จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 263 ทุกคนตกใจ
ทุกคนช็อก!
หยู่ลั่วจินไซเชิญเป็นการส่วนตัว แต่ไอ้หนุ่มคนนี้กลับปฏิเสธ!
ใบหน้าอันที่เหมือนเจอเรื่องเหี้ยมาของคุณชายหลี่ “ไอ้หนุ่มคนนี้สมองมีปัญหาหรือเปล่า!”
คุณชายเฉินก็ประหลาดใจเช่นกัน “หยู่ลั่วจินไซเชิญเขาเป็นการส่วนตัว ไอ้หมอนี่ยังไม่ไว้หน้า ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อกี้แม้แต่คุณชายส้งเขายังกล้าที่ทำให้อับอาย!”
“น่าเสียดาย ถ้าสามารถไปฝึกฝนกับทีมนักกีฬาในมณฑล อนาคตหากพูดออกไปก็รู้สึกเป็นเกียรติ!”
เศรษฐีหนุ่มเหล่านั้นรู้สึกเสียดายแทนหลินหยุน และรู้สึกว่าหลินหยุนหยิ่งยโสเกินไป แม้แต่หยู่ลั่วจินไซยังไม่เห็นอยู่ในสายตา
แม้แต่ส้งอันหมิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ต้องเข้าใจว่าหยู่ลั่วจินไซ เป็นบุคคลที่แม้แต่พ่อของเขายังต้องประจบ
แค่บอดี้การ์ดจิ๊บจ๊อยอย่างเขา แม้ว่าประธานหวางซูเฟินแห่งบริษัทตงหวางกรุ๊ปอยู่ตรงนี้ ยังต้องให้ความเคารพต่อหยู่ลั่วจินไซ
แต่ไอ้หมอนี่ปฏิเสธคำเชิญของหยู่ลั่วแห่งจินไซ อย่างไม่ลังเลเลยสักนิด!
เหยียนรุ่ยเหวินก็ตกใจเช่นกัน เขาคาดไม่ถึง โอกาสที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไขว่คว้ามานาน แต่กลับถูกหลินหยุนทำลายไปอย่างไร้ประโยชน์
“ไอ้หมอนี่บ้าหรือเปล่า? นั่นคือหยู่ลั่วจินไซ! หากสามารถผูกมิตรกับหยู่ลั่วจินไซ เสมือนว่าได้เชื่อมความสัมพันธ์กับควีนจิน แม้ว่าเขาจะเป็นบอดี้การ์ดไปตลอดชีวิต ก็คงไม่ได้รับเกียรติเช่นนี้ แต่เขากลับปฏิเสธ!”
หยู่ลั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอเป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจ แม้ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในจินไซหกของควีนจิน แต่หลายปีมานี้พลังอำนาจที่ควีนจินมอบให้เธอควบคุมก็ถึงขีดสูงสุดแล้ว
อาจกล่าวได้ว่า แม้ว่าจะไม่ต้องพึ่งพาชื่อเสียงของควีนจิน แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าพูดคำว่าไม่กับเธอ
เพียงแต่ว่า วันนี้กลับถูกบอดี้การ์ดคนหนึ่งปฏิเสธ
หยู่ลั่วยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายเป็นคนแรกที่กล้าปฏิเสธฉัน”
“แต่ว่า วันนี้นายต้องให้คำอธิบายกับฉัน ทำไมถึงต้องปฏิเสธฉัน?”
หลินหยุนเหลือบมองเธอ ยิ้มแปลกๆแล้วพูดว่า “อธิบาย? เธอกลับไปถามควีนจิน ให้เธออธิบายให้เธอฟังสิ!”
“ไอ้หนุ่มคนนี้ โอหังเกินไป! ปฏิเสธหยู่ลั่วจินไซก็แล้ว เขายังกล้าไร้มารยาทกับหยู่ลั่วจินไซ และยังเรียกควีนจินเช่นนั้นอีกด้วย!”
“ต้องเข้าใจว่าปกติควีนจินมักจะให้คนนอกเรียกเธอว่า “คุณท่านจิน” ”
ตอนนี้ คาดว่าหยู่ลั่วจินไซจะต้องอาละวาดแน่ๆ!”
สายตาที่เศรษฐีหนุ่มเหล่านั้นมองหลินหยุน ราวกับมองคนที่กำลังจะตาย
ส้งอันหมิงก็มึนไปหมด ฟังน้ำเสียงของหลินหยุน เหมือนกับว่าแม้แต่ควีนจินเขายังไม่เห็นอยู่ในสายตา
ต้องเข้าใจว่าแม้แต่ตระกูลส้งของเขา อยู่ต่อหน้าควีนจิน ก็ต้องโค้งคำนับ หลินหยุนเป็นเพียงบอดี้การ์ดที่ฉินหลันจ้างมา ยังกล้าโอหังขนาดนี้!
ตอนนี้ คิดว่าแม้แต่บริษัทตงหวางกรุ๊ปก็ต้องเดือดร้อนเพราะเขา!
