จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 545 การมาเยือนของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า
“หลินหยุน!” อีหลิงส่งเสียงร้องออกมาเบาๆเพราะความเป็นห่วง
หลินหยุนส่งสายตาให้กับเธอ เพื่อเป็นการบอกเธอว่าไม่ต้องร้อนรน
ซิงจื่อเย่จ้องมองหลินหยุน พูดด้วยสีหน้ารังเกียจว่า “แกอยากตายหรือไง?”
สายตานั้น ราวกับเป็นสายตาที่บอกว่าแค่คุยกับหลินหยุนก็ยังเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ก็แค่คนธรรมดาที่มีฝีมืออยู่นิดหน่อย คิดว่าจะมีสิทธิ์มาท้าฉันงั้นเหรอ!”
ซิงจื่อเย่ก็แค่นักบู๊ที่อยู่ในระดับพรแสวงระดับใหญ่ ด้วยพลังของเธอ ไม่สามารถรับรู้ถึงพลังทิพย์ที่อยู่ในตัวหลินหยุนได้ด้วยซ้ำ
ดังนั้น เธอจึงคิดว่าหลินหยุนก็แค่คนธรรมดาที่ไม่มีชี่แท้
บางทีหลินหยุนอาจจะมีฝีมืออยู่เล็กน้อย ก็เหมือนกับเหล่าผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ธรรมดาพวกนั้น
แต่ว่า ต่อให้จะสามารถเอาชนะคนธรรมดาได้ แต่ถ้าเกิดเจอกับนักบู๊ตัวจริงเมื่อไหร่ ก็มีแต่โดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว
ตอนที่ซิงจื่อเย่เผชิญหน้ากับหลินหยุน มีความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า
“คนธรรมดา” หลินหยุนไม่แสดงสีหน้าใดๆ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ถ้าเกิดเธอรู้ตัวว่าสู้คนธรรมดาไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอคงจะเจ็บปวดมากใช่หรือเปล่า?”
“น่าขำ ฉันจะแพ้คนธรรมดางั้นเหรอ! ไอ้หนุ่ม ฉันจะแสดงให้แกดูเดี๋ยวนี้แหละ ว่าความห่างชั้นระหว่างแกกับฉันมันต่างกันขนาดไหน” ดูเหมือนซิงจื่อเย่จะโดนยั่วโมโหสักแล้ว ระเบิดออร่าที่รุนแรงนั้นขึ้นมาอีกครั้ง กำลังจะลงมือกับหลินหยุน
ลู่หนันสุนที่อยู่ข้างๆจู่ๆก็ดึงเธอเอาไว้ แล้วกระซิบว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน พรุ่งนี้จะเริ่มงานประลองยุทธแล้ว รักษาแรงเอาไว้”
ออร่าที่อยู่บนตัวของซิงจื่อเย่ ค่อยๆสลายหายไป จ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก “ไอ้หนุ่ม วันนี้ฉันจะปล่อยแกไปก่อน กบในกะลาอย่างแก คงจะเคยเจอแค่ท้องฟ้าที่มองจากบ่อน้ำล่ะซิ มันน่าขำมากที่คิดว่านั้นเป็นท้องฟ้าทั้งหมด”
“ถ้าเกิดแกอยากจะเจอท้องฟ้าที่แท้จริง พรุ่งนี้มาที่สนามกีฬา ฉันรับรอง หลังจากที่แกเจอยอดฝีมือตัวจริง แกจะเริ่มสงสัยว่าตัวเองเกิดมาทำไมอย่างแน่นอน!”
หลินหยุนทำหน้าเฉยเมย แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “คนที่สงสัยว่าตัวเองเกิดมาทำไม ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเธอก็ได้นะ?”
ลู่หนันสุนมองอีหลิง ในที่สุดก็เผยสีหน้าที่แท้จริงออกมา พูดด้วยใบหน้าเยาะเย้ยว่า “คุณหนูอี แฟนที่เธอหามาคนนี้ ก็งั้นๆ แต่ว่า ปากเก่งใช่ได้ สายตาของเธอ ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่!”
“โชคดีจริงๆ ที่ตอนนั้นเธอปฏิเสธฉัน ฉันขอบคุณเธอจริงๆ!”
อีหลิงโกรธจนใบหน้าเล็กๆแดงก่ำ ไม่พูดอะไรกลับไป
ลู่หนันสุนมองหลินหยุน แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “ไอ้หนุ่ม ถ้าเกิดอยากจะรู้ว่ายอดฝีมือตัวจริงเป็นยังไง พรุ่งนี้มาที่สนามกีฬา”
“โอ้แล้วก็ พาคุณหนูอีมาด้วยล่ะ ถึงเวลานั้นเธอก็จะได้รู้เอง เมื่ออยู่ต่อหน้าจื่อเย่ เธอก็เป็นได้แค่แจกันสวยๆ ก็เหมือนกับผู้ชายที่เธอเลือกมา ที่ข้างในว่างเปล่า!”
