จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 546 ใครเป็นคนผนึกเผ่าโลหิต
“ย้าก!”
อีหลิงส่งเสียงร้องออกมา รีบเก็บมือของตัวเอง
“นายจะทำอะไรน่ะ!” อีหลิงหน้าแดง จ้องมองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า รู้สึกโมโหเล็กน้อย
“โอ้ คุณหนูผู้งดงาม ทำไมท่านถึงต้องปฏิเสธการทักทายที่อบอุ่นที่สุดของข้าด้วย การที่ท่านทำแบบนี้ ทำให้ใจของข้าเจ็บปวดยิ่งนัก ก็เหมือนกับมีหอกยาว แทงมาที่ตรงนี้” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเอามือกุมหัวใจตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
หลินหยุนทนดูไม่ไหวแล้ว เจ้าหมอนี้ จะต้องจบสาขาการแสดงมาอย่างแน่นอน
“อย่าไปสนใจเขา สมองของเจ้านี้ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ฉันขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวสักพัก”
พอพูดจบ หลินหยุนก็ดึงคอเสื้อของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า แล้วพามาที่กำแพงที่ไม่มีคนเดินผ่าน
หลินหยุนปล่อยคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าลง เจ้าหมอนี้ร้องเสียงดังออกมาทันที “ข้าขอประท้วง การกระทำของเจ้าเป็นสิ่งที่ไร้มารยาทมาก เจ้าไม่ควรปฏิบัติกับฝ่าบาทผู้สูงส่งแบบนี้!”
หลินหยุนจ้องมองเขา แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ฉันขอเตือนแก อย่าคิดจะแตะต้องเธอ ถ้าเกิดแกกล้าทำร้ายเธอ ฉันขอรับประกันว่าจะเผ่าร่างและวิญญาณของแกทิ้งซะ!”
“ทำร้าย?” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าทำหน้าไม่เข้าใจ “โอ้ No!”
“ข้าจะไปทำร้ายหญิงสาวที่ทั้งน่ารักและงดงามแบบนี้ทำไมกัน? อีกอย่าง ในตอนที่ข้าเจอนางครั้งแรก ก็โดนลูกศรของกามเทพไปซะแล้ว”
“ข้ากล้าสาบานต่อเทพแห่งสว่างเฮงซวย ข้าตกหลงรักนางแล้ว รักแบบที่ไม่มีอะไรสามารถรักษาได้ และไม่มีอะไรที่จะหยุดความรู้สึกนี้ได้!”
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าจะขอตามจีบนาง นางก็คือพระชายาในอนาคตของข้า ข้าจะขอแต่งกับนางแต่เพียงผู้เดียว!”
หลินหยุนตกใจกับความหน้าด้านของเจ้าหมอนี้
“ฉันไม่สนว่าสิ่งที่แกพูดเป็นความจริงหรือเท็จ เอาเป็นว่าฉันขอเตือนแก อย่าทำร้ายเธอ ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”
พอพูดจบ หลินหยุนก็เอารากปราณพรสวรรค์ชิ้นเล็กๆออกมาจากแหวนเก็บของ แล้วเอาให้กับคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า “ว่ามา ใช้ยังไง!”
เหตุผลที่คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าตามหาต้นแห่งชีวิต หลินหยุนไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
แต่ฟังจากคำพูดของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า หลินหยุนรู้สึกว่าบางทีต้นแห่งชีวิต อาจจะสามารถรักษาปัญหาที่ต้องดูดเลือดของหญิงสาวได้
อีกอย่าง เผ่าโลหิตที่หลินหยุนเจอในโลกแห่งเซียน ไม่จำเป็นต้องดูดเลือดเพื่อดำรงชีวิต แต่ว่า การบำเพ็ญของมนุษย์กับเผ่าโลหิตไม่เหมือนกัน ความแข็งแกร่งของพวกเขามาจากสายเลือดที่สืบทอดมาจากรุ่นก่อนๆ
ถ้าเกิดไม่สามารถแก้ไขปัญหาการกินของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าได้ล่ะก็ เกรงว่าเร็วๆนี้จะต้องมีตำรวจของประเทศจีนไล่จับเขาอย่างแน่นอน
พอคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเจอชิ้นส่วนของรากปราณพรสวรรค์ ก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “ต้นแห่งชีวิต! ให้ข้างั้นเหรอ?”
“ขอชื่นชมต่อเทพแห่งสว่างเฮงซวย เจ้าเป็นคนดี เทพแห่งสว่างจะต้องปกป้องเจ้าอย่างแน่นอน!”
