จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 406 ไพ่เด็ดใบสุดท้ายของกงซื่อซวน
“ช่างเก่งกาจเยี่ยมยอดจริง ๆ! ”
เถียนชุ่ยชุ่ยกับเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงอาการที่ตกตะลึงออกมา!
คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า หลินหยุนจะเก่งกาจมากถึงขนาดนี้!
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย แม้ว่าพวกเขารู้ว่าหลินหยุนจะมีความสามารถทางด้านการต่อสู้ แต่ก็ไม่มีอะไรมาประเมินวัดระดับ พวกเขาจึงไม่ชัดเจนว่าตกลงความสามารถของหลินหยุนอยู่ในระดับขั้นไหนกันแน่
ตอนนี้เห็นหลินหยุนต่อสู้กับคนอื่น ภาพการมองเห็นที่ชัดเจนและรุนแรงนั้นก็ได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังหมัดเมื่อครู่ของคุณเฉิน ที่แสดงอานุภาพออกมานั้น มองเห็นแล้วก็น่าหวาดกลัวน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่ขนาดนี้แล้วก็ยังโดนหลินหยุนจู่โจมกลับและเอาชนะได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คิดก็ทราบได้แล้วว่า พลังความสามารถของหลินหยุนเก่งกาจมากถึงขั้นไหนเลยเชียว!
“ไอ้หนุ่มนี่เก่งกาจมาก! คุณเฉินผู้นั้นข้ารู้จัก เขาคือบอดี้การ์ดของเจ้าบ้านตระกูลกง ได้ยินว่าเป็นนักบู๊ยอดฝีมือ! แต่คิดไม่ถึงว่ากลับถูกไอ้หนุ่มนี่ตบเพียงครั้งเดียวก็สลบไปแล้ว”
“ไอ้หนุ่มนี่มีสถานะอะไรกันแน่? ”
สายตาที่ทุกคนมองไปที่หลินหยุน เต็มไปด้วยความสงสัย มีบางคนกำลังคิดอยู่ว่า ถ้าหาก หลินหยุนไม่มีเบื้องหลังอะไร ก็จะยอมจ่ายเงินจ้างเขามาเป็นบอดี้การ์ดให้กับตนเองดีกว่า
กงซื่อซวนเกิดความหวาดกลัวขึ้นบ้างแล้ว และได้ตะโกนขึ้นว่า: “ไอ้หนุ่มน้อย นายกล้าที่จะหาเรื่องตระกูลกงของข้า! ข้าว่านายคงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว”
“ตระกูลกง? ไม่เคยได้ยิน” หลินหยุนสีหน้าท่าทางเฉยเมย: “วันนี้ จะตัดขาของนายข้างหนึ่ง ถือว่าเป็นการลงโทษนาย ครั้งต่อไปหากกล้าที่จะไม่เคารพเพื่อนของข้าอีก ข้าจะจัดการให้นายสูญสิ้นไปทั้งชีวิตและจิตวิญญาณ! ”
“อย่าเด็ดขาด! ” ฉินหลันรีบดึงตัวหลินหยุนเอาไว้: “เขาคือผู้สืบทอดของตระกูลกงแห่งมณฑล ซีหนิง ถ้าหากนายตัดขาของเขาข้างหนึ่ง ก็เหมือนกับว่าจะเป็นศัตรูกับตระกูลกงแห่งมณฑลซีหนิงไปจนวันตาย! ”
“แล้วจะทำไมล่ะ? เขากล้าที่จะสบประมาทเหยียดหยามคุณ ฆ่าเขาให้ตายหมื่นครั้งก็ยังไม่เพียงพอ! ถ้าหากตระกูลกงต้องการจะมาแก้แค้น ก็ให้พวกเขามาหาฉันก็ได้” หลินหยุนสีหน้าเฉยเมย ไม่ได้เห็นตระกูลกงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ได้ยินที่หลินหยุนพูดว่าจะทำเพื่อเธอ ไม่สนใจแม้ว่าจะเป็นศัตรูกับตระกูลกงแห่งมณฑลซีหนิงไปจนวันตาย ทำให้จิตใจที่อ่อนโยนบางจุดของฉินหลันก็ได้เกิดการหวั่นไหวขึ้นแล้ว
