จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1370 หลินชางฉองต้องตาย
มีเพียงยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าเหล่านี้ พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าการประลองครั้งนี้เป็นยังไง
ในเวลานี้ ในตำแหน่งของสำนักอริยสัจ
มีชายชราที่สง่างามมากๆและนั่งอยู่ตรงกลาง สายตาของเขามองไปที่เวทีตลอด จากนั้นเขาก็หันหน้าไปถามชายชราที่อยู่ข้างๆ ศิษย์น้อง คุณคิดว่าไง?
ชายชราคนนั้นก็หรี่ตาลงทันที และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แข็งแกร่งมากๆ พลังด้านนี้ของเขา ได้ฝึกฝนถึงจุดสูงสุดแล้ว
พลังด้านนี้ของเขา ในโลกคุนชาง คงไม่มีใครสามารถเทียบเขาได้แล้ว
แค่สะบัดมือก็สามารถทำได้ขนาดนี้ ถ้าให้เวลาเขาได้เตรียมตัว มันอาจจะน่ากลัวกว่านี้อีก!
ถึงแม้ตอนนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นฉันเป็นคนรับมือ ถ้าอยากจะทำลายมัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆเลย!
อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดจะทำลาย ก็คงสามารถทำลายได้!
ชายชราที่สง่างามมากๆลูบหนวดยาวๆของตัวเอง พยักหน้าและพูด ใช่แล้ว! พลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นมาพอสมควร! อีกไม่นานเขาคงกลายเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกคุนชางแล้ว!
หลังจากทั้งสองคนคุยกันจบ
ด้านบนเวที เจ้าสำนักจวู้หลิงและเจ้าสำนักเฮยสุ่ยยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาทันที สีหน้าของพวกเขาขาวซีดทันที
แต่ทางฝั่งสำนักเทียนหยุน กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
เขาหลับตาตัวเองอย่างเบาๆ ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ หรือไม่ก็กำลังเข้าฌานอยู่
ผ่านไปชั่วครู่ เจ้าสำนักสองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นพวกเขาสองคนก็กระอักเลือดออกมา และเดินถอยหลังทันที
พวกเขาสองคนลืมตาขึ้นมาทันที และมองไปที่เจ้าสำนักเทียนหยุน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว
พวกเขาสองกลัวจนเกือบจะลงไปนั่งกับพื้น
พวกเขาควบคุมร่างกายตัวเองอย่างยากลำบาก และหายใจหืดหอบ
ผ่านไปสักพัก ทั้งสองคนสบตากัน จากนั้นก็หันไปมองเจ้าสำนักเทียนหยุน พวกเขายกมือขึ้นมาและโค้งคำนับแล้วพูด ขอบคุณาผู้อาวุโสที่ออมมือให้พวกเรา!
เมื่อเจ้าสำนักเทียนหยุนได้ยิน เขาก็ลืมตาขึ้นมาทันที เขาถอนหายใจยาวๆและมองไปที่สองคนนั้นแล้วพูดเบาๆ สหายสองท่านเกรงใจมากเกินไปแล้ว!
ขณะพูด เขาก็หันหลังและลงจากเวทีทันที
เขาลงไปแล้ว เจ้าสำนักสองคนนั้นก็ลงจากเวทีเหมือนกัน
ชายชราของสำนักอริยสัจขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง และประกาศผลการประลองทันที
เดิมทีครั้งนี้เป็นโอกาสดีมากๆที่จะได้ตำแหน่งเก้าสำนักใหญ่ แต่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ หลังจากเริ่มการประลองเจ้าสำนักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนักเทียนหยุนและสำนักหยุนเยว่ที่อ่อนแอมากๆ แต่ครั้งนี้พวกเขาสามารถปกป้องตำแหน่งเก้าสำนักใหญ่ไว้ได้
ในเวลานี้ การประลองเก้าสำนักใหญ่ได้สิ้นสุดแล้ว
แต่ไม่มีใครจากไปเลย
เพราะทุกคนต่างรู้ดี ยังมีเรื่องตื่นเต้นให้ดู!
มันเป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตื่นเต้นมากๆ
การประลองเก้าสำนักใหญ่ครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด ให้ความรู้เหมือนเรื่องยิ่งใหญ่มากๆแต่จบลงอย่างง่ายๆเลย
การประลองลูกศิษย์วัยรุ่นอัจฉริยะครั้งแรก มันก็ไม่ได้รู้สึกน่าสนใจมากเท่าไหร่
เมื่อถึงการประลองของผู้อาวุโส มันถึงเริ่มมีความตื่นเต้นและสนุกขึ้นมา
โดยเฉพาะการขึ้นเวทีการประลองของบุตรอริยสัจ พระบุตร บุตรธยานะ และบุตรกระบี่ ทำให้การประลองเก้าสำนักใหญ่น่าสนใจมากขึ้น
แต่การท้าประลองของสำนักต่างๆในช่วงสุดท้ายนั้น
การประลองครั้งแรกระหว่างสำนักหยุนเยว่กับสำนักฉิวซานนั้น มันดุเดือดและน่าตื่นเต้นมากๆ
แต่เมื่อถึงการประลองของสำนักเทียนหยุน ไม่มีใครดูออกเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
สำหรับเจ้าสำนักเฮยสุ่ยและเจ้าสำนักจวู้หลิง พวกเขายืนนิ่งๆอยู่บนเวทีประมาณหนึ่งก้านธูปกว่าๆ จากนั้นพวกเขาก็กระอักเลือดออกมา หลังจากนั้นก็ยอมแพ้ทันที
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผลลัพธ์ของมัน ทำให้ทุกคนรู้สึกงงมากๆ เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปลอมเลย!
