จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 482 ปรมาจารย์หลินกลับมาแล้ว
หนานเจียง สำนักงานใหญ่ของสำนักมนต์ดำ
เหล่าผู้สืบทอดของสำนักมนตร์ดำทั้งหมด โดนหลินหยุนสังหารไปจนหมดแล้ว
หลินหยุนกลับไปที่อำเภอจีหมิง ไปบ้านของโม่หยู่ เจอกับโม่หยู่
พอโม่หยู่เห็นหลินหยุน ก็วิ่งมาข้างหน้าด้วยความดีใจ กุมมือของหลินหยุนเอาไว้ “ดีจังเลย ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว!”
หลินหยุนมองโม่หยู่ด้วยรอยยิ้ม โม่หยู่รู้สึกอะไรบางอย่าง ใบหน้าแดงก่ำ รีบปล่อยมือทันที
“เจ้าไปกวาดล้างสำนักมนตร์ดำเหรอ?” โม่หยู่ลองถามด้วยความสงสัย เธอรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้
“อืม” หลินหยุนพยักหน้า พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เหล่าผู้สืบทอดของสำนักมนต์ดำโดนข้าสังหารหมดแล้ว เจ้าสามารถกลับไปได้แล้ว”
“จริงสิ ข้าได้เอาตำราวิชาที่ซ่อนอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสำนักมนตร์ดำมาให้กับเจ้า ไม่แน่ว่าอาจจะมีประโยชน์กับเจ้า”
พอหลินหยุนใช้ความคิด ม้วนวิชาที่เอากลับมาจากสำนักมนต์ดำก็ค่อยๆหล่นลงบนพื้น
โม่หยู่ยืนมองภาพเหล่านี้ ด้วยใบหน้าตกใจ มองหลินหยุนด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อแล้วพูดว่า “เจ้าไปกวาดล้างสำนักมนตร์ดำจริงๆงั้นเหรอ!”
ทันใดนั้น โม่หยู่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นมาว่า “จริงสิ เจ้าเจอแผนที่แปลกๆอันหนึ่งไหม?”
ตาของหลินหยุนขยับ และจ้องมองโม่หยู่ “แผนที่แบบไหน?”
โม่หยู่อธิบายว่า “บนแผนที่ได้วาดภูเขาหนึ่งลูก บนภูเขามีกระบี่อยู่หนึ่งเล่ม”
หลินหยุนยื่นมือออกมา แผนที่แผ่นนั้นโผล่ออกมาบนฝ่ามือของเขา “ใช่อันนี้หรือเปล่า?”
“ใช่แล้ว แผนที่อันนี้แหละ!” โม่หยู่รับไปด้วยความดีใจ หลังจากที่ตรวจดูหนึ่งรอบ จู่ๆก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แปลกจัง แผนที่อันนี้ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ!”
หลินหยุนจ้องมองเธออยู่เงียบๆ “แปลกตรงไหน? กระบี่เล่มนั้นไม่ค่อยเหมือนใช่ไหม”
โม่หยู่พูดด้วยความประหลาดใจ “ใช่ๆ ถูกแล้ว กระบี่เล่มนั้นไม่เหมือนกับที่ข้าเคยเห็น”
“จริงสิ เจ้ารู้ได้ยังไง?”
จากนั้น หลินหยุนก็เอาแผนที่อีกแผ่นออกมา
“แผนที่อันนี้ต่างหากที่ข้าเจอในสำนักมนตร์ดำ” หลินหยุนยื่นแผนที่ให้กับโม่หยู่
โม่หยู่รับมาด้วยความประหลาดใจ แล้วเปรียบเทียบแผนที่ทั้งสอง
“นี่……เจ้าเจอที่ไหนเหรอ? จริงสิ เจ้ายังมีกระบี่หยกอีกหนึ่งเล่มใช่ไหม?” โม่หยู่จ้องมองหลินหยุนด้วยความแปลกใจ
ดวงตาของหลินหยุนขยับเล็กน้อย แล้วถามว่า “กระบี่หยกเล่มนั้นอยู่กับเจ้างั้นเหรอ?”