อีกด้านหนึ่ง เถียนชุ่ยชุ่ยเผยสายตาที่โหดเหี้ยมออกมาแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า: “ใครบางคนกล้าที่จะพูดโอ้อวดโดยที่ไม่ละอายแก่ใจบ้างเลย! เขาคิดว่าตนเองเป็นใครกันเหรอ? ขณะตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ยังกล้าที่จะคุยโวว่าจะตัดขาคนอื่น กฎหมายกฎกระเบียบยังมีอยู่อีกหรือไม่! คิดว่าตนเองแซ่หลิน ก็ทำตัวเป็นปรมาจารย์หลินอย่างนั้นเหรอ! ”
หวางหยู่หันที่อยู่ด้านข้างก็พูดเย้ยหยันขึ้นว่า: “ใครบางคนคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่จนเคยชินแล้ว คิดว่าตนเองรู้จักกับคนของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ก็ไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตาอีก โดยเขาไม่รู้ว่า ความยิ่งใหญ่ของตระกูลกงแห่งมณฑลซีหนิงนั้น ที่จริงแล้วเขาไม่สามารถที่จะไปล่วงเกินได้เลย! ”
จางเหมิงก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า: “ยังจะทำให้เขาสูญสิ้นไปทั้งชีวิตและจิตวิญญาณ ฮึ หรือว่านายกล้าฆ่าคนอย่างนั้นเหรอ ช่างน่าขันเสียจริง! ”
ฉินโส่วมองออกว่า เถียนชุ่ยชุ่ยกับคนพวกนี้ กำลังใช้วิธีการยั่วยุให้หลินหยุนเกิดอารมณ์โมโห ทำให้หลินหยุนกับตระกูลกง กลายเป็นศัตรูกันไปจนวันตาย
ฉินโส่วค่อย ๆ เดินขึ้นมาข้างหน้า สีหน้าหม่นหมองและกระซิบพูดว่า: “หลินหยุน ก็พวกคนของตระกูลกงนี่แหละที่เกือบจะทำให้ครอบครัวของฉันต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ฉันโกรธแค้นพวกเขามาก แต่ฉันก็ยังอยากที่จะเตือนนายว่าอย่าใจร้อนบุ่มบ่ามไป เพราะตระกูลกงมีอิทธิพลอำนาจยิ่งใหญ่ พวกเราไปล่วงเกินไม่ได้”
หลินหยุนไม่ได้สนใจคำเยาะเย้ยอะไรของเถียนชุ่ยชุ่ยและคนเหล่านั้น โดยมองไปที่ฉินโส่ว แล้วหันกลับมาจ้องมองไปที่กงซื่อซวน และพูดขึ้นว่า: “ถ้าเป็นแบบนี้ เขายังติดค้างนายอยู่เรื่องหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นก็ตัดขาของเขาทั้งสองข้างเลย! ”
ฉินโส่วตกใจ และเกิดความละอายใจขึ้นในทันที
ก่อนหน้านี้ตอนที่จางเหมิงพวกเขาได้ดูถูกเหยียดหยามหลินหยุน เขาไม่ได้แสดงตัวเข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้หลินหยุนรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นคือคุณชายใหญ่ตระกูลกงแห่งมณฑลซีหนิง แล้วยังจะช่วยแก้แค้นให้กับตัวเขาอีก
เมื่อเปรียบเทียบกับหลินหยุนแล้ว ฉินโส่วรู้สึกผิดและละอายใจอย่างมาก!
