จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 308 มีตาแต่มองไม่เห็นของมีค่า
ส้งจี้ซานได้ล้วงแว่นขยายออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ตรวจดูโดยละเอียด
หนึ่งนาทีต่อมา ส้งจี้ซานกล่าวอย่างมั่นใจ “นี่ก็คือผลงานที่ฉินจ้องจุ่ยวาดเลียนแบบ เป็นของจริง ราคาในท้องตลาดก็ประมาณสองพันห้าร้อยหยวน”
“เพียงแต่ ฉันเห็นกระดาษภาพวาดนี้มีความพิเศษอยู่บ้าง หากน้องชายไม่เอา ฉันให้หนึ่งหมื่นหยวน แล้วให้ภาพนี้กับฉันเป็นไง?”
หนึ่งหมื่นหยวน!
ภาพวาดนี้ราคาตลาดแค่สองพันกว่าหยวน
ศาสตราจารย์ส้งต้องเห็นว่าพวกเราขาดทุน ดังนั้นจึงจงใจอยากจะชดเชยให้พวกเรา
ศาสตราจารย์ส้งเป็นคนที่จิตใจกว้างขวางมากจริงๆ
หลินหยุนส่ายหัว “ขอโทษครับ ไม่ขายครับ”
ไม่ใช่มั้ง!
ไอ้หนุ่มคนนี้จะไม่ขาย!
เขาโง่หรือเปล่า?
ราคาตลาดแค่สองพันกว่าหยวน ศาสตราจารย์ส้งให้ราคาตั้งหนึ่งหมื่นหยวน กลับไม่ขาย!
หนึ่งหมื่นหยวน แม้จะเทียบราคาของเข็มเทพห้ามังกรไม่ได้ เหมือนเศษหนึ่งส่วนสิบ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์
ศาสตราจารย์ส้งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สองหมื่นหยวน แบบนี้น่าจะได้แล้วมั้ง!”
หลินหยุนยังคงยืนกรานส่ายหัว “ผมบอกแล้ว ไม่ขาย”
“สองหมื่นแล้วนะ ไอ้หนุ่ม ได้ราคาดีก็ขายเลย!”
“ใช่ นี่มันเกินราคาของตลาดมาสิบเท่าแล้วนะ มันคือความเมตตาของศาสตราจารย์ส้ง ก็เพราะว่าสงสารนาย ไม่อย่างนั้นนายไปขายที่ไหนที่จะได้ราคาสูงแบบนี้!”
“คว้าโอกาสเอาไว้ให้ดีนะไอ้หนุ่ม ผ่านโอกาสนี้ไป ก็จะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว”
โจวเฟินก็กล่าวโน้มน้าว “เสี่ยวหยุน ไม่งั้นเราก็ขายมันไปเถอะ เก็บเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ขายได้หน่อยก็คือหน่อย”
ตอนนี้เซี่ยเจี้ยนโก๋ใช้เงินเก็บของครอบครัวไปจนหมด ยังมีค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยที่ต้องชดใช้ให้กับคนอื่น สองหมื่นแม้ว่าจะไม่เยอะ ไม่แน่มันอาจจะบรรเทาความจำเป็นที่เร่งด่วนได้ชั่วคราว
หลินหยุนยิ้มแล้วกล่าว “น้าเฟิน ราคาภาพวาดนี้ มันมากกว่าสองหมื่นหยวน น้าเชื่อผม!”
ศาสตราจารย์ส้งยิ้มแล้วกล่าว “เห่อๆ น้องชาย หากภาพวาดนี้เป็นภาพวาดของถังหยิ่น ราคาก็ต้องมหาศาลอยู่แล้ว แต่มันเป็นเพียงภาพวาดที่ฉินจ้องจุ่ยวาดเลียนแบบเท่านั้น แม้จะเป็นของจริง แต่มูลค่านั้นไม่สูงจริงๆ”
“หากนายไม่เชื่อฉัน ตอนนี้นายสามารถลองถามคนที่อยู่ตรงนี้ดูก็ได้”
ในกลุ่มคน ชายชราคนหนึ่งได้ก้าวออกมา แล้วกล่าว “ไอ้หนุ่ม ศาสตราจารย์ส้งพูดถูกแล้ว ผลงานของฉินจ้องจุ่ย หลงเหลือไว้ค่อนข้างเยอะ อีกอย่างส่วนใหญ่ก็ถูกรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นมากสุดก็มีมูลค่าแค่สองพันหยวน ราคาที่ศาสตราจารย์ส้งให้นั้น ถือว่าสูงมากแล้ว”
หลินหยุนกล่าวอย่างหนักแน่น “ผมพูดไปแล้ว ไม่ขาย พวกคุณไม่ต้องพูดมากแล้ว”
เถ้าแก่อ้วนยังคงได้ยินหลินหยุนไม่ขาย ทันใดนั้นก็ยิ้มเยาะในใจ “ไอ้หนุ่มคนนี้ หรือมันจะคิดว่าเก็บสมบัติได้จากร้านของฉัน สองหมื่นหยวนยังไม่ยอมขาย!”
