จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 447สร้างค่ายกลให้เสร็จก่อนแล้วค่อยทำลายค่ายกล
“นี่ใครกล้ามาพูดโอ้อวดตรงนี้!”
เย่สวนฉีหันหัวกลับมาและตะโกนเสียงดัง
คนอื่นๆก็ได้ยินเสียงและมองไปที่ซูจื่อเหลียง
“ฉันเอง!”ซูจื่อเหลียงตอบเสียงดังก้าวไปข้างหน้าเงยหน้าขึ้นสูงและมองเย่สวนฉีด้วยความฉุนเฉียว
“นายสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานนี้ได้หรือ?”เย่สวนฉีถามด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ
สำหรับซูจื่อเหลียงความทรงจำนั้นช่างฝังใจเพราะสามารถบีบผู้อาวุโสเก้าลงมือแค่กระบวนท่าเดียวก็ต้องให้เขาผ่านด่านจะเห็นได้ว่าความสามารถของซูจื่อเหลียงแข็งแกร่งเพียงใดหลายคนแอบจำซูจื่อเหลียงไว้แม้แต่เย่สวนฉีก็เหมือนกัน
คนผู้นี้แข็งแกร่งมากในเรื่องบู๊และบางทีอาจจะรู้เรื่องเกี่ยวกับค่ายกลประมาทไม่ได้เย่สวนฉีแอบคิดในใจ
ซูจื่อเหลียงยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า“ถึงแม้ฉันจะทำลายมันไม่ได้แต่ฉันรู้ว่ามีใครบางคนสามารถทำลายมันได้”
“ใคร?”เย่สวนฉีถามด้วยความงุนงงหากมีใครสามารถทำลายค่ายกลฮู๋ซานนี้ได้จริงเขาอยากเห็นให้เป็นบุญตาสักครั้ง
คราวนี้ซูจื่อเหลียงไม่ได้พูดอะไรแต่หลินหยุนได้พูดเสียงบาๆ“ฉันสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้!”
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หลินหยุน
หยางเฟยเย่นมองไปที่หลินหยุนด้วยความประหลาดใจ“หลินหยุนค่ายกลนี้ไม่ธรรมดาน่าจะเป็นค่ายกลซั่งกู่แม้แต่ปรมาจารย์เย่ก็ไม่สามารถทำลายได้นายแน่ใจหรือว่าสามารถทำลายมันได้?”
“ถ้าคุณไม่มั่นใจเต็มร้อยฉันขอแนะนำนายอย่าฝืนไปเลย”
หยางเฟยเย่นไม่ได้มีเจตนาดีแต่กังวลถ้าหลินหยุนสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้จริงๆนั่นก็แสดงว่าโล่เสว่ฉีคงจะได้ผลประโยชน์เต็มๆเลย?”
หลี่อู๋จี๋ก็ยิ้มเย็นชามองไปที่หลินหยุนด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม“ไอ้หนุ่มการทำลายค่ายกลกับความแข็งแกร่งของบู๊มันแตกต่างจากกันมันต้องเป็นปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านค่ายกลโดยเฉพาะถึงจะทำได้เมื่อกี้นายก็ได้ยินคำอธิบายของปรมาจารย์เย่แล้วค่ายกลนี้ใช้พลังรุนแรงโจมตีอย่างเดียวไม่ได้นายจะใช้อะไรมาทำลายค่ายกลนี้?”
คนอื่นๆก็มองไปที่หลินหยุนและยิ้มเยาะเย้ยค่ายกลแตกต่างจากความแข็งแกร่งของบู๊แม้ว่าความแข็งแกร่งของบู๊จะช่วยเสริมการทำลายค่ายกลแต่ถ้าไม่เข้าใจวิธีการของค่ายกลแม้ว่าความแข็งแกร่งของบู๊จะทรงพลังแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เย่สวนฉีมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามหากเป็นซูจื่อเหลียงบางทีเขาอาจจะหวาดกลัวเล็กน้อยเพราะว่ายังไงซูจื่อเหลียงก็รู้เรื่องวิธีการทำลายค่ายกล
เพียงแต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นเด็กเมื่อวานซืนคนนี้เย่สวนฉีไม่เคยเอามาใส่ใจ
เนื่องจากปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลถ้าต้องการทำลายค่ายกลสิ่งแรกคือต้องทำความคุ้นเคยกับรูปแบบค่ายกลต่างๆแล้วเรียนรู้วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการทำลายค่ายกล
มันเหมือนกับวิธีการศึกษาแบบแผลพุพองของประเทศจีนในอดีตทุกครั้งที่มีการสอบก็จะพยายามตั้งคำถามให้นักเรียนไม่เพียงแต่นักเรียนต้องทำให้ได้แต่ยังต้องให้นักเรียนท่องจำด้วยอย่างไรก็ตามหากท่องจำคำถามมากมายขนาดนี้ถึงแม้ว่าคุณจะทำไม่ได้คุณก็ท่องจำได้แล้ว
และหลินหยุนอายุยังหนุ่มมากแม้ว่าเขาจะเริ่มเรียนรู้ค่ายกลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดาความรู้ก็มีจำกัดและเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะเรียนรู้ค่ายกลทันทีที่เกิดมา
ดังนั้นเย่สวนฉีไม่เชื่อว่าหลินหยุนสามารถทำลายค่ายกลได้!
เย่สวนฉีแสดงสีหน้าเย่อหยิ่งและมองหลินหยุนด้วยความเย้ยหยันและพูดว่า“ไอ้หนุ่มค่ายกลฮู่ซานนี้ไม่อาจทำลายด้วยพลังที่รุนแรงหากนายสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ฉันจะนับถือนายในฐานะอาจารย์!”
หลินหยุนไม่สนใจเขายื่นมือออกมาและโจมตีด้วยพลังทิพย์
ตูม!
การโจมตีแบบทดลองนั้นถูกกระแทกออกมาทันทีจากเกราะป้องกันของค่ายกล
เย่สวนฉีตะโกนเสียงดัง“ไอ้หนุ่มค่ายกลนี้ใช้พลังที่รุนแรงไม่ได้นายต้องการให้ค่ายกลสูญสิ้นผู้คนล้มตายหรือ?”
หลินหยุนเหลือบมองเขาอย่างดูถูกและพูดเบาๆ“ถ้าต้องการทำลายค่ายกลนี้จะต้องสร้างค่ายกลนี้ให้เสร็จก่อน”
“หมายความว่ายังไง?”เย่สวนฉีขมวดคิ้ว
“ไม่ได้หมายความว่าอะไรค่ายกลนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดังนั้นพวกคุณไม่มีวันทำลายค่ายกลนี้ได้”
ทุกคนประหลาดใจค่ายกลที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีเกราะป้องกันได้อย่างไร?
เย่สวนฉีดุ“ไร้สาระค่ายกลที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ไม่เรียกว่าค่ายกลแล้วจะมีบทบาทการป้องกันได้อย่างไร!”
“นั่นเป็นเพราะค่ายกลนี้เรียกว่าค่ายกลนิรันดร์กาลฟ้าดินไม่สมบูรณ์แบบเพราะไม่สมบูรณ์แบบจึงสมบูรณ์เพียบพร้อม”
หลินหยุนยังคงจำสิ่งที่เย่เยว่เคยบอกเขาเกี่ยวกับคำศัพท์นี้ของค่ายกลนิรันดร์คกาล……
“พระจันทร์มีทั้งมืดมนสว่างสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ฟ้าดินก็ไม่สมบูรณ์แบบฟ้าดินนี้ไม่มีสิ่งที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นเพราะความไม่สมบูรณ์แบบดังนั้นจึงสมบูรณ์แบบค่ายกลนี้ฉันตั้งชื่อให้ว่าค่ายกลนิรันดร์กาลหมายถึงความไม่สมบูรณ์สัญลักษณ์ของความสมบูรณ์แบบใครก็ตามที่ต้องการทำลายค่ายกลนี้จะต้องสร้างค่ายกลนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน”
ในเวลานั้นหลินหยุนรู้สึกประหลาดใจกับแนวคิดของเย่เยว่ค่ายกลที่มีข้อบกพร่องก็คือค่ายกลที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์โดยคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจก็ไม่สามารถทำลายได้เว้นแต่ฐานการฝึกฝนที่สูงส่งทำลายค่ายกลด้วยพลังที่รุนแรง
ค่ายกลนิรันดร์กาลตรงหน้านี้ถ้าเทียบกับที่เย่เยว่วางไว้มันอ่อนแอกว่ามากมิฉะนั้นด้วยฐานการฝึกฝนในปัจจุบันของหลินหยุนแม้ว่าจะรู้วิธีการทำลายค่ายกลนี้แต่เนื่องจากขาดความแข็งแกร่งไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินหยุนพูดอย่างน่าเชื่อถือความสงสัยก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
ผู้อาวุโสเก้ามองหลินหยุนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและพูดอย่างเคร่งขรึม“ไอ้หนุ่มสิ่งเหล่านี้ที่นายพูดมีหลักฐานไหม?”
“ไม่มี”หลินหยุนพูดเบาๆ
เย่สวนฉียังไม่ยอมเชื่อและยิ้มเยาะเย้ย“หึหึไม่มีหลักฐานนายจะให้คนอื่นเชื่อถือได้อย่างไร?”
