จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 202 ร่วมทำกิจกรรมกับนางฟ้า
“ใช่สิ กิจกรรมอะไรเหรอ! คุณอย่ามาพูดอ้อมค้อมอีกเลย! ” พวกเพื่อนนักเรียนต่างตะโกนร้องถามขึ้น
หวางหยู่หันเห็นสายตาของกู้ซิวหรั่นที่มองไปยังอีหลิงแล้ว ทันใดนั้น จิตใจก็เกิดความหึงหวงขึ้นอย่างรุนแรง
แต่ว่า เธอทราบดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอะไรกัน
หวางหยู่หันมองไปยังผู้ชมด้านล่างเวทีที่มีอารมณ์ร่วมกันอย่างครึกครื้น ยิ้มหวานและพูดขึ้นว่า “เมื่อครู่การแสดงร่วมกันระหว่างคุณชายกู้กับอีหลิง ช่วงสวยสดงดงามเสียจริง ฉันเองก็ยังชมอย่างไม่เพียงพอ ไม่ทราบว่าทุกคนรับชมกันเพียงพอแล้วหรือยัง? ”
“ยังต้องถามกันอีกเหรอ? การเต้นรำที่สวยงามเช่นนี้ ดูชมทั้งชีวิตก็ยังคงไม่เพียงพอหรอก! ”
“ถ้าหากสามารถชมการเต้นรำของอีหลิงได้ทุกวัน แม้จะไม่ให้ฉันทานข้าวฉันก็เต็มใจ”
เพื่อนนักเรียนด้านล่างเวทีทั้งที่ไม่มีคนมาเตรียมการ ก็ตอบคำถามกันได้อย่างพร้อมเพรียง
อีหลิงเขินอายบ้าง ใบหน้าที่งดงามเกิดแดงก่ำขึ้น แล้วก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย
กู้ซิวหรั่นที่อยู่ด้านหลังขยับเดินมาอยู่ด้านหน้า ยืนอยู่ในระนาบเดียวกันกับอีหลิง แต่ว่า สายตาของเขาก็ยังคงอยู่ที่เรือนร่างของอีหลิงโดยตลอด ราวกับว่าบริเวณโดยรอบไม่มีอะไรสักอย่าง
หญิงสาวสวยงามหยาดเยิ้ม ชายหนุ่มหล่อเหลาสูงใหญ่ ราวกับกิ่งทองใบหยก
หวางหยู่หันจิตใจท้อแท้หดหู่มากขึ้น แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มที่สดใส “ในเมื่อทุกคนต่างก็ชอบการแสดงร่วมกันของคุณชายกู้กับอีหลิง ถ้าอย่างนั้นต้องการจะให้พวกเขาแสดงการเต้นรำให้พวกเราดูชมกันอีกสักชุดไหม? ”
ได้ยินดังนั้น อีหลิงรีบเงยหน้าหันมองไปยังหวางหยู่หัน มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย
ทุกชุดการแสดง จะต้องได้รับการซ้อมฝึกฝนเป็นเวลานาน การแสดงเต้นรำของเธอนั้นมีเพียงชุดเดียว ตอนนี้หวางหยู่หันต้องการจะเพิ่มชุดการแสดงขึ้นโดยพลัน อีหลิงไม่ได้เตรียมความพร้อมอะไรมาก่อน กังวลว่าจะเสียหน้า
เพื่อนนักเรียนด้านล่างเวทีกำลังระลึกถึงท่วงท่าการเต้นรำที่งดงามของอีหลิงเมื่อครู่ รวมถึงการบรรเลงเปียโนร่วมที่สง่างามของกู้ซิวหรั่น ถ้าหากพวกเขาทั้งสองจะแสดงการเต้นรำอีกสักหนึ่งชุด พวกนักเรียนคงต่างพากันชูมือเห็นด้วยอย่างแน่นอน
“ดีเลย ดีเลย เต้นรำอีกชุด เต้นรำอีกชุด! ”
“ดีมากเลย เมื่อครู่ฉันตะลึงอยู่กับความงดงามของนางฟ้า จึงลืมชมการเต้นรำของนางฟ้าเลย ครั้งนี้ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาดูชมอย่างแน่นอน”