พอพูดจบ ก็แย่งชิ้นส่วนของรากปราณพรสวรรค์มาจากมือของหลินหยุน
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเอาชิ้นส่วนเล็กๆของรากปราณพรสวรรค์วางตรงหน้าอก ซ่อนไว้อย่างมิดชิด จากนั้นก็หันไปพูดกับหลินหยุนว่า “ตอนนี้ ขอให้เจ้าเฝ้าดูรอบๆ อย่าให้ใครมารบกวนข้า ขอร้องล่ะ!”
“ได้” หลินหยุนพยักหน้าตกลง
ไม่รู้ว่าคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าหิวจนเกินไป หรือว่ารีบร้อนที่จะใช้ต้นแห่งชีวิตรักษาความเจ็บปวดของตัวเอง
ทำการกลืนรากปราณพรสวรรค์ลงไปทันที
ใช่ ฟังไม่ผิด กลืนลงไป
ด้วยความเร็วที่มองเห็นผ่านทางสายตา ชิ้นส่วนของรากปราณพรสวรรค์ค่อยๆละลายอยู่ข้างใน
หลินหยุนได้วางค่ายกลหลบซ่อนไว้รอบๆ รับประกันว่าคนนอกมองไม่เห็นเขาอย่างแน่นอน ไม่งั้นเกรงว่าคนธรรมดาจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
มองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าแวบหนึ่ง เกรงว่าเขายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก หลินหยุนกลับไปหาอีหลิง
พออีหลิงเห็นว่าจู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็หายไป จึงแปลกใจเล็กน้อย แต่พอคิดถึงความสามารถของหลินหยุน ราวกับจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้ จึงรู้สึกชินกับมันสักแล้ว
“เขาเป็นอะไรเหรอ?”
“อีกสักพักก็คงดี” หลินหยุนพูด
“งั้นพวกเราจะหาทางเข้าไปก่อน หรือว่าจะรอเขาก่อน?” อีหลิงถาม
“รอเขาสักพักก็แล้วกัน!” ถ้าเกิดปล่อยคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าไว้ข้างนอกแบบนี้ หลินหยุนคงรู้สึกไม่สบายใจ
“อืม”
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดการกลืนของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็สิ้นสุดลง ได้สติกลับมาแล้ว
หลินหยุนเอาค่ายกลออก ก้าวเท้าออกไป มาถึงตัวของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าในทันที
“ปรมาจารย์หลิน ต้นแห่งชีวิตวิเศษจริงๆ เป็นเหมือนกับที่บันทึกไว้ในหนังสือเลย ข้าหายแล้ว จากนี้ข้าไม่ต้องไปดูดเลือดใครอีกแล้ว” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าจ้องมองหลินหยุน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มตื่นเต้น
“ยินดีด้วย” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ เขามองร่างของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าพักหนึ่ง สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของรากปราณพรสวรรค์
หลินหยุนเบิกเนตร พลังดวงตาทำลายล้างสำแดงฤทธิ์ ดวงตากลายเป็นดำข้างขาวข้าง แล้วมองไปยังคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า
เพียงไม่นาน หลินหยุนก็พบสาเหตุแล้ว
ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเผ่าโลหิตบนโลกนี้ถึงต้องใช้เลือดของหญิงสาวเพื่อดำรงชีวิต
เผ่าโลหิตบนโลกนี้ ไม่ใช่เผ่าโลหิตที่แท้จริง หรือจะบอกว่าพวกเขาเป็นเผ่าโลหิตที่ไม่สมบูรณ์ก็ได้
หลินหยุนเคยเห็นโครงสร้างร่างของเผ่าโลหิตที่แท้จริงมาก่อน เผ่าโลหิตตัวจริงมีร่างกายแตกต่างจากมนุษย์อยู่มาก ความหนาแน่นของร่างเผ่าโลหิต หนาแน่นยิ่งกว่ามนุษย์ไปมาก
เซลล์ทุกเซลล์ที่อยู่บนร่างกายพวกเขา ล้วนมีพลังงานที่ยิ่งใหญ่ และนี้ก็เป็นแหล่งกำเนิดพลังของเผ่าโลหิต
เผ่าโลหิตที่ยิ่งแข็งแกร่ง เลือดของพวกเขาก็ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่านั้น
แต่ว่า ข้างในร่างของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า มีเส้นเลือดอยู่เล็กน้อย ที่กำลังแห้งเหือด
ก็เหมือนกับแม่น้ำสายหนึ่ง ที่หนึ่งในแม่น้ำถูกปิดกั้นโดยตะกอน
