จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 36 ว่ายน้ำ
บทที่ 36 ว่ายน้ำ
เซี่ยหยู่เวยด้วยความโกรธ ใบหน้าสวยงามของเธอแดงขึ้น จ้องมองหลินหยุน แผดเสียงในลำคอ
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันแบบนี้! นายกินนายดื่มของบ้านฉัน แม้แต่เงินเรียนก็ของบ้านฉัน ตอนนี้นายอายุยี่สิบกว่าแล้ว เคยหาเงินมาบ้างไหม”
หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากลับไปว่า “เธอพูดถูก เพราะงั้นฉันเป็นหนี้บ้านเธอ แต่ฉันติดหนี้น้าเฟิน ไม่เกี่ยวกับเธอแม้แต่นิด!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันรับปากน้าเฟินว่าจะดูแลความปลอดภัยของเธอ ฉันไม่มีทางมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้กับพวกเธอหรอก”
เซี่ยหยู่เวยโมโหจนไม่รู้จะทำอย่างไร เธอไม่เคยคิดเลยว่า จะมีวันที่คนไม่ได้เรื่องคอยเอาใจเธอเหมือนกับหมาปั๊กที่ชื่อหลินหยุนคนนี้ จะมาดูถูกเธอขนาดนี้ได้
เหมือนกับขอทาน ที่เธออยากจะทำบุญทำทานให้เขา แต่กลับพบว่าขอทานคนนี้มีเงินมากกว่าเธอพันเท่าหมื่นเท่า
ความรู้สึกที่แตกต่างสิ้นเชิงแบบนี้ มีไม่มีคนที่จะรับได้
เซี่ยหยู่เวยรับไม่ได้ เพราะงั้นเธอไม่ยอมเด็ดขาด
“หลินหยุน ฉันรู้ดีว่าตอนนี้นายมีที่พึ่งแล้ว รู้จักจินซื่อหรงแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ก็ได้หยกราคาสูงค้ำฟ้านั่นมาครอบครองอีก เพราะงั้นนายเลยไม่เอาคนในบ้านฉันอยู่ในสายตาแล้วล่ะสิ”
“นายอย่าลืมนะว่า ถ้าไม่มีบ้านฉัน ตอนนี้นายก็เป็นแค่เด็กที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้าไม่มีที่พึ่งคนนึงเท่านั้น!”
หลินหยุนยิ้มอย่างมีเลศนัย เขากำหยกที่อยู่ในมือแน่น พร้อมถามเธอว่า “เธอคิดว่าที่พึ่งของฉันคือจินซื่อหรงงั้นเหรอ ผิดแล้วแหละ ที่พึ่งของฉันไม่ใช่ใครหรือสิ่งใดทั้งนั้น ที่พึ่งของฉันคือตัวฉันเอง”
พอพูดจบ หลินหยุนใช้แรงบีบหยกที่อยู่ในมือ หยกราคานับร้อยล้านชิ้นนั้น กลายเป็นฝุ่นผงสีแดงภายในพริบตา พร้อมกับไหลออกมาจากมือที่กำอยู่ของเขา
เว่ยหยู่เวยตกใจจนเอามือปิดปาก ตกใจจนพูดด้วยน้ำเสียงแสบแก้วหูว่า “หลินหยุน นายบ้าไปแล้วเหรอ นั่นมันหยกสีแดงพม่านะ!”
