จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 267 ให้คำอธิบายกับพวกเรา
เหยียนรุ่ยเหวินเดินเข้ามาในห้องประชุมอย่างสบายใจ สายตากวาดไปที่ฉินหลัน เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“สวัสดีครับท่านประธาน และประธานคณะกรรมการทุกท่าน!”
เหยียนรุ่ยเหวินทำความเคารพ
เหยียนต้าวหมิงเหลือบมองที่ฝูงชน และพูดว่า “ต่อจากนี้ไปเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย ฉันจะไม่ขอพูดอะไร ทุกท่านถามเต็มที่ สิ่งที่ลูกชายรู้ สิ่งที่รู้ก็จะพูดทุกอย่าง และไม่ปิดบัง!”
“ดี!”
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ท่านประธานถาม!” กรรมการคนหนึ่งเสนอ
“เป็นความคิดที่ดี” ประธานคณะกรรมการหลายคนก็เห็นด้วย
หวางซูเฟินก็ไม่ได้ปฏิเสธ “โอเคถ้างั้นฉันจะถาม!”
“คุณชายเหยียน เมื่อสักครู่ประธานคณะกรรมการเหยียนพูดว่าคุณเห็นอะไรบางอย่างในที่ประชุมสุดยอดขนาดเล็ก ไม่ทราบว่าคุณเห็นอะไรกันแน่?”
เหยียนรุ่ยเหวินแสดงสีหน้าครุ่นคิด จากนั้น ใบหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นประธานคณะกรรมการทุกท่านก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
เหยียนรุ่ยเหวินได้นำเรื่องเมื่อวานในที่ประชุมสุดยอดขนาดเล็ก เรื่องที่หลินหยุนไปล่วงเกินส้งอันหมิงและหยู่ลั่ว ได้เติมเชื้อไฟลงไปแล้วเล่าออกมา
นอกจากนี้ เขายังจงใจให้เข้าใจว่าทั้งหมดนั้นได้รับคำสั่งจากฉินหลัน โดยจงใจทำให้ส้งอันหมิงและหยู่ลั่วจินไซขุ่นเคือง
และสำหรับเรื่องทักษะการยิงธนูที่โดดเด่นของหลินหยุน และเหตุการณ์ที่สุดท้ายหยู่ลั่วจินไซได้กล่าวขอโทษหลินหยุน เรื่องเหล่านี้เหยียนรุ่ยเหวินไม่ยอมเอ่ยปากสักคำ
หลังจากที่ประธานคณะกรรมการทุกคนได้ฟัง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมา
“ตระกูลส้งเป็นผู้ปกครองอำนาจใหญ่แห่งจงโจว เขาเป็นแค่บอดี้การ์ดจิ๊บจ๊อยยังกล้าดูหมิ่นคุณชายใหญ่ของตระกูลส้ง! คนผู้นี้ช่างใจกล้าเหลือเกิน ผู้ช่วยฉิน รีบพาบอดี้การ์ดคนนั้นออกมา! ฉันจะไปตบปากมัน!” ประธานคณะกรรมการหญิงคนนั้นพูดอย่างโมโห
หยู่ลั่วจินไซเป็นลูกน้องคนสนิทของนายกหลู่! และเบื้องหลังมีควีนจินเป็นผู้สนับสนุน ไม่ต้องพูดถึงแค่บอดี้การ์ดจิ๊บจ๊อยอย่างเขา แม้แต่ฉันเองก็ไม่มีความกล้าไปล่วงเกินสักนิด!”
“ผู้ช่วยฉิน ส่งบอดี้การ์ดคนนี้ออกมาเร็ว! คนๆนี้ต้องเป็นสายลับที่ศัตรูแอบส่งเข้ามาแน่นอน และจงใจใส่ร้ายพวกเรา!”
ประธานคณะกรรมการทุกคนเริ่มชุลมุน
เมื่อสักครู่หวางซูเฟินได้ประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับบริษัทฉางเหอกรุ๊ป แต่ตอนนี้บอดี้การ์ดของฉินหลันได้ทำให้คนสองคนขุ่นเคืองซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับบริษัทฉางเหอกรุ๊ป!
หัวใจของคณะกรรมการเหล่านี้จะทนรับไหวเหรอ!
หวางซูเฟินก็ขมวดคิ้ว ตระกูลส้งไม่ขอพูดถึง แต่ว่า หยู่ลั่วจินไซ แม้แต่เธอก็ยังไม่กล้าที่จะล่วงเกิน
หวางซูเฟินมองไปที่ฉินหลัน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ฉินหลัน นี่มันเกิดเรื่องอะไร?”