ส้งอันหมิงเยาะเย้ยในใจ “นี่พระเจ้ายังต้องการช่วยฉันจริงๆหรือ ถ้าเป็นเพราะไอ้หมอนี่ทำให้หยู่ลั่วจินไซต้องโกรธบริษัทตงหวางกรุ๊ป ถ้าเช่นนั้นบริษัทตงหวางกรุ๊ปก็คงจะเพิ่มศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นอีกคน!”
เหยียนรุ่ยเหวินเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความตกใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อน หลินหยุนจะหยิ่งยโสถึงเพียงนี้!
สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้หยู่ลั่วจินไซขุ่นเคือง แต่ยังทำให้ควีนจินขุ่นเคือง
เหยียนรุ่ยเหวินรู้สึกเสียใจ ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้จะไม่ออกมายุ่ง
หลินหยุนไอ้หมอนี่อยากฆ่าคนอื่นให้ตายเหรอ!
เหยียนรุ่ยเหวินแอบชำเลืองมองหยู่ลั่วจินไซ หาจังหวะที่เธอไม่ทันสังเกต ขยับเท้าก้าวอย่างเงียบๆ เพื่อพยายามอยู่ห่างจากหลินหยุนให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้หยู่ลั่วจินไซพลอยโกรธไปด้วย
แม้แต่ฉินหลัน ก็เหมือนจะหน้ามืด และเกือบจะเป็นลม
เดิมทีฉินหลันคิดว่าหลินหยุนเป็นคนที่มีพรสวรรค์พอจะส่งเสริมได้ และหลังจากที่กลับไปแล้วก็ต้องการพัฒนาและฝึกฝนเขา แต่ตอนนี้เธอได้ค้นพบว่า หลินหยุนเป็นเพียงความหายนะที่เห็นใครก็เกลียดไปหมด!
ก่อนหน้านี้หาเรื่องเหยียนรุ่ยเหวิน มาถึงที่นี่ก็หาเรื่องคุณชายหลี่ แต่หาเรื่องคนสองคนนี้ยังพอว่า เพราะสองคนนี้สมควรได้รับมัน
แต่ว่า หลังจากนั้นหลินหยุนก็โกรธและหาเรื่องส้งอันหมิงอีกครั้ง ส้งอันหมิงไม่ได้ทำเรื่องอะไรมากเกินไป!
ตอนนี้ แม้แต่หยู่ลั่วจินไซก็ยังไปโกรธเกลียด โชคดีที่ควีนจินไม่อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นฟังจากน้ำเสียงของเขา คิดว่าแม้แต่ควีนจินก็จะไม่ละเว้น
คนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ ฉินหลันยังกล้าจะจ้างอีกเหรอ!
นี่มันเหมือนเกลียดฟ้าเกลียดดินเกลียดอากาศ และไม่รู้ว่ามันจะจุดชนวนระเบิดเวลาใด!
ฉินหลันยังอยากจะตัดความสัมพันธ์กับหลินหยุน โดยหวังว่าตลอดเวลาไม่เคยได้จ้างเขา
“หยู่ลั่วจินไซ คุณอย่าโกรธเลย ไอ้หนุ่มคนนี้ฉันพามาจากชนบท ไม่เข้าใจกฎระเบียบ หวังว่าคุณจะไม่ไปถือสาคนอย่างเขา!” ฉินหลันพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เรื่องของหลินหยุนจบด้วยดี
เศรษฐีหนุ่มเหล่านั้นต่างจ้องมองหน้ากัน เมื่อกี้พวกเขาได้ยินอย่างชัดเจนว่าหลินหยุนเรียกชื่อควีนจิน ถ้าหลินหยุนเป็นคนที่ฉินหลันพามาจากชนบทจริงๆ คนบ้านนอกอย่างนี้จะรู้จักควีนจินได้อย่างไร!
คุณชายหลี่พูดอย่างเย็นชา“คุณฉิน คุณคิดว่าหยู่ลั่วจินไซจะเป็นคนที่หลอกได้ง่ายๆหรือ? ถ้าเขาเป็นคนที่คุณพามาจากชนบทจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จัก คุณท่านจิน !”
ฉินหลันจ้องไปที่คุณชายหลี่ และแอบดูผู้ชายคนนี้ที่พูดมากเกินไป
คราวนี้ หยู่ลั่วจินไซจะต้องกริ้วโกรธแน่นอน!
เศรษฐีหนุ่มเหล่านั้นต่างรอคอยที่จะดูความหน้าแตกของหลินหยุน แต่ว่า หยู่ลั่วจินไซไม่ได้โกรธอย่างที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้
แต่สีหน้าเปลี่ยนไป ทันใดนั้นสายตาที่จ้องมองหลินหยุนเปลี่ยนเป็นระมัดระวังเป็นพิเศษ
“คุณคือปรมาจารย์หลิน!”