มีคนจำนวนไม่น้อย สงสัยว่ามันเป็นการประลองแบบปลอมๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเกิดความสงสัย แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมา
อย่างไรก็ตาม การประลองเก้าสำนักใหญ่ได้สิ้นสุดแล้ว
แต่ทุกคนไม่ได้ลืมเลย ยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่สิ้นสุด!
นั่นก็คือเรื่องของหลินชางฉอง!
คนๆนี้ ได้รับฉายาว่าเทพสังหารและอสุรกายเลือดเย็น
ในเมื่อสำนักอริยสัจเคยพูดแล้ว หลังจากการประลองเก้าสำนักใหญ่สิ้นสุด พวกเขาก็จะจัดการเรื่องนี้!
สำนักอริยสัจพูดออกมาแล้ว มันเหมือนกับน้ำที่ถูกสาดออกไปแล้ว ไม่สามารถกลับคำได้!
มีคนอยู่ตรงนี้นับหมื่นคน แต่มีคนจำนวนน้อยมากๆที่คิดจะช่วยเรื่องนี้
แต่ถ้ามีเรื่องตื่นเต้นให้ดู พวกเขาไม่ยอมพลาดอยู่แล้ว
พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำ หลินชางฉองคนนั้นเป็นคนยังไงและแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่
ดังนั้น พวกเขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าหลินชางฉองแข็งแกร่งจริงๆหรือเปล่า!
พวกเขาอยากเห็นหลินชางฉองที่ทำให้โลกคุนชางเกิดความวุ่นวาย ทำให้สำนักเทียนหยุนขายหน้า และกล้าสังหารลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักอริยสัจ เขาเป็นคนยังไงกันแน่!
เรื่องตื่นเต้นขนาดนี้ ไม่ได้หาดูกันได้ง่ายๆ!
ดังนั้นไม่มีใครยอมจากไปเลย ทุกคนต่างรอดูการกระทำของสำนักอริยสัจกับสำนักเทียนหยุน
ทางด้านสำนักอริยสัจ หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆเจ้าสำนัก หลังจากชายชราเดินลงมาจากเวทีแล้ว เธอก็บินขึ้นไปบนเวทีทันที
เธอมองไปที่บริเวณรอบๆด้วยสายตาเย็นชาและพูดอย่างเคร่งขรึมทันที ทุกท่าน ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังรอดูเรื่องตื่นเต้นอยู่!
ฉันไม่อยากห้ามพวกคุณ และไม่อยากขัดขวางทุกคนไปดูเรื่องที่ตื่นเต้น!
ในทางกลับกัน ฉันอยากให้ทุกคนไปดูเองกับตา อสุรกายอย่างหลินชางฉองโดนพวกเราสังหารจนเสียชีวิตยังไง!
อย่างไรก็ตาม ฉันขอเตือนทุกคนให้ทราบตอนนี้เลย!
มาดูเรื่องตื่นเต้นไม่เป็นไร แต่ทุกคนต้องมองดูอยู่ไกลๆและห้ามลงมือ และห้ามขัดขวางพวกเรา!
ฉันไม่รู้หรอกว่าในหมู่พวกคุณ มีใครบ้างที่มีความสัมพันธ์กับหลินชางฉองบ้าง สำหรับเรื่องนี้ฉันก็ไม่อยากรู้เหมือนกัน!
ไม่ว่าพวกคุณจะเป็นใคร มีสัมพันธ์อะไรกับหลินชางฉองหรือเปล่า ในเวลานี้ พวกคุณควรใจเย็นๆหน่อย อย่าทำเรื่องที่ทำให้ทุกคนต้องลำบากใจ!
อย่าคิดที่จะช่วยอสุรกายอย่างหลินชางฉองหลบหนี!
มิฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน!
ถึงแม้พวกคุณจะเป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ ถึงแม้คุณจะแข็งแกร่งและน่ากลัวมากๆ แต่คุณก็หยุดสำนักอริยสัจของเราไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม สำนักอริยสัจของเราจะทำให้พวกคุณชดใช้อย่างแสนสาหัส!
ขณะพูด สายตาของหญิงวัยกลางคนก็มองไปยังทิศทางของสำนักหยุนเยว่ทันที
มีคนจำนวนไม่มากที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของหลินหยุนกับสำนักหยุนเยว่ พวกเขารู้อยู่แล้ว การพูดของหญิงวัยกลางคนครั้งนี้ เป็นการเตือนสำนักหยุนเยว่ แน่นอนว่า นอกจากสำนักหยุนเยว่แล้ว อาจจะมีคนที่มีความเกี่ยวข้องกับหลินหยุนอยู่ตรงนี้ก็ได้
ผู้หญิงวัยกลางคนหันหน้ากลับมาและพูดอีกครั้ง ถ้ามีสหายท่านไหนอยากจะช่วย พวกเราสำนักอริยสัจไม่ปฏิเสธความหวังดีอยู่แล้ว ถ้าสหายที่ยอมช่วยพวกเราค้นหาจริงๆ เมื่อถึงตอนนั้น สำนักอริยสัจของเราก็จะมีค่าตอบแทนให้!
ขณะพูด ผู้หญิงวัยกลางคนก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังสุดหล้าทะเลที่อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้
ในเวลานี้ มียอดฝีมือจำนวนมากของสำนักอริยสัจ ก็บินตามไปทันที
ส่วนยอดฝีมือของสำนักเทียนหยุนกับสำนักฉีซานก็ตามไปทันที
ไม่ว่าจะเป็นยังไง ครั้งนี้ หลินชางฉองต้องตายอย่างแน่นอน!