จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 29 ไม่ต้องเพิ่มแล้ว
บทที่ 29 ไม่ต้องเพิ่มแล้ว
หอเฟยชุ่ย เป็นชื่อของที่พนันหินอัญมณี
ด้านหน้ากาสิโน ที่จริงถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับการพนันหินอัญมณี การพนันหินอัญมณีถึงจะเป็นแหล่งโกยเงินของหอเฟยชุ่ย
พื้นที่ในส่วนที่พนันหินอัญมณีนั้นใหญ่กว่ากาสิโนที่หลินหยุนและคนอื่นไปเล่นมาเมื่อกี้กว่าสองเท่า ห้องโถงใหญ่ๆ กว้างๆ ตรงกลางเป็นส่วนที่ไว้และเก็บหินอัญมณี
หินอัญมณีทุกเม็ดมีชื่อและราคาติดไว้ แต่ว่าหินอัญมณีที่วางไว้ด้านหน้านี้ ล้วนแต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดนัก
ในส่วนของหินอัญมณีที่มีค่าจริงๆ จะถูกเก็บเอาไว้ก่อน จากนั้นเมื่อถึงเวลาประมูล ด้วยวิธีการเสนอราคา ก็จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด
เมื่อทุกคนมาถึง ก็มีพนักงานสาวสวยใส่ชุดกี่เพ้าสีแดง ดูโดดเด่นเดินเข้ามา หล่อนส่งยิ้มเชิงธุรกิจให้แล้วพูด: “แต่ละท่านมาได้เวลาเหมาะเลยค่ะ การประมูลหินอัญมณีรอบใหม่กำลังจะเริ่มพอดีเลยค่ะ ได้ยินมาว่าหินอัญมณีในครั้งนี้ส่งตรงมาจากพม่าเลยนะคะ ไม่แน่อาจจะเป็นหินอัญมณีที่ดีที่สุดเลยค่ะ!”
“อ่อ งั้นดีเลย!” หลี่เหยนยิ้มเล็กน้อย แล้วมองไปทางหลินหยุนกับจินหยวนเป่า แล้วยิ้มเยาะ: “คุณชายจิน เชิญ!”
“ฉันไม่กลัวนายหรอก!” จินหยวนเป่าโอบสาวสวย พลางสูบซิการ์ แล้วเดินก้าวยาวๆ เข้าสนามประมูลไป
หลี่เหยนกับเว่ยเทียนหมิงและคนอื่นก็เดินตามจินหยวนเป่าเข้าไป
ขณะนั้นอีหลิงก็เต็มไปด้วยความอยากรู้ในตัวหลินหยุนทันที ในขณะที่ไม่รู้ตัวนั้น เธอกลับรู้สึกเป็นห่วงหลินหยุน
อีหลิงจงใจแกล้งเดินข้างหลัง เมื่อหลินหยุนเดินถึงด้านข้าง ก็แอบพูดเตือนหลินหยุนเบาๆ
“หลินหยุน ฉันได้ยินมาว่าการพนันหินอัญมณีนั้นเสียเปรียบมาก พนันสิบครั้งแพ้เก้าครั้ง นายอย่าทำอะไรตามอารมณ์ อย่าตกหลุมพรางพวกนั้นนะ!”
พูดจบ อีหลิงก็รีบเดินตามเซี่ยหยู่เวยและคนอื่นๆ ไป
หลินหยุนมองแผ่นหลังที่งดงามของอีหลิง ก็เกิดรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า: “ยัยอีหลิงคนนี้ ยังคงมีน้ำใจเหมือนเดิมนะ!”
“แต่น่าเสียดายชาติที่แล้วจุดจบของเธอนั้นเศร้าเกินไป ในชาตินี้ฉันจะต้องเปลี่ยนโชคชะตาเธอให้ได้!”
“แต่ว่าในตอนนี้พวกเรายังไม่สนิทกัน ทำได้แค่หาโอกาสเตือนเธอเท่านั้น ให้เธอไม่ทำผิดซ้ำเหมือนชาติที่แล้ว”
ด้านหน้าห้องโถงมีเวทีอยู่ ด้านล่างมีเก้าอี้ตั้งอยู่หลายสิบตัว มีคนนั่งอยู่ไม่น้อยแล้ว
หลินหยุนและจินหยวนเป่าหาที่นั่งลง เว่ยเทียนหมิงกับเซี่ยหยู่เวยนั่งลงอีกฝั่ง ทั้งสองจงใจเว้นระยะห่างจากหลินหยุน
หลี่เหยนเห็นหลินหยุนทำสีหน้านิ่งเฉย ก็อดไม่ได้ที่จะฮึดสู้ในใจ ที่หลินหยุนได้สร้างรอยแผลไว้ในใจเขาในกาสิโนก่อนหน้านี้
“จ้าวกาง นายว่าไอ้นั่นมันจะพนันหินอัญมณีเก่งมั้ยวะ?” หลี่เหยนถาม
จ้าวกางนิ่งอยู่ครู่ แล้วพูด: “ไม่หรอก มันก็แค่คนไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ? การพนันหินอัญมณีที่ผลาญเงินแบบนี้ หมอนั่นจะเล่นได้ยังไง?”
