จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 502 เติ้งเจียหลุนออกหน้า
หลินเสี่ยวลู่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็หน้าแดงก่ำ แต่กลับไม่กล้าที่จะโต้แย้งใดๆ
เมื่อดูจากตำแหน่งของเฉิงเฉินในวงการบันเทิงแล้ว ถ้าหากว่าเต็มใจที่จะช่วยอีหลิงในการเดบิตว์ อย่างนั้นอีหลิงก็ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องมากระชับความสัมพันธ์หรือตีสนิทกับคนอย่างเธอเลย
และถ้าหากเฉิงเฉินต้องการที่จะกันเธอออกจริง หลังจากนี้หลินเสี่ยวลู่ก็คงจะโลดแล่นในวงการบันเทิงได้ยากแล้ว
ส่วนอู่ซื่อหานก็ตกใจจนเอาแต่ก้มหน้า คอยหลบอยู่หลังหลินเสี่ยวลู่ ด้วยความกลัวว่าเฉิงเฉินจะเห็นเธอเข้า
พวกเธอแม้จะฝันยังไม่กล้าฝันเลยว่าหลินหยุนจะเป็นเพื่อนกับเฉิงเฉินจริงๆ ยิ่งกว่านั้นเมื่อดูจากท่าทีของเฉิงเฉิน เหมือนกับว่าเธอนั้นมีความรู้สึกพิเศษบางอย่างกับหลินหยุน
คนบริเวณรอบๆ ที่เยาะเย้ยหลินหยุนเมื่อสักครู่นี้ต่างก็พากันตกใจออกมา
“หมอนั่นรู้จักกับเฉิงเฉิน ไม่แปลกเลยที่กล้าพูดจาโอ้อวดแบบนั้น !”
หลี่หมิงกับโจวเจ๋หลุนและเหล่าซูเปอร์สตาร์คนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน: “ที่เฉิงเฉินก็คือที่พึ่งของเขานั่นเอง ถึงว่าล่ะเขาเป็นเเค่นักเรียน แต่กล้าไปต่อล้อต่อเถียงกับหลินเสี่ยวลู่”
บนแถวที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ เฉิงต๋าและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน : “ที่แท้เจ้าหนุ่มนี่ก็มีคนหนุนหลังนี่เอง ไม่น่าแปลกที่กล้าจองหองขนาดนั้น”
ตรงบริเวณที่นั่งแถวที่หนึ่ง เติ้งเจียหลุนที่นั่งสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ มาโดยตลอด ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงไปยังเฉิงเฉินด้วยสีหน้าที่เย็นชา
คนยังมาไม่ทันถึง แต่เสียงของเขากลับเปล่งขึ้นมาก่อน
“เฉิงเฉิน คุณไปเรียนรู้การรังแกผู้น้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”
เมื่อมองตามเสียงไป ก็เห็นว่าเติ้งเจียหลุนกำลังเดินเข้ามา แล้วหยุดยืนอยู่ตรงข้างของพวกหลินเสี่ยวลู่
“เติ้งเจียหลุน?” เฉิงเฉินหรี่ตาลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเฉยชา : “ฉันไปรังแกผู้น้อยยังไงกัน?”
เติ้งเจียหลุนตวาดสายตามองไปยังหลินหยุนกับเฉิงเฉิน ก่อนจะพูดอย่างเหยียดหยาม: “คุณเป็นถึงดาราระดับหนึ่ง แต่กลับไปรังแกดาราระดับสาม นี่ไม่ใช่การรังแกผู้น้อยแล้วจะเป็นอะไร ?”
หลินเสี่ยวลุ่ถึงกับตะลึงงัน จ้องมองไปที่เติ้งเจียหลุนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ใจของเธอก็พลันเต้นอย่างหนัก: “นี่คุณชายเติ้งกำลังช่วยเถียงแทนเราอยู่งั้นหรอ ?”
