จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 259 เขาไม่คู่ควรกับคำขอโทษ
ฉินหลันตระหนกตกใจ เหลือเพียงความหวังสุดท้าย จึงถามขึ้นด้วยเสียงสั่นว่า: “ที่คุณบอกว่าคุณชายส้งนั้น คือส้งอันหมิงใช่หรือไม่?”
เหยียนรุ่ยเหวินหัวเราะเหอะๆ: “นอกจากส้งอันหมิงแล้ว ที่จงโจวยังจะมีใครกล้าเรียกตนเองว่าคุณชายส้งอีกล่ะ?”
ฉินหลันนั่งลงไปบนโซฟาด้านหลังด้วยสภาพที่หมดอาลัยตายอยาก
ส้งอันหมิง คุณชายแห่งบริษัท หัวอัน กรุ๊ปผู้มีอิทธิพลอำนาจในจงโจว!
หากไปล่วงเกินส้งอันหมิง ต่อให้ทั้งบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ก็ปกป้องหลินหยุนไม่ได้
ฉินหลันจ้องไปที่หลินหยุน ด้วยท่าทางที่ไม่ได้ดั่งหวัง: “หลินหยุน ครั้งนี้นายก่อความวุ่นวายใหญ่ขึ้นแล้ว!”
หลินหยุนไม่เห็นด้วยตามนั้น และพูดด้วยสีหน้าเมินเฉยว่า: “พี่ฉินหลัน ไม่ต้องกลัว!ฉันเป็นคนทำฉันรับผิดชองตัวฉันเอง หากตระกูลส้งต้องการจะหาเรื่อง ก็ปล่อยให้พวกเขามาหาฉันได้เลย”
ฉินหลันโมโหมาก ดุด่าเสียงดัง: “หลินหยุน นายเป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดธรรมดาคนหนึ่ง นายคิดว่านายเป็นใครกัน?หากว่านายล่วงเกินต่อตระกูลส้งแล้ว แม้แต่ตัวฉันเองก็คงจะปกป้องตัวเองได้ยาก แล้วนายจะสามารถรับผิดชอบอะไรได้อย่างไรกัน?”
โดนฉินหลันเข้าใจผิด หลินหยุนก็ไม่โกรธเคืองอะไร ยิ้มแย้ม และพูดขึ้นอย่างน่าแปลกว่า: “มันก็ไม่แน่เสมอไป หากว่าฉันสามารถรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ล่ะ?”
ฉินหลันโมโหจนถึงกับยิ้มออกมา มองไปที่หลินหยุนแล้วพูดอย่างเยาะเย้ย: “พอได้แล้ว อย่าฝันไปอีกเลย รีบคิดดีกว่าว่าเดี๋ยวจะทำอย่างไรกันดี?”
หลินหยุนถามย้ำอีกว่า: “คุณยังไม่ตอบมาเลย?ถ้าหากฉันสามารถรับผิดชอบไหวล่ะ คุณสามารถที่จะสัญญาอะไรกับฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม?”
“ได้ตกลง รอให้ผ่านพ้นวิกฤตตรงหน้านี้ไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน!” ฉินหลันพูดอย่างขอไปที โดยไม่เคยคิดว่าหลินหยุนจะสามารถรับผิดชอบความโกรธแค้นของตระกูลส้งในครั้งนี้ได้
เหยียนรุ่ยเหวินหัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นโดยพลัน: “ไอ้หนุ่มน้อย ใกล้จะตายแล้วยังจะมาทำเป็นปากแข็งอีก!คุณชายส้งใช่คนที่แกสามารถล่วงเกินได้ที่ไหนกันล่ะ?”
หลินหยุนมองไปที่เหยียนรุ่ยเหวิน พูดขึ้นว่า: “เหตุการณ์ทั้งหมดนี้นายเป็นคนวางแผนใช่ไหม?”
ฉินหลันตกใจ รับรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง มองไปที่เหยียนรุ่ยเหวินอย่างแค้นเคือง ตะโกนขึ้นว่า: “เหยียนรุ่ยเหวิน ฉันว่านายคงจะเปลี่ยนนามสกุลไปแล้วจริง ๆ คิดไม่ถึงว่านายจะร้ายกาจถึงเพียงนี้!กล้าถึงขนาดที่จะยืมดาบฆ่าคน!”