หวางเสี่ยวซีพูดขึ้น: “ฮึ่ย พวกนายอยากจะรู้ว่าหลินหยุนเล่นเป็นมั้ย ก็ถามเซี่ยหยู่เวยก็สิ้นเรื่อง?”
“ใช่แล้ว หยู่เวยน่าจะรู้จักไอ้ไร้ประโยชน์นั่นดีที่สุด!” หลี่เหยนพูดอย่างมีความสุข
สายตาของเว่ยเทียนหมิงก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางเซี่ยหยู่เวย
เซี่ยหยู่เวยมองไปทางหลินหยุนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วพูด: “เขาไม่เคยเล่นพนันหินอัญมณี แม้แต่กฎกติกาพื้นฐานเขายังไม่รู้ พวกนายวางใจได้!”
หลี่เหยนถอนหายใจ แล้วหัวเราะ: “เป็นงั้นฉันก็วางใจแล้ว”
ด้านฝั่งนี้จินหยวนเป่าก็เริ่มพูดความรู้พื้นฐานของการพนันหินอัญมณีให้หลินหยุนฟัง
“ทุกคนจะต้องออกเงินซื้อหินธรรมดามาหนึ่งก้อน ถ้าหากด้านในมีอัญมณี นั้นก็ได้กำไรแล้ว ถ้าหากไม่มี นั่นก็เข้าเนื้อ พูดแบบนี้นายพอเข้าใจมั้ย?”
จินหยวนเป่าทั้งมือทั้งเท้าออกท่าทางอธิบายให้หลินหยุนฟัง
หลินหยุนพยักหน้าตอบ: “เข้าใจแล้ว”
“นี่นาย แม้แต่การพนันหินอัญมณียังไม่รู้จักเลยว่ามันคืออะไร แต่ก็ยังกล้าไปตอบรับพนันกับพวกนั้น?” จินหยวนเป่าทำสีหน้าหมดคำจะพูด ตอนแรกคิดว่าหลินหยุนฝีมือดี ด้านพนันหินจะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าหลินหยุนจะไม่รู้อะไรเลย
หลินหยุนมองจินหยวนเป่านิ่งๆ แล้วพูด: “ตอนนี้ก็รู้แล้วไม่ใช่ไง?”
“ไอดอล สมแล้วที่เป็นไอดอลของฉัน มีเอกลักษณ์สุดๆ !” จินหยวนเป่าทำสีหน้ายกย่อง เขารู้สึกว่าความมั่นใจเต็มเปี่ยมของหลินหยุน และท่าทีที่ไม่แคร์ใครของเขามันช่างน่าหลงใหล
อีกอย่างพฤติกรรมที่ทำให้คนไม่ชอบ เมื่อมาอยู่บนร่างของหลินหยุนแล้ว กับทำให้จินหยวนเป่ารู้สึกว่ามันควรจะเป็นแบบนั้น ราวกับว่าหลินหยุนควรจะมีความเย่อหยิ่งแบบนี้ในตัว
“ยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาเข้าร่วมงานนะครับ ผมจะไม่พูดเรื่องอะไรไร้สาระให้มากความ ครั้งนี้เรามีอัญมณีที่ส่งตรงมาจากพม่า หากมีโอกาสที่จะเปิดเจออัญมณีล้ำค่า ส่วนใครจะเป็นผู้โชคดีนั้น ก็ต้องวัดจากสายตาของแต่ละท่านนะครับ”
บนเวที พิธีกรชายวัยกลางคน พูดเปิดอย่างเรียบง่ายพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อพูดจบ สองมือของเขาก็ตบมือ เรียก: “เอาหินอัญมณีขึ้นมาหนึ่งก้อน!”
พนักงานสาวสวมชุดกี่เพ้าสีแดง ถือถาดที่มีหินอัญมณีวางและถูกคลุมปิดด้วยผ้าสีแดงเดินขึ้นมาบนเวที
พิธีกรใช้สองมือค่อยๆ เปิดผ้าคลุมสีแดงออก เป็นหินก้อนใหญ่พอๆ กลับลูกบอล หินมีลักษณะหยาบเป็นสีเขียวอ่อนถูกเผยต่อหน้าทุกคน
“นี่คือหินอัญมณีก้อนแรก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งล้านเหรียญ ทุกครั้งที่เพิ่มคือหนึ่งแสนเหรียญ!”
