จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 4 ประตูผีสิบสามเข็ม
บทที่ 4 ประตูผีสิบสามเข็ม
หลินหยุนเตือนด้วยความหวังดี แต่เซี่ยหยู่เวยกลับไม่ฟังสักนิด
“ฉันเคยบอกแล้วไง ว่าจากนี้ไปตอนที่ฉันรักษาคนไข้ นายอย่าได้สอดมือเข้ามายุ่ง!” เซี่ยหยู่เวยจ้องหลินหยุนอย่างโมโหและมีสีหน้ารังเกียจ
จินซื่อหรงเหลือบมองไปที่หลินหยุนและหันไปหาเซี่ยหยู่เวย “คุณผู้หญิงมั่นใจใช่ไหม?”
“ฉันก็แค่ทำให้เขาหลับเท่านั้น หมอทุกคนที่รู้จักการฝังเข็มก็ล้วนทำได้”
“ฉันมั่นใจ คุณจินวางใจได้!” เซี่ยหยู่เวยรับปากเป็นมั่นเหมาะ
“ได้ อย่างนั้นก็รบกวนคุณผู้หญิงลงมือเถอะ!”
หลินหยุนไม่เอ่ยกล่อมอีกต่อไป ยังไงเสียนี่ก็ไม่ทำให้ใครตาย
เซี่ยหยู่เวยปักเข็มสามเล่มเข้าที่ศีรษะของชายหนุ่มอย่างชำนาญ ชายหนุ่มคนนั้นดิ้นรนอยู่สักพักก่อนจะหยุดกึกลง
“ได้แล้ว!” เซี่ยหยู่เวยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จินซื่อหรงเองก็รู้สึกโล่งใจและกล่าวชม “คุณผู้หญิงอายุยังน้อย แต่กลับมีทักษะทางการแพทย์สูงส่ง นับถือ!”
“คุณจินไม่ต้องเกรงใจ ตอนนี้ฉันจะทำการตรวจสอบเขา!”
เซี่ยหยู่เวยเดินไปข้างหน้าและจับชีพจรที่ลำคอของชายหนุ่ม
ทันใดนั้น!
แต่เดิมชายหนุ่มที่กำลังนอนสลบอยู่กลับลุกพรวดขึ้นมาและกัดลงบนมือขาวหยกของเซี่ยหยู่เวย
กรี๊ด!
หลิวลี่อุทานด้วยความตกใจ
เซี่ยหยู่เวยตกตะลึงไปทันที “เป็นไปไม่ได้ เทคนิคการฝังเข็มธรรมดา ๆ แบบนี้ จะล้มเหลวได้ยังไงกัน?”
ในช่วงเวลาสำคัญนั้นเอง หลินหยุนก็ก้าวเข้าไปสามเมตร และตรงมาที่ข้างๆเซี่ยหยู่เวย
ป๊าบ!
เสียงตบดังขึ้นชัดเจน ชายหนุ่มคนนั้นถูกหลินหยุนตบเข้าด้วยฝ่ามือและล้มลงไปบนหมอน
เสียงตบของหลินหยุนทำให้เซี่ยหยู่เวยที่งุนงงอยู่ข้างๆได้สติขึ้น
“คุณกำลังทำอะไร?” หลิวลี่โกรธจัด “อาศัยอะไรมาตบตีลูกชายของฉัน!”
แม้ว่าจินซื่อหรงจะไม่ได้เอ่ยว่าหลินหยุน แต่ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้ม ดวงตาฉายประกายสังหารผ่านวาบไป
หลินหยุนปล่อยเซี่ยหยู่เวยออก เขาไม่สนใจหลิวลี่ที่กำลังโกรธเกรี้ยว แต่มองไปที่จินซื่อหรงด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ถ้าไม่อยากให้ลูกชายของคุณตาย ก็หุบปากซะ!”
