จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 637 คุณเป็นตัวแทนไม่ได้
ทุกคนเดินไปถึงต่อหน้าหลินหยุน โค้งคำนับให้หลินหยุน “ขอบคุณปรมาจารย์หลินสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิต!”
หลินหยุนยอมรับอย่างเฉยเมย
ทุกคนในตระกูลเจี่ยง มีสีหน้าละอายใจ
เดิมทีพวกเขาต้องการยืมมือนักพรตจื่อหยางเพื่อฆ่าคน แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากหลินหยุน
อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้น ตระกูลเจี่ยงก็ไม่ต้องการทำตามข้อตกลง
เพียงแต่ว่า ความปรารถนาของหลินหยุนในตอนนี้คือ ถ้าคนของตระกูลเจี่ยงยังกล้าที่จะโกง กลัวว่าจะปลุกให้สาธารณชนโกรธเคือง
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเรื่องในวันนี้ ตัวต้นเหตุก็คือตระกูลเจี่ยง
โชคดีที่ทุกคนไม่รู้ ไม่เช่นนั้น ถ้าพวกเขารู้ว่าเป็นเพราะตระกูลเจี่ยง พวกเขาเกือบจะต้องตายที่นี่
คนพวกนี้จะไม่ปล่อยมันผ่านไปอย่างแน่นอน
นายท่านเจี่ยงจงสือได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยไม่รอหลินหยุนถาม และก้าวไปข้างหน้า
โค้งคำนับให้หลินหยุน และพูดว่า “ปรมาจารย์หลิน ขอบคุณสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิต! เรื่องก่อนหน้านี้ เป็นความผิดของพวกเรา ฉันขอโทษคุณ ตระกูลเจี่ยงของฉันยินดีที่จะปฏิบัติตามข้อตกลง และยอมยกทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเจี่ยงให้คุณ”
“และหวังว่าปรมาจารย์หลินจะปล่อยตระกูลเจี่ยงของฉันไป!”
หลินหยุนมองไปที่เจี่ยงจงสือ นี่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เกิดจากความโลภของตระกูลเจี่ยง แต่ตอนนี้เขาทำตัวราวกับว่าเขาถูกทำร้ายมาอย่างหนัก
ดูเหมือนหลินหยุนถือโอกาสแย่งชิง และยึดครองทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยง
โชคดีที่หลินหยุนไม่สนใจว่าผู้คนจะมองอย่างไร และพูดอย่างเฉยเมย “นอกจากทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเจี่ยงแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง”
ใจเจี่ยงจงสือหดหู่ และทุกคนในตระกูลเจี่ยงโกรธจัด แต่ว่า เนื่องจากความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของหลินหยุนที่ปรากฏออกมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไร”
รอบๆ ทุกคนเริ่มกระซิบ และพูดคุย
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ พวกเขาแค่รู้ข่าวการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์หลินและนักพรตจื่อหยาง ที่มาที่นี่เพราะชื่อเสียงที่โด่งดัง
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า เรื่องทุกอย่างเป็นเพราะตระกูลเจี่ยง
เพียงแต่ว่า หลังจากการแพร่ข่าว ทุกคนก็รู้ว่า ที่แท้ตัวต้นเหตุในครั้งนี้ คือตระกูลเจี่ยง
หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ตระกูลเจี่ยงว่าโลภมาก และเกือบทำให้ทุกคนต้องตาย
แน่นอนว่า เพราะความแข็งแกร่งของหลินหยุนเป็นที่ประจักษ์ ไม่เช่นนั้นด้วยพลังของตระกูลเจี่ยง แม้รู้ว่าตระกูลเจี่ยงจะโลภมาก ก็ไม่มีใครกล้าดุพวกเขา
เจี่ยงจงสือมองไปที่หลินหยุน ด้วยท่าทางจนปัญญา “ช่างมันเถอะ ยังไงฉันก็เหมือนคนที่กำลังจะตาย เป็นเพราะโอสถของคุณที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันยังได้กำไร”
“วันนี้ ฉันจะเอาชีวิตของฉัน คืนให้คุณ!”
“แต่ว่า ฉันหวังว่าคุณจะรักษาสัญญา อย่าทำร้ายตระกูลเจี่ยงของฉัน”
เจี่ยงหลินหลินตะโกนด้วยความสยองขวัญ “คุณปู่ ไม่นะ!”
