จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 488 ความหยิ่งยโสของคนตระกูลกง
หลินหยุนและอันซินนั่งอยู่บนโซฟาหนังสีเบจ โซฟานั่งสบายมาก มันนุ่มแต่ก็ไม่จม
โห้ซือหนันเทน้ำชาสองถ้วยให้กับหลินหยุนและอันซิน แล้วเอามาวางบนโต๊ะกาแฟไม้เนื้อแข็งสีขาวตรงหน้าโซฟา
“นั่งรถมานาน คงจะเหนื่อยแย่ ดื่มชาก่อนสิ!”
หลินหยุนถือถ้วยชาขึ้นมา แล้วสำรวจเพื่อนร่วมชั้นของอันซิน เธอมีรูปร่างสูงยาว หน้าตาสะสวย และเป็นคนอัธยาศัยดี แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงที่เติบโตมาจากตระกูลใหญ่
แต่ว่า ถ้าเกิดฉีกภาพลักษณ์ภายนอกพวกนี้ออก หลินหยุนมองเห็นสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น
ตรงหว่างคิ้วของผู้หญิงคนนี้ มีรอยย่นอยู่เล็กน้อย ดูจากอายุและวิถีชีวิตของเธอ ผิวพรรณของเธอไม่น่าจะมีริ้วรอยในช่วงเวลาแบบนี้ นั่นเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการขมวดคิ้วเป็นเวลานาน
สิ่งเหล่านี้สามารถตัดสินได้ว่า ผู้หญิงคนนี้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้แรงกดดัน
แถมเมื่อกี้ก่อนที่จะเข้ามา ภาพของทั้งสองคนที่กอดกันร้องไห้ เห็นได้ชัดว่าอันซินเข้าใจความลำบากที่โห้ซือหนัน ต้องเผชิญอยู่พอประมาณ
“ห้องนี้เป็นสิ่งที่แม่ของฉันเหลือทิ้งเอาไว้ และเป็นมรดกอย่างเดียวที่ฉันได้รับมา” โห้ซือหนันเทชาใส่ถ้วยตัวเอง แล้วนั่งอยู่ตรงข้างระหว่างหลินหยุนและอันซิน พูดด้วยรอยยิ้ม แต่ว่ารอยยิ้มนี้ดูขมขื่น
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร สำหรับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เขาไม่ได้มีความสนใจ
อันซินมองไปยังโห้ซือหนัน แล้วถามว่า “เธอตัดสินใจที่จะทำแบบนี้จริงๆงั้นเหรอ? อีกฝ่ายมีอายุมากกว่าพ่อของเธอสักอีก! ถ้าเกิด……”
อันซินยังไม่ทันพูดจบประโยค ก็ถูกโห้ซือหนันพูดตัดบทสักก่อน
“ฮ่าๆ พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะตัดสินใจได้”
“หลังจากที่แม่ฉันเสียชีวิต ฉันก็แทบจะไม่มีจุดยืนในบ้านหลังนี้ โดนโห้จินผิงกับโห้จินเย่นรังแกอยู่ตลอด สู้รีบแต่งออกจากบ้านหลังนี้ ยังไงซะด้วยฐานะของฉัน ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกจับแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางบ้านอยู่ดี รีบแต่งออกไปซะ จะได้อับอายน้อยกว่านี้”
“ต่อให้แม่เธอจะไม่อยู่แล้ว แต่ว่านั่นเป็นพ่อแท้ๆของเธอ เขาจะยอมปล่อยให้เธอแต่งกับคนที่มีอายุมากกว่าเขาได้ยังไง!” อันซินยังไม่อยากจะเชื่อ เธอที่เติบโตในครอบครัวที่อบอุ่น นึกภาพพ่อคนหนึ่งที่โหดร้ายขนาดนี้ไม่ออกจริงๆ
โห้ซือหนันพูดด้วยรอยยิ้มสิ้นหวังว่า “อันซิน ในสายตาของเธอ ผู้หญิงที่เกิดในตระกูลใหญ่อย่างฉัน รู้สึกเหมือนกับเป็นคนที่มีชีวิตสวยหรูในสายตาคนอื่น เหมือนกับองค์หญิงที่สูงศักดิ์ใช่ไหม?”