ชื่อเสียงของเติ้งเจียหลุนนั้นนับได้ว่าเป็นดาราระดับหนึ่งได้เลย แต่หากเทียบกับตำแหน่งของเฉิงเฉินในวงการบันเทิงแล้ว เขายังมีความห่างชั้นอยู่มาก
แต่ถึงอย่างนั้นเติ้งเจียหลุนก็เป็นคนที่มียศศักดิ์ที่สูง เป็นคุณชายของตระกูลเติ้งแห่งมณฑลซีไห่ ซึ่งสิ่งนี้ได้ช่วยเพิ่มคะแนนของเขาในวงการบันเทิงไม่น้อยเลย
ดังนั้น เติ้งเจียหลุนที่อยู่ในวงการบันเทิงนั้นจึงได้รับการให้เกียร์ติอย่างมาก ส่วนเหล่าดาราระดับหนึ่งที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกับเขานั้น ส่วนมากแล้วจะเห็นแก่หน้าของตระกูลเติ้ง และพยายามไม่ไปท้าทายเขา
ในขณะที่เหล่าดาราระดับสามระดับสี่ ส่วนใหญ่ต่างก็ใฝ่ฝันที่จะเข้าใกล้เขา เพื่อหวังที่จะสามารถกระชับมิตรกับคุณของตระกูลเติ้งแห่งมณฑลซีไห่คนนี้
เช่นเดียวกับผู้หญิงแบบหลินเสี่ยวลู่ ที่ส่วนมากอยากจะเป็นฝ่ายส่งตัวเองไปให้ถึงเตียงของเติ้งเจียหลุนเลยทีเดียว
อู่ซื่อหานที่รู้สึกชื่นชมการเลือกเส้นทางเข้าสู่วงการบันเทิงของเติ้งเจียหลุนอยู่แล้ว เมื่อได้เห็นว่าเติ้งเจียหลุนออกตัวมายืนอยู่ข้างพวกเธอ ก็ทำให้ใจเต้นอย่างหนักด้วยความตื้นตันใจ
“คุณชายเติ้งถึงกับต้องออกมาช่วยพูดแทนเรา นี่อย่าบอกนะว่าคุณชายเติ้งคิดอะไรกับเรา……”
ทุกคนที่เดิมทีคิดว่าการปรากฏตัวของเฉิงเฉินจะทำให้กำลังฝ่ายของหลินหยุนจะสามารถกดหลินเสี่ยวลู่ได้ และการต่อสู้ระหว่างหลินหยุนกับหลินเสี่ยวจะจบลง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่มีพลังอิทธิพลไม่ต่างกับเฉิงเฉินปรากฏตัวออกมา ซึ่งเป็นคนที่มีอำนาจโดยรวมแล้วแข็งแกร่งกว่าเธอหลายเท่าอย่างเติ้งเจียหลุน
ครั้งนี้มีเรื่องน่าสนใจอีกแล้ว
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเติ้งเจียหลุนกับพวกของหลินเสี่ยวลู่จะรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลยนี่ อีกอย่างเขากับเฉิงเฉินก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกันมาก่อนด้วย ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ออกมาช่วยพูดให้กับพวกหลินเสี่ยวลู่ล่ะ ?”
ทุกคนต่างเกิดความสงสัยขึ้น
ด้วยฐานะของเติ้งเจียหลุน ทุกคนเลยไม่คิดเลยว่าคนที่เป็นถึงดาราระดับหนึ่งผู้สูงส่ง และเป็นถึงคุณชายของตระกูลเติ้งแห่งมณฑลซีไห่ แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขานั้นคือหลินหยุนนักเรียนที่ยังไม่จบจากมหาวิทยาลัยคนนี้ต่างหาก
หลี่หมิงและโจวเจ๋หลุนหัวเราะออกมาเบา: “ศึกครั้งนี้ ยิ่งนานยิ่งน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ”
เฉิงต๋ากับหยวนเบียวและเหล่าผู้ใหญ่คนอื่นๆ ต่างก็ยิ้มจางออกมาเช่นกัน : “น่าสนใจ จากแค่เด็กสองคนที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร กลายเป็นดึงเอาสองดาราดังระดับหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
“จากนี้จะต้องมีเรื่องที่น่าขนลุกมากกว่านี้เกิดขึ้นใช่หรือเปล่านะ ?”
