จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1382 พบเจอฉินชิงถงอีกครั้ง
เธอในขณะนี้ ได้มองเห็นอนาคตที่สดใสไร้ที่สิ้นสุดของตัวเอง และถึงขนาดที่เริ่มคิดจินตนาการเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองอย่างไร้ขอบเขตด้วยแล้ว
เธอมีเรื่องราวมากมายที่ต้องการจะกระทำ ซึ่งทนไม่ไหวอยากที่จะลงมือกระทำในทันทีเลย
แต่ตอนนี้ยังคงไม่ได้ เธอจำเป็นต้องอดทน รอให้หลังจากทุกอย่างยืนยันชัดเจนอย่างแน่นอนก่อนแล้วถึงจะลงมือได้!
ขณะนั้นเอง สี่เยว่กวาดสายตามองไปที่ทุกคน ท้ายที่สุดได้มองไปที่สามเยว่ และพูดขึ้นว่า พี่สาม คำพูดของพี่สองตอนอยู่ที่สุดหล้าทะเลนั้น ได้พูดขึ้นต่อหน้าของพวกเราทุกคน ตอนนี้ เธอลองพูดความคิดเห็นของตัวเองมาสิ!
สามเยว่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจขึ้นโดยพลัน แทบจะตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งเธอคิดไม่ถึงว่า สี่เยว่จะถามคำถามแบบนี้ขึ้น แต่เธอก็พลันตั้งสติกลับคืนมาและนึกขึ้นได้ว่า สี่เยว่นั้นต้องการที่จะทำอะไร
โดยคิดที่จะอาศัยช่วงเวลาที่สองเยว่ยังกลับมาไม่ถึงที่สำนัก ดำเนินการตัดสินใจเรื่องสำคัญให้เสร็จเรียบร้อย
ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะขึ้น โดยมองไปที่สี่เยว่และพูดขึ้นว่า สี่เยว่ ดูเหมือนว่าที่เธอคิดจะขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนนั้น ช่างมุ่งมั่นแน่วแน่มากเสียจริงเลย!
แต่ก็ชัดเจนอยู่ว่า สองเยว่นั้นยังคงมีชีวิตอยู่!
การที่เธอคิดจะขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนนั้น เกรงว่าจะไม่สำเร็จเสียแล้ว!
และเธอเองก็ไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ!
ฉันขอกล่าวเตือนเธอหน่อยแล้วกันว่า ควรจะรู้จักตนเองให้มากขึ้นกว่านี้จะเป็นการดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีกับทุกคนขึ้น!
ไม่อย่างนั้นแล้ว เกรงว่าสำนักที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ คงจะต้องประสบกับการสั่นคลอนขึ้นบ้างอย่างแน่นอน!
ในคำพูดดังกล่าวนี้ แฝงไปด้วยการข่มขู่คุกคามอย่างหนัก
ความหมายแฝงก็คือ ต่อให้จะทำการลงมือ มีการแบ่งแยกเกิดขึ้นจริง ก็พร้อมทุกเมื่อ!
สรุปได้ว่า สี่เยว่ไม่มีทางที่จะได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนอย่างเด็ดขาด!
ลักษณะนิสัยของสามเยว่ ไม่เหมือนกับสองเยว่ ที่คิดไตร่ตรองมากมาย
ได้ยินที่สามเยว่พูด สี่เยว่ก็หัวเราเยาะ และพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า เธอคิดว่า ฉันต้องการแค่ตำแหน่งเจ้าสำนักอย่างนั้นเหรอ?
อย่างนั้นเธอเองก็คิดอย่างง่ายดายกับฉันมากเกินไปแล้ว!
ฉันจะถามเธอหน่อย!
ความสัมพันธ์ระหว่างหลินชางฉอง กับสำนักหยุนเยว่ของพวกเรา ตอนนี้ยังคงเป็นเรื่องลับอยู่อีกไหม?
ถ้าอย่างนั้นในครั้งนี้ สำนักอริยสัจไม่สามารถสังหารหลินชางฉองได้!
เธอคิดว่าตอนนี้พวกเขาจะปล่อยให้เรื่องมันยุติจบลงเพียงเท่านี้ไหมล่ะ?
ส่วนสองเยว่ก็กำลังอยู่ในการต่อสู้ที่ชุลมุนนั้น!
จะสามารถมีชีวิตรอดปลอดภัยกลับมาได้หรือไม่ ก็ยังไม่อาจล่วงรู้ได้!
เธอคิดว่า เรื่องนี้จะจบลงเพียงเท่านี้อย่างนั้นเหรอ?
