จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 436 เชิญกลับมา
คนที่มาก็คือเจี่ยงเวย
เรียกได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ล้วนเป็นแผนที่เจี่ยงสงวางเอาไว้
รวมทั้งพวกผู้รับชอบของแต่ละอำเภอที่เดินทางมาทักทายหลินหยุน แล้วยังมีพวกประธานบริษัทพวกนั้น
ทุกอย่างล้วนเป็นแผนที่เจี่ยงสงวางเอาไว้
หลินหยุนก็พอจะเดาออกแล้ว สำหรับความหวังดีของเจี่ยงสง ก็ไม่ได้เสียเปล่า
เจียงซ่างหมิงจัดแถวต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เรียกทุกคนออกมาทั้งหมด มายืนต้อนรับตัวแทนของท่านเจี่ยงอยู่หน้าประตูทางเข้า
พอเจี่ยงเวยปรากฏออกมาตรงหน้าประตูห้องโถง เจียงซ่างหมิงก็รีบไปทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ท่านก็คือหลานชายของท่านเจี่ยงคุณชายเจี่ยงเวย!”
“เจียงซ่างหมิงผู้รับผิดชอบของอำเภอจีหมิง พร้อมกับผู้รับชอบหมู่บ้านทั้งเก้าแห่งของอำเภอจีหมิง ยินดีต้อนรับการมาเยือนของท่านไว้ ณ ที่นี้!”
พอเจี่ยงเวยผ่านเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ก็เริ่มถ่อมตัวเล็กน้อย ดูเป็นการเป็นงานมากกว่าเดิม
“ท่านเจียงเกรงใจเกินไปแล้ว ผมไม่กล้ารับความเคารพจากพวกท่านหรอก!”
“ผู้อาวุโสทุกท่าน รีบลุกขึ้นเถอะ!”
พอเห็นว่าเจี่ยงเวยถ่อมตนขนาดนี้ พวกเจียงซ่างหมิงก็รู้สึกชื่นใจ ดูเหมือนว่าตัวแทนที่ท่านเจี่ยงส่งมา เป็นคนที่พูดจารู้เรื่อง
สายตาของเจี่ยงเวย กวาดสายตามองคนรอบๆ แล้วจู่ๆก็ถามขึ้นมาว่า “จริงสิท่านเจียง คุณหลินหยุนอยู่ที่ไหนเหรอ? รีบพาผมไปทักทายเขาเร็ว!”
แค่ประโยคเดียว เจียงซ่างหมิงและพวกผู้รับชอบของแต่ละหมู่บ้าน ต่างก็อึ้งกันเป็นแถบ!
พวกเมื่อกี้ไปเอาอกเอาใจหลินหยุนก็ว่าไปอย่าง แต่ว่าตัวแทนที่ท่านเจี่ยงส่งมา สิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกหลังจากมาถึงที่นี่ กลับเป็นการทักทายหลินหยุน!
ไอ้หลินหยุนคนนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันแน่?
ตัวแทนที่ท่านเจี่ยงส่งมาไม่เหมือนกับพวกเมื่อกี้ ถึงแม้จะมีตำแหน่งระดับพอๆกับเจียงซ่างหมิง แถมยังมีบางคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าเจียงซ่างหมิง แต่ว่าถ้าเกิดมีเรื่องขึ้นมาจริงๆเจียงซ่างหมิงก็ไม่กลัวพวกเขา
แต่ว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวแทนที่ท่านเจี่ยงส่งมา แถมยังเป็นหลานชายที่ท่านเจี่ยงส่งมาด้วยตัวเอง เจียงซ่างหมิงไม่กล้าทำอะไรวู่วาม ถ้าเกิดทำให้ท่านเจี่ยงโมโห งั้นเกรงว่าใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็คงจะต้องลงมาจากตำแหน่งนี้ในอย่างแน่นอน
สีหน้าของเจียงซ่างหมิงดูแย่มาก พูดติดๆขัดๆว่า “เมื่อกี้หลินหยุนเพิ่งกลับไป”
สายตาของเจี่ยงเวยกระตุก ดูจากแววตาของเจียงซ่างหมิง แล้วก็ท่าทางอึดอัดของพวกที่อยู่ข้างหลัง ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ท่านเจียง ผมหวังว่าคุณจะไม่ปิดบังอะไรกับผม ยังไงซะถ้าเกิดผมตรวจสอบขึ้นมา ก็สามารถรู้ความจริงได้ไม่ยาก” เจี่ยงเวยพูดด้วยเสียงจริงจัง
จู่ๆใบหน้าของเจียงซ่างหมิงก็เปลี่ยนไปทันที พูดติดๆขัดๆออกไปว่า “คุณชายเจี่ยง ต้องขออภัย เมื่อกี้ผมเพิ่มไล่คุณหลินกลับไป!”
“อะไรนะ!” สีหน้าของเจี่ยงเวยดำมืดขึ้นมาในทันที สายตาที่มองเจียงซ่างหมิง ราวกับเป็นคมมีด
เป้าหมายที่เขามาที่นี่ ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดที่หลินหยุนมีต่อเขา แต่ว่า เจียงซ่างหมิงกลับไล่หลินหยุนกลับไปแล้ว!