อีหลิงมองไปยังเติ้งเจียหลุน ด้วยใบหน้าที่อึมครึม ความรู้สึกที่เติ้งเจียหลุนมีต่อเธอนั้น เธอเข้าใจเป็นอย่างดี
คราวที่แล้วเป็นเพราะเธอใกล้ชิดกับหลินหยุนเกินไป เติ้งเจียหลุนเลยตั้งใจไปหาเรื่องกับหลินหยุน ครั้งนี้เขาออกมาแล้วยืนประจานหน้ากับหลินหยุนอีกครั้ง เป้าหมายของเขาคืออะไรไม่จำเป็นต้องบอกก็เข้าใจ
หลินหยุนเหลียวมองเติ้งเจียหลุน สีหน้าเรียบเฉย เพราะเขาเดาไว้ตั้งนานแล้วว่าเติ้งเจียหลุนจะต้องออกหน้ามาหาเรื่องเขา ซึ่งก็ปรากฏว่าเขาเดาได้อย่างถูกต้องเลย
เฉิงเฉินจ้องมองเติ้งเจียหลุนอย่างเยือกเย็น เธอไม่คิดเลยว่าเติ้งเจียหลุนจะมาช่วยพูดแทนให้กับพวกหลินเสี่ยวลู่ เพราะนี่ดูไม่เหมือนกับตัวตนของเติ้งเจียหลุน
ในส่วนของเหตุผลที่แท้จริงนั้นเฉิงเฉินไม่มีเวลามากมายไปคิดมากนัก การที่เติ้งเจียหลุนออกมาตำหนิเธอในเวลาแบบนี้ ด้วยนิสัยของเฉิงเฉิน แน่นอนว่าจะต้องกัดเขากลับด้วยเหมือนกัน
เฉิงเฉินพูดด้วยรอยยิ้มเยาะ: “คุณชายเติ้งบอกว่าฉันรังแกผู้น้อย อย่างนั้นเธอที่เป็นดาราระดับสาม แต่กลับไปรังแกรุ่นน้องที่ยังเรียนอยู่ในสถาบันเดียวกันของตัวเอง ทำไมไม่เห็นคุณชายเติ้งจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้พวกเขาเลยล่ะคะ?ตอนนี้กลับออกมาต่อสู้กับความอยุติธรรมให้กับเธอ หรือว่าคุณชายเติ้งกับเธอมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบอกใครอย่างนั้นหรือคะ?”
คำพูดที่เฉียบคมของเฉิงเฉิน ทำให้ทุกคนอดคิดตามไม่ได้
“ไม่หรอกมั้ง เติ้งเจียหลุนถูกใจหลินเสี่ยวลู่ ?ไม่ค่อยจะเป็นไปได้นะ!”
“ใช่น่ะสิ ถ้าเกิดว่าเติ้งเจียหลุนอยากได้ผู้หญิง ก็คงจะมีผู้หญิงมากมายที่เต็มใจเข้าไปเสนอตัวให้กับเขาถึงที่อยู่แล้ว แบบนี้เขาจะไปถูกใจหลินเสี่ยวลู่ที่เป็นดาราระดับได้ยังไง ?”
“แต่ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเติ้งเจียหลุนถูกใจหลินเสี่ยวลู่ อย่างนั้นทำไมถึงต้องเข้าไปออกหน้าแทนหลินเสี่ยวลู่ด้วยล่ะ ?”
เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน หลินเสี่ยวลู่ถึงกับหน้าแดงไปหมด แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความเขินอาย แต่เป็นความตื้นตันใจ
ถ้าเกิดเติ้งเจียหลุนถูกใจเธอจริงๆ อยากจะให้เธอทำอะไรเธอก็เต็มใจทำทั้งนั้น
แต่แล้วเติ้งเจียหลุนกลับมองไปที่หลินเสี่ยวลู่อย่างรังเกียจ พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเย็นชา : “ใครสนใจกัน!”
“มีสิ่งหนึ่งที่คุณพูดได้ถูกต้อง เธอไม่คู่ควรเลยที่อี่หลิงจะเป็นฝ่ายเข้าไปกระชับความสัมพันธ์หรือตีสนิทด้วย”
“แต่ว่า คุณเองก็ไม่คู่ควรเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าอีหลิงอยากจะเข้าสู่วงการจริงๆ ตระกูลเติ้งแห่งซีไห่ของฉัน ยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่!”
