จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 432 รับปากเขา
หลินตงหัวจ้องมองหวางซูเฟินด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจความหมายที่หวางซูเฟินพูดออกมา
แต่ว่า ไม่มีเวลาให้เขาคิดต่อแล้ว ตอนนี้เขาจำเป็นต้องขึ้นเวทีเพื่อรายงานผลการทำงาน
หลินตงหัวเดินก้มหน้า ค่อยๆเดินขึ้นเวทีอย่างช้าๆ ราวกับคนชราที่ตายได้ตลอดเวลา
ข้างล่าง เหล่าผู้รับผิดชอบของแต่ละหมู่บ้านต่างก็เผยรอยยิ้มเย็นชาที่ได้เห็นคนอื่นขายขี้หน้า
“ฉันรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ได้อยากจะคืนความเป็นธรรมให้กับหลินตงหัว แต่กลับมีความแค้นกับหลินตงหัว! เขาจงใจให้หลินตงหัวขึ้นไปขายขี้หน้า!”
“ฮ่าๆ ฉันเองก็รู้สึกแบบนั้น!ถ้าเกิดหลินตงหัวไม่ขึ้นไป อย่างมากทุกคนก็แค่หัวเราะเขาแป๊บเดียว แต่ถ้าเกิดขึ้นเวที แล้วเกิดคนที่อยู่ข้างล่างไม่มีใครออกมาสนับสนุน งั้นมันก็จะกลายเป็นตัวตลกที่ทำให้ทุกคนหัวเราะจนฟันร่วงหมดปากไม่ใช่รึไง?”
หลินตงหัวที่ยืนอยู่บนเวที จ้องมองหลินหยุนอย่างช่วยไม่ได้ แววตานั้นดูเรียบสงบ ไม่ได้ถือโทษเขา เขาเข้าใจจุดประสงค์ของหลินหยุนดี
เจียงซ่างหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆพูดด้วยเสียงหัวเราะที่เย็นชา “หลินตงหัว เริ่มกันเถอะ!”
“ได้!”
หลินตงหัวพยักหน้าให้กับเจียงซ่างหมิง ด้วยใบหน้าที่แข็งทื่อ “ผมเป็นรองผู้รับชอบของหมู่บ้านเปากู่ หวังว่าทุกคนจะให้การสนับสนุนผม ขอบคุณ!”
นี่ก็คือการรายงานผลการทำงานของหลินตงหัว
ข้างล่างเวที ฉินหลันถามด้วยความสงสัย “ท่านประธาน หนูไม่เข้าใจ พวกคนเมื่อกี้ แค่ช่วยชาวบ้านจับไก่ก็ยังประกาศออกมา ทั้งๆที่ลุงหลินช่วยชาวบ้านทำเรื่องตั้งมากมาย ทำไมเขาถึงไม่ยอมพูดออกมาแม้แต่อย่างเดียว?”
หวางซูเฟินแอบมองหลินตงหัวที่ยืนอยู่บนเวทีเงียบๆ ท่าทางดูโดดเดี่ยว ถอนหายใจแล้วพูดว่า “คนที่ทำงานจริงๆ ไม่เคยพูดผลงานของตัวเอง เขาก็คือคนดื้อรั้นจนซื่อบื้อคนหนึ่ง”
เจียงซ่างหมิงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “หลินตงหัว นี่ก็คือการรายงานผลการทำงานของแกเหรอ? หรือว่าปีที่แล้วแกจะไม่ได้ทำอะไรเลย? เอาแต่ทำตัวครองตำแหน่งไว้รับผลประโยชน์โดยไม่ทำอะไรเลยหรือยังไง?”
หลินตงหัวจ้องมองเจียงซ่างหมิง แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ในเมื่อผมอยู่ในตำแหน่งนี้ สิ่งที่ผมทำล้วนทำตามหน้าที่ มันเป็นสิ่งที่ผมควรกระทำ แล้วจะให้รายงานผลการทำงานอะไรอีก?”
ข้างล่างเวที ผู้รับชอบคนแรกของหมู่บ้านเปากู่หยูจงหยวนตะโกนด้วยเสียงเย็นชา “หลินตงหัว! ความหมายของแกก็คือกำลังปฏิเสธผลงานของพวกเราทุกคนใช่ไหม? หรือจะบอกว่าสิ่งที่พวกเราพูดล้วนเป็นคำโอ้อวด มีแค่แกคนเดียวที่รู้จักถ่อมตน!”
“ฉันว่าแกมันก็แค่ครองตำแหน่งไว้รับผลประโยชน์โดยไม่ทำอะไรเลย ที่ไม่มีงานชิ้นไหนที่เป็นงานของแกจริงๆ เพราะงั้นจึงจงใจเสแสร้งเป็นคนที่ไม่ยอมพูดถึงผลงานตัวเอง!”
“คนต่ำช้า!”
