จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 416 หม่าเสี่ยวหลง
แววตาของผู้หญิงคนนั้นได้เผยความตกใจออกมา เขาแค่ต้องการจะยั่วยุมู่เฉิง นึกไม่ถึงว่ามู่ชิงซานจะมีปฏิกิริยาขนาดนี้!
“คุณลุงมู่ ท่านกำลังโกรธหนูอยู่หรือเปล่า? หนูแค่พูดลอยๆเท่านั้นเอง ถ้าเกิดมีอะไรที่ทำให้ไม่พอใจ ท่านอย่าได้เอาไปใส่ใจ!”
พอเห็นผู้หญิงคนนั้นทำท่าทางน่าสงสาร มู่เฉิงรีบเข้าไปปกป้องเธอ จ้องมองมู่ชิงซานด้วยความโกรธ “พ่อ มีอะไรก็พุ่งมาที่ผม!พ่ออย่าเอาเสี่ยวหลงเป็นที่ระบายอารมณ์”
ข้างๆ หลินหยุนพอได้ยินเสี่ยวหลงสองคำนี้ ก็มีชื่อๆหนึ่งพุ่งขึ้นมาในหัว
หม่าเสี่ยวหลง ผู้รับผิดชอบของตำบลเสี้ยโกว ลูกสาวของหม่าเจี้ยนกั๋ว
ต่อมาก็แต่งกับคุณชายตระกูลหวางของบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป
อีกอย่าง ชาติก่อนชื่อที่มู่เฉิงเรียกออกมาก็เป็นชื่อนี้
ดูเหมือนว่าหม่าเสี่ยวหลงจะทำร้ายจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก!
มู่ชิงซานพอได้ยินว่าลูกชายตัวเองกำลังกล่าวหาเขา ก็โกรธจนหน้าเขียวในทันที “แกรู้สึกว่าฉันกำลังระบายอารมณ์กับเธองั้นเหรอ? เธอมีค่าพอให้ฉันระบายอารมณ์ใส่ด้วยเหรอ?”
สีหน้าของมู่ชิงซานเต็มไปด้วยความผิดหวังในตัวของลูกชายตัวเอง สิ่งที่เขาโกรธก็คือความโง่เขลาของลูกชายตัวเอง
ประโยคเมื่อกี้ของหม่าเสี่ยวหลง เห็นได้ชัดว่ากำลังยั่วยวนให้พ่อลูกมีเรื่องผิดใจกัน
ถึงแม้ว่ามู่ชิงซานยังไม่มีหลักฐานอะไร ที่จะพิสูจน์ว่าหม่าเสี่ยวหลงผิดปรกติ แต่ว่า ด้วยประสบการณ์หลายปีของเขา เขามั่นใจว่าหม่าเสี่ยวหลงจะต้องมีอะไรซ่อนอยู่อย่างแน่นอน
มู่เฉิงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “พ่อ ความจริงอยู่ตรงหน้า พ่อยังคิดจะปฏิเสธอีกเหรอ!”
“เจ้าบ้า ทำไมฉันถึงมีลูกที่โง่เง่าอย่างแก!” มู่ชิงซานโมโหเป็นอย่างมาก
หม่าเสี่ยวหลงรีบแสร้งพูดโน้มน้าวว่า “คุณลุงมู่ ถ้าเกิดท่านไม่ต้องการที่ดินผืนนี้ ก็ยกให้ตระกูลหวางเถอะ ในสงครามชนะหรือแพ้มันเป็นเรื่องปรกติ ท่านอย่าโกรธจนทำร้ายสุขภาพตัวเองเลย!”