“เริ่มการประมูล!”
เมื่อพิธีกรพูดจบ ผู้ชายอ้วนที่นั่งด้านหน้าก็พูดขึ้นทันที: “หินอัญมณีก้อนนี้ด้านนอกเป็นสีเขียวแล้ว ถือว่าเป็นหินหยาบระดับสูง มีโอกาสสูงที่จะเปิดเจออัญมณีล้ำค่า!”
“ฉันให้หนึ่งล้านห้าแสนเหรียญ!”
ชายสวนเสื้อเชิ้ตเทาคนนึง หัวเราะเหอะๆ : “เจ้านายเปาสายตาดี หินอัญมณีก้อนนี้เป็นของดีจริงๆ เพราะงั้นหนึ่งล้านห้ามันน้อยไป ฉันให้สองล้าน!”
หินอัญมณีก้อนแรกเพิ่งจะออกมา ก็ทำให้สองคนสู้ราคาแย่งกันแล้ว ทำให้คนที่เหลือเริ่มพูดคุยกันในทันที
“เจ้านายเปาคนนั้นใช่คนที่มีฉายาว่าเปาเสินทั่นเจ้านายเปานั่นใช่มั้ย?” มีคนจำฐานะของเจ้านายเปาได้แล้ว
“ใช่แล้ว นั่นคือเปาเสินทั่น เขาคือผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงพนันหินอัญมณีของหลินโจว!จนคนอื่นตั้งฉายาให้เขาว่าเปาเสินทั่น เป็นนักล่าพวกอัญมณีล้ำค่าพวกนั้น เคยลงเงินห้าแสน แล้วเปิดเจอหยกจักรพรรดิ์สองก้อน ได้กำไรมาเป็นร้อยเท่า!”
“ส่วนชายแก่อีกคนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเทาก็ไม่ใช่เล่นๆ ถ้าหากไม่ได้ดูผิด เขาก็คือซุนป้านเฉิง เซียนครึ่งซุนในแวดวงพนันหินอัญมณี!”
“หินที่ทั้งสองคนนี้ต้องตา ต้องไม่แย่!ฉันให้สองล้านหนึ่งแสน!” ชายวัยกลางคนคนนึงตะโกนเสียงดัง
จินหยวนเป่ามองหลินหยุน แล้วพูด: “เปาเสินทั่นกับเซียนครึ่งซุนแย่งกัน หินก้อนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!”
“ฉันให้สามล้าน!” จินหยวนเป่าแทบรอไม่ไวที่จะตะโกนออกไป
อีกฝั่ง หลี่เหยนและคนอื่นมองจินหยวนเป่า
หลี่เหยนพูด: “จินหยวนเป่านั่นต้องเห็นถึงชื่อเสียงของเปาเสินทั่นกับเซียนครึ่งซุน ถึงคิดว่าหินก้อนนี้นั้นคุ้มราคา พวกเราจะปล่อยให้เขาเอาไปไม่ได้!”
“ฉันให้สามล้านห้าแสนเหรียญ!” หลี่เหยนตะโกนขึ้น
จินหยวนเป่าตะโกนสวนกลับทันที: “สี่ล้าน!”
จากนั้น ก็ทำหน้าตายียวนพลางมองหลี่เหยน
หลี่เหยนแอบด่า แล้วมองไปทางเว่ยเทียนหมิง ถาม: “คุณชายเว่ย คิดว่าหินก้อนนี้เป็นไง?”
เว่ยเทียนหมิงเคยศึกษาเรื่องการพนันหินอัญมณีมาก่อนบ้าง เขามองหินบนเวทีอย่างละเอียด แล้วพูด: “หินอัญมณีขนาดเท่านี้มีให้เห็นไม่มากนัก อีกทั้งด้านนอกก็กลายเป็นสีเขียวแล้ว อีกอย่างเปาเสินทั่นกับเซียนครึ่งซุนก็แย่งกันอีก น่าจะไม่แย่นะ”
เมื่อได้ยินเว่ยเทียนหมิงอธิบาย หลี่เหยนก็พยักหน้า แล้วเพิ่มราคาต่อ: “ฉันให้ห้าล้าน!”
เปาเสินทั่นพูด: “ห้าล้านหนึ่งแสน!”
ขณะที่จินหยวนเป่ากำลังจะอ้าปาก เตรียมพูดว่าหกล้าน จู่ๆ หลินหยุนก็พูดขึ้น: “ไม่ต้องเพิ่มแล้ว”