จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 566 การแข่งขันที่แท้จริง
ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “คุณชายหู นายไปเยาะเย้ยคนอื่นเช่นนี้ เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างไหม?”
ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา มองดูแล้วเหมือนชายหนุ่มที่มีออร่าของผู้มีความรู สวมชุดฟันดาบ เดินไปข้างๆหลินหยุน
“เหอช่าง เวลาที่ฉันพูด นายมีสิทธิ์มาแทรกไหม?” หูเฟยพูดอย่างโกรธเคือง
เหอช่างอมยิ้มและพูดว่า “คุณชายหู ผมแค่อยากให้นายคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นบ้าง”
“ฉันจะทำอะไร นายไม่มีสิทธิ์มาสอน ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ ทำให้ฉันโกรธ คอยดูฉันจะทำให้ตระกูลเหอของนายเจอดีแน่!” หูเฟยพูดอย่างเย่อหยิ่ง
เหอช่างพูดว่า “แม้ว่าตระกูลเหอของฉันจะด้อยกว่าตระกูลหูของนาย แต่ว่า ตระกูลของฉันก็ไม่ใช่จะกลัวตระกูลหู”
หูเฟยมีใบหน้าเย็นชา ความอาฆาตในดวงตาของเขาเพิ่มขึ้น “นายกำลังหาที่ตาย!”
คาร์นอตวิลเลียมรู้สึกเบื่อหน่ายและพูดว่า “ฉันถามว่านายยังจะแข่งไหม? ถ้าจะแข่งก็เร็วหน่อย!”
หูเฟยมองเหอช่างด้วยใบหน้าเย็นชา “นายคอยดู!”
หลินหยุนเหลือบมองเหอช่าง และเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
“นายไม่ควรไปยุ่งเรื่องคนอื่น” หลินหยุนมองเหอช่าง และพูดเบาๆ
เหอช่างยิ้ม และพูดอย่างกล้าหาญ “ลูกผู้ชายอยู่บนโลกนี้ เห็นคนถูกรังแก จะนิ่งเฉยและไม่สนใจได้อย่างไร?”
เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่น่าเสียดาย……
หลินหยุนมองไปที่เหอช่าง และพูดเบาๆ “ในอีกสามวันข้างหน้า ทางที่ดีนายไม่ควรไปที่ไหน มิฉะนั้น จะมีเคราะห์ร้ายถึงเลือดตกยางออก”
เหอช่างยิ้มและพูดว่า “คิดไม่ถึงว่านายยังเป็นหมอดู แต่ว่าฉันไม่มีเงินให้นาย”
หลินหยุนส่ายหัว เขาเห็นชะตากรรมของเหอช่าง เพียงแต่ว่า เหอช่างไม่ยอมฟังคำแนะนำ
หูเฟยและคาร์นอตวิลเลียมสวมหมวกเรียบร้อย และด้วยคำสั่งของกรรมการ รอบแรกเริ่มต้นขึ้น
ทักษะการฟันดาบของหูเฟยไม่เลว ตี แทง ปัด ฟันทำได้อย่างเชี่ยวชาญ เพียงแต่ว่า คาร์นอตวิลเลียมนั้นมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด
หูเฟยเปรียบเสมือนมือสมัครเล่นคนหนึ่ง ในขณะคาร์นอตวิลเลียมนั้นเหมือนเป็นผู้เล่นมืออาชีพ
ในไม่ช้าหูเฟยก็พ่ายแพ้
“แข่งอีก!” หูเฟยไม่เชื่อความชั่วร้าย ยังคงแข่งรอบที่สอง
เพียงแต่ว่า สำหรับการแข่งสามรอบติดต่อกัน หูเฟยก็พ่ายแพ้ในเวลาอันรวดเร็ว
“ไม่สู้แล้ว!” หูเฟยถอดหมวกออก แล้วโยนทิ้งด้วยความโกรธ
“วันนี้ฉันอยู่ในสภาพย่ำแย่ แสดงศักยภาพได้ไม่ค่อยดี ไว้วันหน้าค่อยมาแข่งกันใหม่!”