ทันใดนั้นหยู่ลั่วจินไซก็โค้งคำนับให้กับหลินหยุน สายตาที่เย่อหยิ่งบนใบหน้าก็หายไป และพูดด้วยความเคารพ “หยู่ลั่วมีตาแต่หามีแววไม่ ได้ล่วงเกินไป หวังว่าคุณหลินจะยกโทษให้!”
สถานที่นี้เงียบสงบเหมือนเดิม!
ทุกคน ถึงกับตาค้าง!
“เกิดสถานการณ์อะไรขึ้น?หยู่ลั่วจินไซไม่ได้โกรธ และยังขอโทษไอ้หนุ่มคนนี้”
“โอ้พระเจ้า ฉันเห็นอะไร! ในโลกนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
“นั่นมันคือหยู่ลั่วจินไซ หนึ่งในจินไซหกของควีนจินผู้มีเกียรติในหลิงหนาน เธอถึงกลับมาขอโทษบอดี้การ์ดคนหนึ่ง!”
“ไอ้หมอคนนี่เป็นแค่บอดี้การ์ดจริงๆเหรอ? ใช่สิ ฉันได้ยินหยู่ลั่วจินไซพูดว่าปรมาจารย์หลิน? ใครคือปรจารย์หลิน?แล้วเกี่ยวอะไรกับไอ้หนุ่มคนนี้?”
ทุกคนจ้องมองหน้ากัน แต่พวกเขาไม่รู้ว่าปรมาจารย์หลินเป็นใคร
“ฉันเดาว่า ปรมาจารย์หลินท่านนั้น ต้องเป็นอาจารย์ของไอ้หนุ่มคนนี้ หยู่ลั่วจินไซต้องเห็นแก่อาจารย์ของเขา เลยไว้ชีวิตเขา!”
“ใช่ มันควรจะเป็นเช่นนี้!”
ชื่อเสียงของปรมาจารย์หลิน มีเพียงคนในหลิงหนานเท่านั้นที่รู้ อีกอย่าง คนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับปรมาจารย์หลิน ก็กลัวกับพลังอำนาจที่ล้นหลามของปรมาจารย์หลินจนต้องทำตามคำสั่ง และเก็บความลับของปรมาจารย์หลินไว้ยังดี และไม่กล้าที่จะเผยแพร่ออกไป
ดังนั้น แม้ว่าหลิงหนานกับจงโจวจะมีพรมแดนติดกัน แต่ชื่อเสียงของปรมาจารย์หลิน ก็ไม่ถูกส่งต่อมาถึงตรงนี้
แม้ว่าผู้สนใจบางคน เช่นตระกูลส้ง จะเคยได้ยินข่าวของปรมาจารย์หลิน
แต่ว่า ก็คงจะไม่เอาหลินหยุนเชื่อมโยงกับปรมาจารย์หลินแน่นอน!
ปรมาจารย์อยู่ในใจของผู้คน น่าจะเป็นบุคคลที่มีอายุเจ็ดถึงแปดสิบปี หลินหยุนหนุ่มน้อยที่มีอายุแค่20ปี อย่างมากคิดว่าคงจะเป็นศิษย์ของปรมาจารย์หลิน
ส้งอันหมิงมองหลินหยุนด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าเขาจะประเมินค่าไอ้หนุ่มคนนี้ต่ำเกินไป
“โดยไม่คาดคิด ไอ้หนุ่มคนนี้กลายเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์หลิน ฉินหลันนี่โชคดีจริงๆ หาบอดี้การ์ดมาหนึ่งคน ก็สามารถหาได้ศิษย์ของปรมาจารย์หลิน!”
อย่างไรก็ตาม สำหรับตำนานของปรมาจารย์หลิน ลึกๆในใจส้งอันหมิงก็ไม่อยากเชื่อ
ท้ายที่สุด หนึ่งคนพูดให้สิบคน สิบคนพูดให้ร้อยคน เมื่อถึงหูของส้งอันหมิง ปรมาจารย์หลินได้กลายเป็นผู้ที่สามารถเรียกลมเรียกฝนได้ เป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและให้น้ำทะเลกลายเป็นพื้นดินได้
ใครก็ตามที่มีมันสมองดีจะไม่เชื่อ นับประสาอะไรกับส้งอันหมิง
ส้งอันหมิงเชื่อว่า ปรมาจารย์หลินในตำนานท่านนั้น อย่างมากก็เป็นแค่นักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุด
อย่างไรก็ตาม ควีนจินในหลิงหนาน นั้นมีอยู่จริงๆ ตระกูลส้งต้องการผูกมิตรกับควีนจินมาตลอด แต่พวกเขาก็หาหนทางไม่เจอตอนนี้หยู่ลั่วจินไซปรากฏตัว ส้งอันหมิงก็ไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้ผูกมิตรกับควีนจิน
“หยู่ลั่วจินไซ โปรดรอสักครู่!” ส้งอันหมิงพูดเพื่อรั้งเอาไว้
แต่หยู่ลั่วจินไซไม่สนใจเขาเลย และเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาได้พบกับบางสิ่งที่น่ากลัว