จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 507 หักหน้าอย่างรุนแรง
จ้าวซูเหาได้รวบรวมความสนใจของทุกคนทั้งหมดในที่แห่งนี้ได้สำเร็จแล้ว
ทุกคนล้วนจ้องมองมากันที่เวที และต่างก็คาดเดาว่าเจ้านายลึกลับผู้นั้นของหัวหยา กรุ๊ปคือใคร?
จ้าวซูเหาก็ไม่ได้ชักช้ารีรออะไร เห็นว่าได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนแล้ว ก็ได้ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า: “ขอเชิญเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ป คุณหลิน! ”
คุณหลิน!
ทุกคนต่างก็มองไปยังข้างหน้า จ้องจับตาอยู่ที่เวที
หลินหยุนในสีหน้าท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ค่อย ๆ เดินออกมาจากด้านหลังของเวที แล้วมายืนอยู่ที่ด้านข้างของจ้าวซูเหา
อีหลิงอุทานขึ้น: “คือหลินหยุน! ” และก็แสดงท่าทางที่ตกตะลึงขึ้นในทันที: “เขาไม่ได้ถูกขับไล่ออกไป! ”
ใบหน้าของจางซือจู่เองก็เผยรอยยิ้มขึ้น: “ข้ารู้อยู่แล้วว่าหลินหยุนไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย เขาเป็นถึงปรมาจารย์หลินอ่า! ”
เฉิงเฉินกับหลันโร่หลินต่างก็มีสีหน้าท่าทางดีอกดีใจ: “ไอ้หนุ่มน้อยนี้ เขาไม่เป็นอะไร! ”
จางเหมิงกับเถียนชุ่ย ๆ ก็มีสีหน้าท่าทางที่ตื่นตะลึง: “คือหลินหยุน นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ถูกขับไล่ออกไป! ”
เติ้งเจียหลุนกับเฉิงจิ่งว่าง ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าท่าทางหม่นหมอง
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการจ้าวจะไม่ได้ขับไล่ไอ้หนุ่มน้อยนี้ออกไป! ”
“อีกทั้ง ไอ้หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่บนเวทีนี้ล่ะตกลงคืออะไรกันแน่? ซึ่งที่ผู้จัดการจ้าวขอเชิญขึ้นบนเวที ก็คือเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังของหัวหยา กรุ๊ป! ”
เติ้งเจียหลุนมีสีหน้าหม่นหมอง เขารู้สึกขึ้นได้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล มีความคิดอันน่าเหลือเชื่อผุดขึ้นในจิตใจแวบหนึ่ง แต่ว่าไม่นานเขาก็ปฏิเสธความคิดดังกล่าวนั้นทิ้งไป
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ทำไมข้าถึงได้มีความคิดที่ไร้สาระเช่นนี้ได้! ”
หูเกอตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า: “ไอ้หนุ่มน้อยนี้ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าจะไม่ถูกขับไล่ออกไป! ”
เฉิงต๋าและผู้มีอิทธิพลอำนาจใจวงการบันเทิงหลายท่าน ต่างก็พากันแปลกใจเล็กน้อย
“ช่างน่าสนใจจริง ๆ ที่ผู้จัดการจ้าวไม่ได้ขับไล่เขาออกไป นี่มันคิดจะทำอะไรกันแน่? ”
ทุกคนต่างก็อยู่ในความสงสัย จ้าวซูเหาทำไมถึงไม่ขับไล่หลินหยุนออกไป
ไม่มีสักคนเลยที่จะคิดว่าหลินหยุนเป็นเจ้านายลึกลับผู้อยู่เบื้องหลังคนนั้นของหัวหยา กรุ๊ป
จ้าวซูเหาเหมือนกับว่าได้คาดเดาเอาไว้ก่อนแล้วถึงปฏิกิริยาตอบสนองของทุกคน และได้หมุนตัวอย่างไม่รีบร้อน แล้วก็โค้งตัวแสดงความเคารพต่อหลินหยุน พร้อมพูดขึ้นว่า: “ท่านผู้นี้คือเจ้านายของฉัน คุณหลินแห่งหัวหยา กรุ๊ป! ”
“ขอให้ทุกคนปรบมือให้การต้อนรับ! ”
เงียบสงัด เงียบสงัดเป็นอย่างมาก!
ภายในห้องโถงสถานที่จัดงานเงียบสงัดอย่างน่ากลัว!
ถึงขนาดที่เข็มตกพื้นก็ยังได้ยินเสียง!
จ้าวซูเหาเหมือนว่าคาดเดาเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ โดยได้มองไปยังทุกคนพร้อมกับรอยยิ้ม และไม่รีบร้อนใจ แล้วก็ยืนรออยู่บนเวทีอย่างเงียบ ๆ
รอให้ทุกคนตื่นตัวขึ้นมาจากความตกตะลึง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
“ทำไมเขาถึงเป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ปไปได้! ”
คนแรกที่ตั้งสติกลับคืนมาได้ ก็คือเฉิงจิ่งว่างแห่งบริษัทหวนตี้
ถ้าหากหลินหยุนคือเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ป อย่างนั้นต่อไปก็จะเป็นเจ้านายใหญ่ของเขา เมื่อครู่เขาได้ล่วงเกินหลินหยุนอย่างรุนแรง ถ้าหากหลินหยุนกลายเป็นเจ้านายใหญ่ของเขา แล้วต่อไป เขาจะทำงานได้อย่างไร?