โม่หยู่มองหลินหยุน แล้วหันตัวเดินไปยังห้องนอน “เจ้าตามข้ามา!”
ในห้องของโม่หยู่ ตรงกำแพงมุมหนึ่ง พอโม่หยู่เอามือไปสัมผัส จากนั้นก็เอาแท่งไม้ยาวอันหนึ่งออกมา
แท่งไม้นี้ยาวประมาณเจ็ดนิ้ว ถ้าเกิดเอามาใช้เป็นฝักกระบี่ ก็สามารถเข้ากับกระบี่หยกเล่มนั้นได้พอดี
พอโม่หยู่ใช้แรง แท่งไม้ก็แตกกระจาย จากนั้นกระบี่หยกก็ปรากฏออกมา
หลินหยุนรับกระบี่หยกมาตรวจสอบ อย่างที่คิดไว้ เป็นกระบี่หยกแบบเดียวกับที่วาดอยู่ในแผนที่อันนั้น
หลินหยุนเอากระบี่หยกของตัวเองออกมา ยื่นให้กับโม่หยู่ “นี่เป็นสิ่งที่ข้าหาเจอจากหมู่บ้านเปากู่ที่อยู่ในภูเขากู่
โม่หยู่พูด “เจ้าหมายถึงวังเทพจันทรา!”
จู่ๆหลินหยุนก็หันไปมองโม่หยู่ “เจ้ารู้จักวังเทพจันทรางั้นเหรอ?”
ตามหลักการแล้วโม่หยู่ไม่เคยไปที่ภูเขากู่มาก่อน วังเทพจันทราเป็นสิ่งที่หลินหยุนได้ยินมาจากคนเฝ้าวัดร้างคนนั้น คนส่วนใหญ่ล้วนเรียกด้วยชื่อถ้ำเซียนป้ายเยว่
“ข้าเคยเห็นจากบันทึกของสำนักมนตร์ขาว ตำนานเขียนเอาไว้ว่าในภูเขากู่ มีวังรองเทพจันทราอยู่”
“วังรองเทพจันทรา?” หลินหยุนขมวดคิ้ว แบบนี้ก็หมายความว่าวังเทพจันทราไม่ใช่ที่ประทับหลักของเทพจันทรา?
“หรือว่าภูเขาที่อยู่ในแผนที่อันนี้ต่างหาก ที่เป็นที่ประทับที่แท้จริงของเทพจันทรา?”
“ดูเหมือนว่าสำนักมนตร์จะสืบทอดมานานกว่าปกติ”
หลินหยุนมองโม่หยู่ “งั้นเจ้ารู้ที่มาที่ไปของแผนที่อันนี้ไหม?”
โม่หยู่ส่ายหัว “ข้าเองก็ไม่รู้ แค่ได้ฟังคำสั่งเสียมาจากธิดาศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนว่า จะต้องรักษาของสองสิ่งนี้เอาไว้ให้ดีๆ บอกว่าถ้าเกิดอยากจะทำให้สำนักมนตร์ขาวยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง ก็ต้องพึ่งแผนที่อันนี้”
หลินหยุนเก็บแผนที่และกระบี่หยกของตัวเอง แล้วพูดว่า “ถ้าเกิดข้าเดาไม่ผิด แผนที่อันนี้สำนักมนตร์ดำคงจะแย่งมันไปจากมือของพวกเจ้า”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นข้าก็คืนให้กับเจ้าของเดิมก็ได้กัน!”
โม่หยู่ตกใจ รีบพูดขึ้นมาว่า “ไม่ได้!แผนที่อันนี้เจ้าเอากลับมาจากสำนักมนตร์ดำ งั้นมันก็กลายเป็นของเจ้าแล้ว!”