ใบหน้าที่หล่อเหลาของคาร์นอตวิลเลียม แสดงรอยยิ้มประชดประชัน “ตกลง นายคิดว่าวันไหนดี? ฉันพร้อมสู้ทุกเมื่อ”
หูเฟยมีสายตาที่เย็นชา เห็นได้ชัดว่าเป็นข้อแก้ตัว ไม่คาดคิดว่าคาร์นอตวิลเลียมจะบีบบังคับขนาดนี้
“นายอยากตายไหม?” ใบหน้าหูเฟยเคร่งเครียด จ้องมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม
“มีชีวิตอยู่ดีๆ ทำไมฉันถึงอยากตายล่ะ?” แววตาของคาร์นอตวิลเลียมฉายแววพิฆาต
อ้าวซี่ไห่ที่อยู่ข้างๆหัวเราะและพูดว่า “เรื่องของการฟันดาบ เป็นของเล่น ของเด็กๆ ถ้าอยากเล่นกันจริงๆ พวกเรามาเล่นสิ่งที่น่าตื่นเต้นระทึกใจกันดีกว่า”
หูเฟยมองไปที่อ้าวซี่ไห่ “นายหมายถึง? มวยเถื่อน!”
“ใช่แล้ว นั่นคือเกมการแข่งขันที่แท้จริง” อ้าวซี่ไห่จ้องไปที่คาร์นอตวิลเลียม และถามอย่างท้าทาย “เป็นไง? กล้าไหม?”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ว่า พวกเราต้องวางเดิมพันหน่อยถึงจะดี” คาร์นอตวิลเลียมพูด
หูเฟยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะพูด!”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ!” อ้าวซี่ไห่เป็นผู้นำแล้วเดินออกไป
หูเฟยมองไปที่เสิ่นมี่แล้วพูดว่า “คุณเสิ่นสาวสวย มวยเถื่อนนี้เป็นสิ่งที่คุณชอบที่สุด คุณต้องเข้าร่วมกับผมนะ!”
“ไปกันเถอะ!” เสิ่นมี่ไม่แม้แต่จะมองเขา เงยหน้าขึ้นอย่างหยิ่งผยอง
ในสายตาของหูเฟยมีความเร่าร้อนแล้วหายไปทันที “น่าเสียดาย ผู้หญิงคนนี้ มีวิสัยทัศน์สูงเกินไป อย่างไรก็ตาม ฉันก็จะรอต่อไป รอจนถึงวันที่ตระกูลเสิ่นสูญเสียอำนาจ ถึงตอนนั้นฉันก็จะบีบขยำเธอได้ตามใจชอบ”
คาร์นอตวิลเลียมเดินตามคนสองสามคน และเดินออกไปด้านนอก
ขณะที่เดินผ่านหลินหยุนและอีหลิง คาร์นอตวิลเลียมก็กระพริบตาให้พวกเขา “คุณคิดว่าฉันควรเดิมพันอะไรกับเขา?”
อีหลิงพูดเสียงเบา “นายต้องการทำอะไร? อย่าสร้างปัญหาได้ไหม?”
คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “ได้ไง! พวกเขารังแกเจ้าหญิงที่งดงามของฉันก่อน ฉันไม่ไปต่อสู้กับพวกเขาก็ถือว่าฉันอดทนและยอมมากแล้ว”
“คุณรู้จักความแข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาไหม? ถ้าไปแตะต้องพวกเขา มันจะลำบากมาก” อีหลิงเตือน
“ไม่ต้องห่วง มีฉันอยู่ คุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น!” คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความมั่นใจ ตบหน้าอกของตัวเอง
อีหลิงรู้ว่าพูดอะไรไปชายคนนี้ก็คงจะไม่ฟัง โมโหจนกระทืบเท้าตัวเอง
“จะทำอย่างไร? ก่อนที่จะมีการประชุมงานสี่วีรบุรุษ หากเรามีความขัดแย้งกับหูเฟยและคนอื่นๆ ถึงตอนนั้นทั้งสามตระกูลจะต้องเจตนาพุ่งเป้าไปที่พวกเราอย่างแน่นอน”
อีหลิงไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆว่า หูเฟยกับอ้าวซี่ไห่สองตระกูลใหญ่นี้มารวมตัวกันได้อย่างไร
สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงยิ่งกว่านั้นก็คือ เสิ่นมี่ที่รู้จักกันในนามผู้หญิงที่หยิ่งทะนง มารวมตัวกับสองตระกูลใหญ่นี้ได้อย่างไร
ตอนนี้ พวกเขาสามคนเดินอยู่ในเส้นทางเดียวกัน ตอนนี้ เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้ง ทั้งสามตระกูลก็จะรวมตัวกันเป็นสายเดียวกันอย่างแน่นอน
ในเวลานั้น จะไม่มีผลดีต่อตระกูลอีมาก
หลินหยุนพูดเบาๆ “อย่ากังวล พวกเราตามไปดูพวกเขา”
“ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น” อีหลิงพูดอย่างอัดอั้นตันใจ
อย่างไรก็ตาม เวทีมวยใต้ดินไม่ได้สร้างในชั้นใต้ดินจริงๆ เป็นเพียงชื่อที่ใช้เรียกเท่านั้น ที่ตั้งของเวทีมวยใต้ดิน อยู่ในอาคารที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่โรงยิมฟันดาบ
ภายในอาคาร คล้ายกับโคลอสเซียมในกรุงโรมโบราณ ล้อมรอบด้วยที่นั่ง และสังเวียนมวยอยู่ตรงกลาง
ในขณะนี้ บนสังเวียนมีนักมวยสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และตำแหน่งที่นั่งรอบๆ ก็เกือบจะเต็มแล้ว
“ดี!”