“เดี๋ยวก่อน นายไม่ขาย ฉันขาย! ศาสตราจารย์ส้ง ในร้านผมยังมีผลงานของฉินจ้องจุ่ยหลายชิ้น ผมจะเอาออกมาให้คุณดู”
ส้งจี้ซานพยักหน้ากล่าว “ได้สิ รบกวนคุณแล้ว!”
ในกลุ่มคนก็มีคนหัวเราะเยาะความทุกข์ของคนอื่นทันที
“เห่อๆ ไอ้หนุ่มคนนี้ เมื่อกี้สองหมื่นหยวนไม่ขาย ตอนนี้เสียใจก็ไม่ทันแล้ว หากจะขายก็ขายก็คงต้องขายในราคาสองพันแล้ว”
“โลภมากลาภหายก็แบบนี้แหละ สมน้ำหน้า!”
เถ้าแก่ก็รีบวิ่งไปหยิบภาพวาดออกมาหลายภาพ “ศาสตราจารย์ส้ง ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นผลงานของฉินจ้องจุ่ย ล้วนเป็นของแท้ คุณชอบภาพไหน หนึ่งหมื่นผมก็ขายแล้ว”
ศาสตราจารย์ส้งเปิดดูทีละภาพ แล้วกล่าวด้วยความเสียใจ “แม้ว่าจะเป็นผลงานจริงของฉินจ้องจุ่ย แต่เมื่อเทียบกับภาพเมื่อกี้ ก็ยังรู้สึกว่ามาขาดอะไรบางอย่าง”
ศาสตราจารย์ส้งมองหลินหยวนอีกครั้ง แล้วกล่าว “น้องชาย สามหมื่นฉันจะเอาเลย นี่เป็นราคาครั้งสุดท้ายแล้ว นายคิดดูให้ดี”
หลินหยุนยังคงส่ายหัว “ผมพูดแล้ว ไม่ขาย”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที “นายไม่ขาย ฉันขาย!”
“ศาสตราจารย์ส้ง ภาพวาดนี้ให้คุณแล้ว!”
เมื่อกี้เกือบจะเสียเปรียบให้กับเจ้าของร้าน เขาก็เสียใจแล้ว หากรู้แต่แรกหนึ่งหมื่นก็ขายให้กับศาสตราจารย์ส้งแล้ว
โชคดีที่ศาสตราจารย์ส้งไม่ถูกใจภาพวาดในร้าน เซี่ยเจี้ยนโก๋จึงยังมีโอกาส
หลินหยุนมองเซี่ยเจี้ยนโก๋อย่างใจเย็น กล่าวอย่างเรียบเฉย “คุณคิดให้ดีนะ มูลค่าของภาพวาดนี้ มันมากกว่าสองพันหยวนมาก มากถึงขาดเกินกว่าตำราเข็มเทพห้ามังกรของคุณ หากขายไปแล้ว คุณอย่ามาเสียใจนะ!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ตกตะลึง แม้จะไม่เชื่อว่าภาพวาดนี้จะมีมูลค่ามากขนาดนั้น แต่เมื่อฟังหลินหยุนพูดแบบนี้ ก็รู้สึกสองจิตสองใจแล้ว
“ฮ่าๆ ไอ้หนุ่ม นายช่างกล้าพูดจริงๆนะ ภาพวาดเลียนแบบของฉินจ้องจุ่ยแบบนี้ ฉันสามารถหาให้นายร้อยภาพเลย ฉันไม่เอาถึงสองหมื่นหรอก หากนายอยากได้ ภาพละหนึ่งหมื่น ต้องการเท่าไหร่ก็จะหาให้นายเท่านั้น!” เจ้าของร้านยิ้มกล่าวอย่างลำพองใจ
มุมปากของหลินหยุนโค้งงอขึ้นเล็กน้อย มองไปทางเจ้าของร้าน “หากผมสามารถยืนยันได้ว่าภาพวาดภาพนี้มีมูลค่ามากกว่าสองล้านล่ะ?”
เถ้าแก่ร้านหัวเราะเยาะ “นายฝันไปแล้ว! ภาพวาดของฉัน ฉันจะไม่เข้าใจเลยเหรอ! หากไม่ใช่ว่าเจอกับศาสตราจารย์ส้ง ภาพวาดนี้มากสุดก็สองพันกว่าหยวน!”
หลินหยุนกล่าวอย่างเรียบเฉย “เถ้าแก่ เรามาเดิมพันสักตั้งเป็นไง? หากผมสามารถยืนยันได้ว่าภาพวาดนี้มีมูลค่ามากกว่าสองล้านหยวน คุณต้องออกมายอมรับอย่างเปิดว่าตำราเข็มเทพห้ามังกรเป็นของปลอม สำหรับค่าเสียหาย คุณก็ไม่ต้องชดใช้”
เจ้าของร้านยิ้มเยาะ “หากนายแพ้ล่ะ?”
