จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 336 ให้คุณเห็นเพลงฝึกบู๊ที่แท้จริง
หัวใจของอีหยุ่นหดหู่ เมื่อกี้เขาก็ไม่มั่นใจหลินหยุน ตอนนี้คุณปู่เจ็ดยังพูดว่าอีเฉินเย่าเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของเขา ถ้างั้นก็แสดงว่าหลินหยุนยิ่งสิ้นหวังมากขึ้น
ป๋ายรุ่ยเหวินกับกู้ซิวหรั่นและคนอื่นซึ่งเป็นศัตรูกับหลินหยุน เมื่อเห็นว่าอีเฉินเย่ามีพลังแข็งแกร่งมากเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“หลินหยุน ดูซิว่าครั้งนี้นายจะยังมีชีวิตรอดไหม!
หลินหยุนมองอีเฉินเย่าซึ่งไม่ใส่เสื้อ และมีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดเต็มไปหมด ไร้ความรู้สึก “เห็นแก่ที่มันไม่ง่ายที่นายจะฝึกฝนได้ถึงขั้นนี้ ฉันจะให้โอกาสนายสักครั้ง ฉันจะนั่งที่นี่ ขอเพียงนายสามารถบังคับให้ฉันยืนขึ้นได้ ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวความแค้นระหว่างนายกับตระกูลอีอีกต่อไป!”
“อะไรนะ!”
อีหยุ่นเบิกตากว้าง ใบหน้าเหลือเชื่อ
“เขาบ้าไปแล้วเหรอ?”
“นั่งนิ่งๆสู้กับอีเฉินเย่า! เขาเอาความมั่นใจมาจากไหน?”
“ไอ้หนุ่มคนนี้ ช่างหยิ่งยโสจริงๆ!”
อีหยุ่นรู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่มีความมั่นใจในตัวหลินหยุน แต่ในใจก็ยังมีความหวังจางๆ หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้หลินหยุนหยิ่งยโสขนาดนี้ เหมือนขุดหลุมฝังศพให้ตัวเอง
“เฮ้อ ดูเหมือนวิกฤตครั้งนี้ของตระกูลอีจะรอดยาก!” อีหยุ่นเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าพร้อมกับถอนหายใจ
เกือบทุกคนมีความคิดแบบเดียวกับอีหยุ่น หลินหยุนประมาทเกินไป ความแข็งแกร่งของอีเฉินเย่านั้น ชายชราชุดดำยังเทียบไม่ได้เลย
อีเฉินเย่าก็สะดุ้งเล็กน้อย แล้วใบหน้าที่น่าเกลียดของเขาก็เต็มไปด้วยความอับอาย เขารู้สึกว่าหลินหยุนพูดแบบนี้มันคือการดูหมิ่นเขา
“ไอ้หนุ่ม นายกำลังหาที่ตาย!”
ทันใดนั้นความเร็วของอีเฉินเย่าปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ร่างของเขาก็เคลื่อนไหว และทุกคนก็เห็นแสงสีแดง พุ่งไปทางหลินหยุนอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นหลินหยุนก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่แสงสีแดง จากนั้นจึงชูตะเกียบขึ้นอย่างเฉยชา แล้วคีบอย่างสบายใจ
ฉากที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น
ตะเกียบคู่นั้นของหลินหยุนซึ่งดูเหมือนจะหักได้ทุกเมื่อ แท้จริงแล้วสามารถหนีบข้อมือของอีเฉินเย่าที่ต่อยมาไว้แน่น
ตะเกียบดูเหมือนคีมเหล็กขนาดยักษ์ อีเฉินเย่าพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดิ้นให้หลุด แต่ขยับไม่ได้เลย
“ไป!”
หลินหยุนคลายตะเกียบ และโบกมือเบาๆอีเฉินเย่ารู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งกระแทกใส่ร่างกายของเขาทันที
บูม!
ร่างกายของอีเฉินเย่า ถูกแรงมหาศาลนั้นกระแทกจนปลิวออกไป
ชึดๆๆ……ถอยหลังห้าหกก้าว ถึงควบคุมร่างกายตัวเองให้คงที่ได้
“อะไรเนี่ย!”
ทั่วทั้งห้องโถง ตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง!
ทุกคน อ้าปากค้างอีกครั้ง เป็นเวลานานกว่าจะหุบปากได้
อีเฉินเย่าพ่ายแพ้จริงๆ!”