หม่าเจี้ยนกั๋วเองก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “หลินตงหัว แกปฏิเสธผลงานของทุกคนที่อยู่ที่นี่ แล้วบอกว่าสิ่งที่แกทำเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องประกาศออกมา แกคิดว่าวิธีแบบนี้ จะมีคนหลงกลหรือไง?”
“ใช่แล้ว พวกเราไม่หลงกลหรอก! หลินตงหัวก็แค่คนต่ำช้าคนหนึ่ง!”
“คนต่ำช้า!”
ข้างล่างเวที ทุกคนต่างก็โมโหมาก ผู้รับชอบคนอื่นๆของแต่ละหมู่บ้าน ต่างก็ร้องตะโกนด่าและดูถูกหลินตงหัวไม่หยุด
มู่เฉิงจ้องมองเหล่าผู้รับชอบของแต่ละหมู่บ้านด้วยความดูถูก แล้วส่งเสียงเฮิงด้วยความเย็นชา “ไอ้พวกคนที่ไร้สาระ !”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร แค่แสดงสีหน้าที่เย็นชาออกมา
หยูจงหยวนยิ้มด้วยใบหน้าที่เย็นชา ครั้งนี้หลินตงหัวทำให้ทุกคนโกรธสักแล้ว จะต้องโดนทุกคนด่าจนตายอย่างแน่นอน
แต่ว่า แค่นี้มันยังไม่พอ ครั้งนี้เขาจะต้องทำให้หลินตงหัวขายขี้หน้าทั้งตระกูล จากนี้จะให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในความอับอายไปชั่วชีวิต
จู่ๆหยูจงหยวนก็พูดเสียงดังว่า “ทุกท่าน โปรดอยู่ในความสงบ!”
ทุกคนต่างก็ค่อยๆใจเย็นลง ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังหยูจงหยวน ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไรอีก
“การกระทำที่ต่ำช้าของหลินตงหัว ปฏิเสธผลงานของพวกเราทุกคน บอกว่าพวกเราเป็นคนเสแสร้งไม่เหมือนคนที่ไม่หวังผลตอบแทนอย่างเขา แต่ว่า ต่อให้เขาจะพูดเก่งยังไง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงอย่างหนึ่งได้”
“นั่นก็คือผู้สนับสนุนของพวกเราทุกคน!”
“เขาหลินตงหัวดูถูกพวกเราไม่ใช่หรือไง? งั้นก็มาดูหน่อยว่าเขามีผู้สนับสนุนกี่คน ถ้าเกิดผู้สนับสนุนของเขามีมากกว่าพวกเรา งั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก แต่ถ้าเกิดเขาไม่มีผู้สนับสนุนแม้แต่คนเดียว งั้นก็เป็นการพิสูจน์ว่าเขาพูดโกหกตั้งแต่แรกแล้ว!”
“ใช่ พูดถูกแล้ว!”
“ถ้าเกิดมีความสามารถจริงก็ให้ทุกคนดูหน่อยว่าผู้สนับสนุนของหลินตงหัวมีกี่คน!”
“แค่ลมปากใครก็พูดได้ ให้ผู้สนับสนุนของแกมีมากกว่าพวกเราก่อนค่อยว่ากันอีกที! ไม่มีแม้แต่ผู้สนับสนุนสักคน ยังมีหน้ามาพูดจาใหญ่โตอีก!”
จู่ๆหยูจงหยวนก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า “หลินตงหัว แกบอกว่าพวกเราเป็นพวกเสแสร้ง งั้นแกกล้าพนันกับฉันไหม? ถ้าเกิดผู้สนับสนุนของแกมีมากกว่าฉัน ฉันจะให้แกเป็นหัวหน้า ส่วนฉันจะเป็นลูกน้องแก!”
“ถ้าเกิดแกแพ้ ฉันก็ไม่ได้ต้องการให้แกลาออก แกแค่ต้องยอมก้มหัวขอโทษต่อหน้าทุกคน แล้วยอมรับว่าแกมันก็แค่พวกครองตำแหน่งไว้รับผลประโยชน์โดยไม่ทำอะไรเลยก็พอแล้ว”
“เป็นยังไง? แกเป็นคนที่ทำงานไม่หวังผลตอบแทนไม่ใช่เหรอ? กล้าพนันไหม!”
หม่าเจี้ยวกั๋วยิ้มด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ไอ้หยูจงหยวนช่างเป็นคนที่ชั่วร้ายสักจริงๆ ทั้งๆที่เขาเองก็รู้ว่าหลินตงหัวอยู่ตำแหน่งนี้มาสามปีแต่กลับไม่มีผู้สนับสนุนสักคน ยังบีบบังคับให้หลินตงหัวพนันกับเขาอีก นี่มันเป็นการรังแกกันชัดๆไม่ใช่หรือไง?”
ใบหน้าของคนรอบๆก็เผยความดีใจที่ได้เห็นคนอื่นเดือดร้อน ฉายา โลนเรนเจอร์ของหลินตงหัว โด่งดังไปทั่วอำเภอจีหมิงตั้งนานแล้ว หลายปีมานี้ไม่เคยมีใครออกมาสนับสนุนแม่แต่คนเดียว ถ้าเกิดเขากล้าพนัน จะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!