แผนที่ท่านเจี่ยงอุตส่าห์วางเอาไว้ เท่ากับว่าเขาเป็นคนทำพังทั้งหมด
เจี่ยงเวยพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ท่านเจียง ผมจะบอกคุณตรงๆ ที่ท่านเจี่ยงยอมมาลงทุนกับพวกคุณ ก็เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของคุณหลินหยุน ในเหมือนคุณหลินหยุนไม่อยู่แล้ว งั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจรจาอะไรกันอีก!”
“ขอตัว!”
เจียงซ่างหมิงตกใจมาก ถ้าเกิดเจี่ยงเวยกลับไปแบบนี้ ไม่ได้รับการลงทุนเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเกิดทำให้ท่านเจี่ยงโกรธ นั่นต่างหากถึงเป็นเรื่องใหญ่!
ถ้าเกิดเจี่ยงเวยกลับไปแบบนี้ ไม่เกินสามวัน เขาต้องลงจากตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน อีกอย่างเรื่องแย่ๆที่เขาเคยทำเอาไว้ จะต้องมีคนออกมาพูดจนหมดเปลือก กับคนเบื้องบน
“รอก่อน รอก่อนคุณชายเจี่ยง!” เจียงซ่างหมิงรีบวิ่งไปด้านหน้า เพื่อห้ามเจี่ยงเวยเอาไว้
เจี่ยงเวยจ้องมองเขาด้วยความเย็นชา “คุณยังมีอะไรจะพูดอีก?”
เจียงซ่างหมิงพูดเอาอกเอาใจด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “คุณชายเจี่ยง ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าท่านเจี่ยงจะให้ความสำคัญคุณหลินหยุนมากขนาดนี้ ถ้าเกิดผมรู้แต่แรก ต่อให้ผมจะมีความกล้าขนาดไหน ผมก็ไม่กล้าไล่คุณหลินหยุนกลับไปหรอก!”
“ขอร้องล่ะ ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะรีบตามไปเชิญคุณหลินหยุนกลับมาเดี๋ยวนี้!”
เจี่ยงเวยไม่ได้ต้องการจะกลับไปแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าเกิดกลับไปจริงๆ งั้นสิ่งที่ท่านเจี่ยงทำเพื่อเขาทั้งหมด ก็จะสูญเปล่า
“ท่านเจียง อย่าหาว่าผมไม่ให้โอกาสคุณ ถ้าเกิดคุณสามารถเชิญคุณหลินหยุนกลับมาได้ งั้นพวกเราก็ยังสามารถร่วมมือกันต่อได้ ถ้าเกิดไม่สามารถเชิญกลับมาได้ ก็อย่ามาโทษผม”
เจียงซ่างหมิงรีบพยักหน้า “คุณชายเจี่ยงโปรดวางใจ ผมจะต้องเชิญคุณหลินหยุนกลับมาให้ได้!”
“งั้นก็รีบไปเถอะ อย่ารอให้คุณหลินหยุนไปไกลมากกว่านี้เลย!” ความจริงเจี่ยงเวยร้อนใจยิ่งกว่าเจียงซ่างหมิง ถ้าเกิดหลินหยุนไม่ให้อภัยเขา งั้นแม้แต่เจี่ยงสงก็ทำอะไรไม่ได้ คงได้แต่เก็บเขาเอาไว้ ไม่สามารถเอาออกมาใช้การได้อีก
“ครับ!” เจียงซ่างหมิงรีบพยักหน้า แล้วหันไปสั่งผู้ช่วยตัวเองว่า “ตอนนี้ฉันจะตามไปเชิญคุณหลินหยุนกลับมา ระหว่างนี้แกรับผิดชอบดูแลคุณชายเจี่ยงไปก่อน!”
“ครับ!”
เจียงซ่างหมิงรีบวิ่งออกไปทันที หวังว่าหลินหยุนยังไปไม่ไกล ถ้าเกิดรอจนหลินหยุนกลับถึงบ้าน แล้วค่อยเชิญเขากลับมาอีกครั้ง งั้นก็คงกลายเป็นเรื่องยากแล้ว
หลังจากที่หลินหยุนออกจากห้องโถง ก็บอกลากับทุกคน
จากนั้น หลินตงหัวก็ตามมา
“คุณหลิน รอก่อนได้ไหม?” หลินตงหัวพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
หลินหยุนพูด “ผู้อาวุโสหลินมีเรื่องอะไร สามารถพูดได้เลยไม่ต้องเกรงใจ!”
ต่อให้คุณพ่อจะไม่รู้ว่าตัวเขาเป็นใคร หลินหยุนก็ไม่กล้าทำตัวอวดเบ่ง
หลินตงหัวพูดด้วยเสียงจริงจัง “ครั้งนี้ที่ผมสามารถรอดพ้นวิกฤตไปได้ ล้วนเป็นเพราะความช่วยเหลือจากคุณหลิน ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถตอบแทนอะไรคุณหลินได้!”
“ผู้อาวุโสหลินเกรงใจเกินไปแล้ว ผมพูดแต่แรกแล้ว ผมรู้สึกชื่นชมท่านมานานแล้ว สามารถแบ่งเบาภาระท่านได้เล็กน้อย ก็ถึงเป็นเกียรติของผม! ผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องเก็บไปใส่ใจ!”
พอได้ยินว่าหลินหยุนไม่ต้องการสิ่งตอบแทน หลินตงหัวก็ยิ่งซาบซึ้งกว่าเดิม ให้ความรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่พูด
“คุณหลิน อย่าเรียกผมว่าผู้อาวุโสอีกเลย ถ้าเกิดคุณหลินไม่รังเกียจผม ก็เรียกผมว่าพี่ใหญ่เป็นไง?” หลินตงหัวพูดด้วยใบหน้าตื่นเต้น
หลินหยุนอึ้งไปสักพัก!
ต่อให้เป็นหัวใจที่แข็งแกร่งของเขา แถมยังมีใบหน้าที่หนาจนแม้แต่ระเบิดก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกหน้ามืด จนเกือบจะทรุดลงไป
ลูกชายเรียกพ่อตัวเองว่าพี่น้อง!
ถ้าเกิดหลังจากนี้ฐานะของหลินหยุนถูกเปิดโปง เกรงว่าคุณพ่อกับคุณแม่ต้องเอาเขาตายแน่!
“ผู้อาวุโสหลิน ตั้งแต่เด็กผมก็ได้รับการสั่งสอนอย่างเข้มงวดในการเรียกคนที่มีอายุมากกว่า เพราะงั้นผมคงไม่กล้าทำแบบนั้น ผมขอเรียกท่านว่าผู้อาวุโสต่อดีกว่า ท่านเรียกผมด้วยชื่อก็พอแล้ว!” หลินหยุนรีบพูดออกมา
ถ้าเกิดใช้คำสรรพนามว่าพี่น้องขึ้นมาจริงๆ หลินหยุนไม่รู้จะสู้หน้ายังไง
เวลานี้เอง จู่ๆเจียงซ่างหมิงก็วิ่งออกมาจากทางห้องโถง
“คุณหลินหยุน ช้าก่อน!”
เจียงซ่างหมิงตะโกนเสียงดัง จนคนรอบๆหันมามองเขาด้วยความตกใจ
แต่ว่า เจียงซ่างหมิงก็ยังตะโกนเสียงดังโดยที่ไม่สนภาพลักษณ์ตัวเอง “คุณหลินหยุน รอเดี๋ยวก่อน!”
หลินตงหัวหันกลับไปมองเจียงซ่างหมิงแวบหนึ่ง พูดด้วยความสงสัย “เจียงซ่างหมิง? เขาคิดจะทำอะไรอีก?”
เจียงซ่างหมิงรีบวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของหลินหยุนอย่างรวดเร็ว เหนื่อยจนหายใจหอบแฮ่กๆ แต่ว่ากลับไม่หยุดพักแม้แต่วิเดียว รีบโค้งคำนับให้กับหลินหยุน
“คุณหลิน เมื่อกี้ผมมีตาหามีแววไม่ ถึงได้ล่วงเกินท่าน ตอนนี้ผมมาขอโทษท่าน หวังว่าท่านจะกลับไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ต่อ!”
ใบหน้าของหลินตงหัวเต็มไปด้วยความสงสัย เจ้าเจียงซ่างหมิงเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก เขาเป็นคนไล่หลินหยุนออกมาด้วยตัวเองไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่นาที ก็มาเชิญหลินหยุนกลับไปด้วยตัวเองอีก?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ฉันไม่สนใจ” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ ปฏิเสธเจียงซ่างหมิงทันที
“อย่านะ คุณหลิน ผมสำนึกผิดจริงๆแล้ว ขอร้องคนยิ่งใหญ่อย่างท่านอย่าถือสาคนต้อยต่ำคนนี้เลย ให้อภัยผมสักครั้งเถอะ!” น้ำเสียงของเจียงซ่างหมิงเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา ผู้รับผิดชอบของอำเภอจีหมิง กลับมีสภาพแบบนี้ด้วยเหรอ
หลินตงหัวอยากจะรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้น จึงถามไปว่า “เจียงซ่างหมิง คุณทำแบบนี้ทำไม?”
“น้องตงหัว จะบอกตรงๆก็แล้วกัน ตัวแทนที่ท่านเจี่ยงส่งมา พวกเขาบอกว่าอยากพบคุณหลิน ถ้าเกิดคุณหลินไม่อยู่ พวกเขาก็จะกลับทันที!”
พอพูดจบ เจียงซ่างหมิงก็หันไปมองหลินหยุน แล้วพูดขอร้องอีกครั้ง “คุณหลิน ถือว่าผมขอร้องท่านล่ะ ได้โปรดท่านกลับไปเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์เถอะ!”