จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 213 งานฉลองวันเกิดของเซี่ยเจี้ยนโก๋
เว่ยเทียนหมิงมองไปยังเซี่ยหยู่เวย ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดอีกทั้งยังมีความคิดวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเห็นมา
อาจจะเป็นเพราะว่าฐานะตระกูลทางบ้านเธอยังไม่ดีพอ แต่ว่า เธอก็เป็นภรรยาที่ดีที่สุดคนหนึ่ง สามารถช่วยเหลือหน้าที่การงานของเขาในอนาคตได้ ซึ่งจะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงแข็งแรงยิ่งยิ่งขึ้นไป
สำหรับเรื่องที่จะไปหาผู้หญิงที่มีฐานะวงศ์ตระกูลที่ดีกว่านี้ แล้วแต่งงานกันเพื่อหวังผลทางการเมือง เว่ยเทียนหมิงไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย
เขาคิดว่าผู้ชายพวกนั้นล้วนแต่เป็นพวกที่ไม่มีความสามารถ ผู้ชายที่มีความสามารถอย่างแท้จริงนั้น ต้องเป็นผู้ชายที่รู้จักกลยุทธ์ในการวางแผนจัดการ จึงต้องการผู้หญิงที่ที่เฉลียวฉลาด ตลอดจนวิสัยทัศน์ที่เข้มแข็งมากพอ เป็นผู้หญิงที่สามารถจะเป็นแนวหลังที่มั่งคงแข็งแกร่งให้กับเขาได้
ผู้ชายทำงานต่อสู้เต็มที่อยู่ด้านหน้า กลับมาถึงบ้านก็ย่อมต้องการให้มีผู้หญิงที่อ่อนโยนคอยดูแล เป็นผู้หญิงที่สามารถทำให้คุณปลดปล่อยความกังวลใจทั้งหมด แล้วนอนพักผ่อนอยู่ในอ้อมกอดของเธอได้อย่างสบายใจไร้กังวล
เซี่ยหยู่เวยก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเช่นนี้
อีกทั้งเซี่ยหยู่เวยก็ยังสวยงามมากอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ ต่อให้รู้ว่าเซี่ยหยู่เวยแต่งงานกับหลินหยุนแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่รังเกียจอะไรทั้งสิ้น
เว่ยเทียนหมิงก็เป็นคนหนึ่งที่เข้าใจตัวเองดีว่าต้องการคนอย่างไร ก็นับว่าเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง
เมื่อชาติก่อน ตามความทรงจำของหลินหยุนนั้น เว่ยเทียนหมิงสุดท้ายแล้วได้เป็นถึงผู้ว่าการมณฑล
หลินหยุนพ่ายแพ้ให้กับเขา ก็พอทำใจได้
“หยู่เวยครับ ทางพ่อผมนั้น ตอนนี้ก็ได้รับการเลื่อนขั้นสูงขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว ต่อจากนี้ไปเมืองหลินโจวทั้งหมด สามารถพูดได้ว่าอยู่ในกำมือของเราหมดแล้ว”
เว่ยเทียนหมิงเวลาที่พูดประโยคนี้ ไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนคุณชายทั่วไปแม้แต่นิดเดียว แต่กลับดูเหมือนว่ากำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลย
เซี่ยหยู่เวยใจเต้นแรงขึ้น รองนายกได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นไปอีก เอาหัวแม่เท้าคิดก็ยังเข้าใจได้เลย
นี่เป็นการก้าวกระโดดที่ก้าวใหญ่มาก
ต่อจากนี้ไปอนาคตของเว่ยเทียนหมิง ก็ยิ่งก้าวไกลอย่างไร้ขีดจำกัด
“ขอแสดงความยินดีกับพี่เทียนหมิงด้วยค่ะ!” ในใจของเซี่ยหยู่เวยปลาบปลื้มมาก แต่ใบหน้ากลับแสดงรอยยิ้มที่เรียบง่าย ถึงแม้ว่าอายุยังน้อย แต่ก็มีจิตใจที่ลึกล้ำเกินกว่าจะคาดเดาได้
ทั้งสองคนนี้ช่างเหมาะสมกันจริงๆ!
