จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 44 ตามตื๊อไม่เลิก
บทที่ 44 ตามตื๊อไม่เลิก
ควีนจินพูดอย่างจริงจัง: “สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม ในเมื่อเขาไม่อยากจะพูด ก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้อยู่แล้ว”
หยุนเยว่โค้งตัวก้มหัวกล่าว: “ค่ะ!”
“ดูสิว่าเขาขาดเหลืออะไร ก็ส่งไปให้เขา เอาใจเขาอย่างสุดกำลัง ห้ามล่วงเกินเขาเด็ดขาด!” ควีนจินกล่าวด้วยใบหน้าที่หนักแน่น
“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย!”
หลินหยุนถูกเจี่ยงสงส่งกลับไปที่หลินโจว เจี่ยงสงได้โอนเงินเข้าไปในบัตรม่วงทองของหลินหยุน บัตรใบนั้นเป็นบัตรที่สั่งทำพิเศษ ไม่จำกัดวงเงิน
ภายใต้การขอโทษมาโดยตลอดทางของเจี่ยงสง หลินหยุนก็ได้กลับมาถึงชุมชนฝูย่วน
เพิ่งจะถึงประตูทางเข้าชุมชน ในมุมจู่ๆก็มีชายชราสวมชุดจีนโบราณที่ผมเผ้ากระจุย วิ่งออกมา
เขาคือซูจื่อเหลียงที่หลินหยุนเคยช่วยไว้ในคืนนั้น
“อาจารย์ ในที่สุดผมก็ได้เจอคุณ!” ชายชราซูจื่อเหลียงใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
หลินหยุนอึ้งเล็กน้อย ครั้งก่อนที่เจอซูจื่อเหลียงนั้น แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อันตราย แต่ทรงผมก็ไม่ได้ยุ่งเหยิง กลับมีกลิ่นอายของเทพอยู่เล็กน้อย
แต่วันนี้เมื่อเห็นเขาอีกครั้ง กลับมีท่าทางที่เหมือนขอทาน
“คุณหาที่นี่เจอได้อย่างไร?” หลินหยุนสงสัยเล็กน้อย
ซูจื่อเหลียงแหงนหน้ามองฟ้า ทำท่าทางเหมือนเทพเจ้า กล่าวอย่างตื่นเต้น: “อาจารย์ นี่มันก็คือฟ้าลิขิต ฟ้าลิขิตให้ผมเจอกับคุณอีกครั้ง ฟ้าลิขิตให้คุณรับผมเป็นศิษย์!”
หลินหยุนถลึงตาใส่เขา จู่ๆก็เข้าไปใกล้จ้องมองตาคู่นั้นของซูจื่อเหลียง ข้างในแววตาหมุนไปด้วยพระอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาว
น้ำเสียงของหลินหยุนที่เบาหวิว เหมือนดั่งเสียงของเทพบนสวรรค์ชั้นที่เก้า “ฟ้าลิขิตจะแค่ไหนเชียว ผมเคยฆ่าสวรรค์มาก่อน!”
แดนทั้งแปดของการบำเพ็ญเซียน หนึ่งดินแดนหนึ่งความทุกข์ยาก ทุกครั้งที่จะขึ้นไปในระดับแดนที่สูงขึ้น ก็ต้องทะเลาะกับสวรรค์
เมื่อชาติที่แล้วหลินหยุนเป็นกษัตริย์เซียน เคยผ่านเจ็ดความทุกข์ยาก เท่ากับฆ่าสวรรค์มาแล้วเจ็ดครั้ง!
ซูจื่อเหลียงถูกหลินหยุนทำให้ตกใจ ทันใดนั้นได้ลงไปนั่งกองกับพื้น แต่ชายชราจอมโกหกก็พอมีวิชาอยู่บ้าง ใช้เวลาไม่นานก็สามารถตื่นจะความฝันจากในตาของหลินหยุน
“เห่อๆ อาจารย์ยิ้มแล้ว ผู้ยิ่งใหญ่จากสวรรค์ คนธรรมดาจะสามารถต่อสู้กับสวรรค์ได้อย่างไร? คุณก็อยากขู่ศิษย์เลย!” ทันใดนั้นซูจื่อเหลียงก็หัวเราะอย่างอึดอัด
“ผมนี่แหละจะต่อสู้กับสวรรค์? คุณยังจะไหว้ผมเป็นอาจารย์มั้ย?” หลินหยุนกล่าวอย่างเย็นชา สีหน้าหนักแน่น
“ต่อ……..สู้กับสวรรค์?” ซูจื่อเหลียงรู้สึกว่าเหมือนมีไอเย็นจากฝ่าเท้าพุ่งขึ้นมาถึงบนหัว
ต่อสู้กับสวรรค์! ล้อเล่นอะไรกัน แม้ว่าอายุเขาจะไม่น้อยแล้ว แต่ยังไม่อยากตาย!
ซูจื่อเหลียงอยากจะหนี แต่เขายังคงคาใจ เขาตามหาทั่วสารทิศ ตามหามาสิบกว่าปี ในที่สุดก็หาหลินหยุนเจอ จะให้เขาปล่อยวางง่ายๆแบบนี้ เขาทำไม่ได้!
