จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 512 กองทัพทหารนักบู๊
หลินหยุนมองไปที่ปู่รองเติ้ง นี่ก็เป็นนักบู๊ที่มีอาวุธปืนครบมือคนหนึ่งเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นถึงนักบู๊ระดับขั้นปรมาจารย์
ระดับพลังความสามารถของนักบู๊ระดับขั้นปรมาจารย์ ถึงขนาดที่สามารถเหาะเหินในอากาศได้ในเวลาอันสั้น แน่นอนว่าความรวดเร็วและปฏิกิริยาการตอบสนองในด้านต่าง ๆ เหนือกว่านักบู๊ พรแสวงเหล่านั้นเป็นหลายสิบเท่า
ความเร็วที่เพิ่มขึ้นในด้านความคล่องแคล่วว่องไวและปฏิกิริยาการตอบสนอง นั่นแสดงว่าในช่วงเวลาเดียวกันเขาสามารถที่จะ ยิงปืนได้มากกว่านักบู๊พรแสวงหลายเท่า
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นนักบู๊พรแสวง หนึ่งคนสามารถพกปืนได้สิบกระบอก ทุกสามวินาทีสามารถยิงปืนได้หนึ่งนัด ถ้าอย่างนั้น นักบู๊ระดับปรมาจารย์ เมื่อคิดคำนวณโดยการพกปืนสิบกระบอกเช่นเดียวกัน ซึ่งในทุกหนึ่งวินาทีก็จะสามารถยิงปืนได้หนึ่งนัด
ก็หมายความว่า นักบู๊ระดับปรมาจารย์ หลังจากที่มีอาวุธปืนครบมือ ลำพังเพียงแค่เขาคนเดียวก็สามารถที่จะระดมยิงปืนใส่คู่ต่อสู้ได้รอบด้านทุกทิศทาง
ถ้าหากต้องปะทะกับกองทัพทหารนักบู๊แบบนี้ โดยหนึ่งในนั้นยังเป็นปรมาจารย์ คาดว่าต่อให้เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุด ก็ยากที่จะต่อกรรับมือได้
เพราะว่ากระสุนปืนพิเศษเหล่านั้น สามารถที่จะก่อให้เกิดอันตรายสร้างความบาดเจ็บ ให้กับนักบู๊ระดับปรมาจารย์สูงสุดได้
ในส่วนของหลินหยุนหากต้องปะทะสู้รบกับกองทัพทหารนักบู๊เหล่านี้แล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร? แม้แต่หลินหยุนเองก็ไม่อาจทราบได้ เพราะเขาไม่เคยได้ปะทะกับกองทัพทหารส่วนตัวที่รวมตัวขึ้นโดยนักบู๊แบบนี้มาก่อน
“ไอ้หนุ่มน้อย จะเป็นนายที่ยอมพ่ายแพ้มอบตัวเอง หรือว่าจะให้ข้าต้องลงมือจัดการ? ” ปู่รองเติ้งพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่หยิ่งผยอง
หลินหยุนสีหน้าเฉยชา ดวงตาแฝงไปด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย กองทัพทหารส่วนตัวสมัยใหม่ที่รวมตัวกันขึ้นโดยนักบู๊นี้ เขายังไม่เคยได้พบเจอมาก่อน
หรือจะพูดได้ว่าตอนที่เขาฝึกพลังนั้น ยังไม่เคยได้พบเจอมาก่อน
“ลงมือเถอะ! ”
หลินหยุนพูดขึ้น
“ฮึ ในเมื่อพูดด้วยดี ๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับกันแล้ว! ”
“พวกนายบุกเข้าไปก่อนเลย! ” ปู่รองเติ้งเหมือนกับว่าไม่ได้คิดที่จะลงมือเอง โดยได้สั่งการกองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคนนั้น ให้ลงมือโจมตีเข้าใส่หลินหยุน