“ไอ้หนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
อีเฉินเย่าเองก็ตกใจเหมือนกัน มองที่หลินหยุนอย่างเหลือเชื่อ
แต่ว่า อีเฉินเย่าไม่เต็มใจ
“ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนว่าฉันประเมินค่าแกต่ำเกินไป”
“นายเป็นคนที่หยิ่งผยอง คราวนี้ ฉันจะสู้ให้สุดใจ!”
ทันใดนั้นอีเฉิงเย่าก็หลับตาลง ร่างกายของเขาลอยจากพื้น แสงสีแดงบนร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทั้งตัวของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดง
“ให้นายได้เห็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน ฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิต!”
แสงสีแดงที่ปกคลุมร่างกายของอีเฉินเย่า จู่ๆก็รวมตัวกันบนหัวของเขา ก่อตัวเป็นฝ่ามือสีแดงขนาดใหญ่ เหมือนฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิต
รอบๆฝ่ามือสีแดง มีเสียงกรีดร้อง และมีสายฟ้าเล็กๆลอยไปมาราวกับงูสีเงิน มองขึ้นไปเหมือนวันสิ้นโลก
คุณปู่เจ็ดหน้าถอดสีหน้าทันที และอุทาน “ฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิต!”
“เมื่อถูกนำมาใช้ เหมือนอาชูร่ามาจุติยังโลก มีเสียงลมหวีดหวิว ถูกต้อง นั่นคือฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิตเป็นวิชาเฉพาะของฉิวเชียนซา!”
“เขาเป็นลูกศิษย์ของฉิวเชียนซา!”
อีหยุ่นเหลือบมองใบหน้าที่เคร่งเครียดของคุณปู่เจ็ด จากนั้นจึงหันไปมองลุงฉิน และถามว่า “ลุงฉิน ฉิวเชียนซาคือใคร?”
ลุงฉินส่ายหัว “เจ้านาย ฉันไม่เคยได้ยินชื่อคนนี้มาก่อน!”
คุณปู่เจ็ดพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “นายย่อมไม่เคยได้ยิน เมื่อ30ปีที่แล้วฉิวเชียนซาได้ออกจากประเทศจีน และถูกเจียงร่อโจ๋บังคับให้สาบานว่า ตลอดชีวิตนี้ห้ามเข้ามาเหยียบประเทศจีนอีก”
ลุงฉินประหลาดใจ “เทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋ในประเทศจีน!”
ถูกต้อง “ใบหน้าแก่ของคุณปู่เจ็ด ย้อนความทรงจำขึ้นมา “เมื่อสามสิบปีที่แล้วปรมาจารย์คนแรก รุ่นสมัยเทพดาบเยนหนานเทียนประกาศเก็บตัวเพื่อฝึกฝน ฉิวเชียนซาที่ก่อตั้งสำนักอาชูร่า เข้าโจมตีประเทศจีนอย่างหนัก และเอาชนะปรมาจารย์แปดคนติดต่อกัน ในโลกบู๊ทั้งหมดไม่มีใครหยุดยั้งได้ ผู้คนต่างตื่นตระหนก ทุกมณฑลในริมทะเลถึงกับประกาศยอมแพ้โดยตรง”
“ทางเลือกสุดท้าย ทุกสำนักในโลกบู๊ได้รวมตัวกัน และขอร้องให้เทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋ในเจียงหนานออกหน้า เพื่อออกมาป้องกันไม่ให้ฉิวเชียนซารุกรานประเทศจีน”
“เจียงร่อโจ๋ได้นัดหมายเพื่อต่อสู้กับฉิวเชียนซา และสู้กันบนยอดเขา เพียงแต่ว่าถึงเวลานัดหมาย มีเพียงเจียงร่อโจ๋เท่านั้นที่ปรากฏตัว ก็เลยประกาศว่าให้ฉิวเชียนซาถอยออกจากประเทศจีน และให้คำสาบาน ตลอดชีวิตนี้ไม่ให้เหยียบเข้ามาในประเทศจีนอีก”
“แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้เห็นการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ว่าทุกคนก็รู้ว่า คงต้องเป็นเจียงร่อโจ๋ที่ชนะแน่นอน”
“อย่างไรก็ตาม มีข่าวออกมาว่า หลังจากวันที่สองของการต่อสู้ของ เจียงร่อโจ๋ก็เริ่มเก็บตัวฝึกฝน แม้ว่าจะเป็นแค่ข่าวซุบซิบ แต่ว่าตั้งแต่นั้นมา เจียงร่อโจ๋ ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่อีเฉินเย่าอายุยังน้อย ก็มีการบำเพ็ญที่ทรงพลัง ที่แท้เขาเป็นลูกศิษย์ของฉิวเชียนซา!”
