จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 551 ฉีซือหย่วนมาล้างแค้น
“ฮ่าๆ ก็แค่เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่ต้องไปสนใจหรอก!” เจ้าบ้านลู่หัวเราะ แล้วเมินเย่จื่อเชี่ยนอย่างสิ้นเชิง
คนอื่นๆก็เหมือนกับ ถ้าเกิดที่นี่ไม่ใช่ที่รวมตัวของเหล่านักบู๊ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรักษาภาพพจน์แบบนี้
คนที่ถูกตระกูลทอดทิ้งอย่างเย่จื่อเชี่ยน พวกเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจด้วยซ้ำ
การที่พวกเขายอมพูดกับเย่จื่อเชี่ยน ก็ถือเป็นเกียรติสูงสุดของเธอแล้ว
แต่ว่า เย่จื่อเชี่ยนก็ยังไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆแบบนี้
เธอทำหน้าจริงจัง จ้องมองเหล่าเจ้าบ้านของแต่ละตระกูล แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “งั้นพวกท่านเคยเจอปรมาจารย์หลินหรือเปล่า?”
“ถ้าเกิดไม่เคยเจอมาก่อน พวกท่านมีสิทธิ์อะไรถึงไปบอกว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีเลย!”
เหล่าเจ้าบ้านต่างก็อึ้งไปสักพัก พูดอะไรไม่ออก
ในหมู่พวกเขาไม่มีใครเคยเจอปรมาจารย์หลินมาก่อน แต่ว่า พวกเขากลับเอาแต่พูดจาแย่ๆในที่แบบนี้ แต่ละคำพูดล้วนเป็นการลดคุณค่าของปรมาจารย์หลิน
แต่พอมีเด็กสาวออกมาพูดแทนปรมาจารย์หลิน พวกเขาก็ใช้คำที่ไม่เคยเจอปรมาจารย์หลินมาก่อน เพื่อปฏิเสธคำพูดที่เด็กสาวคนนี้พูดออกมา
แต่ว่าตอนนี้ กลับโดนเด็กสาวคนนี้ใช้คำพูดของพวกเขา เพื่อบีบให้พวกเขาเถียงไม่ออก
ทันใดนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก เหล่าเจ้าบ้านต่างก็แสดงสีหน้าที่แย่มาก แววตาที่จ้องมองเย่จื่อเชี่ยน เต็มไปด้วยความโมโห
ถ้าเกิดที่นี่ไม่ใช่ที่รวมตัวของเหล่านักบู๊ล่ะก็ เย่จื่อเชี่ยนคงตายไปหลายรอบแล้ว แต่ว่า ตอนนี้ที่สนามมีคนมากมายจ้องมองพวกเขาอยู่ ต่อให้พวกเขาอยากแยกชิ้นส่วนเย่จื่อเชี่ยนเป็นหมื่นๆชิ้น ตอนนี้ก็มีแต่ต้องอดทนเอาไว้เท่านั้น
ส่วนเย่จื่อเชี่ยนก็ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรแล้ว พูดต่อว่า “พวกท่านก็ไม่เคยเจอปรมาจารย์หลินด้วยซ้ำ แต่กลับบอกว่าปรมาจารย์หลินเป็นเหมือนกับมด นี่มันเป็นการพูดด้วยที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยไม่ใช่หรือไง?”
“……”
คำพูดนี้คุ้นหูเป็นอย่างมาก เป็นการพูดที่เมื่อกี้ฉีเฉิงคุนใช้จู่โจมเย่จื่อเชี่ยน
แต่ตอนนี้ กลับโดนเย่จื่อเชี่ยนใช้เพื่อตบหน้าเหล่าเจ้าบ้านทุกคน
หน้าของฉีเฉิงคุนและเหล่าเจ้าบ้านต่างก็ดำมืดราวกับเป็นก้นหม้อกระทะ แต่ กลับทำอะไรไม่ได้
พวกเขาพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว ไม่สามารถโต้เถียงเย่จื่อเชี่ยนได้แม้แต่น้อย
“ไปตรวจสอบสิ ยัยเด็กนี้เป็นลูกของใครกัน ไปเรียกพ่อแม่มาพายัยหนูนี้กลับไปซะ!” เจ้าบ้านซิงที่อยู่ข้างๆหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องคนหนึ่ง
“ครับ!”
ลูกน้องคนนั้นรีบออกไปทันที
พอเห็นว่าฉีเฉิงคุนทำอะไรไม่ถูก เจ้าบ้านลู่จึงรีบลุกขึ้นมาเพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเหมือนเดิม “ฮ่าๆ พี่ฉี วันนี้เป็นงานประลองยุทธเจียงหนานที่สามปีจะจัดขึ้นสักครั้งในโลกบู๊ อย่าให้คนนอกมาทำให้เสียอารมณ์เลย”
“มาเถอะ ไม่ต้องไปพูดถึงเจ้าคนนอกคนนั้นแล้ว พวกเรามาทายกันดีกว่าว่าครั้งนี้ถ้วยรางวัล จะไปอยู่ที่ตระกูลไหน!”
