่จะสามารถอธิบายได้
ถ้าหากพวกเราต้องการที่จะได้รับผลประโยชน์จากที่ตรงนี้ อย่างนั้นก็คงต้องนั่งรอคอยให้โชคหรือลาภลอยมา
ไม่รู้ว่าจะปรากฏขึ้นมาเมื่อไร!
พูดจากใจจริงแล้ว ซินเฟยคิดว่าคงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอก
เธอรู้ว่า หลินหยุนคาดหวังที่จะเพิ่มระดับขั้นพลังบำเพ็ญอย่างมาก จึงจำเป็นต้องอาศัยสมบัติทั่วฟ้าดินจำนวนมาก เพื่อมาหลอมยาทอง
แต่นี่เป็นเรื่องที่ยากมากจริง ๆ
หลินหยุนมองไปยังทะเลกวางยักษ์เบื้องหน้าที่มีหมอกดำปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น ผ่านไปสักพัก หลินหยุนก็พูดขึ้นว่า เธอทราบไหมว่างานประลองยุทธเก้าสำนักนั้นจะจัดขึ้นที่ไหน?
ซินเฟยตกใจ และพูดว่า ตำแหน่งที่พวกเราอยู่กันในตอนนี้ น่าจะห่างจากสถานที่จัดงานประลองยุทธเก้าสำนักในระยะการเดินทางอีกไม่กี่วัน ซึ่งถือว่าไม่ไกลกันมากนัก โดยอยู่ทางทิศใต้ของเมืองกวางยักษ์
หลินหยุนพยักหน้า จากนั้นก็จ้องมองไปยังท่ามกลางหมอกดำนั้นอีก
ซินเฟยทำปากมุ่ยและพูดขึ้นว่า นายกำลังมองดูอะไรอยู่เหรอ? เหมือนว่ามองเห็นจริง ๆ อย่างนั้นแหละ สถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างมาก เมื่อใช้ดวงจิตสำรวจตรวจสอบ ก็จะถูกสังหารลงทันที
ก่อนหน้านี้เคยมีคนจำนวนมาก ได้เข้าสู่ด้านในของทะเลกวางยักษ์ แต่กลับไม่มีใครที่จะสามารถมีชีวิตรอดออกมาได้
ตามตำนานที่ร่ำลือ เหมือนจะมีหนึ่งคนที่ออกมาได้ แต่ก็กลายเป็นคนบ้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว
แต่ ถึงจะเป็นบ้าก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้ผลตอบแทน
ตระกูลของคนผู้นี้ ได้กลายเป็นเจ้าของเมืองกวางยักษ์ และก่อตั้งสำนักกวางยักษ์ขึ้น
หลังจากครั้งนั้นเป็นต้นมา ก็มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้ทยอยบุกเข้าสู่ทะเลกวางยักษ์ แต่ก็ไม่มีใครกลับออกมาได้เลย
และหลังจากครั้งนั้นแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะเข้าไปอีกเลย
นั่นเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองอย่างแท้จริง
หลินหยุนสงบเงียบไปสักพักใหญ่ ราวกับว่าสายตาของเขานั้นสามารถมองทะลุหมอกดำที่หนาทึบนี้ได้อย่างไรอย่างนั้น
เธอรู้ไหมว่าทำไมทะเลกวางยักษ์แห่งนี้ ถึงไม่มีกฎเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงอย่างแน่ชัด?
และในขณะที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีสมบัติทั่วฟ้าดินบางอย่างผุดพุ่งขึ้นมา
สำหรับเรื่องนี้ โลกคุนชางมีตำนานร่ำลืออะไรบ้างไหม?
ซินเฟยได้ยินดังนั้นก็อดตกใจไม่ได้ จากนั้นก็ส่ายศีรษะและพูดขึ้นว่า ไม่มี ที่จริงแล้วเรื่องนี้นั้น ไม่เพียงแต่นายเท่านั้น ผู้บำเพ็ญเซียนทุกคนในโลกคุนชางต่างก็รู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างมากกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าตกลงมันเป็นเพราะเหตุใด
ตามจริงแล้วที่นี่ก็เป็นเพียงแค่สนามรบขนาดใหญ่ในยุคโบราณกาลเท่านั้นเอง
แต่ทำไมสนามรบถึงได้ปรากฏเรื่องลักษณะนี้ขึ้นได้
ก็ไม่มีผู้ใดทราบได้
โอ้วใช่เลย เหมือนจะมีตำนานที่คาดเดาอยู่เรื่องหนึ่ง
โดยกล่าวว่าท่ามกลางทะเลกวางยักษ์นี้ มีสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมากตัวหนึ่ง แม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ว่าดวงจิตยังคงมีอยู่ ซึ่งนาน ๆ ครั้ง จะเกิดการเคลื่อนไหวขึ้น
และเป็นเพราะท่ามกลางทะเลกวางยักษ์นี้ มียอดฝีมือที่เก่งกาจน่าเหลือเชื่อจำนวนมากมายได้สูญเสียชีวิตลง จึงทำให้มีสมบัติทั่วฟ้าดินมากมายด้วยเช่นกัน
ทุกครั้งที่ดวงจิตอันทรงพลังนั้นเกิดการเคลื่อนไหว ก็จะโยนขว้างสมบัติทั่วฟ้าดินจำนวนมากมายนั้นออกมา
นี่ก็คือตำนานร่ำลือที่น่าจะพอทำให้ทุกคนยอมรับและเชื่อถือเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้น ก็จะเกินเลยไปอย่างมากแล้ว!