จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1358 เผ่ามนุษย์ช่างซับซ้อนเหลือเกิน
เนิ่นนานหลายปี
เริ่มตั้งแต่สงครามใหญ่สมัยโบราณกาล พวกเขาเป็นเพียงสายเลือดเพียงเล็กน้อย ที่เหลืออยู่ทุกวันนี้
ถึงกระทั่งที่หลายต่อหลายครั้ง ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต
เพื่อการมีชีวิตรอดต่อไป พวกเขาถึงกระทั่งละทิ้งความบริสุทธิ์ในสายเลือด แต่งงานกับเผ่ามนุษย์หลายต่อหลายครั้ง จำใจทำให้สายเลือดของพวกเขาเบาบาง
ท้ายที่สุด โบราณกาลผ่านพ้นไป
พวกเขายื้อลมหายใจมาได้ แต่ก็ทำลายร่องรอยของเผ่าตัวเอง
สุดท้ายจึงมีชีวิตรอดต่อไป
นี่จึงเป็นเหตุให้สายเลือดของพวกเขา เบาบางจนถึงขั้นสุด
แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้
พวกเขาจะรุ่งเรืองและมีเกียรติขึ้นอีกครั้ง
ดังนั้นพวกจึงเตรียมตัวและสะสมพละกำลังอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งยังระมัดระวังตลอดเวลาด้วย
ไม่กล้าก้าวผิดแม้แต่ก้าวเดียว
ทุกวันล้วนอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก
ก่อนครั้งนี้ พวกเขาเคยลองพยายามเป็นหลายสิบครั้ง
เมื่อมีเผ่ามนุษย์ที่มีสายเลือดรุนแรง ปรากฏขึ้นในตระกูล พวกเขาจะบ่มเพาะอย่างตั้งใจ และเข้าไปลองพยายามในสุดหล้าทะเล
แต่ล้มเหลวทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้โจวฮ่าวปรากฏตัวออกมา ทำให้ทั้งตระกูลโจวของพวกเขา เห็นความหวัง
โจวฮ่าวเป็นคนที่เก่งกาจจริงๆ!
เก่งกาจไร้เทียมทาน!
ตั้งแต่โบราณกาลมานั้น พลังสายเลือดของเขารุนแรงที่สุด
พวกเขาเอาความหวังทั้งหมด ฝากไว้กับโจวฮ่าว
ดังนั้นนอกจากกลั่นยาและสมบัติล้ำค่าแล้ว พวกเขาล้วนมอบหรือทำสิ่งที่ทำได้ ให้กับโจวฮ่าวทั้งหมด
เพราะพวกเขาไม่เพียงแค่เห็นพรสวรรค์เก่งกาจ และพลังสายเลือดอันแข็งแกร่งบนตัวโจวฮ่าว ยังเห็นโชคชะตาอันแข็งแกร่งอีกด้วย
โชคชะตา!
ฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้
แต่มีเพียงพวกเขาที่รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จับต้องไม่ได้
ถึงโชคชะตาเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มันมีอยู่จริง!
แต่โจวฮ่าวที่ตระกูลโจวฝากความหวังไว้ทั้งตระกูล ให้โอกาสอย่างไม่จำกัดกับโจวฮ่าวกลับต้องตายในครั้งนี้
ตอนนี้ผู้อาวุโสเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก
และในตอนนี้ หลินหยุนพาซิงเฟยเหาะผ่านทะเลดำ เพิ่งลงมาสู่พื้น ซิงเฟยรีบดึงหลินหยุนเอาไว้ แล้วพูดว่า เดี๋ยวก่อน!
หลินหยุนอึ้งไป หันมามองซิงเฟย แววตาวูบไหว หลังจากนั้นจึงใช้มือตบแหวนเก็บของ โลงไม้วิญญาณที่ไม่มีฝาโลง ปรากฏออกมา
เขาสะบัดมือ โลงไม้วิญญาณหมุนเคว้งอยู่ในอากาศ เร็วขึ้นเรื่อยๆ
มันปลดปล่อยลมปราณออกมาทั้งหมด
แต่ลมปราณที่มองไม่เห็นและเย็นยะเยือก โดนพลังทิพย์ของหลินหยุนปกคลุมเอาไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน อัคคีกลุ่มหนึ่งปรากฏออกมา เริ่มแผดเผาโลงไม้วิญญาณอย่างต่อเนื่อง
ขณะนั้นเจียซินที่อยู่ในหลินไถ รีบพูดอย่างร้อนใจ นายบ้าหรือเปล่า นายจะใช้น้ำรวมสารไม้วิญญาณ กลั่นยาให้ผู้หญิงคนนี้เหรอ นี่เอาไว้ให้นายกลั่นยานะ!