“ฮ่าๆ นี่ยังต้องทายอีกเหรอ? ตระกูลโล่เป็นเจ้าภาพ ตระกูลโล่คงไม่ลงแข่งขันอยู่แล้ว งั้นจะเหลือตระกูลไหน ที่สามารถแข่งกับตระกูลฉีได้อีกล่ะ?” เจ้าบ้านจ้าวพูดเสียงดังพร้อมหัวเราะไปด้วย แล้วก็ไม่ลืมที่จะเอาใจฉีเฉิงคุนไปอีกหนึ่งประโยค
ทุกคนต่างก็เมินเย่จื่อเชี่ยนไว้อย่างนั้น
เย่จื่อเชี่ยนมองความคิดเหล่าเจ้าบ้านของโลกบู๊เจียงหนานออกแล้ว จึงกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง ไม่ได้พูดอะไรอีก
ฉีเฉิงคุนพูดกับเหล่าเจ้าบ้านไป พร้อมกับแอบมองไปยังที่ที่เย่จื่อเชี่ยนนั่งอยู่ แววตาเผยความดุร้ายออกมา
เวลานี้ จู่ๆก็มีเสียงวุ่นวายเกิดขึ้นในฝูงชน
“ดูเร็วเข้า คนนั้นวิ่งออกมาทั้งๆที่ใส่แค่กางเกงใน!”
“ใครน่ะ ถึงได้เปิดเผยขนาดนี้!”
“……ทำไมถึงเหมือนกับคุณชายฉีซือหย่วนจากตระกูลฉีเลยล่ะ!”
“ว้าว เป็นฉีซือหย่วนจริงด้วย! นี่มันสถานการณ์อะไรกันเนี่ย? หรือว่าคุณชายฉีจะคิดค้นวิธีเล่นแบบใหม่ได้งั้นเหรอ!”
ฉีซือหย่วนวิ่งไปข้างๆฉีเฉิงคุนด้วยความโมโห เพราะว่าฟันโดนตบจนหลุดไปหลายซี่ จึงพูดไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่
“คุณลุง มีคนมาทำร้ายข้า คุณลุงต้องแก้แค้นให้ข้านะ!”
เหล่าเจ้าบ้านต่างก็พยายามกลั้นขำเอาไว้ แสร้งแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา
เจ้าบ้านลู่ถามด้วยใบหน้าตกใจว่า “หลานฉี เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
“ใครทำร้ายเจ้า?”
“จะใจกล้าเกินไปแล้ว แม้แต่คุณชายตระกูลฉีก็ยังกล้าทำร้าย!”
“ถ้าเกิดจับคนคนนั้นได้ล่ะก็ ข้าจะกวาดล้างมันทั้งตระกูล!”
ฉีเฉิงคุนจ้องมองหลานตัวเองที่เกือบจะจำหน้าไม่ได้แล้ว แล้วก็ดูเขาที่ใส่แค่กางเกงในตัวเดียว รู้สึกอับอายขายขี้หน้ามาก
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าพี่ใหญ่ของเขาพูดกำชับเอาไว้ว่า เขาจะต้องดูแลฉีซือหย่วนเอาไว้ให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นฉีเฉิงคุนคงตบเจ้าคนที่ทำให้เขาอับอายจนตายไปแล้ว
“พูดมา เป็นฝีมือของใคร!” ฉีเฉิงคุนหน้าดำมืด เสียงก็ต่ำจนน่ากลัว
“เป็นหนุ่มตะวันตกคนหนึ่ง เขาแข็งแกร่งมาก! แค่หมัดเดียวก็ทำให้ข้าเป็นแบบนี้แล้ว ข้ามองไม่ออกด้วยซ้ำว่าเขาลงมือตั้งแต่ตอนไหน” ฉีซือหย่วนพูดออกไปตรงๆ เมื่อพูดถึงความสามารถของศัตรู เขาเองก็ไม่กล้าปิดบัง ยิ่งไม่กล้าแต่งเรื่อง
ถ้าเกิดให้ข้อมูลผิดๆไป มีความเป็นไปได้ว่าฉีเฉิงคุนก็จะเสียท่าไปด้วย
“พาข้าไป!”
พอได้ยินว่าเป็นหนุ่มตะวันตก ฉีเฉิงคุนก็ไม่ต้องลังเลอะไรอีกแล้ว
ชาวตะวันตกคนหนึ่ง ไม่ได้มีพื้นหลังอะไรในประเทศจีน ตระกูลฉีของเขาก็ไม่ต้องกังวลอะไร ฆ่าทิ้งซะก็สิ้นเรื่อง
แบบนี้ ก็ยังสามารถเอาหน้าของตระกูลฉีคืนมาได้บ้าง
ฉีซือหย่วนกวาดสายตามองที่นั่งของอีหลิง จากนั้นก็เห็นคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่เด่นมาแต่ไกล
“อยู่นั่น!”