“ง่ายนิดเดียวหลังจากทำลายค่ายกลนิรันดร์กาลนี้แล้วพวกคุณก็คงเชื่อถือเอง”
หลังจากพูดจบหลินหยุนก็หันหลังและจากไป
“ไอ้หนุ่มนายจะไปไหน?”ผู้อาวุโสเก้าตะโกน
“สร้างค่ายกลนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน”หลินหยุนตอบเบาๆโดยไม่หันกลับมา
ซูจื่อเหลียงพูดเสียงเบาและติดตามหลินหยุนไป
โล่เสว่ฉีลังเลสักครู่ยกชายกระโปรงขึ้นแล้วเดินตามไป
ผู้อาวุโสเก้าพยักหน้าให้ผู้อาวุโสสามและคนอื่นๆแล้วเดินตามไป
คนอื่นๆต่างเงียบและเดินตาม
ในที่สุดหลี่อู๋จี๋กับเย่สวนฉีและคนอื่นๆก็เดินตาม
หลินหยุนมาถึงจุดสูงสุดของภูเขากู่ยืนอยู่ที่นี่และสามารถมองเห็นหมู่บ้านเปากู่ทั้งหมด
ยืนอยู่บนที่สูงและมองไปที่หมู่บ้านเปากู่ลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้านเปากู่มีความชัดเจนมากขึ้น
“หมู่บ้านเล็กๆนี้ดูเหมือนเป็นลักษณะวงกลมจริงๆ”เป็นครั้งแรกที่โล่เสว่ฉียืนอยู่บนที่สูงและมองลงไปที่หมู่บ้านเปากู่และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
คนอื่นๆก็ถอนหายใจแบบนี้เช่นกันเป็นใครก็ตามครั้งแรกที่ได้มองหมู่บ้านเปากู่จากที่สูงจะต้องเกิดความรู้สึกอยากถอนหายใจเพราะว่าลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้านเปากู่นั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยเกินไปเหมือนวงกลมขนาดใหญ่
หลินหยุนอมยิ้มเล็กน้อย“ไม่น่าแปลกใจเพราะหมู่บ้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลนิรันดร์กาล!”
“อะไรนะ!”โล่เสว่ฉีมองหลินหยุนด้วยสายตาตกใจ“คุณบอกว่าทั้งหมู่บ้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลฮู่ซานในถ้ำเทพของเซียนป้ายเยว่!
“นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ!”
“ลายมือของนางฟ้าช่างจินตนาการไม่ได้จริงๆ!”
ทุกคนก็ดูตกใจเช่นกันค่ายกลขนาดใหญ่นี้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!
เย่สวนฉียิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า“ไร้สาระ!ไอ้หนุ่มนายจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลฮู่ซาน?เป็นเพราะหมู่บ้านนี้เป็นวงกลมหรือ?”
“ใช่แล้วหมู่บ้านที่ทันสมัยในปัจจุบันทั้งหมดถูกสร้างขึ้นตามกราฟิกต่างๆเพื่อความงดงามเพียงเพราะหมู่บ้านนี้มีลักษณะเป็นวงกลมจึงมั่นใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลฮู่ซานฉันไม่เชื่อ!”แม้ว่าคำพูดของหลินหยุนจะมีเหตุมีผลแต่บางคนก็ตั้งคำถามสงสัย
“ใช่แล้วฉันก็ไม่เชื่อเว้นแต่นายจะแสดงหลักฐาน”
หลินหยุนไม่ได้โต้แย้งและชี้ไปที่สี่ทิศทางของหมู่บ้านเปากู่“ทิศตะวันออกทิศใต้ทิศตะวันตกทิศเหนือต่างมีถนนสายหลักในแต่ละทิศเหมือนเครื่องหมายกากากบาทเชื่อมต่อกับภูเขากู่นี้เรียกว่าขบวนค่ายกลสี่เหลี่ยม”
ทุกคนเชื่อเพียงเล็กน้อย
เย่สวนฉีพูดว่า“นี่คือสิ่งที่นายพูดคนเดียวนายจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเส้นทางทั้งสี่เส้นนี้เป็นขบวนค่ายกล?”
หลินหยุนพูดว่า“พวกคุณส่งคนลงไปแยกกันไปหาบริเวณถนนทั้งสี่ที่เชื่อมต่อกับภูเขากู่คงมีสิ่งของสี่อย่างที่เหมือนกันสิ่งเหล่านี้อาจเป็นก้อนหินหรืออาจเป็นบ้าน”
เย่สวนฉีเหลือบมองหลี่อู๋จี๋หลี่อู๋จี๋รีบสั่งลูกน้องทั้งสี่คนทันที“พวกนายทั้งสี่คนแยกแยะกันไปหาเปิดโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดเปิดวิดีโอคอลกลุ่มฉันจะดูอยู่ตรงนี้”
“ครับ!”ทั้งสี่คนแยกกันเดินลงจากภูเขา