เว่ยเทียนหมิงยกแก้วน้ำชาสีขาวสวยหรูขึ้นมา จิบน้ำชาไปคำหนึ่ง สายตาส่องประกายที่แหลมคม “หยู่เวยครับ ผมได้พูดเรื่องของเราให้คุณพ่อฟังอย่างเป็นทางการแล้ว พ่อผมตอนแรกก็ปฏิเสธ หลังจากที่ผมเกลี้ยกล่อมแล้ว สุดท้ายเขาก็ยอมตกลง”
“แต่ว่า คุณทางนั้นต้องเร่งมือหน่อยนะ รีบจัดการตัดความสัมพันธ์กับเขา ไม่เช่นนั้นแล้ว ผมเป็นห่วงว่าพ่อผมจะโกรธเคือง”
ในใจของเซี่ยหยู่เวยแอบดีใจอีกครั้ง นี่ก็เท่ากับว่าเธอได้รับการยอมรับจากว่าที่พ่อสามีแล้วสิ
โดยเฉพาะรองนายกเว้ยที่มีตำแหน่งสูงส่งอำนาจบารมียิ่งใหญ่ ยังไม่รังเกียจที่เธอเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาก่อนแล้ว
ถึงแม้ว่าเซี่ยหยู่เวยและหลินหยุนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศมาก่อน แต่ว่า สำหรับตระกูลใหญ่อย่างเว่ยเทียนหมิงนั้น ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจนัก
เซี่ยหยู่เวยเป็นห่วงเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่คิดว่าในช่วงเวลาที่อนาคตของตระกูลเว่ยกำลังจะเลื่อนสูงขึ้นอีกชั้น กลับยอมรับในตัวเธอได้
เซี่ยหยู่เวยซาบซึ้งใจมาก แต่ว่า ใบหน้ายังไม่แสดงความตื่นเต้นออกมาแม้แต่นิดเดียว เรียบเฉยมาก
“พี่เทียนหมิงวางใจเถอะค่ะ อายุของฉันและหลินหยุนยังไม่ถึงอายุแต่งงานตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นงานแต่งงานของพวกเราก็เป็นเพียงแค่ทำตามสัญญาที่พูดด้วยวาจาเท่านั้น ฉันสามารถที่จะยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างกับเขาได้ทุกเวลา เพียงแต่ว่า…..”
เว่ยเทียนหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณยังมีข้อกังวลอะไรอีกเหรอ?”
เซี่ยหยู่เวยรู้สึกจนใจ “พ่อของฉันทางนั้นก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เพียงแต่แม่ของฉัน เธอหัวดื้อรั้นไปหน่อย ฉันเคยพูดถึงเรื่องการหย่ากับเธอ เธอถึงกับเอาความตายมาขู่ ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันก็เลิกรากับไอ้ขี้ขลาดคนนั้นตั้งนานแล้ว”
สีหน้าของเว่ยเทียนหมิงมืดคล้ำลงเล็กน้อย มองไปยังเซี่ยหยู่เวยแล้วพูดว่า “หยู่เวยครับ เรื่องนี้คุณจำเป็นจะต้องรีบจัดการแก้ไขให้เร็วที่สุด คุณก็รู้ ถ้าหากตำแหน่งของพ่อฉันได้เลื่อนสูงขึ้นอีกไปชั้นแล้ว จะต้องมีคนมาติดต่อทาบทามเรื่องการแต่งงานแน่นอน ถึงเวลานั้นเรื่องก็จะยิงยุ่งยากขึ้นไปอีก”
เซี่ยหยู่เวยกัดฟันแล้วพยักหน้า “พี่เทียนหมิงวางใจเถอะค่ะ ฉันเตรียมการเรียบร้อยแล้ว อีก 2 วันก็เป็นวันเกิด 50 ปีของพ่อฉัน ถึงเวลานั้นญาติพี่น้องมากมายก็จะมาร่วมงานกันพร้อมหน้า ฉันก็จะประกาศเรื่องการหย่าร้างกับหลินหยุนในงานเลี้ยงเลย ต่อให้แม่ฉันจะโกรธเคืองอย่างไร ก็จะยับยั้งไม่ทันแล้ว”
“รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ต่อให้แม่ฉันไม่ยอม ก็ยังต้องจำใจยอมรับมัน”
สีหน้าเว่ยเทียนหมิงแลดูอบอุ่น พูดด้วยความจริงใจที่ลึกซึ้งว่า “หยู่เวยครับ ลำบากคุณแล้วนะ แต่ว่าคุณวางใจเถอะ ผมจะดีกับคุณตลอดชีวิตเลย!”