หลิวลี่ไม่กล้าพูดอะไรต่อจริงๆ และทำได้แค่จ้องไปที่หลินหยุนด้วยความโกรธ
“ลูกชายของฉันจินซื่อหรง ไม่ใช่ว่าใครก็จะมาตีได้ นายต้องให้คำอธิบายกับฉัน!” ในเสียงของจินซื่อหรงเผยให้เห็นการเข่นฆ่าในนั้น
หลินหยุนคว้าเข็มเงินจากมือของเซี่ยหยู่เวยและเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่ม
โดยไม่ต้องรอให้ปฏิกิริยาของทุกคนกลับมา เข็มเงินก็แทงเข้าใส่จุดเหรินจงของเด็กหนุ่มทันที
นี่คือคำอธิบายที่หลินหยุน
เข็มเงินแทงเข้าสามจุดจากล่างขึ้นบน มองดูแล้วเหมือนจะรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่กลับต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
“วิชาฝังเข็มสิบสามใช้ในการรักษาความชั่วร้ายและความบ้าคลั่งทุกประเภท อีกทั้งยังจัดการกับพวกชี่มหาโหดแบบนี้ได้ดี”
“เข็มเดียวฝังที่จุดเหรินจงจนนิ่งลง
เข็มลงซ้ายออกทางขวา”
นี่คือหลักเพลงของวิชาฝังเข็มสิบสาม
ชายหนุ่มจู่ๆก็หยุดดิ้นรนลงทันที จากนั้นเขาก็ได้สติขึ้นมา
“ที่นี่ที่ไหน?”
“หยวนเป่า ลูกตื่นแล้ว!” หลิวลี่ดีใจอย่างยิ่ง
จินซื่อหรงเองก็มีสีหน้าตื่นเต้นเช่นกัน เขาเกาะข้างๆเด็กหนุ่มและเอ่ยถาม “หยวนเป่า รู้สึกยังไงบ้าง?”
“พ่อ ผมเป็นอะไรไปหรือ? จินหยวนเป่ามองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้างงงวย
ในเวลานี้เอง หนึ่งเด็กและหนึ่งชราก็เดินเข้ามาในห้องคนป่วย
“คุณจิน ขออภัย ผมมาช้าไป!” ชายชราในเสื้อคลุมสีขาวขอโทษ
จินซื่อหรงดีใจอย่างยิ่ง เขาเดินเข้าไปจับมือชายชราแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการโจวในที่สุดคุณก็มาแล้ว!”
นี่คือโจวชิงเหอ ประธานโรงพยาบาลประชาชน เป็นคนเที่ยงธรรม ชาติก่อนขณะที่หลินหยุนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา
โจวชิงเหอชี้ไปที่ชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่งที่อยู่ข้างๆเขาและเอ่ยขึ้น “ที่ผมมาสายก็เพราะมีเหตุผล คุณดูสิว่าผมเชิญใครมา?”
จินซื่อหรงถามอย่างสงสัย “ท่านนี้คือใคร?”
“หลานชายของหมอเทพเย่ในปักกิ่ง!” น้ำเสียงของโจวชิงเหอตื่นเต้น
“ที่แท้คือหมอเทพเย่ เสียมารยาทแล้ว!” จินซื่อหรงโค้งคำนับตัว
ชื่อของหมอน้อยเย่สำหรับชาวจีนแล้วประหนึ่งชื่อที่ติดหู แม้กระทั่งคนใหญ่คนโตอย่างจินซื่อหรงก็ยังเคารพเช่นกัน
นั่นเพราะ ยังไงเสียคนเราก็ต้องเจ็บป่วย ในช่วงเวลาที่สำคัญนั้นล้วนต้องพึ่งแพทย์เพื่อช่วยชีวิตพวกเขา
“คุณจินเกรงใจแล้ว! ผมได้รับคำเชิญจากผู้อำนวยการโจว ให้มาดูอาการลูกชายของคุณ!๐
แม้ว่าเย่เซิ่งหมิงจะกล่าวถ้อยคำที่สุภาพเรียบร้อย แต่ทุกคนก็สามารถมองเห็นถึงความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของเขาได้
“หมอน้อยเย่รีบดูเถอะ เมื่อครู่น้องชายคนนี้ฝังเข็มลูกชายของผมไป เขาได้สติแล้ว”
จินซื่อหรงรีบกล่าวพร้อมกับหลีกทางให้กับเย่เซิ่งหมิง
เย่เซิ่งหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขี้เล่น “ฝังเข็ม? ฝังเข็มรมยาหรือ?”