เติ้งเจียหลุนกับเติ้งยู่เหรินเดินหลีกห่างไปไกล รวมถึงกองทัพทหารส่วนตัวทั่วไป ต่างก็หลบหนีเข้ามายังห้องใต้ดินในบ้านตึก
เพราะว่าพวกกองทัพทหารส่วนตัวนี้ ไม่ขาดแคลนอาวุธปืนที่ทรงพลัง อาทิเครื่องยิงจรวดเป็นต้น
หากถ้ายิงพลาดเป้า ยิงเข้าใส่บ้านตึก อย่างนั้นก็ทำให้บ้านตึกพังทลายลงทันที ตอนที่กองทัพทหารนักบู๊ฝึกฝน ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว
ดังนั้น พ่อลูกตระกูลเติ้งได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า โดยได้สร้างหลุมหลบภัยเฉพาะเอาไว้ใต้ดิน
พ่อลูกตระกูลเติ้งได้พากองทัพทหารส่วนตัวทั่วไปหลบเข้ามายังหลุมหลบภัย ด้านนอกก็มอบหน้าที่ให้กับปู่รองเติ้งและกองทัพทหารนักบู๊ทั้งห้าสิบคน
แม้แต่ยิ่งตงไหล ก็ถูกนำตัวมายังที่หลุมหลบภัย
บนภาคพื้น ปู่รองเติ้งสั่งการ กองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคนก็ได้กระจัดกระจายออก กลายเป็นรูปร่างพัดเพื่อโอบล้อมหลินหยุนเอาไว้
ปู่รองเติ้งยืนอยู่ด้านหลังของทุกคน แล้วมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าท่าทางที่เหยียดหยาม และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “โจมตี! ”
ปังปังปังปัง……
เห็นชัดว่าเป็นปืนพก แต่กลับมีเสียงยิงดังออกมาในแบบปืนกล นั่นแสดงว่าโดยทั่วไปพวกเขาเหล่านี้ฝึกฝนกันไม่น้อย สามารถควบคุมเวลาการยิงได้พร้อมเพรียงกันอย่างน่าตกตะลึง
หลินหยุนมีความรวดเร็วอย่างมาก ไม่รอให้กระสุนปืนพวกนั้นมาถึงร่างกาย ก็กระโดดลอยตัวสูงขึ้น หลบหลีกการยิงเข้าใส่ครั้งแรกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่ต้องรอให้ปู่รองเติ้งสั่งการ ทั้งห้าสิบคนนั้นก็รีบระดมยิงเข้าใส่ต่อทันที
ทิศทางการยิงของพวกเขาในครั้งนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยที่ยี่สิบคนยิงตรงเข้าใส่หลินหยุน ส่วนอีกสามสิบคนที่เหลือยิงตรงเข้าใส่พื้นดินด้านล่างของตัวหลินหยุน
เพราะว่าหลินหยุนไม่สามารถที่จะใช้แรงพลังกลางอากาศได้ ในที่สุดก็ต้องร่วงตกลงมาที่พื้น
คนพวกนี้ ชัดเจนว่าได้เรียนรู้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เกี่ยวกับการคาดคะเน
นั่นแสดงว่า กองทัพทหารนักบู๊หลายสิบคนนี้ รวมตัวกันขึ้นสำหรับต่อกรกับนักบู๊โดยเฉพาะ ความคิดการยิงของพวกเขา คาดว่าคงจะมีการศึกษาและฝึกปฏิบัติก่อนหน้านี้มานับครั้งไม่ถ้วน
เพียงแต่ว่า พวกเขาคาดคะเนความสามารถของหลินหยุนต่ำเกินไป
สำหรับนักบู๊ระดับต่ำกว่าขั้นปรมาจารย์ ไม่สามารถที่จะใช้พลังได้ในกลางอากาศ แต่ว่า เพียงแค่เข้าสู่ขั้นสูงสุด ก็สามารถที่จะทำได้แล้ว
