จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 450วัดเทพจันทรา
รูปลักษณ์ของรูปปั้นหลังจากโดนแดดโดนฝนมาหลายปีไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เพียงแต่ว่าจากโครงร่างนั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่าเดิมทีรูปปั้นนี้มีความสวยงามมาก
นอกจากนี้เสื้อผ้าบนรูปปั้นยังเป็นเครื่องแต่งกายของสตรีโบราณจะเห็นได้ว่าผู้บูชาต้องมีอายุมากพอสมควร
บนฟูกสานหวายสีดำเก่าแก่ตรงกลางมีชายชราคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีเขียวขาดรุ่งกำลังคุกเข่าหันหน้าเข้าหารูปปั้นสวดมนต์ภาวนาและดูเหมือนว่าการมาของทุกคนเขาจะไม่รู้สึกตัว
“ตาเฒ่าไวยาวัจกรมีแขกผู้มีเกียรติมาหา!”หยูจงหยวนโค้งตัวลงกระซิบบอกกับตาเฒ่า
ตาเฒ่าค่อยๆหันกลับมาเหลือบมองฝูงชนและยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย“ฉันรอมาหลายสิบปีแล้วในที่สุดพวกคุณก็มาจนได้”
ทุกคนประหลาดใจเล็กน้อย
หลี่อู๋จี๋มองไปที่ชายชราและพูดอย่างสงสัย“คุณรู้ว่าพวกเรามาที่นี่เพื่ออะไรเหรอ?”
ตาเฒ่าพยักหน้า“ฉันรู้พวกคุณมาที่นี่เพื่อค่ายกลฮู่ซานในวังเทพจันทรา”
“วังเทพจันทรา?”
ทุกคนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ใช่ถ้ำเทพของเซียนป้ายเยว่หรือ?เหตุใดจึงกลายเป็นวังเทพจันทรา!”หลี่อู๋จี๋ถามด้วยความสงสัย
ตาเฒ่าพูดว่า“เซียนป้ายเยว่เป็นเพียงผู้รับใช้ของเทพจันทราหลังจากเทพจันทราจากไปก็ทิ้งวังเทพจันทราไว้ให้เขา”
อะไรนะ!
เซียนป้ายเยว่เป็นคนรับใช้ของเทพจันทรา
นี่เป็นข่าวใหญ่มาก!
“เทพจันทราคนนั้นคงไม่ใช่เป็นเทพจริงๆมั้ง?แม้แต่เซียนก็ยังเป็นคนรับใช้ของเขา”
ทุกคนมีคำถามสงสัยแบบนี้เซียนป้ายเยว่นั้นเป็นเทพเซียนยอดชั้นดินสำหรับนักบู๊เหล่านี้ที่อยู่บนโลกมันเป็นการดำรงอยู่ในตำนานแล้ว
แต่เซียนที่ทรงพลังเช่นนี้กลับกลายเป็นผู้รับใช้ของคนอื่น!
แล้วเจ้านายท่านนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน?
“เทพจันทราไม่ใช่เทพแต่เหนือกว่าเทพ”ตาเฒ่าพูดอย่างใจเย็น
หลี่อู๋จี๋มีสีหน้าเคร่งขรึม“เทพจันทราที่คุณพูดถึงเป็นใครกันแน่?ในเมื่อเธอเก่งกาจขนาดนี้ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อคนนี้ในประวัติศาสตร์จีนเลย?”
ตาเฒ่าหัวเราะและพูดว่า“เทพจันทราอาจเป็นหนึ่งในสี่สาวงามหรือเป็นนางฟ้าจิ่วเทียนหรือเป็นแม่ทัพหญิงผู้แข็งแกร่งมนุษย์ธรรมดาจะสามารถเดาตัวตนของเธอได้อย่างไร?”
“นี้……”
ทุกคนไม่สามารถเข้าใจหรอกถ้าบนโลกนี้มีคนอัศจรรย์ๆแบบนี้อยู่จริงบางทีอาจจะกลายเป็นเทพไปแล้วก็ได้
หลี่อู๋จี๋ยิ้มเยาะเย้ย“บางทีแม้แต่คุณอาจไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเทพจันทราใช่ไหม?”
ตาเฒ่าพยักหน้าและพูดอย่างตรงไปตรงมา“ใช่ฉันไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเทพจันทราฉันเป็นเพียงผู้พิทักษ์ภูเขารุ่นที่36เท่านั้น”
ถ้าหากพวกคุณยังไม่มาหรือถ้ามาภายภาคหน้าเกรงว่าอาจจะไม่พบผู้พิทักษ์ภูเขาแล้วมาถึงในรุ่นของฉันหาผู้สืบทอดไม่เจอแล้ว”
“สมัยก่อนเมื่อชาวตงเหอรุกรานชาวจีนฉันได้รับหน้าที่ผู้พิทักษ์ภูเขาจากรุ่นก่อนเดิมทีฉันกำลังจะหนีแต่กลับถูกบีบให้ต้องซ่อนตัวอยู่ในภูเขากู่”
“ต่อมาคนของชาวตงเหอค้นพบวังเทพจันทราและต้องการใช้ระเบิดเพื่อระเบิดถ้ำหึหึคนพวกนี้ช่างละโมบโลภมากจริงๆค่ายกลฮู่ซานในวังเทพจันทราแค่ลูกระเบิดจะระเบิดมันได้อย่างไร?”