ตอนนี้ ฉันจะต้องทำการกำหนดตัดสินใจปัญหาของสำนักหยุนเยว่ว่า ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำ จากนั้นค่อยมาปรึกษากันว่าพวกเราจะดำเนินการต่อไปอย่างไรกันดี
หรือเธอคิดว่า สำนักหยุนเยว่นั้นจะสามารถเทียบเท่ากับสำนักอริยสัจ สำนักเทียนหยุน รวมไปถึงสำนักฉีซานได้อย่างนั้นเหรอ?
ถึงเวลานั้น เมื่อสำนักของเราตกต่ำลงก็จะมีคนอื่นมาซ้ำเติม และคนที่จ้องจะฉกฉวยโอกาสก็จะยิ่งมีมากขึ้นไปอีก!
เธอบอกกับฉันมาสิว่า เธอสามารถยืนหยัดสำนักของเราเอาไว้ได้ไหม?
คำพูดของสี่เยว่นั้นไม่ได้มีความเกรงใจกันเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด!
เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อได้ยินที่เธอพูดแล้ว ทุกคนในสถานที่นั้น รวมถึงสามเยว่ด้วย ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปดูย่ำแย่กันทั้งหมด
แต่สามเยว่ก็ได้พูดขึ้นด้วยความเย็นชาว่า ไม่ว่าอย่างไร ทุกอย่างก็จะต้องรอให้พี่สองกลับมาก่อนแล้วค่อยทำการตัดสินใจ!
เมื่อสามเยว่พูดจบ สิบเยว่ที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นว่า ถูกต้อง ฉันได้ส่งข้อความให้กับพี่สองแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานพี่สองก็คงจะตอบกลับมา!
รอให้พี่สองกลับมาถึง ค่อยทำการตัดสินใจก็ยังไม่สายเกินไปนัก!
พี่สี่ คุณใจร้อนเกินไปแล้ว!
เมื่อสิบเยว่พูดจบ ห้าเยว่และอีกหลายคนที่อยู่ด้านข้างก็กำลังคิดที่จะพูดโต้แย้งขึ้น
สี่เยว่พลันส่ายมือไปมา โดยที่ไม่ให้ห้าเยว่และอีกหลายคนพูดขึ้น พร้อมกับสายตาได้จ้องมองไปที่สามเยว่และสิบเยว่และพูดขึ้นว่า วันนี้พวกเธอเห็นด้วยก็เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วย!
ถ้าหากไม่ได้จริง ๆ อย่างนั้นก็อย่าได้กล่าวโทษกันที่ฉันจะต้องลงมือแล้ว!
ได้ยินที่สี่เยว่พูด สามเยว่กับสิบเยว่และคนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าที่ย่ำแย่ในทันที
หากจะลงมือจริง ๆ แล้ว พวกเธอเองนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสี่เยว่เลย
ยิ่งไปกว่านั้น สามเยว่ที่มีพลังบำเพ็ญแข็งแกร่งที่สุด เวลานี้ร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ก็ยิ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะลงมือต่อสู้ได้แล้ว
แต่สามเยว่ก็ได้ตะโกนด้วยความโกรธขึ้นว่า สี่เยว่ เธอกล้างั้นเหรอ!
สี่เยว่พูดอย่างเย็นชาว่า ไม่มีใครที่จะขัดขวางฉันได้! วันนี้ ตำแหน่งเจ้าสำนักแทน ฉันจะต้องครอบครองให้ได้อย่างแน่นอน!
ต่อให้สองเยว่กลับมา ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด!
เมื่อเธอพูดจบ ด้านนอกของตำหนัก ก็มีเสียงพูดที่เย็นชาดังขึ้น
อย่างนั้นใช่ไหม?
เมื่อเสียงนี้ดังผ่านเข้ามา ทุกคนก็พลันหันตัว มองออกไปยังด้านนอก
ก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย กำลังเหาะเหินเข้ามาด้านใน
สองเยว่ปรากฏตัวขึ้นที่ใจกลางของตำหนัก
เมื่อเธอลอยลงมาถึงพื้น อีกเงาร่างหนึ่งก็เหาะตามเข้ามาด้านในด้วยเช่นกัน
เงาร่างนี้คือชายหนุ่มคนหนึ่ง แน่นอนว่าก็คือหลินหยุนนั่นเอง
เห็นทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น สามเยว่กับสิบเยว่ก็พลันตื่นเต้นดีใจขึ้น
แต่ว่า หลังจากที่เห็นหลินหยุนแล้ว ฉินชิงถงที่อยู่ด้านหลังของสี่เยว่นั้น ก็พลันเบิกตาโพลงขึ้น พร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางอย่างเหลือเชื่อ
ทันใดนั้น ความโกรธเกลียดหลินหยุนในจิตใจของเธอ ก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในทันที ถึงขนาดที่ทำให้เธอลืมสถานการณ์ในตอนนี้ไปทั้งหมดเลย
เธอพลันก้าวเดินออกไปด้านหน้า มาถึงตรงที่เบื้องหน้าของหลินหยุน
นายเองเหรอ!
