จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1338 ตกตะลึงกันถ้วนหน้า
หญิงสาวนับสิบที่งามสง่าประดุจนางสวรรค์
คนที่นำอยู่หน้าสุดก็คือสองเยว่นั่นเอง
การมาเยือนของพวกเธอ ก็หมายถึงการมาเยือนอย่างเป็นทางการของสำนักหยุนเยว่ด้วยเช่นกัน
ผู้ที่อยู่ด้านหลังหยุนเยว่ ก็คือสามเยว่ แปดเยว่ เก้าเยว่ สิบเยว่ และศิษย์อัจฉริยะคนอื่นๆแห่งสำนักหยุนเยว่
ในฐานะที่เป็นศิษย์รักของสองเยว่
และก็เป็นถึงลูกรักสวรรค์ที่หนึ่งแห่งสำนักหยุนเยว่
นางฟ้าอิ้งเยว่ก็ย่อมต้องเป็นหนึ่งในนั้น
ทว่า พวกสี่เยว่ กลับไม่อยู่ พวกเธอไม่ได้มาที่นี่ด้วย
เห็นได้ชัด ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหนือความคาดหมายอะไรสำหรับคนอื่นๆ
ในขณะที่พวกสองเยว่เหยียบฝีเท้าลงบนพื้น
พวกลู่หยู่และคนอื่นๆที่อยู่ในศาลาก็ย่อมไม่กล้าชักช้าเสียมารยาท ต่างเร่งฝีเท้ากันขึ้นมาต้อนรับ
ยังคงเป็นลู่หยู่และศิษย์น้องหญิงที่ดูหน้านิ่งเย็นชาของเขาเดินนำหน้า
พวกเขาโค้งคำนับพวกสองเยว่ทันที และเอ่ยว่า ลู่หยู่และศิษย์แห่งแปดสำนัก น้อมคารวะผู้อาวุโสแห่งสำนักหยุนเยว่ทุกท่าน
ทันใดนั้น ก็มีหนึ่งในหญิงสาวคนหนึ่ง หรือก็คือหญิงสาวเสื้อชมพูที่รับตัวนิ่งโม่เมื่อกี้นี้ เดินออกมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะน้อมตัวคารวะสองเยว่และเอ่ยว่า ชิงเหอน้อมคารวะเจ้าสำนักและท่านอาจารย์ใหญ่
สองเยว่พยักหน้า ก่อนจะยื่นป้ายประจำตัวออกมาให้ดู แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า นี่คือป้ายประจำตัวของสำนักหยุนเยว่
ลู่หยู่รีบยื่นมือออกไปรับอย่างไว ผู้อาวุโสไม่ถึงกับต้องส่งมอบด้วยตนเองหรอก ท่านอย่าได้เกรงใจอนุชนอย่างเราเลย!
สองเยว่ตอบว่า ไม่เป็นไร
ลู่หยู่รีบส่งมอบป้ายประจำตัวกลับคืนให้สองเยว่ และเอ่ยว่า ผู้อาวุโส ไม่มีปัญหาอะไรครับ เชิญผู้อาวุโสและศิษย์น้องหญิงทุกคนเข้ามาข้างในเถอะ!
สองเยว่รับป้ายประจำตัวมาเก็บไว้ ทันใดนั้น หล่อนไม่ได้รีบเข้าไปข้างใน แต่กลับมองไปยังคนสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้
ขณะเดียวกัน
ทุกคนต่างก็มองตามสายตาของสองเยว่ไปที่สองคนนั้น
ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่คือหลินหยุนและซิงเฟยนั่นเอง
เมื่อเห็นหลินหยุนและซิงเฟยกำลังมุ่งมาทางนี้
ฉับพลันนั้น ทุกคนต่างเริ่มเก็บอาการกันไม่อยู่
เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ?
หนุ่มสาวสองคนนี้ กล้ามาที่นี่ตอนนี้ได้ยังไง?
นี่คือเหล่าผู้แข็งแกร่งของสำนักหยุนเยว่เชียวนะ!
พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
พวกเขารนหาที่ตายอยู่หรือไง?
เมื่อเห็นหลินหยุนและซิงเฟยเดินมา
ไม่ใช่แค่เหล่าคนที่กำลังต่อแถว แม้แต่พวกลู่หยู่เองก็คาดไม่ถึงด้วยเช่นกัน
พวกเขาอดเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้าไม่ได้
ไม่รู้ว่าหลินหยุนและซิงเฟยคิดจะทำอะไรกันแน่
ทันใดนั้นเอง
หลินหยุนและซิงเฟยก็เดินมาถึงตรงหน้า
สิ่งที่ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเหลือเชื่อกำลังเกิดขึ้นแล้ว
เห็นเพียงสองเยว่เผยยิ้มอ่อนๆ แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า รอนานแล้วสินะ?