หลินหยุนพูด “เจ้าอย่าปฏิเสธเลย ถ้าเกิดข้าเดาไม่ผิด แผนที่และกระบี่หยกที่เหมือนแบบนี้ น่าจะยังมีอีกหลายชุด ถึงแม้มันอาจจะเป็นของล้ำค่าจริงๆ แต่จำเป็นต้องรวบรวมให้ครบถึงจะใช้ประโยชน์ได้ ในเมื่อแผนที่อันนี้เดิมที่สำนักมนตร์ขาวของเจ้าเป็นเจ้าของ งั้นก็เป็นการพิสูจน์ว่าสำนักมนตร์ขาวของเจ้ามีความเกี่ยวข้องกับแผนที่อันนี้”
โม่หยู่ครุ่นคิด พยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นก็ได้ ข้าจะเก็บเอาไว้ ถ้าเกิดหลังจากนี้เจ้าต้องการ ก็สามารถมาเอากับข้าได้ทุกเมื่อ”
หลินหยุนพูด “จริงสิ ทางฝั่งผู้สืบทอดของสำนักมนตร์ดำโดนข้ากวาดล้างไปหมดแล้ว ถ้าเกิดเจ้าอยากกลับไป สามารถกลับไปเก็บกวาดสถานที่ได้”
“ช่วงนี้ข้ายังไม่คิดที่จะกลับไป” สถานที่แห่งนั้นสำหรับโม่หยู่ ดูเหมือนจะส่งผลกระทบทางจิตใจ ถ้าเกิดไม่จำเป็นจริงๆ เธอไม่มีทางยอมกลับไปอย่างแน่นอน
หลินหยุนมองเธอ และพูดทิ้งท้ายว่า “ข้าจะให้เบอร์มือถือกับเจ้า ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรสามารถโทรหาข้าได้”
“ขอบคุณเจ้ามากหลินหยุน!” แววตาของโม่หยู่เผยความซาบซึ้งออกมา
“ลาก่อน!”
“ลาก่อน!”
ทะเลสาบเยว่หยา กงชางเซินสั่งให้คนย้ายประตูของสำนักเจ็ดดาวมาอยู่ที่นี่
และให้กงซิวซ่างติดต่อช่างก่อสร้าง เพื่อเตรียมตัวต่อเติมทะเลสาบเยว่หยา สร้างคฤหาสน์ขึ้นมาอีกหนึ่งหลัง เพื่อเป็นสถานที่พักของเหล่าลูกศิษย์ในสำนัก
ในตอนที่หลินหยุนกลับถึงคฤหาสน์เยว่โหลว สิ่งที่เห็นก็คือภาพที่เหมือนกับเหล่าโจรที่ใช้กำลังยึดบ้านเป็นของตัวเอง
เหล่าลูกศิษย์ของสำนักเจ็ดดาว เอาที่นี่เป็นสถานที่ใหม่ของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว พืชพรรณหลายชิ้นที่อยู่หน้าประตูคฤหาสน์โดนพวกเข้าทำลายทิ้ง
หลินหยุนมองภาพเหล่านี้ ด้วยสีหน้าเงียบสงบ แต่ว่าเหล่าพืชพรรณที่อยู่ในรัศมีสองเมตรของเขา จู่ๆก็เหี่ยวเฉาจนหมด
มีชายหนุ่มหลายคนที่กำลังฝึกชกอยู่กลางสนามหญ้า ได้เห็นหลินหยุนแล้ว
“เฮ้ เจ้าเป็นใคร?” ชายหนุ่มที่ถือกระบี่อยู่ร้องตะโกนด้วยเสียงเย็นชา
“พวกเจ้าเป็นใคร?” น้ำเสียงของหลินหยุนสงบเรียบ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ที่นี่เป็นพื้นที่สำนักเจ็ดดาวของพวกเรา ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า!” ชายหนุ่มพูดเสียงดัง เหมือนกับหมาป่าที่กำลังประกาศอำนาจของตน บอกหลินหยุนที่เป็นผู้บุกรุกว่า ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ของพวกเขาแล้ว