เถียนชุ่ยชุ่ยกับเพื่อนคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้น ก็ดีอกดีใจขึ้นโดยพลัน เมื่อครู่เธอยังเกรงว่าหลินหยุนจะเชื่อฟังคำเตือนของฉินโส่ว แล้วก็ควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองเอาไว้
ตอนนี้กลับว่าเป็นดีเลย หลินหยุนจากเดิมที่จะตัดขาข้างเดียว เพิ่มขึ้นเป็นจะตัดขาทั้งสองข้างแล้ว
เถียนชุ่ยชุ่ยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า: “ลงมือสิ คุยโวใครบ้างล่ะที่ทำไม่เป็น? ใครบางคนหากมีความสามารถจริง ก็ลงมือจัดการตัดขาทั้งสองข้างของคนอื่นให้ทุกคนดูกันเลยสิ! ”
“ใช่เลย เอาแต่พูดโดยไม่ลงมือทำ เป็นผู้ชายภาษาอะไรกัน! ” หวางหยู่หันก็หัวเราะอย่างเย็นชา ขึ้นด้วย
กงซื่อซวนที่อยู่ด้านข้างอยากที่จะเข้าไปโต้แย้งปะทะคารมกับพวกโง่ทั้งสองอย่างเถียนชุ่ยชุ่ยและหวางหยู่หันนับร้อยครั้ง
ขาที่จะถูกตัดขาดนั่นมันขาของข้า! คิดไม่ถึงว่าพวกคุณกลับใช้เรื่องนี้มายั่วยุเขา หากว่าเขาอดทนไม่ไหว แล้วตัดขาทั้งสองข้างของข้าจริง ๆ แม่งมันไม่ยุติธรรมสำหรับข้าเลย!
กงซื่อซวนชำนาญในการสังเกตสีหน้าและฟังคำพูด โดยมองไปที่สีหน้าของหลินหยุนแล้ว ก็รู้ได้ว่าหลินหยุนไม่ได้คุยโวโอ้อวด เขากล้าที่จะตัดขาสองข้างของตนเองจริง ๆ
ในตอนนี้ กงซื่อซวนเกิดความหวาดกลัวขึ้นแล้ว จึงรีบล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา โดยไม่รู้ว่าได้โทรติดต่อไปหาใคร
เห็นกงซื่อซวนโทรศัพท์ หลินหยุนก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะลงมือแล้ว
เขาคาดเดาเอาไว้ตั้งนานแล้วว่ากงซื่อซวนมีคนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่อย่างนั้นต่อให้ตระกูลกงแห่งมณฑลซีหนิงของเขาจะมีอิทธิพลอำนาจยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมมาถึงเมืองหลินโจวได้ ดังนั้นเขาไม่กล้าที่จะกำเริบเสิบสานที่เมืองหลินโจวขนาดนี้อย่างแน่นอน
“คุณป้า คุณอยู่ที่ไหน ฉันอยู่ที่โรงแรมโล่เฉิน ฉันพบกับเรื่องเดือดร้อนแล้ว มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งจะฆ่าฉัน คุณป้ารีบมาช่วยฉันด้วย! ”
กงซื่อซวนพูดจบก็รีบวางสายโทรศัพท์ และจ้องไปที่หลินหยุนด้วยความระมัดระวัง: “ไอ้หนุ่มน้อย นายรอดูนะ รอให้คุณป้าของข้ามาแล้ว พวกแกไม่รอดแน่คงต้องได้รับโทษตามที่ก่อไว้ทั้งหมด! ”
หลินหยุนจิตใจหวั่นไหวเล็กน้อย คุณป้า? นี่ก็คือคนที่อยู่เบื้องหลังของกงซื่อซวน?
ตกลงคุณป้าคนนี้คือใครกัน? ทั่วทั้งมณฑลหลิงหนานไม่เคยได้ยินบุคคลนี้มาก่อน!
เวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหลินหยุนก็ดังขึ้น
มองดูเล็กน้อย เป็นเจี่ยงสงที่โทรมาหา คาดว่างานเลี้ยงฉลองใกล้ที่จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่หาตนเองไม่เจอ จึงเริ่มที่จะเร่งให้ตนเองถึงสถานที่จัดงานให้เร็วที่สุด
หลินหยุนรับสายโทรศัพท์ พูดขึ้นว่า: “มีเรื่องอะไรเหรอ? ”
เสียงพูดของเจี่ยงสงดูค่อนข้างจะรีบร้อน: “ปรมาจารย์หลิน ท่านอยู่ที่โรงแรมแล้วใช่ไหม? ”
“อืม”
เจี่ยงสงไม่ได้เบาใจลง น้ำเสียงกลับยิ่งตึงเครียดขึ้นอีก: “ท่านกำลังมีเรื่องทะเลาะกับคุณชายใหญ่ตระกูลกงอยู่ใช่หรือไม่? ”
หลินหยุนหรี่สายตาลงเล็กน้อย และมองไปที่กงซื่อซวนด้วยความแปลกใจ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ: “นายกับตระกูลกงเป็นเครือญาติกันเหรอ? ”
หลังจากที่สอบถามแล้ว หลินหยุนก็เกิดความแปลกใจขึ้น ถ้าหากเจี่ยงสงเป็นเครือญาติกันกับตระกูลกง ครั้งก่อนตอนที่หลินหยุนให้เขาช่วยเหลือตระกูลฉินนั้น เขาก็น่าจะบอกกับตนเองแล้วสิ
เจี่ยงสงพูดว่า: “ท่านอย่าได้เข้าใจผิดไป ข้ากับตระกูลกงไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ควีนจินเจ้าบ้านของข้า เธอเป็นเครือญาติกันกับตระกูลกง”
“ควีนจินเป็นคนบอกข้ามา ให้ข้าสอบถามท่านว่าคุณชายกงได้ล่วงเกินท่านใช่ไหม! ใช่แล้ว ตอนนี้ ควีนจินกำลังเดินทางมา เธอให้ข้ามาขอร้องท่าน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามขออย่าได้ลงมือก่อน เธอจะมาขออภัยโทษกับท่านด้วยตัวเธอเอง! ”
หลินหยุนตะลึงเล็กน้อย มิน่าล่ะตระกูลกงถึงได้กำเริบเสิบสานในเมืองหลินโจวขนาดนี้ ที่จริงแล้วเป็นเครือญาติกันกับควีนจินนั่นเอง
เมื่อครู่ที่กงซื่อซวนเรียกคุณป้านั้น คงน่าจะเป็นควีนจินล่ะสิ!
เกียรติหน้าตาของควีนจิน หลินหยุนยังไงก็ต้องให้เกียรติไว้หน้ากันอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร ควีนจินต่างก็เคารพนอบน้อมในตัวเขามาโดยตลอด
“ตกลง ข้าให้เวลาพวกนายสิบนาที” หลินหยุนพูดขึ้น
“เพียงพอแล้ว เพียงพอแล้ว พวกเราจะรีบมาเดี๋ยวนี้! ” เจี่ยงสงดีใจขึ้น
หลังจากวางสายโทรศัพท์ลง หลินหยุนก็มองไปที่กงซื่อซวนด้วยสายตาที่แปลก สอบถามขึ้นว่า: “ควีนจินเป็นคุณป้าของนายเหรอ? ”
กงซื่อซวนมีสีหน้าท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง: “ดูเหมือนว่าคุณป้าของข้าได้สั่งให้คนโทรศัพท์มาหานายแล้วล่ะสิ นายเตรียมจะทำอย่างไรต่อไป? ถ้าหากว่านายคุกเข่าลงเพื่อขอโทษข้า ข้าสามารถบอกให้คุณป้าของข้าไว้ชีวิตของนายได้! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: “สิบนาทีหลังจากนี้ นายสอบถามคุณป้าของนายเองก็แล้วกัน! ”
ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างตกตะลึง!
“เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น! คิดไม่ถึงว่าตระกูลกงแห่งมณฑลซีหนิงจะมีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติกันกับควีนจิน! ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน! เมื่อก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย! ”
ชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ของสองตระกูลนี้ ได้ปกปิดเอาไว้เป็นอย่างดี ในเวลาสำคัญ สามารถนำออกมาใช้เป็นท่าไม้ตายได้
วงการธุรกิจมักจะปรากฏเหตุการณ์การแต่งงานเพื่อร่วมมือกันทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่นบริษัท แห่งหนึ่งใกล้ที่จะล้มละลาย แต่หลังจากที่ได้แต่งงานกันกับอีกบริษัทหนึ่งที่มีธุรกิจที่ใหญ่โต ทำให้ หุ้นของบริษัทแห่งนี้ก็กลับพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทันที
ความสัมพันธ์เครือญาติระหว่างตระกูลกงกับควีนจิน คาดว่าจะเป็นไพ่เด็ดใบสุดท้ายที่ทั้งสองตระกูลได้ปกปิดแอบซ่อนเอาไว้