หลินหยุนส่ายหน้าเบาๆ ตอบว่า ยังดี
สองเยว่พูดต่อว่า งั้นเราเข้าไปด้วยกันเถอะ!
หลินหยุนพยักหน้า ไม่มากความอะไรอีก
จากนั้นก็ก้าวเดินไปยังทางเข้า
ส่วนสองเยว่ก็เดินเคียงข้างเขา
ณ วินาทีนี้ ทุกคนต่างรู้สึกอึ้งและตะลึงงัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เจ้าหนุ่มคนนี้ เป็นใครกันแน่?
นั่นคือเจ้าสำนักแห่งสำนักหยุนเยว่เชียวนะ!
ทำไมถึงมาเดินอยู่กับชายหนุ่มคนนี้ได้?
อีกทั้งพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?
ชั่วขณะนั้น
แทบจะทุกคนที่มีเครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในหัว
พวกลู่หยู่เองก็มึนงงสับสนด้วยเช่นกัน
จนมีครู่หนึ่งที่ลืมแม้กระทั่งหลีกทางให้พวกเขาแล้วด้วยซ้ำ
เห็นเขาไม่หลบถอย สองเยว่จึงปริปากเอ่ยเสียงเบาว่า ทำไม ยังมีปัญหาอะไรอีกงั้นหรือ?
ลู่หยู่ได้ยินได้นั้น ก็พลันหลุดออกจากภวังค์ ไม่มีครับๆ ท่านโปรดอย่าได้เข้าใจผิด เชิญเข้าไปข้างในเถอะครับ!
พูดเสร็จ ก็รีบหลีกทางให้ทันที
ส่วนสองเยว่และหลินหยุนก็เข้าไปข้างในทีเดียวโดยไม่รอช้า
ผู้คนที่อยู่ตรงบริเวณทางเข้า เมื่อเห็นหลินหยุนและสองเยว่เดินเข้าไปข้างในด้วยกันก็ล้วนแต่อึ้งชะงักหยุดอยู่กับที่
ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?
เป็นไปได้ยังไงกัน?
เมื่อกี้นี้ หรือก็คือก่อนเวลาชาหนึ่งจอกสั้นๆ
หนุ่มสาวคู่นี้ ต่างเป็นบุคคลที่อาจถูกขับไล่ออกไปด้วยซ้ำ
หากไม่ใช่เพราะลู่หยู่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์
หรือหากไม่ใช่เพราะศิษย์แห่งเก้าสำนักใหญ่ยังเห็นแก่หน้า
เกรงว่าสองคนนี้คงจะนอนตายอยู่นี่ไปนานแล้ว
ทว่า นี่เพิ่งจะผ่านพ้นไปยังไม่ทันไร ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นอีกแล้ว
กระทั่งเจ้าสำนักสองเยว่แห่งสำนักหยุนเยว่เองก็รู้จักชายหนุ่มคนนี้ด้วยงั้นเหรอ?
หรือว่า……
เจ้าสำนักสองเยว่มายื่นป้ายประจำตัวแสดงตัวตนถึงที่นี่ ก็เพื่อชายหนุ่มคนนี้อย่างงั้นเหรอ?
เพราะโดยทั่วไปแล้ว
การยื่นป้ายประจำตัวแสดงตัวตนสำนักแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าสำนักมาดำเนินการด้วยตัวเอง
งั้นก็แสดงว่า มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
การมาเยือนของเจ้าสำนักสองเยว่ ก็คือเพื่อชายหนุ่มตรงหน้านี้
ทว่า ตกลงคนคนนี้เป็นใครกันแน่?
ต้องรู้ไว้ว่าสำนักหยุนเยว่ไม่มีศิษย์เพศชายแม้แต่คนเดียวด้วยซ้ำ
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ต้องไม่ใช่คนของสำนักหยุนเยว่แน่ ๆ
อีกอย่าง สังเกตจากท่าทางของเจ้าสำนักสองเยว่แล้ว ก็ดูจะเป็นกันเองกับชายหนุ่มคนนี้มากๆ
กระทั่งใช้เพียงคำว่าเป็นกันเองมาเปรียบเปรยไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ กลับควรใช้คำว่า……เคารพ?