“ฉันก็เหมือนกัน ครั้งนี้ฉันรับรองว่าจะไม่กะพริบตาเลยทีเดียว! ”
เพื่อนนักเรียนหลายคนต่างก็ตะลึงกับรูปลักษณ์อันงดงามหยาดเยิ้มของอีหลิงที่ราวกับนางฟ้าลงมาจุติ เมื่อได้สติกลับคืนมา อีหลิงก็เต้นรำจบไปเป็นที่เรียบร้อย
ถ้าหากสามารถได้ชมอีกสักรอบ ก็จะเป็นการชดเชยความเสียใจเมื่อครู่นี้
จางซือจู่จับท่อนแขนของหลินหยุน แล้วเขย่าอย่างรุนแรง “หลินหยุน ได้ยินไหม นางฟ้าจะแสดงการเต้นรำอีกรอบแล้ว! ดีมากเลย! ”
หยางเทียนโย่วมีอาการท่าทีเดียวกันกับจางซือจู่ แต่จางซือจู่จับแขนของหลินหยุน ส่วนหยางเทียนโย่วนั้นกอดอยู่กับไอ้หิน
มือข้างหนึ่งเกือบที่จะบีบไอ้หินจนแตกสลายแล้ว
ดวงตาของหลินหยุนแสดงออกว่ากำลังครุ่นคิด ในความทรงจำของเขาแล้ว อีหลิงไม่เคยมีการเต้นรำในเพลงที่สอง
ดูเหมือนว่า เรื่องราวในชาติปัจจุบันนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว
“นางฟ้า เต้นรำอีกสักเพลง เต้นรำอีกสักเพลงเถอะ……”
ด้านล่างเวที ถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงโห่ร้องหื่นกระหายของพวกนักเรียนชาย ส่วนเสียงกรี๊ดของผู้หญิงที่มีต่อกู้ซิวหรั่น แทบจะไม่ได้ยินเลย
ด้านหลังเวที คณะอาจารย์และผู้นำของมหาวิทยาลัย เห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ดุด่าด้วยรอยยิ้มว่า “ไอ้เด็กน้อยพวกนี้ หน้าด้านไร้ยางอายกันเสียจริง! ”
ใบหน้าของท่านม่ายผู้นำที่สูงสุด แสดงท่าทางคนึงนึกคิด “แต่ที่เห็นพวกเขาเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ฉันนึกถึงสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย โดยเสี่ยวชุ่ยเป็นดาวประจำมหาวิทยาลัยของพวกเรา”
“เสี่ยวชุ่ย……” คณะอาจารย์ที่อยู่ด้านข้างผู้นำสูงสุดรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นทันที
ด้านบนเวที หวางหยู่หันมองดูผู้คนด้านล่างเวทีที่ถูกเธอกระตุ้นอารมณ์จนฮึกเหิมคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง จึงแอบยิ้มเล็กน้อย แสดงออกถึงท่าทางความภาคภูมิใจต่อสภาพการณ์ที่ตนเองสามารถควบคุมไว้ได้ทั้งหมด
“สงบเงียบ ทุกคนอยู่ในความสงบเงียบกันได้แล้ว! ” หวางหยู่หันพูดตะโกนใส่ไมโครโฟนที่ถืออยู่ในมือ
ผ่านไปชั่วครู่ สถานที่จัดงานจึงได้เงียบสงบลง
หวางหยู่หันพูดต่อว่า “เมื่อครู่ฉันเพียงแค่ล้อเล่นกับทุกคนเท่านั้น หากจะให้เต้นรำอีกสักเพลงคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เวลาไม่เอื้ออำนวย ไม่สามารถที่จะปรับเลื่อนการแสดงชุดต่อไปได้”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทันใดนั้น ด้านล่างเวทีพวกเพื่อนนักเรียนที่ตื่นเต้นจนตาแดงก่ำ จะยินยอมได้อย่างไรกัน? คุณไม่ใช่ว่ากำลังหลอกลวงพวกเราอยู่ใช่ไหม?