คนที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น ต่างก็มองเห็นภาพนั้น พากันตกใจอย่างหนัก
“หมอนี่โดนว่าอะไร ทำไมถึงได้ทำลายหยกที่ราคาเท่าเมืองนึงได้ลง”
“ไอ้อมนี่ไม่ได้เรื่องเลย ถ้าฉันเป็นพ่อมัน ฉันได้ดีมันขาหักแน่ ลูกล้างผลาญครอบครัวแบบนี้ แย่ยิ่งกว่าฉันอีก”
“แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกว่า เขาทำแบบนี้…มันเท่จังเลยล่ะ”
หวางเสี่ยวซีสีหน้าตกใจ “หยู่เวยพูดอะไรกับเขา เขาถึงได้ทำลายหยกราคาเป็นร้อยล้านได้ลง”
อีหลิงกลับมองเขาในมุมที่แตกต่าง เดิมทีที่เธอรู้สึกสนใจในเขาอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นหลินหยุนที่กล้าทำลายหยกราคาหลักร้อยล้านนั้นลง
บนโลกนี้จะมีกี่คนที่มีความเด็ดขาดได้อย่างนี้
“หลินหยุน นายเป็นคนแบบไหนกันแน่”
ถ้าหากมีใครบอกว่าเขาไม่ได้เรื่อง อีหลิงคนแรกที่จะไม่เชื่อแบบนั้น
หลี่เหยนเองก็ตกใจมากเช่นกัน “ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วเหรอ มันโดนอะไร ทำไมถึงได้ทำลายหยกนั่นได้ นั่นมันหยกราคาสูงถึงร้อยล้านเลยนะ”
เว่ยเทียนหมิงที่มองหลินหยุนจากที่ไกลๆ สายตาเต็มไปด้วยความกลัวและตกใจ คนอื่นอาจจะมองว่าหยกถูกทำลายจนเป็นผง แต่มีเขาเข้าใจดีว่าความแข็งของหยกนั้นมีมากขนาดไหน แต่หลินหยุนกลับใช้เพียงมือเดียวในการทำลายมันให้กลายเป็นฝุ่นผงได้ง่ายแบบนั้น
“นี่มันเป็นไปได้ไง เขามีกำลังเยอะขนาดนี้ได้ยังไงกัน”
เมื่อมองเห็นหยกนั้นถูกทำลายจนกลายเป็นแค่ผง สายตาเย็นชาไม่แยแสของเธอก็กลับมาเป็นดังเดิม เพียงแต่ว่า สายตาที่มองหลินหยุน นอกจากจะเกลียดแล้วยังมีความโกรธอยู่ในนั้นด้วย
“หลินหยุน นายทำให้ฉันผิดหวังมาก!”
พอพูดจบ เซี่ยหยู่เวยก็เดินกลับเข้าไปหาเว่ยเทียนหมองและพวก
เว่ยเทียนหมองถามเธอว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เซี่ยหยู่เวยส่ายหน้า สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนล้า “ฉันโอเค”
หลีเหยียนอยู่ดีๆ ก็หัวเราะขึ้น “ไอ้หมอนี่ ทำให้ฉันมองนายต่างไปจากเดิมเลย มันกล้าที่จะทำลายหยกสีแดงพม่าได้ลง ตอนนี้มันกลับกลายมาเป็นคนจนๆ คนนึงแล้ว”
พอพูดจบ หลี่เหยนมองไปที่จ้าวกางพร้อมพูดว่า “กางจื่อ ยังมีรายการอะไรอีกไหม จินหยวนเป่าไปแล้ว เราไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วนะ”
จ้าวกางรู้ดีว่าหลี่เหยนต้องการจะแก้แค้นความแค้นที่ให้เขานั่งคุกเข่าก้มหัวขอร้อง พอคิดแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันจำได้ว่าที่นี่มีโรงยิมอยู่ชั้น ในนั้นมีสระว่ายน้ำด้วย เราไปว่ายน้ำกันเถอะ ฉันชอบเสี่ยวซีของฉันตอนใส่ชุดว่ายน้ำที่สุดแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้างกางพูด สายตาของหลี่เหยนก็จ้องไปที่อีหลิงทันที
“ฉันก็อยากดูอีหลิงตอนใส่ชุดว่ายน้ำเหมือนกัน” สายตาของเขาร้อนระอุขึ้น
เว่ยเทียนหมิงมองไปที่เซี่ยหยู่เวย ถึงเขาจะพยายามอดกลั้นไว้ขนาดไหน แค่ในสายตาของเขาก็ยังคงร้อนระอุดั่งไฟเปล่งประกายออกมา เกรงว่าคงไม่มีชายคนไหนที่จะไม่โดนผู้หญิงเวลาใส่ชุดว่ายน้ำดึงดูด โดยเฉพาะสาวสวยระดับดี่เยี่ยมอย่างอีหลิงและเซี่ยหยู่เวย
“หวังซี เดี๋ยวอีกสักพักเธอตั้งใจจะไปเที่ยวที่ไหน” จ้าวกางถามขึ้นลองเชิงเธอดู