พอพูดจบ ลู่หนันสุนก็มองซิงจื่อเย่ที่กำลังแสดงสีหน้าดูถูก แล้วพูดด้วยใบหน้าอบอุ่นว่า “พวกเราไปกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคนธรรมดาพวกนี้”
“พรุ่งนี้ขอแค่พวกเขามาที่สนามกีฬา ก็จะเข้าใจเอง ว่าตัวเองนั้นกระจ้อยร่อยขนาดไหน”
ทั้งสองเดินผ่านอีหลิงและหลินหยุน ลู่หนันสุนก็ยังไม่ลืมที่จะพูดเตือนด้วยรอยยิ้มเย็นชา “พรุ่งนี้ ที่สนามกีฬา ยังลืมมาล่ะ!”
พอเห็นลู่หนันสุนทั้งสองเดินจากไป คนรอบๆที่มามุมดูความสนุกเพราะไม่มีอะไรทำ พูดด้วยความเสียดายว่า “จบแล้วเหรอ? ยังไม่ได้สู้กันเลย? จบแค่นี้เหรอ?”
“นางฟ้าแซ่ซิงเมื่อกี้ รู้สึกแข็งแกร่งมาก!”
“อีกอย่างเธอบอกว่าสนามกีฬาอะไรสักอย่าง หมายความว่ายังไง? พรุ่งนี้ที่สนามกีฬาจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“ฉันได้ยินมาว่าพรุ่งนี้ที่สนามกีฬาจะจัดงานอะไรสักอย่าง จะทำการปิดชั่วคราวหนึ่งวัน คนนอกห้ามเข้า หรือว่ามันจะเกี่ยวข้องกับนางฟ้าแซ่ซิงงั้นเหรอ?”
“พรุ่งนี้พวกเราไปดูที่สนามกีฬาก็คงจะรู้เองแหละ”
“แยกย้ายแยกย้าย น่าเสียดายจริงๆ คุณหนูอีคนนี้ หาผู้ชายขยะแบบนี้มา ทำให้ตัวเองต้องมัวหมองไปด้วย”
อีหลิงมองหลินหยุน พูดขอโทษด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “ขอโทษนะ ทำให้นายโดนคนอื่นเข้าใจผิดอีกแล้ว”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้พวกเราค่อยไปที่สนามกีฬา แสดงให้พวกเขาเห็นว่า สายตาของเธอแย่หรือเปล่า”
ตอนแรกอีหลิงก็ไม่อยากจะมีเรื่อง เธอไม่ได้รู้สึกอัปยศอะไร แต่ว่า ลู่หนันสุนดูถูกหลินหยุนขนาดนั้น ตรงจุดนี้แหละที่เธอโมโห
“ได้ พรุ่งนี้พวกเราไปที่สนามกีฬากัน ดูว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่!”
จากนั้น ทั้งสองคนก็ไม่มีกะจิตกะใจจะเที่ยวเล่นอะไรแล้ว ไปที่คุณย่าต้นพีชเพื่อดูวิวพักหนึ่ง อีหลิงขอพรไปหนึ่งข้อ จากนั้นทั้งสองก็กลับไป
เช้าวันที่สอง อีหลิงขับรถพาหลินหยุน ไปที่สนามกีฬา
พอหาที่จอดรถเรียบร้อย ทั้งสองก็มาถึงประตูทางเข้าของสนามกีฬา
สนามกีฬาที่เดิมทีใครก็สามารถเข้าไปได้ วันนี้กลับโดนยามปิดประตูใหญ่เอาไว้ คนที่ต้องการเข้าไปข้างใน ล้วนต้องมีบัตรเข้าชมเท่านั้น
อีหลิงจ้องมองหลินหยุน แล้วถามว่า “ดูเหมือนว่าต้องมีบัตรเข้าชม ทำยังไงดี?”
“ไม่เป็นไร ตามฉันมา” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ อย่างมากก็แค่ใช้กำลังฝ่าเข้าไป
หลินหยุนพาอีหลิง แล้วเดินเข้าไปยังประตูทางเข้าของสนามกีฬา พอเดินไปถึงประตูทางเข้า ยามเฝ้าประตูก็ถามอย่างสุภาพว่า “กรุณาแสดงบัตรเข้าชมด้วย!”
“ไม่มี” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ
“งั้นต้องขออภัยด้วย วันนี้สนามกีฬาไม่อนุญาตในคนนอกเข้า คนที่ไม่มีบัตรเข้าชม ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้!” ยามพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ข้างในกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” หลินหยุนถาม
“ไม่สามารถบอกได้” ยามตอบ
“บัตรเข้าชมต้องไปขอกับใคร?” หลินหยุนถาม
“ไม่สามารถบอกได้” ยามตอบ
หน้าของหลินหยุนค่อยๆเย็นลง ออร่าที่อยู่บนตัวกำลังจะระเบิดมันออกมา แต่ว่า ในเวลานี้เอง จู่ๆก็มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นมา
“โอ้ ไอ้เทพแห่งสว่างเฮงซวย! ปรมาจารย์หลิน ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว!”