“ทุกอย่างเกิดจากฉัน ฉันเป็นคนที่สัญญากับนาย และมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับคุณปู่ของฉัน ถ้านายอยากฆ่า ก็มาฆ่าฉันซะ!” เจี่ยงหลินหลินจ้องไปที่หลินหยุนด้วยความโกรธ หญิงที่ดื้อรั้นเช่นนี้ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิด
เจี่ยงจิงเทียนมองไปที่หลินหยุน และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ปรมาจารย์หลิน ตระกูลเจี่ยงของเรายินดีที่จะยกทรัพย์สินทั้งหมดให้คุณ แต่ว่า ขอให้คุณปล่อยนายท่านไป!”
“ใช่ อย่าทำร้ายนายท่าน!” คนอื่นๆในตระกูลเจี่ยงก็ตะโกนพร้อมกัน ดูเหมือนว่าท่านเจี่ยงอยู่ในตระกูลเจี่ยงมีอำนาจเป็นที่เคารพ การดำรงอยู่ราวกับเทพพระเจ้า
ในเวลานี้ ผู้ว่าการเกาะหนันก็กระแอมเบาๆ และยืนขึ้นเพื่อแสดงความเป็นผู้นำ “อะแฮ่ม ขอพูดอะไรหน่อย!”
“ตรงไหนควรให้อภัยก็ให้อภัย! ในเมื่อตระกูลเจี่ยงเต็มใจที่จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับปรมาจารย์หลิน ดังนั้นจึงขอให้ปรมาจารย์หลินใจกว้าง ปล่อยท่านเจี่ยงไป”
“แม้ว่านายท่านเจี่ยงจะเป็นฝ่ายผิด แต่เขาก็เป็นคนในโลกมนุษย์ ต้องใช้กฎของโลกมนุษย์เพื่อแก้ปัญหานี้”
คนของตระกูลเจี่ยงมองผู้ว่าการเกาะหนันอย่างซาบซึ้งใจ คำพูดของผู้ว่าการเกาะหนันพยายามช่วยเจี่ยงจงสือ
ผู้ว่าการเกาะหนันพูด บรรดาเศรษฐีและคนดังเหล่านั้น ก็พูดพร้อมกันว่า “หวังว่าปรมาจารย์หลินจะใจกว้าง ไว้ชีวิตนายท่านเจี่ยง!”
หลังจากผ่านพ้นวิกฤติไปได้ คนเหล่านี้ก็เริ่มคิดถึงผลประโยชน์ของตนเองอีกครั้ง
ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์หลินนั้นน่าทึ่งมาก แต่ท้ายที่สุดยังไงพวกเขาไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน
และผู้ว่าการเกาะหนันกับตระกูลเจี่ยง ตามหลักแล้วเป็นตัวแทนที่มีอำนาจมากที่สุดในเกาะหนัน
แม้ว่าตระกูลเจี่ยงจะไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆแล้ว แต่ความกว้างขวางของตระกูลเจี่ยง ในเวลาอันรวดเร็วก็จะสามารถทำกำไรได้มหาศาล
ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกที่จะยืนเคียงข้างผู้ว่าการเกาะหนันและตระกูลเจี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับผลประโชน์ของพวกเขามากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น หลินหยุนไม่เหมือนนักพรตจื่อหยาง เขาไม่ฆ่าคนตามอำเภอใจ
ดังนั้น คนเหล่านี้จึงกล้าพูดอ้อนวอน หากเปลี่ยนเป็นนักพรตจื่อหยาง พวกเขาคงไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ
ใบหน้าของหลินหยุนเรียบเฉย และเสียงของเขาก็ยิ่งเฉยเมย “กฎหมายของพวกคุณ ไม่สามารถควบคุมฉันได้”
“ตลอดชีวิตของฉัน สิ่งที่ฉันพูดไปแล้วต้องทำให้ได้ ฉันบอกแล้วว่าอยากได้โอสถคืน ก็ต้องเอามันกลับมาให้ได้”
เพิ่งเจอผู้ว่าการเกาะหนันครั้งแรก ก็ไม่ยอมไว้หน้าเลย
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเล็กน้อย “ปรมาจารย์หลิน คุณเป็นคนสัญชาติจีนเหมือนฉัน และต้องปฏิบัติตามกฎหมายจีน!”
“คุณแตะต้องท่านเจี่ยงไม่ได้!”