ใบหน้าของเซี่ยหยู่เวยแสดงความเขินอาย ก้มหน้าลงแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “พี่เทียนหมิง ฉันเชื่อใจพี่ค่ะ!”
ทะเลสาบเยว่หยา ทะเลสาบเยว่หยา
หลินหยุนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซูหนันก็เลิกฝึกฝนบำเพ็ญตนแล้ว
เมื่อเห็นหลินหยุน ซูหนันก็โค้งคำนับ “ท่านปรมาจารย์หลิน!”
หลินหยุนไม่ได้รับซูหนันเป็นลูกศิษย์ ดังนั้นซูหนันจึงไม่มีโอกาสเรียกว่าอาจารย์
หลินหยุนมองหน้าซูหนัน วิชาศพทองแดงนี้ เลวร้ายมากจริงๆ เสียดายพรสวรรค์การฝึกพลังของซูหนันไปเปล่าๆ
“คุณตามฉันมาสิ”
หลินหยุนเดินนำหน้าไป ซูหนันก็เดินตามหลังด้วยความนอบน้อม
เมื่อมาถึงในห้อง หลินหยุนก็หันหน้ามากะทันหัน ใช้นิ้วชี้ไปตรงกลางหว่างคิ้วของซูหนัน
ซูหนันตอนแรกก็ตกใจ แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าในสมองได้ปรากฏข้อมูลข่าวสารที่ซับซ้อนกว้างขวางใหญ่โตอีกทั้งยังลึกลับซับซ้อนขึ้นมา
ซูหนันรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ดูจากประโยคคำพูดบางตอนในข้อมูลข่าวสารพวกนั้น ซูหนันก็เดาออกแล้วว่า นี่คือวิชาเพลงฝึกบู๊ที่แข็งแกร่งมากบทหนึ่ง
เมื่อเทียบกับวิชาศพทองแดงที่เขาฝึกมานั้น มันแข็งแกร่งกว่าเป็นพันเท่าหมื่นเท่าเลยทีเดียว!
เสียงของหลินหยุนดังขึ้นอย่างเรียบง่าย “วิชาเพลงนี้ชื่อว่า《วิชาพินาศไม่สิ้นสูญ》ฉันถ่ายทอดขั้นที่1ให้คุณก่อน รอให้คุณฝึกสำเร็จแล้ว ค่อยมาเอาวิชาเพลงขั้นที่ 2 จากฉัน”
“ครับ!” ซูหนันไม่ได้พูดขอบคุณอะไรเลย แต่ว่าสายตาที่เขามองหลินหยุนอยู่นั้น เต็มเป็นไปด้วยความเคารพยำเกรงมากยิ่งขึ้น
“ไปเถอะ!”
“ครับ!”
หลินหยุนไม่ได้ชี้แนะอะไรซูหนันเลย ก่อนหน้านั้นเขาถูกวิญญาณบรรพบุรุษฮั่นป๋าเข้าสิงร่าง ทำให้พื้นฐานของเขาสูงกว่าซูเหลียงจื่อมาก เพลงการฝึกบู๊ก่อนหน้านั้น เขาเองก็สามารถเข้าใจเองได้แล้ว
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของหลินหยุนก็ดังขึ้น
เมื่อมองไปหน้าจอโทรศัพท์ โจวเฟินโทรมาหา
หลินหยุนรับโทรศัพท์แล้ว น้ำเสียงแฝงด้วยความยินดี “น้าเฟินครับ!”
เสียงของโจวเฟินแฝงไปด้วยความคิดถึง “หลินหยุนเอ๊ย ช่วงเวลาที่อยู่สถาบัน ไม่ได้กลับมาเลย การกินอยู่เป็นอย่างไรบ้าง? เสื้อผ้าพอใช้หรือเปล่า?”
“ผมสบายดีครับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ผมก็โตขนาดนี้แล้ว สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ท่านก็วางใจเถอะ!”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” ดูเหมือนว่าโจวเฟินกำลังสะอื้น
“เอย ใช่แล้ว เกือบลืมเรื่องสำคัญไป วันมะรืนนี้เป็นวันเกิด50ปีของพ่อแก แกก็หาเวลาว่างกลับมาหน่อยสิ!”
“เดิมทีไม่อยากบอกแกหรอก แต่วันนั้นมันจะต้องมีญาติพี่น้องมากมายมากันพร้อมหน้าถ้าแกไม่กลับมา เดี๋ยวคนอื่นเขาจะนินทาได้”
โจวเฟินบ่นด้วยความเป็นห่วง ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องที่ยืนอยู่ข้างหลินหยุนทั้งนั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญของการจัดงานวันเกิดของเซี่ยเจี้ยนโก๋เลย
สายตาหลินหยุนสั่นไหว งานฉลองวันเกิด50ปีของเซี่ยเจี้ยนโก๋เหรอ? งานวันเกิดนั้นพูดได้ว่าหลินหยุนจดจำฝังใจไม่เคยลืมเลือน!
เมื่อชาติที่แล้ว หลินหยุนจำได้แม่นยำว่า ในงานเลี้ยงวันเกิดคืนนั้นเอง เซี่ยหยู่เวยประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะหย่าขาดกับเขา แล้วยังพูดเปิดเผยความจริงกับทุกคนว่า ตั้งแต่ที่แต่งงานมาหลินหยุนก็ได้แต่นอนบนพื้นมาโดยตลอด
และยังประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเธอและเว่ยเทียนหมิงกำลังคบหากันอยู่
หลินหยุนกลายเป็นตัวตลกในงานเลี้ยงวันเกิดไปเสียแล้ว รู้สึกคำพูดที่ว่าเกาะผู้หญิงกิน เต่าหัวหดมันกำลังตบหน้าตัวเองดังลั่น ทุกคนต่างมองหลินหยุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
ในวินาทีนั้น หลินหยุนแทบจะอยากตายไปให้พ้นพ้น! ยังดีที่โจวเฟินยืนอยู่เคียงข้างเขามาตลอด ทำให้เขารู้สึกว่าในโลกที่แสนเยือกเย็นใบนี้ยังมีความอบอุ่นสุดท้ายเหลืออยู่บ้าง
ความอับอายขายหน้าคราวนั้น มันเจ็บปวดฝังลึกลงไปในจิตใจของหลินหยุน ถึงแม้จะผ่านไปแล้ว 800 ปีก็ตาม หลินหยุนนึกขึ้นมาคราใดใบหน้าก็รุ่มร้อนเป็นไฟเหมือนเดิมทุกครั้ง
โจวเฟินเพื่อหลินหยุนแล้ว ตบหน้าเซี่ยหยู่เวยต่อหน้าในงานเลี้ยง และยังให้เซี่ยหยู่เวยถอนคำพูดเมื่อครู่ ไม่เช่นนั้นจะตายตรงหน้าเซี่ยหยู่เวย
แต่ว่า เซี่ยหยู่เวยก็ได้เตรียมวางแผนมาก่อนแล้ว กลับใช้ความตายย้อนกลับมาขู่ เพื่อให้โจวเฟินยอมรับตกลงเรื่องของเธอกับเว่ยเทียนหมิง
หลินหยุนจำได้ว่า ดูเหมือนว่าพ่อของเว่ยเทียนหมิงตอนนั้นได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นแล้ว
เซี่ยเจี้ยนโก๋หลังจากที่ถกเถียงกันแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะเลือกเว่ยเทียนหมิง แล้วทอดทิ้งหลินหยุนไป
ญาติมิตรสหายตั้งหลายของตระกูลเซี่ยและตระกูลโจวทั้งหมด เพื่อหวังจะเอาใจเว่ยเทียนหมิง ต่างก็สนับสนุนการตัดสินใจของเซี่ยเจี้ยนโก๋
เพราะสาเหตุนี้ โจวเฟินถึงกับโกรธจัดจนหมดสติไปในงานทันที