นี่มันชักจะยิ่งเพ้อเจ้อเข้าไปกันใหญ่!
นั่นมันสำนักหยุนเยว่ หนึ่งในเก้าสำนักใหญ่เชียวนะ!
นั่นก็เป็นถึงเจ้าสำนักแห่งสำนักหยุนเยว่ด้วยเช่นกัน!
แต่แน่นอน
แม้จะว่ากันว่าตอนนี้สำนักหยุนเยว่จะเกิดอุบัติการณ์บางอย่าง ที่อาจนำไปสู่การเกิดศึกภายในได้
ทว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สองเยว่ก็ยังคงเป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักหยุนเยว่อย่างไร้ข้อกังขา
ตำแหน่งนี้สูงส่งเพียงใด?
หากให้พูดถึงผู้บำเพ็ญเซียนหญิงทั้งโลกคุนชาง
บางที สองเยว่ก็ควรจะเป็นคนที่หนึ่งเสียด้วยซ้ำ
หญิงแกร่งที่ไร้เทียมทานขนาดนี้
กลับให้ความเคารพนับถือ……กับเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาคนนี้เนี่ยนะ?
จะเป็นไปได้ยังไงกัน?
ยังคงเป็นคำถามเดิม ชายหนุ่มคนนี้ เป็นใครกันแน่?
แน่นอน
ว่าดูจากการปะทะกันกับนิ่งโม่ช่วงสั้นๆเมื่อกี้นี้
ก็พอจะดูออก ว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องมีพลังบำเพ็ญที่แกร่งกล้าอย่างแน่นอน
อย่างน้อยๆ ก็คงจะอยู่ในขั้นแดนยาทองระดับสี่แล้ว
อายุเพียงเท่านี้ ก็สามารถมีพลังบำเพ็ญถึงแดนยาทองระดับสี่ได้
หากนับรวมเหล่าศิษย์อัจฉริยะแห่งเก้าสำนักด้วยแล้วล่ะก็
ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
ทว่า อย่างไรก็ตาม อย่าว่าแต่ยอดฝีมือทองแดนยาทองระดับสี่เลย ถึงจะเป็นหวงฉาว หรือบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือจะเป็นบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะอะไรก็ตามแต่ ก็ไม่น่าจะได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้จากเจ้าสำนักสองเยว่ด้วยซ้ำ!
คนคนนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่?
แต่เห็นได้ชัด ว่าคำถามนี้ของพวกเขาย่อมไม่ได้รับคำตอบอยู่แล้ว
เพราะหลังจากที่หลินหยุนกับซิงเฟยเข้าไปยังทางเข้าพร้อมกับสองเยว่และคนอื่นๆ พวกเขาก็เดินไปไกลแล้ว
และหากจะพูดถึงคนอีกคนที่ตกตะลึงมากที่สุด
จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอิ้งเยว่
ตอนที่อยู่ตรงหน้าทางเข้า เมื่อยามที่เธอเห็นหลินหยุนและซิงเฟยในแวบแรก ภายในใจก็พลันขึ้นๆลงๆประหนึ่งคลื่นพายุที่โหมกระหน่ำ
ยิ่งตอนที่หลินหยุนเดินมา ก็รู้สึกประหม่าจนใจแทบหยุดเต้น
เธอนึกแม้กระทั่งว่าหลินหยุนจะปะทะกับซือจุนของเธอ
เธอคิดมาตลอด ว่าถ้าหลินหยุนปะทะกับซือจุนของเธอขึ้นมาจริงๆ งั้นเธอก็ต้องปริปากอ้อนวอนแน่ ๆ
อย่างไรก็ตามแต่
ก็ไม่อาจให้ซือจุนลงมือกับผู้มีพระคุณของตัวเองได้
ทว่า สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงเลยก็คือ
เรื่องราวไม่เพียงแค่ไม่เป็นไปตามที่เธอกังวล กลับกันยังเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม
ซือจุนปฏิบัติตัวให้เกียรติและให้ความเคารพกับคนผู้นี้
ประหนึ่งว่าได้นัดแนะกับผู้มีพระคุณคนนี้ของเธอมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ซ้ำยังพาอีกฝ่ายเข้ามาข้างในอย่างง่ายดาย
หรือว่าซือจุนของเธอ จะรู้จักกับคนคนนี้ตั้งนานแล้วงั้นหรือ?
นอกจากที่ว่ามานี้ ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นใดอีกแล้ว!