“ล้อเล่น? ล้อเล่นแม่งสิ! มีการล้อเล่นกันแบบนี้ด้วยเหรอ? ปลุกเร้าอารมณ์ของพวกเราจนถึงขีดสุด จากนั้นก็สาปส่งพวกเราไปลงนรก คุณล้อเล่นกับพวกเราอย่างงั้นเหรอ! ”
“ไม่ได้ พวกเราไม่เห็นด้วย! นางฟ้าจะต้องเต้นรำเพิ่มอีกหนึ่งชุด หรือไม่อย่างนั้นการแสดงชุดต่อไปไม่ต้องแสดงก็ได้! ”
“ใช่ ไม่ได้อย่างแน่นอน นางฟ้าจะต้องเต้นรำเพิ่มอีกสักเพลง! ”
ด้านล่างเวที ต่างมีอารมณ์ขุ่นเคือง อยากที่จะลงมือทรมานหวางหยู่หันอย่างรุนแรงสักยก
ด้านหลังเวที ผู้อำนวยการระดับสูงของมหาวิทยาลัยถามขึ้นอย่างไม่พอใจ “มันเป็นอย่างไรกัน? เพิ่มชุดการแสดงขึ้นกะทันหันงั้นเหรอ ทำไมข้าถึงไม่รับทราบหละ! ”
ผู้รับผิดชอบจัดการแสดงในงานเฉลิมฉลองมหาวิทยาลัยเหงื่อออกท่วมตัว พูดขึ้นอย่างจำใจว่า “”ท่านผู้นำ ฉันก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น! ที่จริงไม่มีการเพิ่มเติมชุดการแสดงเต้นรำนี้ หรืออาจเป็นไปได้ว่าทางพิธีกรคิดขึ้นเอาเองอย่างกะทันหัน!
“ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่แล้ว ไปเตรียมปลอบประโลมอารมณ์ความรู้สึกของพวกนักเรียนเดี๋ยวนี้! ” ผู้นำของมหาวิทยาลัยเริ่มโมโหขึ้นแล้ว
ด้านบนเวที หวางหยู่หันเห็นเหตุการณ์ดังนี้แล้ว ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นตามที่เธอได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ! ”
“เงียบแม่งมึงสิ! หากไม่ให้นางฟ้าเต้นรำอีกหนึ่งชุด พวกเราไม่มีทางหยุดระรานอย่างเด็ดขาด! ”
ทุกคนยังคงมีอารมณ์ขุ่นเคือง เหมือนกับว่าหากอีหลิงไม่เต้นรำเพิ่มอีกหนึ่งชุด พวกนักเรียนเหล่านี้ก็จะอาละวาดสร้างความวุ่นวายในสถานที่จัดงาน
“คงจะไม่มีการแสดงเต้นรำอีกอย่างแน่นอนแล้ว แต่ว่า หากให้อีหลิงกับคุณชายกู้ลงจากเวทีมาทำกิจกรรมร่วมกันกับทุกคนล่ะ? หวางหยู่หันพูดด้วยรอยยิ้ม ซึ่งน้ำเสียงมีการปลุกปั่นจิตใจแฝงอยู่ภายในด้วย”
“หือ…..หมายความว่าอย่างไร? ”
เพื่อนนักเรียนส่วนใหญ่ต่างตะลึงงัน
เริ่มแรกทุกคนเหมือนกับว่ายังไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของหวางหยู่หัน แต่ผ่านไปสักครู่ หลายคนก็เริ่มแสดงสีหน้าท่าทางดีอกดีใจขึ้น
จากนั้น ทั้งสถานที่จัดงานก็เงียบสงบลง เหลือเพียงเสียงหายใจที่เร่าร้อน และเสียงหัวใจเต้นดังตุ๊บตุ๊บ
ในที่สุดเมื่อเห็นทุกคนเงียบสงบ หวางหยู่หันก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มว่า “ทุกคนยังจำที่ฉันได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ไหมว่า จะให้คุณชายกู้กับอีหลิงทำกิจกรรมร่วมกันกับพวกเรา? ”