ประโยคนี้ฟังแล้วเหมือนจะไม่มีอะไร แถมยังเป็นประโยคโน้มน้าวที่ดี
แต่ว่า ถ้าเกิดคนที่มีประสบการณ์ได้ยิน ก็จะฟังออกมาประโยคนี้แฝงความหมายอะไรไว้บ้าง
ต่อให้ตระกูลมู่จะยอมแพ้ราชาประมูลครั้งนี้ มันก็แค่หนึ่งในทางเลือกทั่วๆไปของบริษัท แต่หม่าเสี่ยวหลงกลับบอกว่าการประมูลในครั้งนี้เป็นการทำสงครามกับบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป ถ้าเกิดบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปยอมแพ้ ก็เท่ากับว่าแพ้สงครามนี้!
ช่างเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ใจสักจริงๆ
แต่ว่า แค่ประโยคนี้ จะบอกว่าหม่าเสี่ยวหลงมีเจตนาร้าย เห็นได้ชัดว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ
ดีไม่ดีอาจโดนหม่าเสี่ยวหลงสวนกลับมาด้วยซ้ำ
มู่ชิงซานจ้องมองหม่าเสี่ยวหลงด้วยแววตาที่เย็นชา เกิดความสั่นไหวในจิตใจ ถ้าเกิดเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ งั้นผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่เจ้าเล่ห์อย่างมาก!
คำพูดนี้ของหม่าเสี่ยวหลง สำหรับมู่ชิงซานที่เป็นนักธุรกิจที่มากประสบการณ์ แน่นอนว่าไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว
แต่ว่า สำหรับวัยรุ่นใจร้อนอย่างมู่เฉิง กลับสำเร็จอย่างง่ายดาย
มู่เฉิงรู้สึกอับอายมาก ทั้งๆที่มีอำนาจที่จะเอาชนะหวางเจียเฉียงได้ ตอนนี้กลับต้องยอมแพ้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าแฟนสาวของตัวเอง ยังต้องยอมแพ้ศัตรูตัวฉกาจของตัวเองอีก
มู่เฉิงจะยอมได้ยังไง?
ครั้งนี้ ไม่ได้รอความคิดเห็นจากมู่ชิงซาน มู่เฉิงยกป้ายตัวเองขึ้นมา “ห้าสิบห้าล้าน!”
พูดจบ ก็หันไปมองหวางเจียเฉียงด้วยแววตาที่เย็นชา ใบหน้าดูพอใจเป็นอย่างมาก
ทนมานานขนาดนี้ ในที่สุดก็ได้โต้ตอบสักที
แต่ว่า ต่อจากนี้คงจะต้องรับความโกรธจากพ่อของตัวเองสักแล้ว
แต่ มู่เฉิงไม่เสียใจ ถ้าเกิดต้องทนรับความอับอายแบบนี้ ให้ระบายมันออกมายังจะดีสักกว่า!
ด้วยเหตุนี้ มู่เฉิงเตรียมใจที่จะโดนพ่อตีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้มู่เฉิงประหลาดใจก็คือ นอกจากมู่ชิงซานจะไม่ตีตัวเองแล้ว กลับไม่มีคำตำหนิแม้แต่คำเดียว
สีหน้าของมู่ชิงซานดูจริงจัง สายตามองไปยังฝั่งบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป ราวกับว่ากำลังใช้ความคิดอยู่
“พ่อ พ่อไม่โทษผมเหรอ?” มู่เฉิงกระซิบถาม
มู่ชิงซานส่งเสียงเฮิงออกมาด้วยความเย็นชา “เมื่อกี้ฉันบอกให้แกเพิ่มราคา แกกลับปฏิเสธ ตอนนี้พอโดนคนอื่นยั่วยวน แกก็เพิ่มราคาขึ้นมาด้วยตัวเอง!”
“ถึงแม้จะเพิ่มน้อยไปสักนิด แต่ฉันก็ยังรับได้”
สีหน้าของมู่เฉิงเต็มไปด้วยความตกใจ “พ่อ พ่อหมายความว่าไง?น้อยไปนิด?พ่อต้องการให้ผมเพิ่มหนึ่งแสนไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้ผมเพิ่มไปห้าล้าน พ่อยังบอกว่าน้อยอีก?”