อีหยุ่นดูเป็นกังวล “เมื่อสามสิบปีที่แล้วฉิวเชียนซาก็แข็งแกร่งขนาดนั้น วิชาเฉพาะของเขาต้องมีพลังแข็งแกร่งมาก อีเฉินเย่าเป็นลูกศิษย์ของเขา ตอนนี้หลินหยุนยิ่งไม่มีความหวังที่จะชนะแล้ว!”
คุณปู่เจ็ดถอนหายใจ เฮ้อ ปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตากรรม”
ลุงฉินไม่พูด แต่ท่าทางและสีหน้าซีดเซียว
แต่ยังดีที่คุณปู่เจ็ดยังจำฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิตได้ มิฉะนั้นนักบู๊ในห้องโถงนี้ รวมทั้งลุงฉินและคุณเหยียนและคนอื่นๆ คงไม่มีใครที่รู้เรื่องนี้
เพราะว่าฉิวเชียนซา เหมือนเทพดาบเยนหนานเทียน เป็นคนในประเทศจีนที่แข็งแกร่งที่สุดและเก็บซ่อนตัวเมื่อสามสิบปีที่แล้ว
คนธรรมดาในห้องโถงและเศรษฐีหนุ่มเหล่านั้น ต่างก็มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสยดสยอง
“โอ้พระเจ้า เขาเป็นปีศาจมั้ง!”
ฉันได้ยินข้างในมีเสียงผีร้อง รอบๆยังมีสายฟ้าแลบ นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือ!”
คนธรรมดาเหล่านี้ตกใจกลัวจนขาทั้งสองข้างสั่น หลายคนใช้ชีวิตมาเกือบทั้งชีวิต และไม่เคยสัมผัสกับสิ่งที่เหลือเชื่อเช่นนี้มาก่อน วันนี้พวกเขาได้เห็นและได้ยิน ได้ลบล้างความรู้ความเข้าใจเดิมๆที่เคยมีต่อโลกมนุษย์
ป๋ายรุ่ยเหวินกับกู้ซิวหรั่นและคนอื่นๆ แม่ในใจจะหวาดกลัวกับพลังที่ยิ่งใหญ่นี้ แต่อีเฉินเย่ายิ่งมีพลังมากเท่าไหร่ ความหวังที่หลินหยุนจะมีชีวิตรอดก็ยิ่งน้อยลง
“หลินหยุน ฉันจะดูว่าครั้งนี้นายจะมีชีวิตรอดไหม!”
อีเฉินเย่ากำลังได้เปรียบ เหมือนเทพปีศาจแห่งนรก มองหลินหยุน ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับมด
“ไอ้หนุ่ม ไปตายซะ!”
ด้วยเสียงตะโกนอย่างเข้มงวด ฝ่ามือสีแดงขนาดใหญ่ กระแทกลงที่หัวของหลินหยุน
หลินหยุนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าเรียบเฉย เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีอันทรงพลังที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว มุมปากปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ย
ฝีมือในรระดับนี้ ยังคู่ควรกับการเรียกทักษะการต่อสู้เหรอ? ฉันจะแสดงให้นายเห็นว่าทักษะการต่อสู้ที่แท้จริงคือแบบไหน!”
หลินหยุนวางตะเกียบลง เอาฝ่ามือกระแทกออกไปอย่างไม่ตื่นตระหนก
“ท่าแรกของสิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าสยบเขา!”
บูม!
ฝ่ามือที่กระแทกออกไปของหลินหยุน เป็นเหมือนขวานยักษ์ที่เปิดท้องฟ้า ผ่าแยกฝ่ามือสีแดงเลือดขนาดใหญ่ออกจากกันทันที ทำลายมันด้วยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด และทำลายการโจมตีของอีเฉินเย่าทันที
อีเฉินเย่าตกลงมาจากฟากฟ้า และหล่นลงกับพื้นด้วยสีหน้าสยดสยอง
ก่อนที่เขาจะยืนนิ่ง เสียงแผ่วเบาของหลินหยุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ท่าที่สองของสิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าแยกน้ำ!”
หลินหยุนพลิกฝ่ามือเบาๆ แล้วกระแทกออกไป
ในชั่วพริบตา อากาศทั่วทั้งห้องโถงดูเหมือนจะถูกพลังมหาศาลบีบอัดทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว ทำให้หายใจลำบาก