บนสังเวียน นักมวยฝ่ายแดง ถูกนักมวยฝ่ายดำต่อยด้วยหมัด จนได้รับเสียงปรบมือจากคนในสนามทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมอีกส่วนหนึ่ง ก็ดุด่า แน่นอนว่า คนกลุ่มนี้แทงนักมวยแดงให้ชนะ
หูเฟยมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม และพูดด้วยความภาคภูมิใจ “บรรยากาศนี้เป็นอย่างไร?”
รอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏขึ้นที่มุมปากของคาร์นอตวิลเลียม “ก็แค่นั้นแหละ!”
“ฮ่าๆ นี่มันสู้กันจริงๆ หากนายสนใจ สามารถขึ้นไปเล่นด้วยตัวเอง นี่คือการแข่งขันอย่างแท้จริง เกมนี้อันตรายจริงๆ อาจทำให้ตายได้ การแข่งขันฟันดาบเมื่อเทียบกับมวยเถื่อนนี้มันเหมือนกับเกมเด็กๆ” หูเฟยพูดอย่างภาคภูมิใจ
อีหลิงพูด “ไม่คาดคิดว่ามวยเถื่อนนี้ จะได้รับความนิยมขนาดนี้!”
หลินหยุนเหลือบมองไปที่สังเวียน นักมวยทั้งสองคนนั้นไม่ใช่นักบู๊ แค่เก่งแต่การชกต่อยคนธรรมดาเท่านั้น
ทันใดนั้น หลินหยุนก็หมดความสนใจ
“อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการพนัน เป็นสิ่งที่นิยมกันมาก” หลินหยุนพูดเบาๆ เขาเข้าใจแล้วว่า แก่นแท้ของมวยเถื่อนนี้ อันที่จริงก็คือการพนัน
คาร์นอตวิลเลียมรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย “พูดมาเลย ต้องการจะเล่นอย่างไร?”
หูเฟยเยาะเย้ย: “ง่ายมาก นายเห็นนักสู้สองคนบนสังเวียนนั้นไหม นายแค่เลือกเพียงหนึ่งในนั้นก็พอ”
คาร์นอตวิลเลียมถามว่า “ถ้าพวกเราเลือกนักมวยคนเดียวกันล่ะ จะทำอย่างไร?”
“ฮ่าฮ่า วางใจเถอะ ฉันจะไม่เลือกนักมวยคนเดียวกันกับนายแน่นอน” หูเฟยพูดด้วยความมั่นใจในตนเอง
รอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามของคาร์นอตวิลเลียมแวบผ่าน “ดีมาก การเดิมพันคืออะไร?”
“จำนวนนี้!” หูเฟยเหยียดนิ้วออกมา
“เดิมพันเงินเหรอ?” คาร์นอตวิลเลียมเลิกคิ้ว “หนึ่งล้าน?”
หูเฟยส่ายหัว “สิบล้าน”
“ลองมาเล่นหนึ่งเกมก่อนไหม?”
คาร์นอตวิลเลียมพูด “ตกลง!”
จากนั้น คาร์นอตวิลเลียมก็หันหลังกลับมา และยื่นมือให้หลินหยุน “เฮ้ย ยืมให้ฉันสิบล้านก่อน ชนะแล้วคืนให้นายทันที”
อีหลิงกลอกตาให้ “นายถึงกับยืมเงินเพื่อไปเดิมพันๆ!”
หูเฟยมองไปที่หลินหยุน และยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เขาเป็นแค่แมงดาคนหนึ่ง นายไปยืมเงินเขา นายให้ความสำคัญเขาสูงเกินไป”