ส่วนระดับขั้นของหลินหยุนนั้น เหนือกว่าปรมาจารย์ระดับทั่วไปอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะใช้พลังกลางอากาศได้อย่างไม่มีปัญหา
เห็นร่างกายของหลินหยุนที่เหาะอยู่กลางอากาศ กระโดดลอยตัวขึ้นอีกครั้งในทันที และก็สามารถหลบหลีกการระดมยิงเข้าใส่ครั้งที่สองได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง
พวกกองทัพทหารนักบู๊หยุดชะงักลงไปหนึ่งวินาที จากนั้นก็ระดมยิงเข้าใส่หลินหยุนต่ออีก
คราวนี้ มีสิบคนยิงตรงไปที่ด้านบนของหลินหยุน ยี่สิบคนยิงไปที่ตัวของหลินหยุน และอีกยี่สิบคนยิงไปที่ด้านล่างของหลินหยุน
อีกทั้ง การระดมยิงใส่ของพวกเขาในครั้งนี้เพิ่มความรวดเร็วขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อปืนที่ใช้ยิงกระสุนหมด ก็รีบเปลี่ยนปืนอีกกระบอกในทันที
ระดมยิงติดต่อกันจนกระสุนปืนสามกระบอกหมดเกลี้ยง ฝนกระสุนปืนที่แน่นหนาราวกับฝูงตั๊กแตนดำ พุ่งตรงไปสู่หลินหยุนด้วยความรวดเร็ว
ปู่รองเติ้งยืนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา: “คราวนี้ดูสิว่านายจะหลบหลีกไปได้อย่างไร! ”
หลินหยุนไม่ได้หลบหลีกต่อ แต่กลับลอยลงมาสู่พื้น ที่บริเวณรอบกายของเขา มีแสงไฟสีเหลือง ลุกโชติช่วงขึ้น โดยกระสุนปืนทั้งหมดต่างก็ยิงเข้าใส่ชั้นของลำแสงที่ปกคลุมตัวของเขาอยู่
เปรี๊ยะเปรี๊ยะเปรี๊ยะ……
เสียงของพายุฝนที่กระทบลงบนใบกล้วย โดยพวกกระสุนเจาะเกราะที่ได้สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งหมดนั้นได้ตกลงสู่พื้น
หัวกระสุนปืนที่ยาว ก็เหมือนกับกระทบเข้ากับเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง โดยนึกไม่ถึงว่าจะเกิดการ โค้งงอขึ้น
สีหน้าของปู่รองเติ้ง ในที่สุดก็เผยความเคร่งขรึมออกมา: “กระสุนเจาะเกราะพวกนี้ สามารถที่จะยิงทะลุเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งได้ ไอ้หนุ่มนี้กลับใช้ชี่ทิพย์ป้องกันกาย ปะทะอย่างซึ่ง ๆ หน้า! ”
“มิน่าล่ะที่เขาอายุยังน้อย ก็สามารถได้รับการขนานนามให้เป็นปรมาจารย์หลิน ถ้าหากให้เวลาเขาอีกกี่ปีเพื่อเติบโต ไม่แน่ว่าหลินชางฉองที่เป็นอันดับหนึ่งอยู่บนตารางอันดับปรมาจารย์ คงอาจจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งให้กับเขาก็เป็นได้! ”
กองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคน ก็ได้หยุดการยิงลง และมองไปยังเหตุการณ์นี้อย่างตกตะลึง
“นั้นเป็นถึงกระสุนเจาะเกราะทีเดียว นึกไม่ว่าเขาจะต้านทานเอาไว้ได้! ”
พลังอานุภาพของกระสุนเจาะเกราะนั้น พวกเขารับทราบเป็นอย่างดี โดยได้เคยนำแผ่นเหล็กกล้ามาทดลองแล้ว ซึ่งยิงทะลุไปได้อย่างง่ายดาย