ข้างๆ แววตาของหม่าเสี่ยวหลงเองก็เผยความสงสัยออกมา เดาความคิดของมู่ชิงซานไม่ออก
แม้แต่หลินหยุนเอง ก็มองมู่ชิงซานด้วยความสนใจ แม้แต่เขาเองก็เดาความคิดของมู่ชิงซานไม่ออก
มู่ชิงซานยิ้มอย่างเย็นชา “ใครบอกแกว่าฉันจะให้แกเพิ่มหนึ่งแสน?ฉันจะให้แกเพิ่มสิบล้าน!แกเองต่างหากที่ปฏิเสธก่อนที่จะให้ฉันพูดจบประโยค แกจะโทษใครได้?”
มู่เฉิงงงไปหมดแล้ว เขาไม่เข้าใจความคิดของมู่ชิงซานสักนิด รู้สึกเหมือนกับว่าเมื่อกี้เขายังเป็นลิงโลเล ที่กระโดดไปมา จนสุดท้ายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้สักอย่าง
หลังจากที่เพิ่มราคาการประมูลเหมือนทั่วไปเป็นครั้งแรกของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ป ทางด้านตระกูลหวางก็ยิ่งร้อนแรงกว่าเดิม
ครั้งนี้หวางซี่ไห่เป็นคนพูดด้วยตัวเอง “เพิ่มหนึ่งแสน!”
ได้ ครั้งนี้กลับกัน ถึงคราวตระกูลหวางก่อกวนบ้างแล้ว
นี่มันเป็นเวรกรรมจริงๆ ทำแบบไหนก็โดนแบบนั้น
กลุ่มคนที่อยู่ในห้องโถง ดูการแย่งชิงของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสอง จนตื่นเต้นไปหมดแล้ว
“พ่อ ยังเพิ่มอีกไหม?” ครั้งนี้มู่เฉิงเป็นคนเริ่มถาม
ท่าทางของมู่ชิงซานเองก็ดูสบายขึ้น “หกสิบล้าน!”
มู่เฉิงรีบลุกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ร้องตะโกนออกไปว่า “หกสิบล้าน!”
ต่อมา หวางซี่ไห่ตะโกนอย่างสบายๆ “เพิ่มหนึ่งแสน!”
มู่เฉิงขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงสาปแช่งว่า “บริษัทซี่ไห่กรุ๊ปกำลังแก้แค้นอยู่ กำลังแก้แค้นอยู่อย่างแน่นอน!”
“พ่อ ยังเพิ่มอีกไหม?” ไปถึงหกสิบล้านแล้ว ตัวเลขนี้ก็ใกล้จะเป็นขีดจำกัดของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปแล้ว แม้แต่มู่เฉิงเองก็ต้องระมัดระวัง
มู่ชิงซานไม่ได้พูดอะไร ราวกับกำลังใช้ความคิดอยู่
จู่ๆหม่าเสี่ยวหลงก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “คุณลุงมู่ ไปถึงหกสิบล้านแล้ว หนูรู้สึกว่าต่อให้เพิ่มต่อไป ต่อให้ได้ที่ดินผืนนี้มา จากนี้บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปเองก็ไม่มีทุนไปพัฒนาแล้ว”
มู่เฉิงร้อนรน มองไปยังมู่ชิงซาน “พ่อ ทำไงดี?”
มู่ชิงซานยังคงใช้ความคิดอยู่ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
พิธีกรสาวเริ่มตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า “หกสิบล้านกับอีกหนึ่งแสนครั้งที่หนึ่ง……หกสิบล้านกับอีกหนึ่งแสนครั้งที่สอง……ยังมีใครให้สูงกว่านี้ไหม?”
“พ่อ พ่อรีบตัดสินใจเร็วเข้า!” ใบหน้าของมู่เฉิงดูร้อนรนอย่างมาก
ทางด้านหนึ่ง หวางเจียเฉียงเองก็ร้อนรนเป็นอย่างมาก “พ่อ พ่อว่าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างมู่ชิงซานจะเปลี่ยนใจกะทันหันแล้วยอมแพ้ที่ดินผืนนี้ไหม?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นงั้นแผนต่อไปของพวกเราจะต้องเกิดความยุ่งเหยิงอย่างแน่นอน!”