ในตอนที่เติ้งเจียหลุนพูดประโยคนี้ออกมา เขามองไปยังอีหลิงอย่างภาคภูมิใจ ราวกับกำลังอภิปรายต่อหน้าผู้คน
ซึ่งครั้งนี้ทุกคนจึงเข้าใจทันที
แท้จริงแล้วคนที่เติ้งเจียหลุนถูกใจ คือเด็กสาวที่ถูกหลินเสี่ยวลู่ดูถูกคนนั้น
หัวใจของหลินเสี่ยวลู่ จู่ๆ ก็เหมือนกับตกลงมาจากสวรรค์ดำดิ่งสู่นรกทันที ใบหน้าซีดเผือดของเธอจ้องมองไปยังเติ้งเจียหลุน ด้วยความรู้สึกที่แทบจะทรุดลงไป
ที่แท้คนที่เติ้งเจียหลุนถูกใจนั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นเด็กสาวที่เธอเพิ่งดูถูกไปเมื่อกี้นี้
แต่ว่าหลินเสี่ยวลู่ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย ถ้าหากเติ้งเจียหลุนชอบอีหลิง อย่างนั้นเขาควรที่จะยืนข้างเดียวกับเฉิงเฉินสิ ไม่ควรที่จะออกหน้าแทนเธอแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้เติ้งเจียหลุนกลับมาโต้เถียงกับเฉิงเฉิน นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน?
ไม่ใช่หลินเสี่ยวลู่คนเดียวที่ไม่เข้าใจ แต่คนบริเวณโดยรอบต่างก็รู้สึกงุนงงไม่แพ้กัน แม้แต่เหล่าซูเปอร์สตาร์แนวหน้าอย่างหลี่หมิง และเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงอย่างเฉิงต๋า ต่างก็ไม่มีทางเข้าใจถึงการกระทำของเติ้งเจียหลุน
เฉิงเฉินพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา: “ถ้าหากเทียบกับตระกูลเติ้งแห่งซีไห่ แน่นอนว่าฉันไม่คู่ควร”
“แต่ว่า การช่วยเหลือของคุณชายเติ้งคงจะต้องการการแลกเปลี่ยนจากเพื่อนคนนี้ของฉันด้วยล่ะมั้ง?”
เติ้งเจียตอบกลับอย่างหยิ่งผยอง: “นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมากังวลใจ”
“คุณควรจะกังวลใจกับเพื่อนคนนี้ของคุณที่ไม่มีบัตรเชิญจะดีกว่ามั้ง!”
สีหน้าของเฉิงเฉินเปลี่ยนไปทันที: “คุณหมายความว่าไง?”
สายตาของเติ้งเจียหลุนพุ่งไปยังหลินหยุน ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ : “ความหมายก็คือ ในงานรวมกิจการครั้งนี้ ไอ้พวกที่แอบเข้ามาโดยไม่มีบัตรเชิญ ต้องไสหัวออกไปได้แล้ว”
ในเวลานี้เอง ที่สุดทุกคนก็เข้าใจเสียที เดิมทีแล้วเป้าหมายที่แท้จริงของเติ้งเจียหลุน คือเขาต่างหาก !
พวกหลินเสี่ยวลู่กับอู่ซื่อหานต่างพากันมองไปยังหลินหยุน ด้วยความสงสัยในใจ : “หมอนี่เป็นใครกันแน่?ถึงได้ทำให้แม้แต่เติ้งเจียหลุนยังต้องออกหน้ามาต่อต้านเขาด้วยตัวเองแบบนี้ !”
หลี่หมิงกับโจวเจ๋หลุนและเหล่าซุปเปอร์สตาร์แนวหน้า ต่างก็พากันมองไปที่หลินหยุนด้วยความประหลาดใจ: “ดูท่าแล้วเจ้าหนุ่มนี่จะไม่ใช่แค่นักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่งแล้วสิ !”
เพราะว่านักเรียนจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์เพียงคนเดียว ไม่มีค่ามากพอที่จะให้เติ้งเจียหลุนออกมาต่อต้านด้วยตัวเองแบบนี้
ทางด้านเหล่าผู้ใหญ่อย่างเฉิงต๋าและหยวนเบียว ถึงกับอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าสงสัยออกมา ก่อนจะพูดด้วยเสียงหัวเราะ: “ดูแล้วบนตัวเจ้าหนุ่มนี่ จะมีเรื่องราวที่ลึกซึ้งมากๆ เลย!”