อันซินพยักหน้า
“ความจริง ส่วนใหญ่แล้วพวกเราแทบจะไม่มีทางเลือกเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ความสุขของผู้หญิง หรือแม้กระทั่งชีวิต” โห้ซือหนันทำสีหน้าเจ็บปวด
“พ่อของฉันคิดแต่เรื่องการทำให้ตระกูลเติบโต ขอแค่ส่งผลดีต่ออำนาจของตระกูล ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของฉัน เขาก็จะส่งฉันเข้าไปยังกองเพลิงโดยไม่ลังเล ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องงานแต่ง”
อันซินทำหน้าตกใจ “บ้านของเธอมีฐานะดีขนาดนี้แล้ว ทำไมเขายังไม่พอใจอีก? ทำไมถึงต้องเสียสละลูกสาวของตัวเอง เพื่อแลกกับอำนาจ!”
“ความโลภของมนุษย์ ไม่มีทางถูกเติมเต็ม โดยเฉพาะตอนที่เธอมีโอกาสสนิทใกล้ชิดกับคนที่มีอำนาจ ถึงเวลานั้น เธอก็จะสามารถกลายเป็นผู้คุมเกมทั้งหมดได้ เธอก็จะไม่มีทางยอมเป็นแค่คนธรรมดาอีกต่อไป” โห้ซือหนันพูดด้วยเสียงจริงจัง
หลินหยุนประหลาดใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ฉลาดมาก
การแย่งชิงอำนาจบนโลกมนุษย์ ก็เหมือนกับการฆ่าฟันกันระหว่างผู้บำเพ็ญเซียน
ในสายตาของคนทั่วไป บางทีอาจจะขอแค่มีกินมีใช้ก็พอแล้ว แต่ว่าในสายตาของคนที่ร่ำรวย พวกเขาได้เห็นคนที่เป็นผู้คุมเกมที่อยู่บนยอดพีระมิดแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมเป็นคนที่ถูกคนอื่นควบคุม กลายเป็นหมากของคนอื่น พวกเขาเองก็หวังที่จะเป็นผู้วางหมาก กลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการควบคุมเกม
ผู้บำเพ็ญเซียนก็เป็นแบบนั้น ถ้าเกิดอยู่มาวันหนึ่งคุณมองเห็นหนทางในการควบคุมสวนสวรรค์ ควบคุมความลึกลับของชีวิตที่อยู่บนจักรวาล แบบนั้นคุณจะยอมเป็นคนธรรมดาอยู่ไหม?
อันซินยังคงส่ายหัว “ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ผลประโยชน์แบบไหนกัน ที่ถึงขั้นทำให้พ่อเธอตัดสินใจทำเรื่องใจร้ายแบบนี้!”
โห้ซือหนันพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอเคยได้ยินน้ำแห่งชีวิตไหม?”
ดวงตาของหลินหยุนสั่นไหว แล้วมองไปยังโห้ซือหนัน
อันซินพูด “แน่นอนว่าเคยได้ยิน พ่อแม่ฉันดื่มมันอยู่ตลอด ผลลัพธ์ดีมาก เห็นบอกว่าสามารถรักษาได้เป็นร้อยโรคก็ยังได้ ได้ยินมาว่าหลังจากที่มีน้ำแห่งชีวิตสู่โลก โรงพยาบาลก็ไม่แออัดอีกต่อไป ทุกคนต่างก็รู้สึกซาบซึ้งคนที่คิดค้นน้ำแห่งชีวิต”
โห้ซือหนันพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “น้ำแห่งชีวิตเป็นของดีที่มีอยู่เพียงน้อยนิด พ่อฉันได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนค้าขายน้ำแห่งชีวิตในมณฑลซีหนิง”
“แต่ว่า ตระกูลกงมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในมณฑลซีหนิง พวกเขาคอยห้ามไม่ให้ทำการค้าขายน้ำแห่งชีวิตมาโดยตลอด ขอแค่ฉันยอมแต่งกับสัตว์เดรัจฉานอย่างกงเฉิงยู่ ตระกูลกงก็จะไม่ห้ามการค้าขายน้ำแห่งชีวิตอีกต่อไป”
พอพูดแบบนี้ ตัวแทนการค้าขายน้ำแห่งชีวิตที่อยู่ในมณฑลซีหนิง ก็คือตระกูลโห้ที่โห้ซือหนันอยู่นี่เอง
นี่ช่างเป็นเรื่องบังเอิญสักจริงๆ
แต่ว่า นิสัยตัวแทนการค้าขายคนนี้ ดูจะมีปัญหาเป็นอย่างมาก!
หลินหยุนกำลังคิดว่าจะตัดตัวแทนการค้าขายของมณฑลซีหนิงทิ้งดีไหม?
หลินหยุนถาม “เจ้าบ้านของตระกูลกงเป็นกงซิวซ่างไม่ใช่หรือ? กงเฉิงยู่ที่เธอพูดถึงไม่น่าจะมีอำนาจในการตัดสินใจหรอกมั้ง?”