จางจิ้งฟาผู้เป็นประธานบริษัทเกนเนอร์ก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง ไม่กล้าที่จะเชื่อว่านี่คือความจริง
“ไอ้หนุ่มน้อยนั่น จะเป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ปได้อย่างไรกัน? มันช่างเป็นเรื่องล้อเล่นระดับสากลเลยทีเดียว! ”
เติ้งเจียหลุนมีสีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนก จ้องเขม็งไปยังหลินหยุน ใบหน้าหม่นหมองอย่างน่ากลัว
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
“ทำไมเขาแม้แต่วงการบันเทิงก็ยังจะมาเกี่ยวข้องด้วย! ”
เถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิง ผ่านไปตั้งนานกว่าจะตั้งสติกลับคืนมาได้
พวกเธอกี่คนต่างก็มีสีหน้าแข็งทื่อ: “หลินหยุน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้านายลึกลับผู้นั้นของหัวหยา กรุ๊ป! ”
“นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? ”
“หลินหยุนทำไมถึงยังได้มีความสัมพันธ์ในวงการบันเทิงด้วย? ตกลงว่ามีอะไรบ้างที่หลินหยุนทำไม่ได้? ”
เมื่อเปรียบเทียบกับเฉิงจิ่งว่างและคนส่วนใหญ่ที่ไม่เชื่อในสถานะของหลินหยุนแล้ว เถียนชุ่ยชุ่ยกับพวกเพื่อน ๆ กลับเชื่อมั่นอย่างไม่มีข้อสงสัย เพราะพวกเธอนั้นได้เคยพบเห็นหลินหยุนสร้างปรากฏการณ์ที่น่าเหลือเชื่อมามากมายหลายครั้งแล้ว
หลินหยุนสามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้กลับกลายเป็นไปได้ในทุกครั้ง ดังนั้นพวกเธอจึงไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ต่อให้คุณบอกว่าหลินหยุนคือประธานาธิบดีพม่า พวกเธอก็เชื่อ
น้ำชาในปากของหูเกอ ได้พ่นใส่เต็มหน้าของเหล่าโห้อีกครั้ง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ทำไมเขาถึงกลายเป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ปไปได้! ”
ครั้งนี้ โห้เจี้ยนหวากลับไม่ได้บ่นว่าเขา เพราะว่าตอนนี้โห้เจี้ยนหวาเองก็ยังคงมีสีหน้าที่แข็งทื่อ ยังไม่ได้สติตื่นตัวกลับมา
เฉิงต๋ากับหยวนเบียวและผู้มีอิทธิพลอำนาจเหล่านั้น ต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง ผ่านไปเป็นเวลานานถึงจะได้มีสติตื่นตัวกลับคืนมา
“นี่ นี่มันจะล้อเล่นกันใหญ่เกินไปแล้ว! ” จางเจียหยูยิ้มอย่างขมขื่น
“พวกนายเชื่อกันไหม? ” เฉิงต๋าถามขึ้น
หยวนเบียวพูดว่า: “ผู้จัดการจ้าวพูดออกมาด้วยตนเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไรกันล่ะ? ”
“พวกวัยรุ่นเหล่านั้นไม่เข้าใจทีมงานของจ้าวซูเหา หรือว่าพวกนายเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเหรอ? ” หยวนเบียวถามกลับ
เฉิงต๋ากับจางเจียหยูไม่พูดไม่จา สำหรับทีมงานบริหารจัดการของจ้าวซูเหาที่เป็นมืออาชีพ โดยที่ พวกเขาเองก็เคยใช้งานมาก่อน ดังนั้นจึงเข้าใจอย่างชัดเจนถึงวิธีการดำเนินงานของจ้าวซูเหา
จ้าวซูเหาไม่มีทางที่จะล้อเล่นกับเรื่องราวแบบนี้ และปัญหาแบบนี้อย่างเด็ดขาด
พูดได้ว่า หลินหยุน ก็คือเจ้านายลึกลับผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงของหัวหยา กรุ๊ป
หลี่หมิงกับโจวเจ๋หลุนและพวกดาราแนวหน้าเหล่านั้น แต่ละคนต่างก็ตกตะลึง ผ่านไปสักพัก ถึงจะตั้งสติกลับคืนมาได้
“เขา เขาก็คือเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังที่ลึกลับคนนั้นของหัวหยา กรุ๊ปเหรอ? ”
“พระเจ้า นี่ไม่ใช่เป็นการล้อเล่นกันใช่ไหม? เขามีคุณสมบัติอะไรถึงได้กลายเป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ป? ”
พวกคนที่ไม่เข้าใจเบื้องหลังวงใน ไม่มีใครที่จะเชื่อว่าหลินหยุนคือเจ้านายผู้ลึกลับของหัวหยา กรุ๊ป
แม้แต่จางซือจู่และพวกเพื่อน ๆ เหล่านี้ พวกเขาเองต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง ไม่กล้าเชื่อว่าหลินหยุนคือเจ้านายผู้ลึกลับของหัวหยา กรุ๊ป
“สิบแปดมงกุฎ นายตบข้าสักฝ่ามือทีสิ! ” จางซือจู่พูดขึ้นด้วยความประสาทกับหยางเทียนโย่วในทันที
เปรี๊ยะ!