“หากสามารถที่จะต่อสู้กับสวรรค์สักครั้งจริงๆ ต่อให้ตาย มันก็คุ้มค่า!” ซูจื่อเหลียงคิดในใจ
เมื่อคิดดีแล้ว ขณะนั้นซูจื่อเหลียงก็มีสีหน้าเข้มขรึม แล้วกล่าว: “ผมใช้เวลาครึ่งชีวิต ตามหาคุณสิบกว่าปีอย่างยากลำบาก สวรรค์เมตตา ในที่สุดผมก็หาคุณเจอ! ต่อให้ต้องสู้กับสวรรค์ สู้กับปฐพี ผมก็จะไม่ยอมถอยเด็ดขาด!”
“อาจารย์ รับผมไว้ด้วยเถอะ!”
หลินหยุนแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าหัวใจของผู้ฝึกฝนอย่างซูจื่อเหลียง กลับมีความอดทนแน่วแน่เพียงนี้
“คุณตอบผมมาก่อน คุณหาที่นี่เจอได้อย่างไร?” หลินหยุนสงสัยอย่างมาก
ซูจื่อเหลียงหัวเราะด้วยความเขินอายแล้วกล่าว: “อาจารย์ ผมตามมาจากถุงพลาสติกที่คุณซื้อของ ตามที่อยู่ของซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วหาคุณจนเจอ! ”
“ผมตามหาคุณอย่างยากลำบากมาก!” ขนาดที่พูด ซูจื่อเหลียงเริ่มทำตัวน่าสงสาร ถึงกับร้องไห้ขึ้นมาเลย
แบบนี้ก็สามารถหาเจอได้ หลินหยุนถึงขึ้นนับถือความสามารถของตาแก่จอมลวงโลกคนนี้เสียแล้ว
“เอาละ อายุอานามก็ปูนนี้แล้ว ยังจะมาร้องไห้อีก มันน่าดูที่ไหนกัน!”
ซูจื่อเหลียงหยุดร้องไห้ทันที หันหน้ามายิ้มแล้วกล่าว: “อาจารย์ คุณตกลงรับผมแล้วใช่มั้ย?”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบเฉย: “ผมไม่เคยรับลูกศิษย์ง่ายๆ อีกอย่างอยากจะเป็นลูกศิษย์ผม ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทางที่ดีคุณควรจะตายใจได้แล้ว!”
พูดจบ หลินหยุนกำลังจะเดินเข้าไปในชุมชน
“รอก่อน อาจารย์ ขอเพียงแค่คุณยอมรับผมเอาไว้ ผมยินดีที่จะบอกความลับอันยิ่งใหญ่ให้กับคุณ!”
หลินหยุนหยุดฝีเท้าลง หันหน้ามาแล้วกล่าว คุณหลอกผมไม่ได้หรอก ตายใจเถอะ!”
“อาจารย์คุณดูนี่มันคืออะไร!” ซูจื่อเหลียงจู่ๆก็ได้ล้วงแผ่นเหล็กที่ดำแดงออกมาหนึ่งแผ่น ใหญ่เท่าฝ่ามือเด็ก ได้ถูกขัดจนเงาวับ เห็นได้ชัดว่ามันถูกพบที่ติดตัวมาหลายปีแล้ว
ทันใดนั้นหัวใจของหลินหยุนก็กระตุก เพราะเขาพบว่านั่นมันไม่ใช่แผ่นเหล็ก แต่เป็นเกล็ด บนนั้นมีพลังมังกรอ่อนๆ
“คุณได้มันมาจากที่ไหน?” หลินหยุนจ้องมองซูจื่อเหลียง ถามอย่างจริงจัง
“อาจารย์ ดูเหมือนคุณจะรู้จักของสิ่งนี้! ถ้าหากคุณยอมรับผมเป็นศิษย์ ผมก็จะบอกคุณ! ไม่อย่างนั้นต่อให้คุณฆ่าผม ผมก็จะไม่พูด!”
ซูจื่อเหลียงแหงนคอขึ้น เตรียมตัวรับความตาย
เพียงแต่ไม่ว่าหลินหยุนจะมองยังไง ก็รู้สึกเหมือนใบหน้าที่ขี้โกง
“อยากจะเป็นลูกศิษย์ผม คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ แต่ผมจะรับคุณเป็นศิษย์ชั่วคราว ต่อไปถ้าหากคุณทำตัวดี ผมจะพิจารณารับคุณเข้าสำนักอีกที” หลินหยุนกล่าว
“เป็นเพียงลูกศิษย์ชั่วคราว?” ซูจื่อเหลียงไม่ค่อยพอใจนัก
“ถ้าหากในไม่เต็มใจก็ช่างมันเหอะ” หลินหยุนพูดจบก็เดินจากไป แม้ว่าเขาจะสนใจประวัติความเป็นมาของเกล็ดที่อยู่ในมือของซูจื่อเหลียงก็ตาม แต่รอให้ฝึกฝนยาทองกลับมาได้เสียก่อน ในหนึ่งวันสามารถจะเดินทั่วสามเขาห้ายอด ก็สามารถตามหาเจ้าของแผ่นเกล็ดได้เอง
“อาจารย์รอก่อน ลูกศิษย์ชั่วคราวก็ลูกศิษย์ชั่วคราว ยังไงก็ดีกว่าถูกปฏิเสธ!” ซูจื่อเหลียงกล่าว
“แผ่นเกล็ดแผ่นนี้อันที่จริงเป็นของที่อาจารย์ที่ตายไปแล้วของผมให้ผม ตอนนั้นเขาพบกับเจ้าของแผ่นเกล็ด จากนั้นก็ตายอยู่ตรงนั้น” ซูจื่อเหลียงระลึกความหลัง
หลินหยุนถาม: “สถานที่นั้นอยู่ตรงไหน?”