พ่อและลูกชายของตระกูลเหยียนที่อยู่ด้านข้าง มองไปที่กลุ่มประธานคณะกรรมการที่ตื่นเต้นร้อนใจ ด้วยสายตาภาคภูมิใจ
ฉินหลันรีบแก้ตัว “ท่านประธาน ท่านประธานคณะกรรมการทุกท่าน ทุกท่านอย่าพึ่งร้อนใจ เรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่ทุกท่านคิด!”
“เหยียนรุ่ยเหวินแค่ยกประเด็นขึ้นมาบางส่วน เขาไม่ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทุกท่านฟัง สถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันจะเล่าตามความจริงให้ชัดเจนทุกอย่าง”
“หลังจากทุกคนฟังแล้ว ค่อยออกความคิดเห็นได้มั้ยคะ”
ประธานคณะกรรมการต่างพากันใจเย็นลงเล็กน้อย
เหยียนรุ่ยเหวินจะยอมให้เวลาพวกเขาพิจารณาได้อย่างไร? รีบพูดเสียงดังเพื่อบีบคั้น“ผู้ช่วยฉิน คุณบอกว่าฉันพูดประเด็นไม่หมด ถ้างั้นฉันจะถามคุณ สิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ มีตรงไหนที่เป็นเรื่องเท็จหรือเปล่า?”
ฉินหลันขมวดคิ้ว แม้ว่ามีบางจุดที่เหยียนรุ่ยเหวินจะจงใจพูดให้มันเวอร์ แต่สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงทั้งหมด
ให้ฉินหลันโกหก เธอทำไม่ได้
ฉินหลันพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่มีข้อเท็จ!”
เหยียนรุ่ยเหวินคาดไว้แล้วว่าฉินหลันพูดโกหกไม่เป็น ทันใดนั้นเขาก็พอใจ เขามองไปที่ประธานคณะกรรมการ และพูดเสียงดังว่า “เรียนท่านประธานคณะกรรมการทุกท่าน เมื่อกี้ผู้ช่วยฉินยอมรับเองว่า สิ่งที่ผมพูดไม่มีข้อความเท็จใดๆ!”
“ในเมื่อข้อความที่ผมพูดไม่มีเท็จ งั้นผมคิดว่าผู้ช่วยฉินไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แค่พาบอดี้การ์ดคนนั้นออกมาก็พอ!”
“ถ้าผู้ช่วยฉินไม่พามา ถ้างั้นพวกเราสามารถคิดได้ไหมว่า ผู้ช่วยฉินจงใจปกป้องบอดี้การ์ด? ในตอนนั้นไอ้หนุ่มคนนั้น เรียกพี่ฉินหลันตลอด เหมือนสนิทกันมาก!”
คำพูดของเหยียนรุ่ยเหวินทั้งหมด มีเหยียนต้าวหมิงเป็นคนสอน พูดได้เป็นขั้นเป็นตอน ร้ายกาจมาก แม้แต่ฉินหลันก็รับมือไม่ไหว
เมื่อประธานคณะกรรมการเหล่านี้ได้ยิน พวกเขาก็ตะโกนทันที “ผู้ช่วยฉิน มอบบอดี้การ์ดที่สมควรตายคนนั้นออกมา!”
“ใช่ ฉินหลัน รีบส่งบอดี้การ์ดที่สมควรตายนั่นออกมา!”
ฉินหลันแอบกังวล เธอไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้ดำเนินไปเกินความคาดหมายของเธอ ประธานคณะกรรมการเหล่านี้ไม่ให้โอกาสเธอพูดด้วยซ้ำ
เพียงแต่ว่า หลินหยุนเป็นเพียงบอดี้การ์ดชั่วคราวเท่านั้น จะให้ฉินหลันไปหาเขาที่ไหน?”
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฉินหลันสามารถหาหลินหยุนเจอ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของหลินหยุน และเธอจะไม่ให้หลินหยุนตกอยู่ในอันตราย
เหยียนรุ่ยเหวินเยาะเย้ย “ผู้ช่วยฉิน คุณไม่พูดหมายความว่าอย่างไร? หรือคุณอยากจะปกป้องบอดี้การ์ดคนนั้นจริงๆ? หรือว่า คุณและเขามีความสัมพันธ์อะไรที่บอกกันไม่ได้?”
เหยียนรุ่ยเหวินคอยชี้นำให้ประธานคณะกรรมการเหล่านี้คิดไปในทางที่ไม่ดี
แน่นอน ประธานกรรมการเหล่านี้ได้รับการชักจูงโดยเหยีนรุ่ยเหวิน ไม่มีการป้องกันเลย สัญชาตญาณไปตามการชักนำของเหยียนรุ่ยเหวิน เพื่อทบทวนเกี่ยวกับปัญหา
ฉินหลัน ส่งไอ้หมอนั่นออกมาเร็ว!”
ใช่ ส่งมันออกมา ไม่อย่างนั้นคุณกับไอ้หมอคนนั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!”