หยางเทียนโย่วไม่ได้เกรงใจ ตบเข้าไปเต็มฝ่ามืออย่างหนักหน่วง
“โอ๊ย! ” จางซือจู่ร้องด้วยความเจ็บปวด และพูดขึ้นอย่างโมโหว่า: “นายตบจริงเลยหรือเนี่ย! ”
“ไร้สาระ นายให้ข้าตบแล้วข้าจะไม่ตบได้อย่างไร! ” หยางเทียนโย่วมองจางซือจู่เหมือนกับว่ากำลังมองดูคนบ้า
“แต่ในเมื่อรู้ว่าเจ็บ งั้นก็แสดงว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน”
“หลินหยุน ก็คือเจ้านายเบื้องหลังผู้ลึกลับคนนั้นของหัวหยา กรุ๊ปจริง ๆ! ”
สายตาของหลายคนเผยความตกตะลึงออกมาอย่างลึกซึ้ง
ปรมาจารย์หลินแห่งหลิงหนาน ตอนนี้เป็นเจ้านายของบริษัทบันเทิงเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่มีชื่อเสียง โด่งดังไปทั่วในเขตภูมิภาคเอเชียแล้ว
ยังมีสถานะตำแหน่งอะไรอีก ที่พวกเขาเหล่านี้ยังไม่ทราบ?
หลันโร่หลินกับเฉิงเฉิน มีสีหน้าท่าทางที่ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือดีใจกันแน่
“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? ทำไมเขาถึงได้เป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ป! ”
“ไม่ ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างเด็ดขาด! ”
เฉิงจิ่งว่างลุกยืนขึ้นอย่างกะทันหัน และพูดเสียงดังว่า: “ผู้จัดการจ้าว นายคงไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเราใช่ไหม? ไอ้หนุ่มนี้แม้แต่บัตรเชิญก็ยังไม่มี และแม้แต่เข้ามาในงานก็ต้องอาศัยการปะปนกับผู้อื่นเข้ามา ทำไมเขาถึงเป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ปไปได้! ”
จ้าวซูเหาเหมือนกับรู้ว่าเขาจะต้องถามขึ้นแบบนี้ จึงได้ยิ้มรับและพูดตอบไปว่า: “ประธานเฉิงไม่เชื่ออย่างนั้นเหรอ? ”
“ไม่เชื่ออย่างแน่นอน นอกเสียจากนายนำหลักฐานออกมายืนยัน” เฉิงจิ่งว่างถึงขนาดสงสัยว่า เจ้านายเบื้องหลังที่ลึกลับของหัวหยา กรุ๊ป ตกลงว่ามีตัวตนจริงหรือไม่?
จ้าวซูเหาพูดว่า: คุณต้องการที่จะให้ฉันยืนยันแสดงความแน่ชัดด้วยวิธีการใด? ”
เฉิงจิ่งว่างพูดว่า: “แน่นอนว่าต้องนำหลักฐานที่หนักแน่นมายืนยัน เจ้านายของหัวหยา กรุ๊ป ทำไมถึงได้เป็นนักเรียนสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์คนหนึ่งไปได้ล่ะ? ”
“ถ้าหากไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ นายจะทำให้ทุกคนเชื่อถือได้อย่างไรกัน? ”
ทุกคนต่างให้ความร่วมมือกับเฉิงจิ่งว่าง โดยพูดเสียงดังขึ้นว่า: “ถูกต้อง นำหลักฐานออกมายืนยัน ไม่อย่างนั้นพวกเราจะเชื่อถือได้อย่างไร! ”
เกือบจะทุกคน ต่างก็กำลังรอดู
พวกเขากำลังรอหลักฐาน ถ้าหากจ้าวซูเหาไม่สามารถนำหลักฐานที่หนักแน่นออกมายืนยันได้ ก็ไม่มีใครที่จะเชื่อว่านักเรียนสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์คนหนึ่ง จะเป็นเจ้านายของหัวหยา กรุ๊ปที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชีย
แม้แต่หลันโร่หลินกับเฉิงเฉิน รวมถึงจางซือจู่ ต่างก็กำลังรอจ้าวซูเหานำหลักฐานออกมายืนยัน
แม้ว่าพวกเขาหวังว่าหลินหยุนจะเป็นเจ้านายเบื้องหลังผู้ลึกลับของหัวหยา กรุ๊ปที่แท้จริง แต่ตามหลักเหตุผลแล้วทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะเชื่อได้
จ้าวซูเหายิ้มเล็กน้อย กวาดสายตามองไปยังทุกคน และพูดขึ้นว่า: “หลักฐานใช่ไหม? ฉันได้เตรียมเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว! ”
“ขอเชิญนายท่านเสี้ยง! ”