เดิมทีมีโลงศพอยู่ ก็ไม่แน่ว่าจะก่อตัวได้หนึ่งหยด ให้นายใช้กลั่นยาได้ ตอนนี้นายจะเอาน้ำรวมสารไม้วิญญาณให้ผู้หญิงคนนี้ใช้เหรอ
ใช่แล้ว ซิงเฟยจะเริ่มกลั่นยาแล้ว
ถ้าไม่ได้เดินทางมาสุดหล้าทะเลในครั้งนี้ โอกาสในการกลั่นยาของซิงเฟย ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ไม่ว่าจะเหาะมาทะเลดำสองครั้ง หรือความกดดันที่ได้จากการไปหุบเขาก่อนหน้านี้ ทำให้ซิงเฟยได้ผลดีไม่น้อยเลยทีเดียว
นี่จึงทำให้เธอมีโอกาสกลั่นยาในครั้งนี้
และการกลั่นยาครั้งแรก คุณภาพจึงสำคัญเป็นอย่างมากอยู่แล้ว
อย่างเช่นการกลั่นยาครั้งแรก ใช้สมบัติแบบที่ใช้ทำยาทองระดับเหลือง งั้นการกลั่นยาครั้งที่สอง ถ้าใช้วัตถุดิบยาทองระดับฟ้า โอกาสที่จะสำเร็จเท่ากับศูนย์
แต่ถ้ามองกลับกัน
ครั้งแรกใช้สมบัติที่ใช้ทำยาทองระดับฟ้า ต่อจากนั้นใช้สมบัติที่มีระดับชั้นต่ำลงมาหน่อย ในการกลั่นยาต่อไป จะทำให้ง่ายขึ้นมาก
และตอนนี้ หลินหยุนจะเอาน้ำรวมสารไม้วิญญาณให้ซิงเฟยกลั่นยาครั้งแรก
เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับซิงเฟย
น้ำรวมสารไม้วิญญาณอันน้อยนิดนี้ หลังจากที่สูญเสียฝาโลงไป น้ำรวมสารไม้วิญญาณที่รวมตัวออกมา คงมีไม่ถึงระดับที่หลินหยุนใช้กลั่นยาทองระดับเทพ
แต่ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับชั้นฟ้า
นี่เป็นการสร้างรากฐานอันมั่นคง ให้กับการกลั่นยาต่อไปของซิงเฟย
หลินหยุนไม่สนใจคำพูดของเจียซิน ดูดเอาน้ำรวมสารไม้วิญญาณออกมาจากไม้วิญญาณ
ไม่นานไม้วิญญาณกลายเป็นขี้เถ้า เอาน้ำรวมสารไม้วิญญาณออกมาได้ครึ่งหยด
แววตาของหลินหยุนวูบไหว มองซิงเฟยแล้วพูดเสียงดังว่า กลืนเข้าไป ดูดซับเข้าไปที่ตันเถียน ใช้มันเป็นพื้นฐานในการกลั่นยาทอง!
ซิงเฟยรีบพยักหน้า จากนั้นนั่งขัดสมาธิ กลืนน้ำรวมสารไม้วิญญาณลงไป เริ่มกลั่นยาทองให้ตัวเองเป็นครั้งแรก
จากนั้นเริ่มกลั่น ดูดซับและหมุนเวียนอย่างไม่หยุด
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เจียซินที่อยู่ในหลินไถ ไม่รู้จะทำอย่างไร
แต่จะไม่ยอมรับความจริงตรงหน้าก็ไม่ได้ จึงอดถามออกมาไม่ได้ว่า นี่เป็นคู่ฝึกฝนของนายเหรอ ไม่น่าจะใช่นะ หยางแท้ของนายยังอยู่ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังบริสุทธิ์ไร้มลทิน ไม่น่าจะใช่คู่ฝึกฝน
ในเมื่อไม่ใช่คู่ฝึกฝน ทำไมนายถึงยอมสละถึงเพียงนี้
หลินหยุนพูดอย่างราบเรียบว่า เพื่อน!