หวางเสี่ยวซีพูดด้วยความตัดพ้อว่า “ตามแผนเดิมของฉัน ซื้อเสื้อผ้าเสร็จก็จะไปกินอาหารอร่อยๆ ที่ฟู้ดซิตี้ แต่โดนพวกนายทำเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันไม่มีอารมณ์กินแล้ว”
“ตอนนี้ฉันอยากไปอาบน้ำ แล้วก็กลับบ้านไปนอน ตอนเย็นไปร้องคาราโอเกะที่ KTV แบบบ้าระห่ำซักครั้ง”
จ้าวกางยิ้มแล้วพูดว่า “ชั้น 4 ที่นี่มีสระว่ายน้ำไม่ใช่เหรอ เราไปเล่นกันเถอะ ดีไม่ดีเธออาจจะอารมณ์ดีขึ้นมาก็ได้”
“สระว่ายน้ำ!” หวางเสี่ยวซีดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที มองไปที่อีหลิงและเซี่ยหยู่เวยด้วยสายตาเลศนัย
“กางจื่อ ความคิดดี ถ้าเวยเวยกับหลิงหลิงของฉันใส่ชุดว่ายน้ำ พวกนายจะไปเลือดไหลออกจมูกเลยเหรอ”
อีหลิงกับเซี่ยหยู่เวยหน้าแดงขึ้น ถึงแม้พวกเธอจะว่ายน้ำบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดเยอะขนาดนี้ พอได้ยินสิ่งที่หวางเสี่ยวซีพูดพวกเธอต่รางก็เริ่มเคอะเขินกันขึ้นมา
“พวกเธอไปเถอะ ฉันไม่ไปดีกว่า” อีหลิงพูดด้วยเสียงเบาๆ
“จะทำแบบนั้นได้ไง ไป พวกเธอสองคนอย่าคิดจะหนีเด็ดขาด” พูดจบ หวางเสียวซีก็ดึงมืออีหลิงและเซี่ยหยู่เวยคนละข้างเดินเข้าลิฟต์ไป
หลี่เหยนและอีกสองคนก็เดินตามไป จ้างกางมองไปที่หลินหยุนพร้อมยิ้มแล้วถามว่า “หลินหยุน ไปด้วยกันไหม”
หลินหยุนรู้ดีว่าพวกเขาไม่มีทางคิดดีแน่นอน แต่เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย พวกเขาจะทำอะไรก็แล้วแต่ ในสายตาของขาพวกนั้นไม่มีค่ามากพอที่จะให้เขาสนใจ
หลินหยุนไม่ได้สนใจจ้าวกาง เขาเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับสาวๆ เพื่อที่จะไปสระว่ายน้ำด้วยกัน
อีหลินสวมชุดว่ายน้ำสีม่วง หุ่นดีมาก ผิวขาวใส ทุกอย่างลงตัวไปซะหมด หาได้ยากนัก
เซี่ยหยู่เวยสวมชุดว่ายน้ำสีแดง ส่วนสูงน้อยกว่าอีหลิงเล็กน้อย แต่กลับดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ราวกับลูกท้อพันธุ์น้ำผึ้งที่สุกงอม
หวางเสี่ยวสีรูปร่างเล็กกะทัดรัด สวมชุดว่ายน้ำสีฟ้า มองๆ ไปแล้วเป็นเด็กที่เงียบๆ น่ารักๆ เหมือนกับลูกท้อพันธุ์น้ำผึ้งขนาดเล็ก ถึงแม้จะไม่ได้สวยสะดุดตาอย่างอีหลิงกับเซี่ยหยู่เวย แต่ก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนนึง
การปรากฏตัวของทั้งสามสาว ดึงดูดสายตาของผู้เล่นในสระหลายคน
แม้แต่เด็กวัยรุ่นผู้ชายต่างก็เป่าปากแซวไปด้วย
สระว่ายน้ำออกแบบเหมือนการแข่งขันกีฬา มีช่วงว่ายน้ำหลายช่อง ในช่องฝั่งซ้ายมือสุดท้าย มีชายวัยกลางคนหัวโล้น จับที่สายกั้นป้องกันความปลอดภัยไว้ตรงนั้นอย่างขี้เกียจ
พอได้ยินว่าทางด้านนี้มีคนมา ชายคนนั้นก็หันไปทางสามสาวสวยนั้น พร้อมยิ้ม สะดุดสายตาไม่น้อย แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความชื่นชมเท่านั้น
หลี่เหยน จ้าวกางและเว่ยเทียนหมิง มองทั้งสามสาวที่อยู่ในช่วยว่ายน้ำ ต่างก็พากันนิ่งไปชั่วขณะ
เว่ยเทียนหมิงยังไม่ชัดเจนมากนัก ไม่นานเขาก็ดึงตัวเองกลับมา แต่เอาความร้อนระอุที่มีซ่อนว้าข้างใน
สายตาที่หลี่เหยนและจ้าวกางมองอีหลิว ราวกับหมาป่าไม่มีผิด
เว่ยเทียนหมิงไอกระแฮ่ม เพื่อจะเตือนสติพวกเขาทั้งสองคน
จ้างกาวตื่นขึ้นจากภวังค์ในทันที คิดถึงปัญญาที่เขาต้องจัดการในวันนี้ พร้อมพากันมองไปที่หลินหยุน นั่งอยู่ห้องพัก พร้อมพูดว่า “หลอนหยุน ไหนๆ ก็มาแล้ว มาเล่นด้วยกันสิ”