หลินหยุนกล่าว “งั้นผมก็จะให้คุณสองล้าน จะเดิมพันมั้ย?”
แววตาของเจ้าของร้านลุกวาว ใบหน้าปรากฏด้วยความโลภ
“ได้ คำไหนคำนั้น! ทุกคนเป็นพยานด้วย หากนายแพ้แล้วห้ามโกงนะ!”
เจ้าของร้านรู้สึกว่า นี่มันกำลังจะเอาเงินมาให้เขาชัดๆเลย!
มูลค่าของภาพวาดนี้ เขานั้นเข้าใจดีกว่าใครๆ มันจะเกินสองล้านหยวนได้ยังไง?
ผู้คนที่มองดูอยู่รอบข้าง ต่างส่ายหัว “ไอ้หนุ่มคนนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังจะเอาเงินให้คนอื่น ผลงานภาพวาดของฉินจ้องจุ่ย จะมีราคาเกินสองล้านหยวนได้ยังไง?”
“วัยรุ่นชอบเอาชนะ! หวานหมูเถ้าแก่ใจอำมหิตคนนี้แล้ว!”
ศาสตราจารย์ส้งขมวดคิ้ว มองหลินหยวนอย่างสงสัย “น้องชาย นายต้องคิดให้ดีนะ ภาพวาดนี้ไม่มีทางที่จะมีมูลค่ามากกว่าสองหมื่นหยวน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสองล้าน นายเดิมพัน แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!”
โจวเฟินก็เตือน เสี่ยวหยุน “ในเมื่อศาสตราจารย์ส้งก็พูดแล้ว นายก็อย่าเดิมพันเลย ฟังคนเขาเตือน เพื่อความอยู่รอด!”
เซี่ยหยู่เวยใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง กระซิบกล่าว “หลินหยุน นายไม่อวดดีจะได้มั้ย? ศาสตราจารย์ส้งก็พูดแล้ว นายยังจะเดิมพันอีก!”
หลินหยุนกล่าวอย่างอ่อนโยน “น้าเฟินวางใจเถอะ ผมมั่นใจ”
สำหรับเซี่ยหยู่เวย หลินหยุนไม่ได้สนใจเธอ
เจ้าของร้านกลัวหลินหยุนจะเปลี่ยนใจ พูดรบเร้า “ไอ้หนุ่ม ตกลงจะเดิมพันมั้ย? หากจะเดิมพันก็ยืนยันให้ฉันดูหน่อย ดูสิว่านายจะทำให้ภาพวาดของฉินจ้องจุ่ย มีมูลค่าเกินสองล้านยังไง”
“งั้นคุณก็ดูให้ดี” หลินหยุนกางภาพวาดออก จากนั้นเขาก็ฉีดภาพวาดนี้ ต่อหน้าทุกคน
กลุ่มคนที่มองดูอยู่รอบๆ ก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที
“ไอ้หนุ่มคนนี้บ้าไปแล้วมั้ง? เขากลับฉีกภาพวาด!”
“ต่อให้ไม่มีมูลค่าสองล้าน แต่ศาสตราจารย์ส้งก็ยินดีซื้อในราคาสามหมื่นหยวน สามหมื่นหยวน ก็ถูกฉีกจนขาดแบบนี้!”
“ไอ้ลูกล้างผลาญ ไอ้หนุ่มคนนี้มันเป็นคนล้างผลาญจริงๆ หากเขาเป็นลูกชายฉัน ฉันจะต้องตีขาของเขาให้หัก!”
ใบหน้าเซี่ยหยู่เวยเต็มไปด้วยความโกรธ “ตะคอกอย่างเย็นชา หลินหยุน นายกำลังทำอะไร!”
เซี่ยเจี้ยโก๋ใบหน้าบูดบึ้ง อุทานอย่างเบาๆ “หลินหยุน นายคิดจะทำอะไร? หยุดเดี๋ยวนี้!”
นี่มันเป็นเงินสามหมื่นเชียวนะ ตอนนี้เป็นเวลาที่เซี่ยเจี้ยนโก๋ต้องการเงิน หลินหยุนกลับฉีกทำลายภาพวาดต่อหน้าเขา!
เจ้าของร้านหัวเราะอย่างลำพองใจ “ไอ้หนุ่ม ต่อให้แพ้ ก็ไม่ต้องโกรธขนาดนี้ นายทำลายภาพวาด มันก็จะไม่มีค่าแม้แต่หยวนเดียวแล้ว!”
หลินหยุนหัวเราะอย่างเย็นชา กางภาพวาดออกอีกครั้ง กวาดมองไปที่ผู้คนอย่างเฉื่อยชาแล้ว “ใครบอกว่าผมฉีกล่ะ? เปิดตามองให้ละเอียดด้วย ผมแค่ฉีกกรอบกระดาษที่อยู่ชั้นนอกออก ภาพที่อยู่ด้านในถึงจะเป็นภาพดั้งเดิม!”