เขายิ้มอย่างดูถูก เห็นชัดว่าดูถูกฝีมือฝังเข็มของหลินหยุน
จินซื่อหรงไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไรและตอบตามความเป็นจริง “ใช่!”
โจวชิงเหอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณจิน คุณรู้หรือไม่ว่า หมอเทพเย่มีอีกชื่อเรียกว่าอะไร?”
“โปรดสงเคราะห์!” จินซื่อหรงประสานมือเอ่ย
“หมอเทพฝังเข็มเย่!” โจวชิงเหอเอ่ย
จินซื่อหรงอุทาน “ผมเข้าใจแล้ว อย่างนั้นฝีมือการฝังเข็มรมยาของหมอน้อยเย่ย่อมต้องเป็นที่สุด!”
เย่เซิ่งหมิงรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย เขามองไปที่ชายหนุ่ม เมื่อเขาเห็นเข็มเงินในจุดเหรินจงเข้า ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“ต้มตุ๋น! เขาป่วยเป็นอะไร? นายถึงได้แทงลงไปบนจุดเหรินจงของเขา!” เย่เซิ่งหมิงจ้องมองไปที่หลินหยุนด้วยความโกรธ
จินซื่อหรงมีสีหน้ากังวล “จุดเหรินจงมีอะไรหรือ?”
“เบาเป้นบ้า หนักคือตาย!” เย่เซิ่งหมิงเอ่ยเสียงเครียด
“อ๊ะ! แล้วลูกชายของผมเป็นอะไรไหม?” จินซื่อหรงแทบหัวใจวาย
“ไม่เป็นไร ในเมื่อลูกชายคุณยังปลอดภัย พิสูจน์ได้ว่าการเข็มนี้ไม่ร้ายแรง”
จินซื่อหรงถึงค่อยรู้สึกโล่งใจ
เย่เซิ่งหมิงมองไปที่หลินหยุนอย่างเย็นชาและพูดว่า “เด็กน้อย ฉันถามนาย เขาป่วยเป็นอะไร นายถึงกับป้องฝังลงบนจุดเหรินจง!”
หลินหยุนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมย “สิ่งที่ฉันทำ ทำไมต้องอธิบายให้นายฟัง!”
เย่เซิ่งหมิงหัวเราะเยาะ “ฉันว่านายแต่เดิมไม่รู้เรื่องเลยสักนิด!”
หลินหยุนหันกลับมาและไม่เห็นเขาในสายตาสักนิด
ใบหน้าของเย่เซิ่งหมิงเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาติดตามปู่ของเขาทั่วแผ่นดินจีน ผู้คนทั่วโลกนับถือเขาในฐานะหมอน้อยเย่ และไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเขามาก่อน
แต่ในเมืองหลินโจวเล็ก ๆ แห่งนี้เขากลับถูกคนไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งมองผ่าน!
เมื่อเห็นว่าคนทั้งสองกำลังทะเลาะกันอยู่ โจวชิงเหอก็รีบหัวเราะทำลายบรรยากาศ “น้องชายทั้งสอง คนป่วยสำคัญที่สุด ได้โปรดน้องชายทั้งสองพูดความจริงด้วย!”
ชาติก่อนโจวชิงเหอมีบุญคุณกับหลินหยุน หลินหยุนจึงอดไม่ได้ที่จะไหว้หน้าเขา
“เขาไม่ได้ป่วย แต่ถูกชี่มหาโหดเข้าครอบงำ ตราบใดที่เรากำจัดชี่มหาโหดในร่างของเขาออกไป และค้นหาต้นตอของชี่มหาโหดได้ เขาก็จะสบายดี!”
“ชี่มหาโหด?”จินซื่อหรงรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง สิ่งที่หลินหยุนพูดนั้นลึกลับอยู่บ้าง!
“หึ!”