ฉินหลัน บริษัทตงหวางกรุ๊ปปฏิบัติต่อคุณอย่างดี ทำไมคุณถึงต้องให้ร้ายบริษัทตงหวางกรุ๊ป!”
“ท่านประธานหวาง นี่เป็นผู้ช่วยที่ดีของคุณเหรอ! คุณลืมตาและมองให้ดีๆ! โชคดีที่ลูกชายของท่านประธานเหยียนเห็นสิ่งนี้ มิฉะนั้น หลังจากที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปไปมีศัตรูทุกที่ ถึงแม้จะมารู้ทีหลังผลประโยชน์คงหายไปหมดสิ้น!”
หวางซูเฟินขมวดคิ้ว มองไปที่ฉินหลัน และตำหนิ “ฉินหลัน บอดี้การ์ดคนนั้นเป็นอะไร? ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะทรยศฉัน คุณไปเรียกเขามาให้การกับฉัน!”
ฉินหลันหมดหนทาง “ท่านประธาน เขาเป็นแค่บอดี้การ์ดชั่วคราวเท่านั้น และตอนนี้จากไปแล้ว!”
ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงของเรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่เหยีนนรุ่ยเหวินพูด ได้โปรดเชื่อฉันเถอะ!”
หวางซูเฟินไม่แสดงความรู้สึกใดๆบนใบหน้า
กวาดสายตามองประธานคณะกรรมการด้วยความไม่พอใจ ยืนขึ้นและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “พอเถอะ!”
“ฉันเชื่อฉินหลัน เธอจะไม่มีวันทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ปแน่นอน!”
“ในเมื่อเรื่องนี้เกิดจากบอดี้การ์ดคนนั้น รอเมื่อพบบอดี้การ์ดคนนั้น ฉันจะให้เขาอธิบายให้ทุกคนฟังด้วยตัวเอง!”
เมื่อเห็นหวางซูเฟินแสดงความโกรธ แม้ว่าประธานคณะกรรมการเหล่านั้นจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“ในเมื่อท่านประธานพูดเช่นนี้ พวกเราก็เชื่อ เพียงแต่ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ท่านประธานต้องตรวจสอบให้เร็วที่สุด และให้คำอธิบายแก่ประธานคณะกรรมการ!” ประธานคณะกรรมการคนหนึ่งพูด
“โอเค!” หวางซูเฟินตอบอย่างเด็ดขาด
“ฉินหลัน จะหาบอดี้การ์ดคนนั้นได้เมื่อไหร่” หวางซูเฟินถาม
ฉินหลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “งานประชุมสุดยอดจงโจวพรุ่งนี้ เขาคงจะมาร่วมงาน และถึงตอนนั้นสามารถถามเขาได้
หวางซูเฟินพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ประธานหู ประธานจางและประธานเหยียน พรุ่งนี้ทั้งสามท่านไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจงโจวกับฉัน หากพบบอดี้การ์ดคนนั้น ให้ถามเขาด้วยตนเอง!
“ตกลง!”
เหยียนต้าวหมิงทั้งสามคนเห็นด้วย
“ยังมีอะไรอีกไหม?” หวางซูเฟินถาม
ทุกคนส่ายหัว
“ถ้างั้นก็เลิกประชุม!” หวางซูเฟินหันหลังและจากไป
ห้องทำงานของหวางซูเฟิน
“ฉินหลัน เกิดอะไรขึ้น” หวางซูเฟินพูดอย่างอบอุ่น
ฉินหลันยืนตรงหน้าหวางซูเฟินด้วยความเคารพ และบอกเกี่ยวกับเรื่องที่เธอจ้างหลินหยุนเป็นบอดี้การ์ด และเล่าเรื่องที่ไปประชุมสุดยอดที่จงโจวอีกครั้ง
หลังจากหวางซูเฟินได้ฟังแล้ว ก็อึ้ง!
“คุณบอกว่าสุดท้ายหยู่ลั่วจินไซได้กล่าวขอโทษเขา!”
ฉินหลันพยักหน้า “ใช่ ฉันได้ยินมากับหูของฉันเอง!”
หวางซูเฟินมีสีหน้าเคร่งขรึม “นี่มันก็แปลก!”
“หยู่ลั่วจินไซเป็นลูกน้องคนสนิทนายกหลู่ เป็นหนึ่งในจินไซหกของควีนจินผู้มีเกียรติ วันนั้นฉันก็ได้เจอไอ้หนุ่มคนนั้นแล้ว แม้ว่าเขาจะฝีมือดี แต่เขาเป็นเพียงบอดี้การ์ดของหยางหยิง”
“หยู่ลั่วจินไซทำไมต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ?”
ฉินหลันพูดว่า “ฉันได้ยินหยู่ลั่วจินไซเรียกเขาว่าปรมาจารย์หลิน ฉันเดาว่า หลินหยุนอาจเป็นศิษย์ของปรมาจารย์หลิน”