“พื้นที่ของสำนักเจ็ดดาว” หลินหยุนค่อยๆพูดประโยคซ้ำออกมา ไม่สนใจชายหนุ่มคนนั้นอีก เดินตรงเข้าไปยังคฤหาสน์
“หยุดเดี๋ยวนี้!บอกเจ้าแล้วว่าห้ามเข้า ทำไมเจ้าถึงดื้อด้านแบบนี้!” ชายหนุ่มเคลื่อนไหวเร็วมาก วิ่งไปห้ามข้างหน้าของหลินหยุน กระบี่ยาวที่อยู่บนมือชี้ไปทางหลินหยุน
“เจ้าหนุ่ม รีบไสหัวไปซะ ที่นี่เป็นพื้นที่สำนักเจ็ดดาวของพวกเรา ถ้าเกิดเจ้าบุกรุกเข้ามา อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” ชายหนุ่มอีกคนร้องตะโกนขึ้นมา
“ถอยไป” หลินหยุนไม่เห็นชายหนุ่มสองคนนี้อยู่ในสายตา ไม่ได้หยุดฝีเท้าแม้แต่น้อย ยังคงเดินต่อไป
ชายหนุ่มที่ถือกระบี่ยาวคนนั้น ตกใจเล็กน้อย มือที่ถือกระบี่อยู่สั่นเล็กน้อย แล้วพูดเสียงดังว่า “ถ้าเจ้ายังกล้าเดินเข้ามาอีกก้าว อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
หลินหยุนยังคงเดินต่อไป
“รนหาที่ตายซะแล้ว!” ใบหน้าของชายหนุ่มเผยความดุร้ายออกมา ใช้กระบี่แทงเข้าไปยังหัวใจของหลินหยุน
หลินหยุนสะบัดมือเบาๆ ราวกับไล่แมลงวันที่น่ารำคาญ
บูม!
ชายหนุ่มคนนั้นรู้สึกได้แค่ว่ามีพลังที่ยิ่งใหญ่ กระแทกเข้ากับหน้าอกของเขา ทำให้ตัวเขาปลิวออกไป
“ศัตรูบุก!”
สีหน้าของชายหนุ่มอีกคนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว รีบตะโกนออกมาทันที
หลินหยุนไม่ได้สนใจ ยังคงมุ่งหน้าต่อไป
พอได้ยินเสียงของชายหนุ่มคนนั้น ก็มีคนสิบกว่าคนวิ่งออกมาจากคฤหาสน์ ล้วนเป็นระดับสูงของสำนักเจ็ดดาว
กงชางเซินสวมชุดขาวยืนอยู่ข้างในสวน เหล่มองหลินหยุน แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใครกัน?”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “เจ้ายึดพื้นที่ของข้าไป ไม่รู้ว่าข้าเป็นใครหรือไง”
“เจ้าคือปรมาจารย์หลิน!” กงชางเซินตกใจเล็กน้อย พูดด้วยเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อว่า “เจ้าตายแล้วไม่ใช่หรือไง?”
ฟังจากประโยคนี้ หลินหยุนก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
ดูเหมือนว่าจะมีคนจงใจปล่อยข่าวการตายของตัวเอง เพื่อให้สำนักเจ็ดดาวออกมาเป็นศัตรูกับตัวเอง
เก็บเรื่องของคนคนนั้นเอาไว้ก่อน ในเมื่อสำนักเจ็ดดาวกล้าออกมา งั้นก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว
ซูจื่อเหลียงน่าจะยังอยู่ที่จงโจว ไม่รู้ว่าซูหนันเป็นยังไงบ้าง