หลินหยุนเก็บออร่าของตัวเอง หันไปมองข้างหลัง แล้วพบคนใส่เสื้อสูท ท่าทางสูงส่ง ชายหนุ่มที่หล่อเหลาจนไม่เหมือนมนุษย์ กำลังวาดรูปกางเขนบนหน้าอกตัวเอง ดูเหมือนจะอธิษฐานไม่หยุด
หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “แกตามมาจนถึงนี่เลยเหรอ?”
แต่ว่า พอนึกถึงวิชาของเผ่าโลหิต หลินหยุนก้รู้สึกว่ามันไม่น่าแปลกอะไรแล้ว
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเป็นราชาของเฝ่าโลหิต วิชาที่สืบทอดผ่านทางสายเลือด แน่นอนว่าคงไม่ลืมมันอยู่แล้ว
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเดินมาอยู่ตรงหน้าของหลินหยุนด้วยท่าทางสูงส่ง สายตาที่มองหลินหยุน ราวกับเป็นสายตาเย็นชาของภรรยาที่โมโหสามีตัวเอง
“ผู้แข็งแกร่งจากทิศตะวันออก เจ้ารู้ไหม ข้าตามหาเจ้าด้วยความยามลำบากขนาดไหน?”
“ตอนแรกข้าก็ไปที่หลินโจว จากนั้นก็ไปที่เมืองหลวง จากนั้นก็มาที่นี่ ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอสักที”
หลินหยุนพูดว่า “แกหาฉันทำไมกัน?”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าพูดว่า “ต้นแห่งชีวิตโดนแกเอาไปแล้ว และฉันยังไม่สามารถไปดูดเลือดใครได้อีก ถ้าเกิดไม่มาหาแก ฉันก็คงทนไม่ไหวจนต้องไปดูดเลือดของคนอื่น”
เลือดที่จะไปดูด ก็คือหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาสะสวย และว่ากันด้วยนิสัยของผีดูเลือด จะชอบดูดเลือดของสาวบริสุทธิ์ที่สุด
แต่ว่า ฟังจากประโยคที่เขาพูดออกมา เขาไม่ได้ไปดูดเลือดใครเลย!
เขาคงจะทนมานานมากแล้ว!
“หลินหยุน เขาเป็นใครเหรอ?” อีหลิงรู้สึกสนใจหนุ่มตะวันตกที่จู่ๆก็ปรากฏตัวออกมาเล็กน้อย
ความสนใจของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ก็ย้ายมาที่ตัวของอีหลิง
“โอ้ เทพแห่งสว่างเฮงซวย! จบสิ้นแล้ว ข้าจบสิ้นแล้ว!”
จากนั้น คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ราวกับเป็นรูปปั้นหิน
พอเห็นว่าจู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็ไม่พูดอะไร ราวกับเป็นท่อนไม้ที่ยืนอยู่ที่เดิม อีหลิงไม่รู้ว่าเขาต้องการจะแสดงอะไรกันแน่ หันไปถามหลินหยุนด้วยความกังวลว่า “เขา ไม่เป็นไรใช่ไหม!”
หลินหยุนมองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ไม่เป็นไร เกรงว่าโรคเก่าคงกำเริบ เตะสักครั้งก็หายแล้ว”
พอพูดจบ หลินหยุนก็เตะคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าไปหนึ่งที แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “แกกำลังจะหิวตายไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้ไม่หิวแล้วหรือไง?”
ระหว่างที่กำลังพูดอยู่ สายตาของหลินหยุน ก็จ้องมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ราวกับว่ากำลังจะบอกอะไรสักอย่าง
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ไม่ได้สนใจหลินหยุน แววตาทั้งคู่ยังคงจ้องมองอยู่บนตัวของอีหลิง
พูดด้วยความโอ้เว่อร์ว่า “ข้าเคยเจอเทพีแห่งปัญญามาก่อน คิดว่านางเป็นคนที่สวยที่สุดในโลกนี้แล้ว แต่ว่า จนกระทั่งข้าได้มาเจอกับท่าน ข้าถึงได้รู้ว่า ความงดงามของท่านเหนือกว่าเทพีแห่งปัญญาไปแล้ว”
“คุณหนูผู้งดงาม โปรดรับคำชมจากใจจริงของข้าน้อยด้วย”
พอพูดจบ จู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็คุกเข่าลงบนพื้น แล้วกุมมือเล็กๆของอีหลิงขึ้นมา แล้วจุมพิตลงไป