หลินหยุนอ่ะหลินหยุน คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า พวกเราจะมาเจอกันที่นี่!
ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะดีกับฉันไม่น้อยเลยทีเดียว!
ฉันอธิษฐานต่อพระเจ้าแทบจะตลอดเวลาว่า ในสักวันหนึ่ง ฉันจะต้องลงมือสังหารนายด้วยตัวฉันเองให้ได้!
ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะได้ยินคำอ้อนวอนของฉันจริง ๆ แล้ว จึงได้นำพาตัวนายมาตรงที่เบื้องหน้าของฉัน!
วันนี้ ฉันจะสังหารนาย! กินเนื้อของนาย และดื่มเลือดของนายด้วย!
นายไปตายซะเถอะ!
เธอบ้าคลั่งอย่างที่สุด และก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างที่สุดเช่นกัน
โดยลืมไปแล้วว่าตอนนี้อยู่ในสถานการณ์อะไร!
ลืมไปแล้วว่าผู้อาวุโสร่วมสำนักก็อยู่กันทั้งหมด
ลืมไปแล้วว่าสำนักหยุนเยว่ไม่สามารถที่จะให้ผู้ชายเข้ามาด้านในได้
และลืมไปแล้วว่าทำไมหลินหยุนถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่!
จิตในของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชังอย่างที่สุด
ชักกระบี่ยาวในมือออกมาจากด้าม พลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับสามได้ปะทุขึ้น พร้อมกับฟาดฟันกระบี่ตรงเข้าใส่หลินหยุนทันที
หลินหยุนลอยลงมาถึงพื้น โดยที่ไม่ได้ลงมืออะไร แต่กระบี่ยาวของฉินชิงถงก็ไม่สามารถพุ่งเข้าฟาดฟันได้เช่นกัน เพราะว่าสี่เยว่ที่อยู่ด้านหลังของเธอนั้น ได้ลงมือ ใช้พลังที่มองไม่เห็นจับตัวเธอเอาไว้อย่างกะทันหัน
ฉินชิงถงตื่นตกใจอย่างมาก หันหน้ามองไปที่สี่เยว่ และตะโกนพูดเสียงดังว่า ท่านอาจารย์ ทำไมท่านถึงต้องขัดขวางฉันด้วย? วันนี้ฉันจะต้องสังหารคนผู้นี้ให้จงได้!
ท่านอาจารย์ ท่านยังจำได้ไหมว่า ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านอาจารย์ แล้วบอกกับท่านอาจารย์ว่ามีคนผู้หนึ่งที่ทำร้ายฉันท่านยังจำได้ไหม?
ก็คือเขานั่นเอง!
ท่านอาจารย์ วันนี้ฉันจะต้องสังหารเขาให้จงได้!
ขณะที่พูด ฉินชิงถงก็ชูกระบี่ยาวขึ้น แล้วหันหลังกลับไปฟาดฟันเข้าใส่หลินหยุน
ในขณะนั้นเอง สองเยว่ก็ส่งเสียงฮึขึ้นอย่างเย็นชา ลมหายใจที่ทรงพลังก็พัดโหมขึ้น ทำให้ฉินชิงถงกระเด็นลอยออกไปไกล
กระแทกเข้ากับเสาของตำหนักอย่างรุนแรง และกระอักเลือดออกมาในทันที
แต่สายตาของเธอนั้น ยังคงจับจ้องไปที่ตัวของหลินหยุนอยู่
แววตาที่โกรธแค้นและเกลียดชัง ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
สี่เยว่มองไปที่เธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า กำเริบยิ่งนัก!
ฉินชิงถงตกใจ จากนั้นก็โมโหขึ้น ท่านอาจารย์ ขออภัยที่ลูกศิษย์เสียมารยาทไร้ความเคารพ ในเมื่อวันนี้ได้พบเจอกับคนผู้นี้แล้ว จำเป็นต้องสังหารเขาให้ได้ หวังว่าท่านอาจารย์จะไม่ขัดขวางการแก้แค้นของลูกศิษย์!
ขณะที่พูด ฉินชิงถงก็พลันลุกยืนขึ้น แล้วพุ่งเข้าไปสังหารหลินหยุนอีกครั้งในทันที