จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 568 ถูกดูหมิ่น
หูเฟยกลับมาจากจุดเดิมพัน และมองไปที่คาร์นอตวิลเลียมด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ถามไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินจำนวนนี้!”
มองนิ้วที่หูเฟยยื่นออกมา คาร์นอตวิลเลียมก็พูดว่า “หนึ่งร้อยล้าน?”
“ถูกต้อง” หูเฟยพูด
“โอเค แค่ไม่รู้ว่าเงินในการ์ดใบนี้เพียงพอหรือเปล่า!” คาร์นอตวิลเลียมมองไปที่หลินหยุน
หลินหยุนพูดเบาๆ “เพียงพอสำหรับนาย”
“เยี่ยมมาก” คาร์นอตวิลเลียมเดินเข้าใกล้จุดเดิมพัน “มาเลย เริ่มกันเลย!”
“ดี!” หูเฟยก็เดินไป
หลังจากวางเงินเดิมพันเรียบร้อย คาร์นอตวิลเลียมก็ถามว่า “จะไปเลือกนักมวยได้ที่ไหน?”
“ตามฉันมา” หูเฟยเดินไปที่ประตูที่อยู่ด้านข้าง
เข้าประตูด้านข้าง ด้านในเป็นห้องรับรอง บนโซฟาขนาดใหญ่สองตัว มีนักมวยหนุ่มที่ไร้อารมณ์นั่งอยู่หลายคน
มีทั้งคนผิวเหลือง คนผิวดำ และคนผิวขาว
ตำบลสี่วีรบุรุษเล็กๆแห่งนี้ ได้รวบรวมนักมวยจากทั่วทุกมุมโลก
“คนในนี้ เลือกได้ใช่ไหม” คาร์นอตวิลเลียมถาม
“ใช่” หูเฟยดูไปด้วย และตอบไปด้วย
“นายนั่นแหละ!” หูเฟยชี้ไปที่บุคคลที่ผอมๆผิวสีเหลืองคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพูดด้วยท่าทางตื่นเต้น
คาร์นอตวิลเลียมก็เหลือบมองทุกคน และในที่สุด ก็เลือกนักมวยชาวจีนที่มีอายุมากกว่า
“เลือกเสร็จแล้วหรือ?” หูเฟยถามแล้วมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม
“โอเค!” คาร์นอตวิลเลียมพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันเลย!”
ทั้งสองเดินออกมา และกลับมานั่งที่หน้าเวที
อีหลิงมองคาร์นอตวิลเลียมอย่างตื่นเต้นกังวล และถามว่า “เป็นยังไงบ้าง? ในครั้งนี้นายแน่ใจว่าจะชนะไหม?”
คาร์นอตวิลเลียมเลิกคิ้ว “ไม่ต้องกังวล คราวนี้ฉันเลือกนักมวยด้วยตัวเอง ไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ถ้างั้นก็ดี!” อีหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หูเฟยกลับไปที่ตำแหน่งของเขา อ้าวซี่ไห่ถามด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “คนที่เลือกคือ “หมาป่า” ใช่หรือไม่?
หูเฟยพยักหน้า “ใช่”
“ชาวตะวันตกคนนั้นเลือกใคร?” อ้าวซี่ไห่ถามอย่างสงสัย
“ชายวัยกลางคนที่ไม่มีชื่อเสียง ซึ่งไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน” หูเฟยพูด
“นี่ไม่ใช่ตาบอดเหรอ? คนใหม่ที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน เขาใช้พื้นฐานอะไรในการเลือก?” อ้าวซี่ไห่พูด
“ส่วนใหญ่ก็เดาไปทั่ว แล้วแต่เขา ขอเพียงเขาแพ้ หนึ่งร้อยล้านก็อยู่ในมือเรา” หูเฟยยิ้ม
อ้าวซี่ไห่เหลือบมองหลินหยุนด้วยใบหน้าเรียบเฉย และพูดด้วยความสงสัย “การ์ดไอ้หนุ่มนั่น เอาเงินมากมายมาจากไหน? การเดิมพันครั้งนี้คือหนึ่งร้อยล้าน!”
หูเฟยมองอีหลิงอย่างขุ่นเคือง “ก็คุณหนูใหญ่ตระกูลอีเป็นคนให้นั่นแหละ”
“ไม่อย่างนั้นก็แค่ไอ้เศษสวะแมงดาคนหนึ่ง ในชาตินี้ ในชาติหน้า และชาติต่อไป ก็คงไม่มีปัญญามีเงินหนึ่งร้อยล้านหรอก!”