เหยียนรุ่ยเหวินกระหยิ่มยิ้มย่อง: “ผู้ช่วยฉิน ตอนนี้เพิ่งจะคิดออกอย่างนั้นเหรอ มันสายเกินไปแล้วหรือเปล่า?ไอ้หนุ่มน้อย นายเตรียมรอที่จะรับมือกับความโกรธแค้นของคุณชายส้งก็แล้วกัน!”
“ไอ้ชั่วช้าสารเลว!” ฉินหลันดุด่าด้วยความโมโห
“เกิดเหตุการณ์อะไรกันขึ้นเหรอ?” เสียงอันอ่อนโยนของชายผู้หนึ่ง ดังขึ้นกระทันหัน
วัยรุ่นผู้หนึ่งในชุดสูทสีดำ หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางสง่างาม มีลูกน้องติดตามจำนวนหนึ่ง ค่อย ๆ เดินจากประตูใหญ่เข้ามายังโซนพักผ่อน
เมื่อเห็นวัยรุ่นผู้นี้ พวกคุณชายลูกเศรษฐีทั้งหมดในโซนพักผ่อน ต่างลุกขึ้นยืน แล้วโค้งคำนับอย่างสุภาพ และเรียกขานขึ้นว่า: “คุณชายส้ง!”
“ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ เชิญนั่งลง!” ส้งอันหมิงยิ้มแย้มและพูดคุยอย่างสุภาพ โดยในทุกท่วงท่าอาการ ต่างก็เป็นบุคคลิกลักษณะของผู้ดีมีตระกูล
“ขอบคุณคุณชายส้ง!”
ดูออกว่า ความเคารพนอบน้อมของทุกคนออกมาจากใจจริง
หลินหยุนมองไปที่ส้งอันหมิง ทันใดนั้นดวงตาก็เปล่งประกายแววตาอันน่าทึ่งน่าสะพรึงกลัวขึ้น
เวลาผ่านพ้นไปแปดร้อยปี ศัตรูตัวฉกาจในชาติที่แล้ว ในที่สุดก็ได้พบเจอกันอีกครั้ง
หลินหยุนทราบดีว่า ภายใต้ท่าทางที่เป็นมิตรของส้งอันหมิงนี้ ซ่อนเร้นกลอุบายร้ายอะไรอยู่
แต่ว่า ส้งอันหมิงกลับไม่เหมือนเหยียนรุ่ยเหวินและพวกคนอื่น ๆ การปฏิบัติตัวของเขา มั่นคงหนักแน่น และอ่อนน้อมถ่อมตน
ปฏิบัติตัวไม่เหมือนกับคุณชายลูกเศรษฐีที่โด่งดังทั่วไป แต่กลับเหมือนผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ใครต่างก็นับหน้าถือตา
แต่เมื่อลงมือทำอะไร วิธีการของเขากลับโหดเหี้ยมเด็ดขาดอย่างที่สุด หรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ
ชาติที่แล้ว หลินหยุนไม่ทราบแน่ชัดว่าถึงระยะห่างและความแตกต่างระหว่างตนเองกับส้งอันหมิง ยังคิดว่าที่พ่ายแพ้ต่อส้งอันหมิง ก็เพราะตนเองโชคไม่ดี
แต่ว่า สายตาของหลินหยุนในวันนี้ ย้อนมองกลับไปถึงระยะห่างและความแตกต่างระหว่างตนเองกับส้งอันหมิงแล้ว จึงพบว่า ชาติที่แล้ว เขาพ่ายแพ้อย่างชอบธรรม
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือความคิดการวางแผนของส้งอันหมิงแล้ว ต่างก็ยอดเยี่ยมกว่าเขาเป็นไหน ๆ หลายเท่านัก
ฉินหลันก็รีบโค้งคำนับ เรียกขานว่า: “คุณชายส้ง!”
ส้งอันหมิงยิ้มและพยักหน้าไปทางฉินหลัน: “คุณคือผู้ช่วยฉินน่ะสิ?ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้ยินคุณพ่อพูดถึงว่า ข้างกายของประธานกรรมการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปมีผู้ช่วยที่ทั้งสวยงดงามและมากความสามารถผู้หนึ่ง วันนี้ได้พบเจอ สมกับคำเล่าลือที่ว่าไว้จริง ๆ!”
ฉินหลันถึงกับตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าคนมีชื่อเสียงอย่างส้งอันหมิง ยังที่จะสนใจในตัวเธอด้วย!
ทำให้ฉินหลันรู้สึกว่าได้รับการโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน
“คุณชายส้งชมเกินไปแล้ว!” ฉินหลันพูดขึ้นอย่างถ่อมตัว
สายตาของหลินหยุนเย็นชาในทันที บางทีฉินหลันอาจจะคิดว่าส้งอันหมิงสนใจเธอโดยความบังเอิญ
ความจริงไม่เป็นดังนั้น ชาติที่แล้วส้งอันหมิงแอบใฝ่ฝันในตัวฉินหลันมาโดยตลอด ทุกคนต่างคิดว่าที่ฉินหลันช่วยเหลือหลินหยุนบริหารจัดการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเพื่อต่อต้านกับตระกูลส้ง ส้งอัน หมิงจึงเกิดความรักในความสามารถ ดังนั้นจึงคิดที่จะครอบครองผู้หญิงที่ทั้งสวยงามและฉลาดมีความสามารถผู้นี้
แต่ หลินหยุนรู้สึกว่า ส้งอันหมิงได้คิดแผนการชั่วร้ายกับฉินหลันไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
มิเช่นนั้น ส้งอันหมิงในตอนนี้ ทำไมถึงเข้าใจอะไรในตัวฉินหลันได้มากขนาดนี้?
แต่น่าเสียดาย ต่อให้หลินหยุนรู้ถึงภาพลักษณ์ที่แท้จริงของส้งอันหมิง ตอนนี้ก็ไม่สามารถบอกกับฉินหลันได้ อีกทั้งแม้ว่าจะพูดบอกออกไป ฉินหลันเองก็ไม่ใช่ว่าจะเชื่อสักหน่อย
ส้งอันหมิงกวาดสายตามองไปที่ทุกคน โดยที่สายตาไม่ได้หยุดมองไปที่ตัวของหลินหยุนเลยแม้แต่น้อย และถามขึ้นว่า: “เรื่องราวเป็นมาอย่างไร?ที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
คุณชายหลี่รีบยืนขึ้น จ้องมองไปที่หลินหยุดอย่างโหดเหี้ยม พูดขึ้นว่า: “คุณชายส้ง เมื่อครู่นี้ไอ้หนุ่มนี้ลงมือทำร้ายฉัน!คุณชายส้ง ฉันอยู่ในคลับของท่าน กลับถูกบอดี้การ์ดกระจอกนี้ทำร้ายร่างกาย ท่านจะต้องออกหน้าแทนจัดการฉันด้วย!”
สีหน้าของส้งอันหมิงดูเข้มงวดขึ้น พูดอย่างหนักแน่นว่า: “ตอนแรกที่ก่อตั้งคลับไดนาสตี้นี้ขึ้น ฉันได้กำหนดกฎระเบียบเอาไว้ว่า ไม่ว่าใครที่ไหนรวมถึงตัวฉันด้วย ห้ามที่จะลงไม้ลงมือกันในคลับ ไดนาสตี้อย่างเด็ดขาด!”
“หากผู้ใดที่ละเมิดกฎระเบียบดังกล่าวแล้ว จะหมายความว่าผู้นั้นเป็นศัตรูกับตระกูลส้ง!”
ฉินหลันรีบอธิบายขึ้นว่า: “คุณชายส้ง เป็นเพราะพวกเขาที่ก่อเรื่องโดยไม่มีเหตุผลก่อน เพื่อที่จะปกป้องฉันบอดี้การ์ดของฉัน จึงลงไม้ลงมือทำร้าย!หวังว่าคุณชายส้งจะตรวจสอบเหตุการณ์ให้ละเอียด!”
ส้งอันหมิงมองไปที่คุณชายหลี่ ถามขึ้นว่า: “เป็นอย่างนี้ใช่ไหม?”
คุณชายหลี่มีสีหน้าที่พะอืดพะอม ไม่กล้าที่จะพูดโกหก: “ใช่แล้ว”
ส้งอันหมิงพยักหน้าและพูดขึ้นว่า: “แม้ว่าหลี่ชงจะเป็นผู้หาเรื่องขึ้นก่อน แต่หากพูดกันตามความจริงคือบอดี้การ์ดของคุณที่ลงมือทำร้ายคน แบบนี้แล้วกัน เห็นแก่หน้าและเกียรติของคุณฉิน ก็ให้บอดี้การ์ดของคุณแสดงความขอโทษต่อหลี่ชงว่าอย่างไรล่ะ?”