แต่ว่า ถ้าเกิดหลินตงหัวไม่กล้าพนัน งั้นก็ต้องก้มหัวขอโทษต่อหน้าทุกคน จากนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน ก็คงต้องก้มหน้าต่อไป แถมยังจะกลายเป็นตัวตลกสำหรับทุกคนอีก
นี่มันปัญหาที่ส่งผลถึงชีวิตโดยตรง ไม่ว่าหลินตงหัวจะทำยังไงก็ไร้หนทางอย่างแน่นอน
สุดท้ายหลินตงหัวก็ไม่สามารถรักษาความใจเย็นได้อีก ชีวิตครึ่งหนึ่งของเขาล้วนทำงานอย่างขยันขันแข็ง และตรงไปตรงมา นอกจากไม่ได้รับความชื่นชมจากคนอื่นแล้ว ยังต้องกลายเป็นศัตรูกับทุกคน
หรือว่าการยึดมั่นในหลักการตัวเอง โดยที่ไม่พึ่งเส้นสาย มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?
พอมองไปยังคนข้างล่างเวทีที่เผยสีหน้าดีใจที่ได้เห็นคนอื่นเดือดร้อน พวกเขาล้วนเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาทั้งนั้น!
ตอนนี้ พวกเขากลับกำลังรอดูความสนุก อยากให้ตัวเองอับอาย และขายขี้หน้าต่อหน้าพวกเขา
ความโกรธที่ซ่อนอยู่ในตัวของหลินตงหัว ในที่สุดก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันจะพนันกับแก!”
“ชีวิตทั้งชีวิตของฉัน ทั้งฟ้าและดินต่างก็เป็นพยานได้ สิ่งที่ฉันทำล้วนเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ฉันไม่รู้สึกละอายใจแม้แต่น้อย! ฉันไม่เชื่อว่า โลกนี้ จะไม่มีความยุติธรรมอยู่เลย?”
พอได้ยินว่าหลินตงหัวรับปากการพนันแล้ว หลินหยุนก็รู้สึกสบายใจลง ถ้าเกิดหลินตงหัวปฏิเสธหรือยอมแพ้ เขาก็เตรียมตัวที่จะยืนขึ้นมา หาวิธีให้หลินตงหัวรับปากเอาไว้แล้ว
ฉินหลันพูดด้วยความตกใจว่า “ทำยังไงดี? ลุงหลินรับปากสักแล้ว!”
หวางซูเฟินจ้องมองหลินตงหัวที่อยู่บนเวที ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว แบบนี้ก็ดี ขอแค่เขาคิดได้แล้ว งั้นพวกเราก็จะออกไปช่วยเหลือเขา!”
ฉินหลันถอนหายใจออกมา “หวังว่าลุงหลินจะคิดได้เร็วๆ ขอแค่มีชื่อบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปของพวกเรา ก็เพียงพอที่จะกดรัศมีของผู้สนับสนุนคนอื่นแล้ว!”
“แต่ว่า จะทำยังไงถ้าเกิดจนแล้วจนรอดลุงหลินก็ยังไม่ยอมให้พวกเราช่วยเหลือเขาล่ะ?” ฉินหลันกังวลเล็กน้อย
หวางซูเฟินไม่พูดอะไร สถานการณ์แบบนี้กับนิสัยของหลินตงหัว มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้น
เต็มใจยอมแพ้ ดีกว่าต้องเสียหลักการของตัวเอง!
แต่ว่า หวางซูเฟินก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเกิดหลินตงหัวไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ เธอเองก็ยังเคารพกับตัดสินใจของสามีตัวเอง
ใบหน้าของหยูจงหยวนเผยความดีใจออกมา เดิมทีเขาคิดว่าหลินตงหัวไม่มีทางรับปาก และไม่มีทางยอมแพ้ เขาแค่ต้องการใช้โอกาสนี้ทำให้หลินตงหัวอับอายจนถึงที่สุดก็เท่านั้นเอง
นึกไม่ถึงว่า หลินตงหัวกลับยอมรับปาก!
นี่ช่างเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของหยูจงหยวน!
“ได้ หลินตงหัว ลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้น แกอย่าผิดคำพูดล่ะ!” หยูจงหยวนรีบร้อนพูดเสียงดังออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กลัวว่าหลินตงหัวจะเปลี่ยนใจ
คนอื่นๆเองก็แปลกใจมาก นึกไม่ถึงว่าคนที่ยอมคนอื่นมาโดยตลอดอย่างหลินตงหัว ครั้งนี้กลับกล้าออกมาเผชิญหน้าตรงๆ
แต่ว่า นี่มันการหาที่ตายไม่ใช่หรือไง? ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองคือโลนเรนเจอร์ จะไปมีผู้สนับสนุนได้ยังไงกัน?
หลินตงหัวต้องแพ้อย่างแน่นอน