ซูจื่อเหลียงมองหลินหยุน แล้วกล่าว: “ภูเขาซวนโถวแห่งหวยหยาง ทะเลสาบมังกรร้าย!”
“ดินแดนที่อยู่ทางเหนือสุดของหลิงหนาน” หลินหยุนกล่าว
“ใช่ครับ ตอนที่อาจารย์ของผมพบมันนั้น ตัวมันยาวหกฟุต ตอนนี้ผ่านไปอีกสิบปีแล้ว สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นเราคงยากที่จะต่อสู้กับมันได้!” ใบหน้าของซูจื่อเหลียงแสดงถึงความเกลียด
ใบหน้าของหลินหยุนไร้ความรู้สึก กล่าวอย่างเรียบเฉย: “เก้าฟุตกลายร่างเป็นมังกร งูร้ายแค่สิบกว่าปีก็ยาวหกฟุตแล้ว ดูเหมือนจะห่างจากการเป็นมังกรไม่นานแล้ว!”
ซูจื่อเหลียงถามขึ้น: “อาจารย์ สามารถฆ่ามันได้มั้ย?”
หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าว: “รออีกหน่อย!”
“ได้ครับ!”
หลินหยุนมองซูจื่อเหลียง แล้วกล่าว: “ในเมื่อคุณเป็นลูกศิษย์ชั่วคราวของฉันแล้ว สามวันให้หลังมาหาฉันที่นี่ละกัน!”
ซูจื่อเหลียงดีใจมาก: “ขอบคุณครับอาจารย์!”
“สำหรับเรื่องของฉัน ไม่ต้องไปพูดกับใครทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้คุณวิญญาณแหลกสลาย!” น้ำเสียงของหลินหยุนเย็นเฉียบ ราวกับว่าได้ถูกส่งมาจากนรกขุมที่เก้า
ซูจื่อเหลียงตกใจจนสั่น รีบโค้งตัวก้มหัวแล้วกล่าว: “อาจารย์วางใจเถอะ ผมเข้าใจ!”
“ไปเถอะ!” หลินหยุนกล่าวอย่างเรียบเฉย
“ศิษย์ของตัวก่อน!” ซูจื่อเหลียงถอยหลังจากไป
หลินหยุนกลับถึงบ้าน เชี่ยหยู่เวยกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟา เซี่ยเจี้ยนโก๋สองสามีภรรยาน่าจะอยู่ในคลินิก
เมื่อเห็นหลินหยุนกลับมา เชี่ยหยู่เวยถามอย่างกระตือรือร้น: “เจี่ยงสงไม่ได้ทำอะไรคุณใช่มั้ย?”
“เขาไม่มีความกล้านั้นหรอก” หลินหยุนกล่าวอย่างเรียบเฉย เดินเข้าไปในห้องนอน
เดิมเชี่ยหยู่เวยอยากที่จะคุยกับหลินหยุน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ แต่เห็นท่าทางที่หยิ่งผยองของหลินหยุน เธอก็โมโหจนไม่อยากจะคุย
อีกอย่างหลินหยุนก็ไม่ได้ให้โอกาสในการกระชับความสัมพันธ์กับเธอเลย เหมือนพูดยังไม่ค่อยอยากจะพูดกับเธอ
เชี่ยหยู่เวยโกรธจนต้องกำหมอนอิงที่อยู่บนโซฟาขึ้นมา ปาไปที่ประตูห้องนอน
หน้าอกระพือขึ้นลง ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยความโกรธ
เมื่อก่อนหลินหยุนพยายามเอาอกเอาใจเธออย่างสุดชีวิต แต่เชี่ยหยู่เวยกลับทำท่าทางที่ดูถูก ตอนนี้สถานการณ์กลับกันแล้ว
แต่ว่า เมื่อคิดถึงเจี่ยงสงที่อยู่ต่อหน้าหลินหยุน ท่าทางที่เต็มไปด้วยความสุภาพ เชี่ยหยู่เวยทำได้เพียงระงับความโกรธลง
“หลินหยุน ฉันจะต้องรู้ให้ได้ ว่านายยังซ่อนความลับอะไรไว้อีก!”