แต่ว่า หลินหยุนอาศัยเพียงแค่ร่างกาย ก็สามารถต้านทานได้แล้ว
คนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงนักบู๊พรแสวง ซึ่งไม่ทราบว่าอะไรคือชี่ทิพย์ป้องกันกาย
หลินหยุนมีสีหน้าที่เฉยชา ไม่สุขและไม่ทุกข์ และพูดขึ้นว่า: “ยังมีความสามารถอะไรอีก แสดงออกมาให้หมดเลย เดี๋ยวพวกนายก็จะไม่มีโอกาสได้แสดงอีกแล้ว”
ปู่รองเติ้งส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา ตะโกนพูดว่า: “เปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์! ”
กองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคน นำอาวุธอันทรงพลังออกมา อาทิ บาซูกา ระเบิดมือ ลูกระเบิด เป็นต้น
“โจมตี! ”
สิ้นเสียงคำสั่งของปู่รองเติ้ง ทั้งห้าสิบคนแบ่งแยกเป็นสัดส่วนเข้าโจมตี
ระเบิดมือหนึ่งชุด จากนั้นก็จรวดมิสไซล์ ตามด้วยลูกระเบิด
ระดมยิงอย่างแน่นหนา เทียบได้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด
แต่น่าเสียดายที่ ความเร็วของกระสุนเหล่านี้ เมื่อเทียบกับกระสุนก่อนหน้านี้แล้วช้ากว่าอย่างมาก
หลินหยุนสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย
มากที่สุดก็แค่ได้รับคลื่นแรงกระแทกจากระเบิดก็เท่านั้น
ในที่สุด ปู่รองเติ้งก็กระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศ พร้อมกับแบกบาซูกาสองกระบอก เล็งเป้าไปยังหลินหยุนในอากาศ ปกปิดเส้นทางการถอยร่นของหลินหยุน
ปัง ปัง……
จรวดมิสไซล์สองลูกยิงพุ่งตรงไปยังหลินหยุนด้วยความเร็ว
ครั้งนี้ หลินหยุนไม่มีทางหลบหลีกไปได้
โครม!
เสียงดังกังวาน หลินหยุนถูกจรวดมิสไซล์สองลูกนั้นยิงเข้าใส่
หมอกควันหลังจากการระเบิดพุ่งสูงขึ้นหลายเมตร
ตำแหน่งเดิมที่หลินหยุนอยู่นั้น ปกคลุมไปทั่วทั้งหมอกควัน และฝุ่นละออง
ปู่รองเติ้งที่อยู่กลางอากาศยิ้มเยาะเย้ย แล้วก็ลอยลงมาสู่พื้น: “ไอ้หนุ่มน้อย พลังความสามารถ ไม่เลวทีเดียว ต่อกรกับนายต้องใช้กำลังมากพอสมควรทีเดียว! ”
“แต่ว่า ต่อให้เขามีพลังความสามารถที่ไม่เลว แต่ก็ลำพังคนเดียว คิดต้องการที่จะต่อกรกับกองทัพทหารที่มีอาวุธปืนครบมือนั้น ยังคงห่างไกลอยู่อีกมาก”
กองทัพทหารที่เหลือต่างก็มีสีหน้าที่สงสัย: “คราวนี้เขาคงจะเสียชีวิตแล้วล่ะสิ? ”
“ถูกจรวดมิสไซล์สองลูกยิงเข้าใส่ และยังมีกระสุนปืนอีกจำนวนมาก ต่อให้เป็นปรมาจารย์นักบู๊ก็คงยากที่จะรอดชีวิต! ”
ในหลุมหลบภัยใต้ดิน พ่อลูกตระกูลเติ้ง กำลังมองดูเหตุการณ์บนภาคพื้นดินผ่านทางกล้องสังเกตการณ์
เห็นหลินหยุนถูกจรวดมิสไซล์สองลูกของปู่รองเติ้งยิงเข้าใส่ พ่อลูกตระกูลเติ้งเผยรอยยิ้มที่เย็นชาอย่างภาคภูมิใจ
“ปรมาจารย์หลิน คราวนี้ดูสิว่านายจะมีชีวิตรอดหรือไม่! ”