หวางซี่ไห่พูดด้วยความมั่นใจ “ไม่เป็นไร ฉันรู้จักมู่ชิงซานดี เขาจะต้องเอาที่ดินผืนนี้ไปอย่างแน่นอน!”
ทางด้านนี้ หลินหยุนค่อยๆเดินไปจนถึงข้างหลังของมู่เฉิง ในตอนที่มู่ชิงซานกำลังลังเลในการตัดสินใจ ก็พูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “เธอพูดถูกแล้ว ต่อให้บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปได้ที่ดินผืนนี้มา ก็ไม่มีทุนไปพัฒนาต่อแล้ว ถ้าเกิดในเวลาแบบนี้มีคนมาจู่โจมบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ป บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปจะต้องอันตรายอย่างแน่นอน”
คำพูดของหลินหยุน ดึงดูดความสนใจจากพ่อลูกตระกูลมู่ในทันที รวมถึงหม่าเสี่ยวหลง
“คุณเป็นใคร?” มู่ชิงซานพูดด้วยใบหน้าจริงจัง แล้วจ้องมองหลินหยุนพร้อมตั้งคำถาม
“ก็แค่คนที่ผ่านทางมา” หลินหยุนตอบกลับด้วยเสียงเรียบๆ
จู่ๆหม่าเสี่ยวหลงก็หัวเราะเยาะออกมา “ให้ตายเถอะ เดี๋ยวนี้แม้แต่คนที่ผ่านทางมาก็ยังเข้ามายุ่งการตัดสินใจของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปแล้วเหรอ!”
“พูดมาตามตรง ใครส่งแกมา มีเป้าหมายอะไรกันแน่?”
หม่าเสี่ยวหลงรีบชิงเพิ่มความสงสัยในตัวของหลินหยุน
ประโยคเมื่อกี้ของเธอ ถึงจะดูเหมือนกำลังจะโน้มน้าวให้มู่ชิงซานยอมแพ้ แต่ความจริงแล้วมันเป็นการจงใจทำให้มู่ชิงซานไขว้เขว เพื่อยั่วยุให้มู่ชิงซานเอาที่ดินผืนนี้มา!
นึกไม่ถึงว่าในเวลาแบบนี้หลินหยุนจะเข้ามาแทรก ทำให้ประโยคของเธอ กลายเป็นประโยคโน้มน้าวมู่ชิงซานขึ้นมาจริงๆ
หม่าเสี่ยวหลงในตอนนี้เกลียดหลินหยุนที่เข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเป็นอย่างมาก หวังแค่ว่ารีบไล่เขาออกไป เขาจะได้ไม่ต้องมาทำลายแผนการใหญ่ของวันนี้
มู่ชิงซานมีการเตรียมป้องกันหม่าเสี่ยวหลงเอาไว้แล้ว แต่ว่า สำหรับหลินหยุนที่เป็นคนแปลกหน้า เขายิ่งต้องระมัดระวัง
“เจ้าหนุ่ม ฟังจากคำพูดเมื่อกี้ของแก รู้สึกเหมือนจะคุ้นเคยกับบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปเป็นอย่างมาก?แกเป็นใครกันแน่?” มู่ชิงซานจ้องมองหลินหยุนด้วยสีหน้าจริงจัง ราวกับกำลังสอบปากคำอยู่
หลินหยุนพูดด้วยใบหน้าที่เรียบง่าย “ผมเคยบอกแล้ว ตอนนี้สำหรับพวกคุณแล้ว ผมเป็นแค่คนแปลกหน้า แน่นอนว่า คุณเองก็สามารถคิดว่าผมเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาช่วยเหลือพวกคุณ ตระกูลมู่ของคุณจะได้ไม่ต้องเข้าไปหลงกลแผนร้ายของคนอื่น”