โห้ซือหนันมองไปยังหลินหยุน แล้วพูดว่า “กงเฉิงยู่เป็นลูกพี่ลูกน้องของกงซิวซ่าง เป็นคนที่มีอิทธิพลในตระกูลกงเป็นอย่างมาก เขาเป็นผู้รับผิดชอบ ที่คอยห้ามไม่ให้ค้าขายน้ำแห่งชีวิตมาโดยตลอด”
หลินหยุนรู้สึกว่าโห้ซือหนันถูกหลอกแล้ว ตระกูลกงมีความแค้นกับเขาขนาดนั้น ต่อให้โห้ซือหนันจะแต่งเข้าไป กงซิวซ่างก็คงไม่ยอมให้น้ำแห่งชีวิตค้าขายในพื้นที่ของเขาหรอก
แต่ว่า หลินหยุนก็ยังไม่ได้พูดเตือนโห้ซือหนัน ต่อให้พูดเตือนเธอก็คงไม่เชื่อ อีกอย่างงานแต่งสำหรับเธอแล้ว มันก็เหมือนการปลดทุกข์
ปัญหาที่โห้ซือหนันกำลังเผชิญ หลินหยุนรู้สึกได้ถึงความซับซ้อน เพราะว่าปู่ของเขาหวางจิงหลง เป็นคนที่เห็นผลประโยชน์ของตระกูลสำคัญกว่าสิ่งใด
ถ้าเพื่อรักษาหน้าของตระกูลหวาง ไม่เสียดายที่ต้องฆ่าหลานชายของตัวเอง
ในเวลาแบบนี้ การออกจากตระกูลโห้ โห้ซือหนันอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้
อีกอย่างหลังจากที่เขาคิดบัญชีกับคนของตระกูลกงเรียบร้อย โห้ซือหนันจะแต่งหรือไม่แต่ง เธอก็จะสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
พวกเขาพูดคุยกันสักพัก อารมณ์ของโห้ซือหนันดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
อันซินเข้าครัว ทำอาหารมือเย็นหรูหราออกมา
พอทั้งสามทานจนเรียบร้อย ก็นั่งดูทีวีอยู่ตรงห้องรับแขก
ดวงตะวันเพิ่งตกจากฟ้า ข้างนอกก็มีเสียงทุบประตูดังขึ้นมา
บูมบูมบูม!
ต่อมาก็มีเสียงของผู้ชายตะโกนขึ้นมา “เปิดประตู เปิดประตู!”
ข้างในห้อง อันซินตกใจ มองไปยังโห้ซือหนันแล้วถามว่า “คนนี้เป็นใครเหรอ?”
หน้าของโห้ซือหนันซีดลงเล็กน้อย พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า “กงเห้า เป็นลูกคุณหนูคนหนึ่ง ตามรังควานฉันมานานแล้ว นึกไม่ถึงว่าพรุ่งนี้ฉันก็จะแต่งกับพ่อของเขาแล้ว เขายังกล้ามาหาฉันอีก!”
“……”
หลินหยุนและอันซินอึ้งไปสักพัก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ!
โห้ซือหนันคงจงใจแก้แค้น!
อันซินถามด้วยความอึดอัดว่า “ให้ฉันโทรเรียกตำรวจมาไล่เขาไหม?”
“ไม่ต้องสนใจเขา ปล่อยเขาไว้แบบนี้แหละ” โห้ซือหนันพูดด้วยเสียงเย็นชา
ชั้นล่าง เสียงทุบประตูยังคงดังต่อเนื่อง
“โห้ซือหนัน นางแพศยา เปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูจะทุบประตูของมึงให้พังไปเลย” เห็นได้ชัดว่ากงเห้าดื่มเหล้าจนเมาแล้ว น้ำเสียงก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ
“คุณชายกง โห้ซือหนันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง พวกเราไม่ต้องไปหาเธอหรอก ให้ผมพาคุณไปสังสรรค์ที่อื่นไหม?” ชายหนุ่มหน้าตาดีข้างๆ พูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆชายหนุ่มคนนั้น กลับพูดด้วยใบหน้าประสงค์ร้ายว่า “พี่ชาย นางแพศยาโห้ซือหนันคนนี้ จงใจยั่วโมโหคุณชายกง พรุ่งนี้เธอก็จะแต่งกับพ่อของคุณชายกงแล้ว วันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณชายกง ฉันรู้สึกว่าคุณชายกงต้องสั่งสอนเธอให้รู้สำนึกสักบ้าง”
พี่น้องคู่นี้ ก็คือโห้จินผิงและโห้จินเย่นจากตระกูลโห้