หลังวิกฤตกผ่านไป ผู้ว่าการเกาะหนันก็เริ่มเบ่งอำนาจอีกครั้ง เขาลืมไปว่าเมื่อกี้นักพรตจื่อหยางกำลังจะฆ่าพวกเขา หลินหยุนเป็นคนช่วยชีวิตพวกเขาไว้
คนเหล่านี้ พูดตรงๆคือชอบรังแกคนที่ด้อยกว่าและกลัวคนที่แข็งแกร่ง
คนรอบข้าง เมื่อเห็นคำพูดที่รุนแรงของผู้ว่าการเกาะหนันก็ตกตะลึง
เว้นแต่ว่าหลินหยุนจะบ้าคลั่งเหมือนนักพรตจื่อหยาง มิฉะนั้นผู้ว่าการเกาะหนันพูดขนาดนี้แล้ว เขาจะต้องปกป้องนายท่านเจี่ยงอย่างแน่นอน
ด้วยวิธีนี้ เท่ากับว่านายท่านเจี่ยงมีรัฐบาลเป็นที่คอยปกป้อง
ถ้าหลินหยุนยังจะทำร้ายนายท่านเจี่ยง มันก็เท่ากับเป็นศัตรูกับรัฐบาล
ตาเฒ่าท่านหนึ่งพูดแปลกๆ “เฮ้อ บางคนเห็นผลประโยชน์แล้วลืมบุญคุณไปหมดเลย ลืมไปว่าเมื่อกี้ใครช่วยชีวิตเขาไว้?”
ปรมาจารย์หลิน อย่าไปใส่ใจกับคนกระจอกเหล่านี้ เป็นแค่ชายชราคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี ได้โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย!” หญิงชราที่ขี้เหร่พูดด้วยเสียงแหบแห้ง
แม้ว่านักบู๊เหล่านี้ จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของจีน แต่ว่า พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่บนพื้นแผ่นดินจีน ยังคงมีความเกรงกลัวต่อรัฐบาลจีนอยู่บ้าง
ยิ่งกว่านั้น ตามตำนานของชาวจีนที่เล่าขานมาแต่สมัยโบราณ ประชาชนไม่ควรต่อต้านเจ้าหน้าที่ แม้แต่นักบู๊เหล่านั้น ก็ไม่เต็มใจที่จะยั่วยุรัฐบาล
เว้นเสียแต่ว่า มันถึงขั้นความเป็นความตาย
อีกประเด็นหนึ่ง ถ้าทำให้รัฐบาลขุ่นเคือง แม้แต่นักบู๊เหล่านั้น ก็คงอยู่ยาก
ท้ายที่สุดแล้ว เครื่องบินปืนใหญ่ของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นเครื่องตกแต่ง
ดังนั้น ถ้าไม่ถึงสุดๆ จึงไม่มีใครเต็มใจที่จะรุกรานรัฐบาล
ใบหน้าของหลินหยุนยังคงเรียบเฉย และไม่ได้นำคำขู่ของผู้ว่าการเกาะหนันมาใส่ใจเลย
หลินหยุนเพียงแค่จ้องมองเจี่ยงจงสือ และถามว่า “คุณลงมือเอง หรือให้ฉัน”
คนของตระกูลเจี่ยงแอบมีความสุข หลินหยุนอยู่ภายใต้แรงกดดันของผู้ว่าการเกาะหนัน คงไม่กล้าฆ่านายท่านเจี่ยง
แต่ผลลัพธ์กลับไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด หลินหยุนไม่ยอมประนีประนอม
ผู้ว่าการเกาะหนันหน้าแดง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ปรมาจารย์หลิน คุณแน่ใจหรือว่าต้องการเป็นศัตรูกับรัฐบาล?”
จู่ๆหลินหยุนก็หันหัวกลับมา และจ้องมาที่เขาอย่างดูหมิ่น น้ำเสียงไม่แยแส “คุณแน่ใจหรือว่าจะเป็นตัวแทนของรัฐบาลได้”
สายตาของหลินหยุนจ้องมองผู้ว่าการเกาะหนัน หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
เขาไม่กล้าสบตามองหลินหยุนเลย หันหน้าหนี และพูดอย่างเย็นชา “ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองสูงสุดของเขตเกาะหนัน คำพูดของฉันสามารถเป็นตัวแทนของรัฐบาลได้”
“คุณเป็นตัวแทนของรัฐบาลในเกาะหนันเท่านั้น ไม่ใช่ของรัฐบาลจีน”
หลังจากที่หลินหยุนพูดจบ เขาก็เพิกเฉย และเดินสองก้าวไปหาคนของตระกูลเจี่ยง
“ในเมื่อคุณไม่ยอมลงมือ ถ้างั้นฉันคงต้องลงมือเอง”
ทุกคนในตระกูลเจี่ยงตกใจ เจี่ยงหลินหลินรีบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อปกป้องนายท่านเจี่ยง และมองหลินหนุนด้วยความสยองขวัญ “นาย นายจะทำอะไร?”
“ฉันจะมาเอาของของฉันคืน” หลินหยุนพูดเบาๆ
เจี่ยงหลินหลินตกใจจนร้องไห้ และตะโกน “ฉันก็เป็นหนี้นายแค่ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเจี่ยง? นายเอาไปเลย ทำไมต้องฆ่าคุณปู่ของฉันด้วย!”