“เอาล่ะอย่าพูดถึงเรื่องในอดีตที่ไม่มีประโยชน์อะไรพวกคุณควรจะรีบหากุญแจที่สามารถเปิดค่ายกล?”
หลี่อู๋จี๋พูดว่า“ใช่แล้วคุณรู้ไหมว่ากุญแจนั่นอยู่ที่ไหนไหม?”
ตาเฒ่าชี้นิ้วไปที่ฟูกสานหวายทั้งสี่ที่อยู่ตรงหน้า“พวกนั้นแหละ!”
“อะไรนะ!กุญแจค่ายกลที่สำคัญแบบนั้นถูกวางลงบนพื้นอย่างไม่แยแส!”หลี่อู๋จี๋อุทาน
ผู้อาวุโสเก้ายิ้มและพูดว่า“สถานที่ที่อันตรายที่สุดก็เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดนอกจากนี้ค่ายกลแบบนี้ไม่เคยได้ยินหากไม่ใช่เพราะหลินหยุนรู้จักค่ายกลแบบนี้แม้ว่าเราจะใช้เวลาทั้งชีวิตแล้วก็คิดไม่ถึงว่ากุญแจค่ายกลนี้จะอยู่ในวัดที่เก่าแก่ทรุดโทรมเช่นนี้”
หลินหยุนมองไปที่ตาเฒ่าและถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ผู้พิทักษ์ภูเขารุ่นก่อนไม่ได้บอกคุณเกี่ยวกับเรื่องของเทพจันทราเหรอตัวอย่างเช่นเธอชอบใส่เสื้อคลุมสีขาวนวลหรือไม่?”
ตาเฒ่าส่ายหัว“ไม่เคยพูดเลยนับพันปีแล้วถึงจะมีก็ลืมไปแล้วถ้าคุณอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเทพจันทราก็ไปที่วังเทพจันทราซึ่งข้างในจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเทพจันทรา”
หลินหยุนถามอีกครั้ง“ถ้าเรานำกุญแจค่ายกลเหล่านี้ออกไปต้องมีผลตอบแทนอะไรให้คุณไหม”
ตาเฒ่าส่ายหัว“ไม่ต้องหรอกผู้พิทักษ์ภูเขารุ่นที่สามสิบหกของพวกเรามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวและนั่นก็คือการมอบกุญแจเหล่านี้ให้กับผู้ที่มาตามหามันเทพจันทราเคยฝากถ้อยคำไว้ว่าถ้ามีคนมาถึงวัดเทพจันทราไม่ว่าจะเป็นใครพวกเราก็แค่มอบกุญแจให้กับเขาภารกิจของพวกเราก็จะเสร็จสิ้น”
“ผมก็จะหลุดพ้นและปล่อยวางได้แล้วนี่คือรางวัลที่พวกคุณให้ผม”
หลินหยุนหัวใจสั่นคลอนเทพจันทรามีความมั่นใจในคนที่มาจะมาทำลายค่ายกลต้องมีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญย้อนกลับไปในตอนนั้นเยว่เอ๋อบอกค่ายกลนิรันดร์กาลให้เขารู้เพียงคนเดียวเทพจันทราคนนั้นคือเย่เยว่หรือไม่?
ถ้าหากว่าเทพจันทราก็คือเย่เยว่แล้วทำไมเธอถึงปรากฏตัวเมื่อหลายพันปีก่อน?
หลี่อู๋จี๋พูดว่า“แล้วจะรออะไรนำกุญแจค่ายกลเหล่านี้ไปเลยพวกเราไปทำลายค่ายกลกันเถอะ!”