“เด็กน้อย นายมองสาเหตุของโรคไม่ออกก็แล้วไป แต่นี้กลับถึงขนาดเอาทฤษฎีผีแบบนี้มาหลอกคนไข้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นมิจฉาชีพในอาชีพแพทย์ของฉันด้วยซ้ำ!”
“โชคดีที่ฉันมาที่นี่วันนี้ ฉันจะเปิดเผยโฉมหน้านายเอง!”
เย่เซิ่งหมิงชี้ไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
แม้แต่โจวชิงเหอเองก็ยังมีรอยยิ้มขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปี แต่กลับไม่เคยได้ยินคำว่าชี่มหาโหดเลยสักครั้ง
เซี่ยหยู่เวยที่ได้สติขึ้นมาเองก็แอบขมวดคิ้วเช่นกัน สายตาของเธอมองไปที่หลินหยุนอย่างรังเกียจ
“หลินหยุน อย่าพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าหมอน้อยเย่และผู้อำนวยการโจว!” เซี่ยหยู่เวยเอ่ยเตือนอย่างหวังดี
หลินหยุนเหลือบมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ตนเพิ่งจะช่วยเธอ แต่เธอไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกขอบคุณกลับยังมาช่วยคนนอกพูดจา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอทรยศต่อเขาในชาติก่อน
“สาเหตุการป่วยฉันพูดไปแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ” พูดจบ หลินหยุนจึงยกมือไขว้หลัง จากนั้นก็มองขึ้นไปบนเพดานและไม่สนใจทุกคนอีกต่อไป
จินซื่อหรงเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย เมื่อเห็นว่าตนทำให้หลินหยุนขุ่นเคืองเข้าแล้ว จึงได้แต่ฝากความหวังไว้ที่เย่เซิงหมิงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น จินซื่อหรงเองก็ไม่เชื่อเรื่องชี่มหาโหดที่หลินหยุนพูดเช่นกัน
“หมอน้อยเย่ ได้โปรดช่วยรีบดูอาการลูกชายผม!”
“ได้ ฉันจะเปิดโปงเข้าพวกมิจฉาชีพวงการแพทย์นี่ซะ!” เย่เซิ่งหมิงหัวเราะเยาะและเดินไปหาเด็กหนุ่ม
ชายหนุ่มร้อง “พ่อ ผมสบายดี ไม่ต้องให้เขารักษา!”
“หุบปาก นี่คือหมอน้อยเย่แห่งปักกิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อำนวยการโจว พวกเราเชิญเขาก็ไม่มา!” จินซื่อหรงดุ
“หมอน้อยเย่ ลูกชายผมไม่รู้ความ อย่าถือโทษเขา!”
เย่เซิงหมิงคิดจะเปิดโปงหลินหยุนอยู่ ดังนั้นย่อมไม่ได้ใส่ใจอะไรแต่อย่างใด
“แพทย์แผนจีนเน้นการมอง ดม ถาม และตัด ฉันเรียนแพทย์กับคุณปู่มาหลายปี กลับหยุดอยู่ที่ “การตัด” เท่านั้น
พูดไป เย่เซิงหมิงก็ยื่นมือของเขาออกไปจับชีพจรของชายหนุ่ม
ครู่หนึ่ง เย่เซิงหมิงก็ยิ้มสมใจ “คุณจิน ลูกชายของคุณไม่ได้เป็นอันตรายอะไร ก็แค่จิตใจถูกกระตุ้นเท่านั้น”
“ฉันจะสั่งยาให้ กลับไปสงบจิตใจครึ่งเดือนก็จะหายดี!”
“แค่นี้เองหรือ?” จินซื่อหรงสงสัยอยู่บ้าง
“คุณสงสัยผม?” ใบหน้าของเย่เซิ่งหมิงเย็นลงเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปดึงเข็มเงินที่หลินหยุนฝังไว้ที่จุดจงเหรินออก
“จุดจงเหริน ฝังมั่วซั่วได้ยังไง? พวกต้มตุ๋นทำร้ายคน!”
ทันใดนั้นมุมปากของหลินหยุนก็ผุดรอยยิ้มแปลก ๆ