ฉินหลันดีอกดีใจ เดิมทีคิดว่าส้งอันหมิงมาแล้ว จะสร้างความลำบากให้กับหลินหยุน คิดไม่ถึงว่าส้งอันหมิงจะพูดง่ายถึงเพียงนี้ เพียงแค่กล่าวขอโทษก็จบกันไป
“หลินหยุน ทำไมยังไม่รีบขอบคุณคุณชายส้งล่ะ!” ฉินหลันรีบพูดขึ้น
คุณชายหลี่ตกใจ และพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ: “ไม่ได้นะคุณชายส้ง ไอ้หนุ่มนี้ลงมือทำร้ายคนในคลับของท่าน ท่านกลับให้เขาแค่แสดงความขอโทษก็สิ้นเรื่องสิ้นราวแล้วเหรอ?”
“การลงโทษเท่านี้มันไม่เบาไปหน่อยเหรอ?”
ส้งอันหมิงมองไปที่คุณชายหลี่ พูดอย่างหนักแน่นว่า: “หลี่ชง แม้ว่าฉันจะกำหนดกฎระเบียบไว้ว่าห้ามลงมือทำร้ายคน แต่กฎระเบียบนั้นมันตายตัว ส่วนคนยังมีชีวิตที่ต้องดำรงต่อไปอยู่ ถ้าหากว่านายไม่ไปหาเรื่องก่อนในตอนแรก พวกเขาจะทำผิดกฎระเบียบได้อย่างไรกัน?”
“ถ้าหากพูดกันอย่างเข้มงวดแล้ว นายต่างหากที่เป็นต้นตอผู้กระทำผิด!”
คุณชายหลี่รีบหัวเราะขึ้น: “เหอะๆ คุณชายส้งท่านพูดล้อเล่นไปได้ ฉันไม่ได้ลงมือสักหน่อย จะกลายเป็นต้อตอผู้กระทำผิดได้อย่างไรกันเล่า?”
“ตามนั้นแล้วกัน เห็นแก่หน้าของคุณชายส้ง ขอโทษก็ขอโทษ!ไอ้หนุ่มนี้ก็ถือว่าได้ประโยชน์ไป!”
เหยียนรุ่ยเหวินไม่ค่อยจะพึงพอใจ คิดไม่ถึงว่าส้งอันหมิงจะให้หลินหยุนแค่แสดงความขอโทษเท่านั้น!
ยังคิดว่าอย่างน้อยส้งอันหมิงจะตัดแขนหรือว่าตัดขาหลินหยุนทิ้ง?
คุณชายหลี่มองไปที่หลินหยุน พูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมว่า: “ไอ้หนุ่มน้อย ในเมื่อคุณชายส้งพูดแล้ว แกขอโทษมาก็แล้วกัน!”
“แม่ง ไอ้หนุ่มนี้ถือว่าได้ประโยชน์ไป!”
สีหน้าของพวกลูกเศรษฐีทั้งหลายแสดงออกถึงความไม่ค่อยพอใจ
ฉินหลันเบาใจลง โดยที่ตระกูลส้งสามารถมีอิทธิพลอำนาจในจงโจวมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
ผู้สืบทอดแต่ละคนของตระกูลส้ง ต่างก็เป็นผู้ที่เก่งกาจมีความสามารถและมีกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ ส้งหัวอันก็ใช่ ตอนนี้ส้งอันหมิงก็ใช่ อีกทั้งยังจะดูเหมือนมีแนวโน้มว่าผู้เป็นลูกจะมีโอกาสแซงหน้าเอาชนะผู้เป็นพ่อได้อีกด้วย
ฉินหลันมองไปที่หลินหยุนที่กำลังเหม่อลอย แอบกระตุกแขนเสื้อของเขาเล็กน้อย พูดเตือนขึ้นว่า: “ไอ้เด็กโง่ ยังไม่รีบที่จะกล่าวคำขอโทษอีก!”
สายตาของหลินหยุนมองไปยังส้งอันหมิง ด้วยสีหน้าท่าทางเมินเฉย และพูดขึ้นว่า: “จะให้ฉันขอโทษเหรอ เขาไม่คู่ควร”