ไม่มีใครตอบคำถาม ทุกคนต่างก็รอฟังหวางหยู่หันพูดต่อไป พวกเขาไม่สนใจหรอกว่าจะเป็นกิจกรรมอะไร พวกเขาต้องการเพียงให้นางฟ้าลงจากเวทีมาร่วมทำกิจกรรมกับพวกเขา ให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกับนางฟ้า
หวางหยู่หันไม่พูดอ้อมค้อม เธอเข้าใจดีว่า เพื่อนนักเรียนเพิ่งจะควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ได้ ทนรับความกดดันไม่ไหวอีกแล้ว หากว่าจะพูดอ้อมค้อมต่อไป เกรงว่าจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่ได้
หวางหยู่หันพูดต่อไปว่า “กิจกรรมนี้ก็คือ ให้อีหลิงกับคุณชายกู้ของพวกเรา ลงมาจากเวทีเพื่อร่วมทำกิจกรรมกับพวกเรา ทุกคนสามารถสอบถามคำถามกับพวกเขาหนึ่งข้อ แต่ต้องจำไว้นะว่า เพียงแค่คำถามเดียวเท่านั้น มากกว่านั้นไม่ได้! ”
อารมณ์ตื่นเต้นของพวกนักเรียนได้ถูกปลุกเร้าขึ้นอีกครั้ง และในครั้งนี้ยังจะรุนแรงเร่าร้อนมากกว่าหลายครั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาด้วย
เนื่องจากว่า ครั้งนี้จะสามารถเข้าใกล้นางฟ้ากันแบบตัวต่อตัว และยังจะให้นางฟ้าตอบคำถามหนึ่งข้อด้วย
“หลินหยุน หลินหยุน หยิกข้าหน่อยสิ ดูสิว่าข้ากำลังฝันไปหรือเปล่า! ” จางซือจู่พูดขึ้นอย่างเกินหน้าเกินตา
หลินหยุนหยิกเข้าไปที่ต้นขาของเขาอย่างไม่เกรงใจ
“โอ้ย! นาย นายหยิกแรงขนาดนี้ทำไม ข้าเจ็บมากรู้ไหม โธ่! ” จางซือจู่พลางนวดไปที่ต้นขา พลางส่งเสียงร้องเจ็บปวด
แต่ไม่นาน ความสนใจของเขาก็กลับมาที่การลงจากเวทีของอีหลิงเพื่อร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนนักเรียน
“หลินหยุน ได้ยินไหม? นางฟ้าจะร่วมทำกิจกรรมกับพวกเราแล้ว! พวกเรายังสามารถถามเธอได้หนึ่งคำถาม แค่คิดก็ทำให้ตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว! ”
“แต่จะถามคำถามอะไรดีหละ? ” แน่นอนว่าไม่ใช่จะให้ทุกคนถามคนละหนึ่งคำถาม อย่างนั้นนางฟ้าคงจะเหนื่อยแย่เลย!
“แต่คนจำนวนมากขนาดนี้ถามได้เพียงหนึ่งคำถาม มันน้อยเกินไปหน่อย! ดังนั้นแน่นอนว่าคำถามนี้จะต้องถามในเรื่องที่สำคัญ! ”
เพื่อนนักเรียนคนอื่นมีความคิดเช่นเดียวกันกับจางซือจู่ ไม่ทันรอให้พิธีกรกล่าว ก็รีบรวมตัวกันขึ้น เพื่อเริ่มปรึกษากันว่าจะถามคำถามอะไรเพียงข้อเดียว
พวกนักเรียนผู้หญิงก็เช่นเดียวกับนักเรียนผู้ชาย ก็กำลังคิดปรึกษากันว่าจะถามคำถามอะไรกับกู้ซิวหรั่น
ด้านบนเวที อีหลิงมองไปที่หวางหยู่หันด้วยความประหม่าเล็กน้อย พูดขึ้นเบา ๆ ว่า “พิธีกร กิจกรรมนี้ฉันไม่เคยได้เตรียมตัวฝึกซ้อมมาก่อน! ฉันควรจะทำอย่างไรดี? ”