ถ้าเกิดอยากให้แม่ฟ้าไหลโดยที่ไม่มีอะไรขัดข้อง ก็จำเป็นต้องทำความสะอาดแม่น้ำสายนี้
เส้นเลือดที่แห้งเหือดของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ก็เหมือนกับแม่น้ำที่ถูกปิดกั้นโดยตะกอน ถ้าเกิดอยากให้กลับมาเหมือนเดิม ก็จำเป็นต้องให้เลือดไหลผ่านอยู่ตลอด
แต่ว่า การฟื้นฟูของเลือดก็มีขีดจำกัดของมัน แต่ว่ารากปราณพรสวรรค์ไม่เหมือนกัน ไม้ทิพย์พรสวรรค์ที่อยู่ในร่างกาย และความเร็วในการฟื้นฟูของไม้ทิพย์พรสวรรค์ ล้วนสามารถฟื้นฟูเส้นเลือดที่อยู่ข้างในร่างของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า
เมื่อเลือดไม่อุดตัน คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็ไม่จำเป็นต้องดูดเลือดของหญิงสาวมนุษย์เพื่อฟื้นฟูเส้นเลือดที่แห้งเหือดอีกต่อไปแล้ว
แต่ว่า จากที่หลินหยุนเห็นเส้นเหลือดแห้งเหือดที่อยู่ในร่างของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ตรวจพบว่ามีของที่ไม่ปกติอยู่หนึ่งอย่าง
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าเขามีพลังดวงตาทำลายล้าง บางทีก็คงไม่สังเกตเห็น
นั่นเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกับเส้นทางโคจร ลึกลับและทรงพลังมาก
คนที่สามารถทำแบบนี้ได้ อย่างน้อยๆก็ต้องมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับแดนดั่งเทพ
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้หลินหยุนยังมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือจากพลังดวงตาทำลายล้าง ก็ยังไม่สามารถดูออกว่าเส้นทางโคจรนี้คืออะไร
แต่ว่า ถ้าเกิดเป็นอย่างที่หลินหยุนคิดเอาไว้จริงๆ งั้นมันก็จะน่ากลัวมาก
มันเป็นการบอกว่าเผ่าโลหิตบนโลกนี้ โดนคนผนึกเอาไว้ เส้นเลือดที่แห้งเหือดในร่างของพวกเขา ความจริงก็เพื่อป้องกันไม่ให้เผ่าโลหิตมีพลังไปมากกว่านี้
ถ้าเกิดมีคนแบบนี้อยู่จริงๆ งั้นความแข็งแกร่งของเขา จะไปถึงระดับไหนกันแน่?
อีกอย่าง ทำไมต้องผนึกเผ่าโลหิตด้วย?
จากข้อมูลที่มีในตอนนี้ หลินหยุนยังไม่มีหลักฐานที่จะบ่งชี้ว่ามีคนแข็งแกร่งแบบนี้อยู่จริงๆ หลินหยุนจึงมีแต่ต้องปัดความคิดนี้ออกไป แล้วคิดสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าจ้องมองหลินหยุน แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ เจ้าไว้ใจข้าได้แล้วใช่ไหม!”
“ข้าไม่จำเป็นต้องดูดเลือดใครอีกแล้ว เจ้าเองก็ไม่ต้องกังวลว่าข้าจะทำร้ายนางแล้วใช่ไหม!”
จริงอยู่ ตอนนี้หลินหยุนไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรแล้ว ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะความต้องการของร่างกาย เดาว่าคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็คงไม่อยากดูดเลือดมนุษย์อีกแล้ว
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “อย่าทำให้เธอตกใจ”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าดีใจมาก “แบบนี้แสดงว่า ข้าสามารถตามจีบนางได้แล้วใช่ไหม?”
หลินหยุนรู้สึกหมดคำพูด “เจ้าหมอนี้จะเก็บอารมณ์หน่อยไม่ได้หรือไง? ที่แท้วัฒนธรรมของชาวตะวันตกเปิดเผยขนาดนี้เลยเหรอ!”
“ได้ ขอแค่แกอย่าใช้ความรุนแรงก็พอ” หลินหยุนขี้เกียจยุ่งกับเขา อีหลิงคงไม่ชอบชาวตะวันตกหรอกมั้ง
แต่ว่า ถ้าเกิดปล่อยให้เขาไปวุ่นวายกับอีหลิงทุกๆวัน ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้อีหลิงล้มเลิกความคิดอย่างอื่นออกไปจากหัวก็ได้
หลินหยุนพาคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ากลับไปหาอีหลิง หลินหยุนจ้องมองประตูทางเข้าของสนามกีฬา “พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”
“อืม!”