“ฮ่าๆ ไม่คาดคิดว่าคุณหนูอีที่มีวิสัยทัศน์สูงส่งและเย่อหยิ่งมาตลอด จะเลือกไอ้เศษสวะเช่นนี้!” อ้าวซี่ไห่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย อีหลิงและเสิ่นมี่ เป็นสาวงามของผู้ชายที่มั่งคั่งร่ำรวยหลายคนปรารถนามาแสนนาน
ตอนนี้ กลับมีลูกเขยที่แต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านผู้หญิงคนนี้ได้เปรียบกว่า และเป็นแมงดาด้วย
“เป็นการดีที่สุดที่จะให้ไอ้หนุ่มคนนั้นเสียเงินจนหมดตัว ดูซิว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลอีคนนี้ ได้มอบเงินให้เขามากแค่ไหน” อ้าวซี่ไห่พูดอย่างดุเดือด
“อย่ากังวล เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!” หูเฟยพูดด้วยท่าทางมั่นใจ
บนสังเวียน นักมวยทั้งสองคนอยู่ในสนาม
“ชายวัยกลางคนที่สวมชุดขาวฉันเป็นคนเลือกเอง” คาร์นอตวิลเลียมชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่บนสังเวียนแล้วพูดกับอีหลิง
อีหลิงมองไปที่หลินหยุน และกระซิบถาม “นายคิดว่าในครั้งนี้ใครจะชนะ?”
หลินหยุนพูดว่า “ชายวัยกลางคนคนนั้น เขาแข็งแกร่งกว่าชายร่างผอมคนนั้นมาก”
เสิ่นมี่ที่อยู่ข้างๆก็ทำเสียงอย่างเย็นชา “งี่เง่า!”
“ถึงคนคนนั้นจะดูผอมเพรียว แต่เขาเป็นนักมวยที่ทรงพลังที่สุดในสนามมวยเถื่อนแห่งนี้ ที่รู้จักกันในนามหมาป่า!”
“คนที่นายเลือก คือนักมวยที่มาใหม่ จะเป็นคู่ต่อสู้ของหมาป่าได้อย่างไร!”
“นายเป็นคนที่ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีความสมบูรณ์แบบอะไรเลย!”
อ้าวซี่ไห่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “สาวงามอย่างคุณเสิ่นเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้จริงๆ เธอบอกว่าใครชนะ โดยพื้นฐานแล้วก็คงชนะแน่นอน”
“น้องหู ยินดีด้วย หนึ่งร้อยล้านก็ได้มาอย่างง่ายดาย!”
“ฮ่าๆ นี่ต้องขอบคุณความเอื้ออาทรของคุณหนูอี! ให้เงินแก่ไอ้เศษสวะที่เป็นได้แค่แมงดาคนนี้ เพียงแต่ว่า เงินของแมงดา มันก็ไม่เลว”
อีหลิงพูดย่างเย็นชา: “ไม่จำเป็น! การแข่งขันยังไม่เริ่ม อย่าพึงด่วนมีความสุข!”
“ไม่เป็นไร อีกสักพักพวกคุณจะต้องยอมรับอย่างเต็มใจ” หูเฟยดูมั่นใจ
บนสังเวียน นักมวยทั้งสองได้เริ่มต่อสู้กันแล้ว
ชายหนุ่มที่ชื่อหมาป่าคนนั้น เป็นนักสู้ที่โหดเหี้ยมจริงๆ ทุกท่าแฝงด้วยความดุร้าย ทุกหมัดแฝงด้วยอันตรายถึงชีวิต
เพียงแต่ว่า ชายวัยกลางคนคนนั้น ตอบโต้อย่างนิ่งสงบ แม้ว่าหมาป่าจะดุร้าย แต่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
ทั้งหลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมต่างก็มองออกว่า ชายวัยกลางคนคนนั้นเป็นนักบู๊พรแสวงระดับใหญ่ที่ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด
แม้ว่าร่างกายอาจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมแล้ว ก็ยังแข็งแกร่งกว่าหมาป่าที่เป็นพรแสวงระดับเล็กที่ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด
หลังจากผ่านไปยี่สิบกระบวนท่า การโจมตีทั้งหมดของหมาป่าก็ถูกนำมาใช้ และความสามารถที่จำกัดไว้ได้ใช้จนหมดสิ้น
เมื่อหมาป่าไม่สามารถใช้กระบวนท่าใหม่ๆได้อีกต่อไป มันคือช่วงเวลาที่เขาพ่ายแพ้
ชายวัยกลางคนต่อยหมัดเข้าไปที่ขมับหมาป่า และหมาป่าก็ถูกต่อยจนปลิวออกไป และหมดสติ
“เป็นไปได้ยังไง!” หูเฟยทำท่าทางเหลือเชื่อ
อ้าวซี่ไห่ยังดูประหลาดใจ “ไม่ใช่มั้ง คุณเสิ่นสาวงาม คุณเดาผิดไปได้ยังไง!”
เสิ่นมี่ทำเสียงเย็นชา “หืม ก็แค่โชคดีมั้ง บางทีวันนี้หมาป่าอาจจะไม่ได้แสดงฝีมือได้เต็มที”
คาร์นอตวิลเลียมยิ้มอย่างมีชัย “หนึ่งร้อยล้าน ไม่ขอบคุณแล้วนะ!”