“เป็นชายตะวันตกคนนั่นแหละ!” ฉีซือหย่วนชี้ไปยังทางที่คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าอยู่
ฉีเฉิงคุนไม่หันไปมองแม้แต่น้อย ในเจียงหนาน มีแค่คนของตระกูลโล่ที่เขาไม่กล้าแตะต้อง ส่วนคนอื่น เขาไม่คิดที่จะสนใจ
ฉีเฉิงคุนพูดด้วยใบหน้าดำมืด “พาข้าไป!”
“ครับ!”
ฉีซือหย่วนทำหน้าดุร้าย แล้วก้าวเท้าเดินไปทางที่คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าอยู่
ส่วนเจ้าบ้านอื่นๆต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน ต่างก็พยักหน้า และเดินตามออกไปเช่นกัน
คนที่กล้าทำร้ายคุณชายตระกูลฉี พวกเขาก็อยากจะเห็นหน้าเหมือนกัน
เหล่าคุณหนูคุณชายตระกูลใหญ่อื่นๆ ต่างก็ค่อยๆเดินตามออกไปเหมือนกัน
ฉีซือหย่วนที่อยู่ในหมู่พวกเขา เป็นคนที่ทำตัวหยิ่งยโสมาก ปกติพวกเขาจะโดนฉีซือหย่วนรังแกอยู่ตลอด แต่ก็ยังต้องยิ้มเอาไว้ แล้วปล่อยให้ฉีซือหย่วนระบายอารมณ์กับพวกเขา
ตอนนี้ กลับมีคนกล้าทำร้ายฉีซือหย่วนจนหน้ากลายเป็นหัวหมู งั้นก็ต้องไปดูให้ได้อยู่แล้ว
ลู่หนันสุนและซิงจื่อเย่ก็ตามไปเหมือนกัน ถึงแม้ฉีซือหย่วนจะทำตัวหยิ่งยโส แต่ว่าด้านพลัง ก็ยังเป็นนักบู๊คนหนึ่ง
คนแบบไหนกันที่ทำร้ายเขาจนมีสภาพแบบนี้?
ฉีซือหย่วนก้าวเท้าเดินไปหาที่นั่งของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าอย่างรวดเร็ว เขานั่งอยู่ตรงที่นั่งของตัวเอง คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่กำลังเล่นเกมLeague of Kingของประเทศจีนอยู่ เพิ่งจะรู้สึกตัว
วางมือถือลง เงยหน้ามองฉีซือหย่วนด้วยใบหน้าดุร้าย แล้วลุกขึ้นมา ใบหน้ายังคงแสดงสีหน้าที่สูงส่งอยู่เหมือนเดิม
“ชาวตะวันออกผู้โง่เขลา เจ้าคิดจะท้าสู้กับข้างั้นเหรอ?” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าจ้องมองฉีซือหย่วนด้วยท่าทีที่เหนือกว่า
ฉีซือหย่วนยิ้มด้วยใบหน้าชั่วร้าย “ท้าสู้? ทำไมข้าต้องท้าสู้กับเจ้าด้วย! วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าทรมานยิ่งกว่าตายซะอีก!”
คนที่นั่งอยู่รอบๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า พอรู้ว่าเป็นคนที่ฉีซือหย่วนจะมาล้างแค้น เป็นคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ทันใดนั้น ทุกคนก็กลัวจนถอยหนีออกไป
รอบๆระยะสิบเมตรของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ไม่มีใครสักคน นอกจากหลินหยุนและอีหลิงที่ยังอยู่ที่เดิม
“เจ้าผีขาวชาวตะวันตกคนนี้ บ้าไปแล้วเหรอ? ถึงกล้ามีเรื่องกับคุณชายฉี!”
“คู่ชายหญิงที่อยู่ข้างๆเป็นใครกัน ถึงยังกล้านั่งอยู่ที่เดิม ไม่กลัวตายหรือไง!”
เหล่าผู้คนที่กลัวจนหนีออกมา จ้องมองหลินหยุนกับอีหลิง ด้วยสีหน้าที่กำลังจะได้เห็นของดีแล้ว
ลู่หนันสุนและซิงจื่อเย่ พอเห็นหลินหยุนและอีหลิงที่อยู่ข้างๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าอดทนไม่ไหวจนเดินออกไปข้างหน้า ยืนอยู่ข้างหลังฉีซือหย่วน จ้องมองพวกหลินหยุนด้วยใบหน้าดีใจที่กำลังจะได้เห็นคนอื่นเดือดร้อน
ฉีซือหย่วนจ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาเย็นชา แล้วตะโกนเสียงดังว่า “เจ้าหนู แกตาบอดหรือไง? ไม่เห็นหรือไงว่าข้ากำลังจะทำอะไรน่ะ? ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
หลินหยุนที่ก้มหน้าอยู่ตลอด ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา หันไปมองฉีซือหย่วน ทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็น กลับไปก้มหน้าต่อ แล้วดูข่าวจากมือถือต่อ
“เจ้าหนู ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือไง? แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่ไหม!” ฉีซือหย่วนพูดด้วยความโมโห