เจียซินส่งเสียง ชิ ออกมา คำตอบของหลินหยุน ไม่สามารถทำให้เธอเชื่อได้
เผ่ามนุษย์จะยอมทุ่มให้ง่ายขนาดนี้ เพียงเพราะเป็นแค่เพื่อนงั้นเหรอ
เว้นเสียแต่สวรรค์กำลังล้อเล่น
แน่นอนว่าถึงไม่ได้ยืนยันอย่างแน่นอน อย่างน้อยเธอก็เคยเห็น แต่เพียงแค่ครั้งเดียว มิตรภาพระหว่างเพื่อนของเผ่ามนุษย์
นั่นก็คือระหว่างจักรพรรดิหวงตี้และจักรพรรดิหยานตี้
มีอยู่หลายครั้ง เธอมักจะรู้สึกว่าเผ่ามนุษย์ช่างซับซ้อนเหลือเกิน
ในหัวของพวกเขา มีโครงสร้างไม่เหมือนกับเผ่าในหลายๆ โลก
อย่างเช่นสงครามในตอนนั้น
จักรพรรดิหวงตี้และจักรพรรดิหยานตี้ ทำสงครามใหญ่กับชือโหยว ผลการฝึกตนของจักรพรรดิหยานตี้อ่อนแอที่สุด
ผลการฝึกตนของจักรพรรดิหวงตี้แข็งแกร่งกว่า ทั้งสองร่วมมือกัน ถึงจะพอต้านทานชือโหยวได้
จักรพรรดิหยานตี้รู้ว่าถ้าทำสงครามตามปกติ โอกาสของพวกเขาริบหรี่มาก
ดังนั้นจึงแผดเผาเลือดสารจิงและอายุขัย แลกมาด้วยการบาดเจ็บจนเกือบตาย ทำให้ชือโหยวบาดเจ็บสาหัส
และแน่นอนว่าชือโหยวโกรธมาก และจะฆ่าจักรพรรดิหยานตี้ก่อน
ชือโหยวโจมตีด้วยความโมโห ถึงมีการยื้อจากจักรพรรดิหวงตี้ แต่ก็เพียงพอที่จะทำลายล้างโลก
แน่นอนว่าจักรพรรดิหยานตี้ ที่บาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถต้านทานไหว
ในตอนนั้น จักรพรรดิหวงตี้ได้ตัดสินใจ ในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
เขาเลือกระเบิดตัวเองพลีชีพ
ตัดสินใจระเบิดตัวเอง ภายในสถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขากับชือโหยวพังพินาศไปด้วยกัน
และช่วยชีวิตจักรพรรดิหยานตี้ได้
อันที่จริง สถานการณ์ในตอนนั้น ใครก็รู้ว่า ถึงชือโหยวฆ่าจักรพรรดิหยานตี้ จักรพรรดิหวงตี้จะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ชือโหยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อถึงตอนนั้น
ใช้แรงอย่างเต็มที่อีกสักรอบ การฆ่าชือโหยว ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก
แต่เขาไม่ได้เลือกทำเช่นนั้น
นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ในกลุ่มผู้บำเพ็ญเซียนมากมายอย่างพวกเขา
กลุ่มผู้บำเพ็ญเซียนมากมาย เชิดชูผู้แข็งแกร่งอย่างสูงส่ง และให้ความสำคัญกับคำสาบาน
แต่ในตอนนั้น ในความคิดของพวกเขา ควรจะเป็นจักรพรรดิหยานตี้ระเบิดตัวเอง ส่วนจักรพรรดิหวงตี้รอดชีวิต ถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
สวรรค์แห่งนี้ มีเพียงเผ่ามนุษย์ที่ทำเช่นนี้
เลือกด้วยความโง่เขลา
แต่ก็มีหลายครั้ง ช่วงที่จำเป็นต้องเชื่อใจ ให้ความสำคัญ เผ่ามนุษย์จะแสดงความเจ้าเล่ห์เพทุบาย ออกมาอย่างไม่จำกัด แทบจะเหนือความคาดหมายของคน