ผู้อาวุโสเก้าและคนอื่นๆหนึ่งคนหยิบหนึ่งชิ้นฟูกสานหวายสี่ชิ้นพื้นผิวดูแล้วเป็นฟูกสานหวายอันที่จริงด้านในเป็นหินทรงกลม
“ลาก่อน”หลินหยุนเหลือบมองตาเฒ่าแล้วหันหลังเดินจากไปเพื่อต้องการหาคำตอบข้างในต้องเข้าไปในวังเทพจันทรา
เพียงแค่ก้าวออกจากประตูวัดที่ทรุดโทรมก็มีคนไม่กี่คนเดินมาและผู้นำคือหลินตงหัวและฉินหลัน
“เสี่ยวหยุน!ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”หลินตงหัวถามด้วยความประหลาดใจ
สีหน้าของฉินหลันก็มีความประหหลาดใจและมองไปที่หลินหยุนอย่างแน่วแน่
“มาเดินเล่นที่นี่ผู้อาวุโสหลินมาที่นีมีธุระอะไรเหรอ?”หลินหยุนถามเบาๆ
หลินตงหัวขมวดคิ้วและพูดว่า“ในหมู่บ้านนี้ตัดสินใจที่จะสร้างถนนรอบภูเขาเพื่อความสะดวกในการสัญจรไปมาในหมู่บ้านแต่ว่าไวยาวัจกรที่นี่ไม่เห็นด้วยกับการรื้อถอนฉันต้องการไปถามอุดมการณ์ของเขา”
หลินหยุนยิ้มและพูดว่า“ผู้อาวุโสหลินวางใจได้ถ้าคุณไปครั้งนี้เขาจะเห็นด้วยอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ?”หลินตงหัวพูดอย่างสงสัย“เอาล่ะถ้างั้นขอให้คำพูดของคุณศักดิ์สิทธิ์ฉันจะไปลองเสี่ยงโชคดูหรือจะให้ฉินหลันไปเดินเล่นกับคุณ?”
หลินตงหัวลองเชิงถาม
หลินหยุนอยากจะตอบว่าโอเคแต่เมื่อเห็นสายตาที่ไม่ปราณีของฉินหลันก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด“ไม่เป็นไรคนกลุ่มนี้เป็นเพื่อนของผมเอง”
“ก็ได้คุณระวังความปลอดภัยนะและถ้ามีเวลาแวะมาทานข้าวที่บ้านฉันเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้นฉันยังไม่มีเวลาขอบคุณคุณเลย!”หลินตงหัวพูดอย่างสุภาพ
“ตกลงถ้าว่างผมจะไป”หลินหยุนตอบอย่างง่ายๆ
หลังจากที่หลินหยุนแยกตัวจากหลินตงหัวมุ่งหน้าตรงไปยังสี่ทิศทางของขบวนค่ายกลแต่ก็ไม่ได้สังเกตคนในทีมพวกเขาชายชราที่มีใบหน้าซีดเซียวท่านนั้นมองไปที่หลินตงหัวและฉินหลันโดยแสดงท่าทางครุ่นคิด
ทิศทางตะวันออกตะวันตกและใต้กุญแจค่ายกลสามจุดกลับสู่ตำแหน่งเดิม
เหลืออันสุดท้ายแล้ว
หลินหยุนและคนอื่นๆล้อมรอบแผ่นหินก้อนสุดท้ายและผู้อาวุโสเก้ามองไปที่หลี่อู๋จี๋และพูดว่า“อันสุดท้ายเริ่มกันเลย!”
หลี่อู๋จี๋นำหินในมือวางลงตรงกลางรูแผ่นหินอย่างระมัดระวัง
ตูม!
ด้วยเสียงที่เคร่งเครียดไม่ชัดเจนฟ้าดินดูเหมือนจะมีพลังที่มองไม่เห็นถูกปลุกให้ฟื้นขึ้น
นั่นเป็นสัมผัสที่ลึกลับมากแม้แต่นักบู๊ที่มีพลังระดับต่ำที่สุดก็สามารถสัมผัสได้
บนยอดเขาสีหน้าของซูจื่อเหลียงตกตะลึงและพูดด้วยความยินดี“สำเร็จแล้ว”
“ฉันรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างถูกปลุกให้ฟื้นขึ้น?”นักบู๊หนุ่มคนหนึ่งถามอย่างกังวลใจ
“ใช่แล้วฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันพลังนี้น่ากลัวมาก!”
“ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะทำสำเร็จแล้ว”
หลี่อู๋จี๋และคนอื่นๆยิ้มมีความสุขปฏิกิริยานี้คงจะเป็นการสร้างค่ายกลได้เสร็จสมบูรณ์
ผู้อาวุโสเก้ามองไปที่หลินหยุนใบหน้าแสดงความชื่นชม“ไอ้หนุ่มนายยอดเยี่ยมมาก!”
เย่สวนฉีหน้าเปลี่ยนสีเขาพ่ายแพ้แล้วโดยแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนที่มีอายุเพียง20กว่าปี
“หึแม้ว่าการสร้างค่ายกลจะเสร็จสมบูรณ์แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำลายได้?มีความสุขอะไร!”เสียงของเย่สวนฉีเผยให้เห็นความโกรธ
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอเชิญเพื่อนหลินหยุนกลับไปทำลายค่ายกล!”เสียงของผู้อาวุโสเก้าพูดสุภาพมาก
“โอเค!”