“ฮึ! ยังกล้าเล่นอีกไหม?” คาร์นอตวิลเลียมมองคาร์นอตวิลเลียมอย่างท้าทาย
คาร์นอตวิลเลียมกำลังจะตอบตกลง แต่ว่า อีหลิงก็พูดอย่างกังวลว่า “พอแล้ว ต้องรู้จักพอประมาณอย่าโลภมาก! พวกเราควรกลับได้แล้ว”
“ก็ได้!” คาร์นอตวิลเลียมดูเหมือนจะเชื่อฟังอีหลิงมาก
“ฮึ่ม ชนะแล้วก็จะไปเหรอ? นึกเหรอว่าพวกนายจะหนีพ้น!” ทันใดนั้นหูเฟยก็ยิ้มเยาะ
อีหลิงจ้องไปที่เขา และทำเสียงอย่างเย็นชา “หูเฟย นายต้องการทำอะไร! กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ายอมรับความพ่ายแพ้สิ ตระกูลหูแพ้แล้วก็ไม่พอใจคิดจะโกงเหรอ?”
“อย่าเอาคำพูดมากระตุ้นฉันเลย อยากได้เงินของฉัน ไม่มีทาง! วันนี้เว้นแต่นายจะคืนเงินให้ฉัน ไม่เช่นนั้นไม่ว่าใครก็อย่าหวังจะไปจากที่นี่” หูเฟยทำสีหน้าเย่อหยิ่ง
ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้าง “ตระกูลหูนี่ยิ่งใหญ่มากเลย!”
“ใคร!” หูเฟยมองไปในทิศทางของเสียงอย่างขุ่นเคืองใจ
“เหอช่าง เป็นนายอีกแล้ว นายกำลังท้าทายขีดจำกัดของอารมณ์ฉันใช่ไหม?” ความพิฆาตในดวงตาของหูเฟย รุนแรงกว่าครั้งที่แล้วที่เขาพบเหอช่าง
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็เคยบอกเขาไปแล้วว่า สามวันนี้ไม่ควรออกจากบ้านไปไหน แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง
ดูเหมือนว่า โชคชะตานี้ จะเปลี่ยนได้ยากจริงๆ
เหอช่างพูดว่า “กล้าเดิมพันก็กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ แพ้แล้วก็จะโกง นั่นเป็นสไตล์ของตระกูลหูของนายหรือไม่?”
“นายไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย!” ความโกรธของหูเฟยถึงขีดจำกัดแล้ว ในดวงตาแดงก่ำ หากตอนนี้ไม่ใช่อยู่ในที่สาธารณะ คิดว่าว่าหูเฟยคงจะลงมือฆ่าเหอช่างแล้ว
เสิ่นมี่เหลือบมองไปที่เหอช่าง และทำเสียงเย็นชา แล้วหันหลังจากไป
อ้าวซี่ไห่ก็ไปตบไหล่หูเฟย เหลือบมองเขาอย่างเห็นอกเห็นใจ และพูดว่า “น้องชายฉันไปก่อนนะ”
หูเฟยพูดอย่างโกรธเคือง “เคยพูดไว้ว่าไปพร้อมกัน พวกนายหมายความว่าอย่างไร?”
อ้าวซี่ไห่หันกลับมามองเขา และเสียงเหมือนคนขี้เกียจก็แวบเข้ามา “นี่ยังมองไม่ออกหรือ? สาวงามอย่างคุณเสิ่นได้ดูถูกสิ่งที่คุณทำอย่างเห็นได้ชัด!”
“แค่ร้อยล้านเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้สาวงามอย่างคุณเสิ่นดูหมิ่น!”
ใบหน้าของหูเฟยซีดเซียว “นี่มันไม่ใช่เรื่องของเงิน นี่มันเป็นเรื่องของเกียรติตระกูลเสิ่น!”
เหอช่างพูด “ถ้านายทำเช่นนี้ จะทำให้ตระกูลหูเสียหน้ามาก!”
อีหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก คนของตระกูลอ้าวและตระกูลเสิ่นก็จากไปแล้ว เหลือเพียงตระกูลหู แม้ว่าจะมีความขัดแย้ง เธอก็ไม่ต้องกังวลมากนัก
หูเฟยเสียหน้ามาก แต่ว่า หากปราศจากความช่วยเหลือจากตระกูลอ้าวและตระกูลเสิ่น แค่เขาคนเดียว ก็ไม่กล้าทำอะไรอีหลิง
หูเฟยจ้องไปที่เหอช่างอย่างเย็นชา ความร้ายกาจของเสิ่นมี่กับอ้าวซี่ไห่ที่ทำในครั้งนี้ เขาจะนำมาคิดบัญชีกับเหอช่าง
“ตระกูลเหอ พวกเราคอยดูกันต่อไป!”
จ้องมองเหอช่างอย่างเคร่งขรึม หูเฟยจากไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง