จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 233 มารังแกถึงที่
แหวนเก็บของนี้ไม่สามารถป้องกันค่ายกล และไม่สามารถป้องกันพลังงาน หากแรงภายนอกมีมากเกินไป จะทำให้แหวนวงนี้เสียหาย
หลินหยุนกำลังจะส่งเสียงดังขัดขวาง พอดีโทรศัพท์มือถือของเทพฟ้าผ่าดังขึ้น
เมื่อเห็นหมายเลขผู้โทรบนหน้าจอ ใบหน้าของเทพฟ้าผ่าก็เคร่งเครียดทันที
เหมือนกับท้องฟ้าที่สดใส จู่ๆก็ปกคลุมไปด้วยเมฆ
หลายคนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเทพฟ้าผ่า และถามอย่างกังวลว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
เทพฟ้าผ่าเหลือบมองพวกเขาแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร มีเรื่องนิดหน่อย ฉันจะออกไปข้างนอก พวกนายศึกษาค้นคว้าต่อไป ถ้าฉันกลับมา หวังว่าจะได้เจอคุณปู่”
พวกจางซือจู่ต่างจ้องมองหน้ากัน
“เทพฟ้าผ่า ช่างมันเถอะ คนอย่างนายโกหกใครไม่ได้หรอก นายดูหน้าตัวเองสิหน้าดำคร่ำเครียดขนาดนั้น?” จางซื่อจู่พูดล้อเล่น
“ต้องเป็นคนที่ทำร้ายนายแน่ๆ! เขาต้องการทำอะไร?
เทพฟ้าผ่ารู้ว่าเขาไม่สามารถปิดบังพวกเขาได้อีกแล้ว และยอมรับง่ายๆว่า ใช่ แต่ว่าเรื่องนี้พวกนายคงช่วยอะไรไม่ได้ เชื่อฟังฉัน อย่าเข้าไปยุ่ง!”
หลังจากพูดจบ เทพฟ้าผ่าก็หันหลังกลับและเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน! เทพฟ้าผ่า อาการบาดเจ็บของนายเพิ่งหาย ตอนนี้ยังไปไม่ได้!” จางซื่อจู่ตะโกนอย่างกังวล
“ไม่ต้องห่วง หลินหยุนรักษาอาการบาดเจ็บของฉันจนหายแล้ว!” เทพฟ้าผ่ายิ้ม
“ไม่ได้ นี่มันเวลาเพียงไม่กี่นาที! นายไปไม่ได้!” จางซื่อจู่และคนอื่นวิ่งมา และขวางอยู่ตรงหน้าเทพฟ้าผ่า
เทพฟ้าผ่าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกนายออกไปให้พ้น ฉันต้องไปแล้ว!”
อารมณ์ที่ดื้อรั้นของพวกจางซื่อจู่และคนอื่นๆก็แสดงออกมา “ไม่ พวกเราไม่สามารถทนดูนายไปหาที่ตายได้!”
เทพฟ้าผ่ารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “พี่น้อง ขอบคุณสำหรับความหวังดีของทุกคน แต่ฉันต้องไปแล้ว! มิฉะนั้น แม้ว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ก็เหมือนเต่าหดหัวอยู่ในกระดองเท่านั้น!”
“เรื่องนี้อยู่เหนือการควบคุมของพวกนาย ฟังฉันนะ อย่ามายุ่ง รออย่างเงียบๆ!”
“ไม่ได้!” จางซือจู่และพวกยังคงไม่ขยับเขยื้อน
ในเวลานี้ เสียงของหลินหยุนดังขึ้น “ปล่อยเขาไป!”
จางซือจู่ขมวดคิ้ว จ้องไปที่หลินหยุน และตะโกนว่า “หลินหยุน นายไม่ช่วยไม่ว่า ยังจะมาเพิ่มความโกลาหล!”
“ถ้าครั้งนี้เขาไปอีก จะต้องตายแน่ๆ!”
“ไอ้หินก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ ไปไม่ได้!”
หลินหยุนยิ้มจางๆ “วางใจ ฉันรับรองว่าเทพฟ้าผ่าต้องไม่เป็นไร ฉันสัญญา พวกเราไปด้วยกัน!”
“ไปด้วยกัน?” เทพฟ้าผ่าขมวดคิ้วและมองไปที่หลินหยุน
“นี่ ไม่ค่อยดีมั้ง?” เทพฟ้าผ่ารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
คู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ เป็นสมาชิกของตระกูลศิลปะการต่อสู้ด้วย และเขาไม่แน่ใจว่าจะปกป้องคนธรรมดาอย่างจางซือจู่ได้
จางซือจู่กลอกตา และอุทาน “หลินหยุนพูดถูก ถ้าคุณต้องการไปจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเราไปกับนาย! มิเช่นนั้นนายก็อยู่ตรงนี้แหละ!”
เทพฟ้าผ่ามองไปที่หลินหยุน หลินหยุนพยักหน้าไม่พูดอะไร สีหน้ามั่นใจ
เทพฟ้าผ่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง สายตาจับจ้องไปที่หลินหยุน และทบทวน
“แม้ว่าในร่างกายของหลินหยุนเขาจะไม่รู้สึกถึงชี่แท้แม้แต่น้อย แต่ว่า ในเมื่อเขาสามารถเอายาวิเศษที่ดีที่สุดออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา!”
“บางทีเขาอาจมีความมั่นใจที่จะรับประกันความปลอดภัยของทุกคน”
เทพฟ้าผ่าคิดอย่างนั้น ฉะนั้น เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้นทุกคนไปด้วยกัน แต่ว่า พวกนายต้องเชื่อฟังฉัน ถ้าฉันไม่พูด แม้ว่าพวกนายจะเห็นฉันถูกทุบตีจนตายก็ห้ามมาวุ่นวาย!”
“ตกลง เราสัญญา!” จางซื่อจู่ไม่คิดอะไรก็ตอบตกลงทันที
เทพฟ้าผ่าพูดไม่ออก คำสัญญานี้ยิ่งพูดได้ง่ายดาย มันก็ยิ่งไม่น่าไว้วางใจ!
“ไปกันเถอะ!” เทพฟ้าผ่าหันหลังและจากไป
ที่หน้าประตูมหาลัย ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปี พร้อมกับลูกน้องของเขาสองคน ยืนรออยู่ตรงใต้ต้นเมเปิลข้างถนน
เมื่อเห็นเทพฟ้าผ่าและคนอื่นๆมาถึง ใบหน้าที่หยิ่งผยองของชายหนุ่ม ก็แสดงความประหลาดใจ
“เทพฟ้าผ่า นายยังมีชีวิตอยู่! เฮ้ ไม่ใช่สิ ดูเหมือนว่าพิษในร่างกายของนายถูกถอนแล้วใช่ไหม? นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
เทพฟ้าผ่ายิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “หวังเชา ฉันบุญวาสนาดีอายุยืน คนดีก็ต้องมีสวรรค์คุ้มครอง! ฝ่ามือมีพิษของนาย ฆ่าฉันไม่ตายหรอก!”
ความประหลาดใจบนใบหน้าของหวังเชา ค่อยๆหายไป และเขาพูดด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “ไม่เป็นไร ในเมื่อไม่สามารถวางยาพิษให้นายตายได้ ถ้างั้นฉันจะตีนายจนตายเอง!”
“มาสิ คนที่เคยพ่ายแพ้ในมือฉัน!”
หวังเชาก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางหยิ่งยโส กระดิกนิ้วไปที่เทพฟ้าผ่าอย่างดูถูก
เทพฟ้าผ่ากัดฟัน และกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกจางซือจู่ดึงไว้
“เทพฟ้าผ่า อย่านะ! นายเอาชนะเขาไม่ได้!” จางซื่อจู่พูดอย่างตื่นเต้น
เทพฟ้าผ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้!”
“ไม่ได้ นี่นายกำลังไปหาที่ตาย!” จางซื่อจู่ดูหนักแน่น และไม่ปล่อยมือ
เสียงของหลินหยุนแผ่วเบา “ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันรับรองว่าเขาจะต้องไม่เป็นไร!”
จางซือจู่ขมวดคิ้ว และจ้องมองหลินหยุนด้วยท่าทางโกรธ “หลินหยุน นายเอาอะไรมารับประกัน! นายไม่รู้ว่าไอ้ผู้ชายที่ตรงหน้าคนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ครั้งก่อนก็เขานั่นแหละทำร้ายเทพฟ้าผ่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส!”
ไอ้หินก็พูดด้วยท่าทางหวาดกลัว “คราวที่แล้ว เทพฟ้าผ่าอยู่ภายใต้น้ำมือของเขา ทนรับได้สามกระบวนท่า! เทพฟ้าผ่าไม่สามารถเอาชนะเขาได้!”
หลินหยุนพูดว่า “ครั้งนี้ต่างกัน พวกนายไม่ต้องห่วง!”
เทพฟ้าผ่ายังพูดอีกว่า “ให้ฉันไปเถอะ! เขามาหาถึงที่แล้ว ถ้ายังไม่สู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเต่าหัวหด!”
จางซือจู่กัดฟัน ปล่อยมือ แล้วพูดเตือน “ถ้าอย่างนั้นนายต้องระวังตัว!”
“อืม”
เทพฟ้าผ่าเดินไปข้างหน้า และจ้องไปที่หวังเชาอย่างเคร่งขรึม “ฉันได้ประกาศแยกตัวออกจากตระกูลแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าตระกูลหวางของนายยังคงไม่ให้อภัย ยังตามมารังแกถึงที่!”
ฉันยอมรับว่าฉันไม่แข็งแกร่งเท่านาย แต่ว่า แม้ต้องตาย ฉันก็จะสู้ให้ถึงที่สุด!”
หวังเชายิ้มอย่างเย็นชา “อย่าพูดไร้สาระ รับไว้ คนที่เคยพ่ายแพ้ในน้ำมือของฉัน!”
การเยาะเย้ยดูถูกปรากฏบนใบหน้าของหวังเชา ขยับร่าง ต่อยหมัดออกมา
ความแข็งแกร่งของหวังเชาอยู่ในแดนพรสวรรค์ในขณะที่ความแข็งแกร่งของเลยเฉียงอยู่ที่พรแสวงสูงสุด
แน่นอนเลยเฉียงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังเชา
เพียงแต่ว่า คราวนี้เลยเฉียงทนรับได้ห้ากระบวนท่าก่อนที่จะแพ้ โดนหมัดของหวังเชาจนปลิวออกไป และทรุดตัวลงกับพื้น
“เลยเฉียง!”
จางซือจู่และคนอื่นอุทาน และกำลังจะวิ่งไป
เทพฟ้าผ่าเอื้อมมือออกไปให้พวกเขา “อย่าเข้ามา ฉันไม่เป็นไร!”
หวังเชาดูภาคภูมิใจ แต่ไม่ได้โจมตีต่อ แต่ทำเหมือนแมวไล่จับหนู แล้วพูดกับเลยเฉียงด้วยเสียงเยาะเย้ย “ไม่เลวนี่ ครั้งนี้สามารถทนรับได้มากกว่าครั้งที่แล้วตั้งสองกระบวนท่า!”
เลยเฉียงนั่งบนพื้น สีหน้าสลดใจ ชาตินี้เขาคงไม่สามารถเอาชนะหวังเชาได้!
อย่าพูดเรื่องไร้สาระ แม้ต้องตาย ฉันก็จะไม่ให้นายดูถูกได้!” เลยเฉียงพูดอย่างแข็งกร้าว
“นายอยากตายใช่ไหม? ฮ่าฮ่า ฉันจะไม่ยอมฆ่านายหรอก! ฉันแค่ชอบเห็นนายต้องการจะเอาชนะฉัน และท่าทางหมดหนทางที่ไม่สามารถเอาชนะได้”
“รอจนกว่าฉันทรมานนายมากพอ ฉันค่อยฆ่านาย”
เลยเฉียงจ้องมองด้วยความโกรธ “หวังเชาถ้าเป็นลูกผู้ชายพอก็จัดการฉันให้มันจบเรื่องสักที!”
หวังเชาหัวเราะและพูดว่า “ฉันไม่ทำ! นายแคร์ความปลอดภัยของเพื่อนนายไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นต่อหน้านายฉันจะหักขาพวกเขา นายจะยิ่งเสียใจมากกว่านี้ไหม?”
สีหน้าเลยเฉียงเปลี่ยนไป “หวังเชานายบ้าไปแล้ว! พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา!”
หวังเชาแสดงท่าทีเย้ยหยันเหมือนคนกระหายเลือด “ใครให้พวกเขาช่วยนายต่อต้านฉัน พวกเขาสมควรได้รับมัน!”
“นอกจากนี้ ฉันแค่ตีขาข้างหนึ่งของพวกเขา ไม่ได้ฆ่าพวกเขา เจ้าหน้าที่จีนคงไม่พูดอะไร”
หวังเชาเป็นคนที่โหดร้าย และตะโกนใส่ลูกน้องทั้งสองคน “ยังนิ่งอึ้งอยู่ทำไม ไปตีขาพวกเขาให้หักทีละคน!”
“ครับ!”
ชายหนุ่มสองคนเดินไปหาจางซือจู่และคนอื่นๆทันที
จางซื่อจู่ถอยออกด้วยความตกใจ “พวกนายจะทำอะไร? อย่าทำมั่วๆนะ ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้!”